Be your boyfriend 4

1621 Words
รู้ตัวอีกครั้งเมื่อออกมาที่จอดรถพบว่าท้องฟ้ามืดเสียแล้ว “หนูหิวไหม?” มือหนาลูบแก้มของหลินเบา ๆ “หิวแล้วครับ” ตอบพลางลูบที่หน้าท้องลีนประกอบคำพูดตนเอง “อยากกินอะไรครับ?” “แด๊ดอยากลองเปลี่ยนบรรยากาศไหมครับ?” “เอาสิ” “งั้นไปกินหมูกระทะกันครับ” หลินตอบแบบไม่ต้องคิด ปกติแล้วในหนึ่งเดือนชีวิตพนักงานออฟฟิศแบบเขาต้องได้กินหมูกระทะสักเดือนละครั้ง นี่มันก็นานมากแล้วที่ไม่ได้กินหมูกระทะหอม ๆ มัวแต่ใช้ชีวิตติดแกลมกินร้านหรูตามคุณแด๊ดเขาเสียส่วนใหญ่ คนอายุมากกว่าเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยเมื่อรู้สิ่งที่อีกฝ่ายอยากกิน ของกินที่ใครหลายคนชอบกิน เขาเคยเห็นผ่านตา แต่ไม่คิดจะลองเลยสักครั้ง เพราะมองว่ามันเป็นอาหารขยะ คนรักสุขภาพรักษาหุ่นให้แซ่บตลอดเวลาแบบเขาไม่เคยคิดเฉียดใกล้ของที่กินแล้วเสี่ยงลงพุง รถหรูคันสวยถูกขับมาจอดที่หน้าร้านหมูกระทะบุฟฟเฟ่ต์ร้านใหญ่กลางเมือง คนเกือบทั้งร้านหันมองกันเป็นตาเดียวเมื่อรถเข้ามาเทียบจอด “สองคนครับพี่” หลินขอให้ทินกรพามาที่ร้านประจำ สั่งของกับพนักงานอย่างคล่องแคล่ว นี่เป็นร้านโปรดของหลินเลยล่ะ “ผมย่างให้เองครับ คุณอาทิตย์นั่งรอรับประทานอย่างเดียวก็พอครับ” หลินจัดแจงของบนโต๊ะทุกอย่างด้วยความคล่องแคล่ว ย่างหมูหมักสูตรพิเศษที่เตาปิ้งหมู ด้านบนมีหมูสามชั้นวางอยู่เพื่อไม่ให้หมูติดกระทะ “ชอบกินของแบบนี้เหรอ?” “ใช่ครับ มันอร่อยมากเลยนะครับ ทำงานมาเหนื่อย ๆ ได้กินหมูกระทะฮีลใจสักวัน แค่นี้ก็พร้อมทำงานต่อได้ทั้งสัปดาห์แล้ว” หลินสาธยายสรรพคุณทางใจของหมูกระทะที่ตัวเองชอบ พร้อมทั้งคีบหมูใส่จานให้ร่างสูง “แด๊ดไม่เคยรู้เลยว่าหนูชอบหมูกระทะ” “แหะ ๆ ผมเองก็ไม่เคยบอกนี่ครับ ปกติคุณอาทิตย์เป็นคนเลือกร้าน หรือไม่ก็สั่งมา อีกอย่างผมคิดว่าคนอย่างคุณอาทิตย์ไม่น่าจะกินของแบบนี้” เสียงทุ้มพูดจ้ออารมณ์ดีที่ได้กินของชอบ ร่างสูงเองก็นั่งฟังอย่างตั้งใจเช่นกัน นี่จึงทำให้เขารู้ว่า เขายังรู้จักหลินไม่ดีพอ ยังมีอีกหลายมุมของหลินที่เขาต้องทำความรู้จัก หลินในเวอร์ชั่นที่เขาไม่เคยเห็น ปกติแล้วตอนที่พวกเขาอยู่ด้วยกัน หลินมักจะให้ทินกรเป็นคนตัดสินใจเสมอ อาจเป็นเพราะความสัมพันธ์ของทั้งคู่ ที่ทำให้ชูก้าร์เบบี้ของเขา กลายเป็นคนที่ไม่เรียกร้องอะไรเล็กน้อย อีกทั้งยังทำแต่สิ่งที่แด๊ดดี้อย่างเขาต้องการเสียส่วนใหญ่ “ก็จริง นี่ครั้งแรกเลย หนูเปิดซิงแด๊ดเลยนะ” คนแก่กว่ากอดอกพูดด้วยคำพูดกำกวมจนทำให้หลินมีอาการเลิ่กลั่ก “ลองชิมดูครับ!” เปลี่ยนบทสนทนาที่น่าเขินด้วยการยุให้คนแก่กว่าชิมหมูกระทะที่พึ่งสุกจากเตา มือหนาคีบหมูที่พึ่งย่างร้อน ๆ จิ้มน้ำจิ้มตามที่หลินบอกแล้วเอาเข้าปาก รสชาติไม่เลวเลย นี่สินะคนถึงได้ชอบกินกันนัก กลิ่นถ่านและกลิ่นหอมของเครื่องหมักหมูอบอวลในปาก “อืม ใช้ได้” “ต้องบอกว่าอร่อยครับ อร่อยมากกกก” เสียงทุ้มลากยาวเมื่อคำตอบของคนแก่กว่าดูไว้ท่าที ใบหน้าหลินยิ้มแย้มอารมณ์ดี ยามกินของอร่อยน่ามองมากจริง ๆ ในสายตาของทินกร มือหนาวางทับที่มือเรียว ทุกการกระทำของทินกรมันเป็นธรรมชาติ มีหลายสายตาที่เหล่มองพวกเขา แต่ร่างสูงก็ไม่ได้ใส่ใจ “คุณทินกรครับ คนมอง” หลินพูดด้วยอาการประหม่า จะดึงมือออกจากการเกาะกุมแต่ก็ถูกมือหนารั้งเอาไว้ “ไม่เห็นต้องแคร์เลย ก็แด๊ดจับมือแฟน” ดวงตาคมสบมองใบหน้าหล่อตลอดตอนพูดคำว่าแฟน ดวงตาเรียวสั่นไหวเล็กน้อยเมื่อได้ยินคำว่าแฟนจากอีกฝ่าย “ใครแฟนคุณครับ” เสียงทุ้มเอ่ยถามด้วยอาการตะกุกตะกัก หัวใจเต้นรัวจนรู้สึกได้ “หลินไง” “ยังไม่เคยตกลงกันเลยครับ” หลินช้อนตาขึ้นมองใบหน้าหล่อคมที่มองเขาอยู่ก่อนแล้ว “กำลังจะขอนี่ไงครับ เป็นแฟนกันนะหลิน” มือหนาสั่นเล็กน้อย เขาพึ่งเคยพูดคำนี้ครั้งแรกในชีวิต หัวใจเต้นแรงเหมือนกับตอนเจอกันครั้งแรก คล้ายเป็นสิ่งยืนยันว่านี่เป็นความรัก ไม่ใช่เพียงแค่ความต้องการที่ฉาบฉวย เขาลูบหลับมือเรียวเบา ๆ เมื่อสัมผัสได้ว่าอีกฝ่ายก็กำลังสั่นอยู่เหมือนกันกับเขา “ครับ เป็นครับ” หลินพยักหน้าน้อย ๆ ไม่มีเหตุผลที่เขาต้องปฏิเสธ ดวงตาเป็นประกาย ทั้งดีใจทั้งโล่งอก ความสัมพันธ์ของพวกเขามันชัดเจนแล้วจริง ๆ มือหนาล้วงลงในกระเป๋ากางเกง หยิบเอาสร้อยข้อมือแบบเดียวกันกับที่หลินซื้อให้เขา สร้อยข้อมือถูกสวมเข้าที่ข้อมือขาวเป็นของแทนใจของคนทั้งคู่ “ตอนนี้หนูก็หึงพี่ได้เต็มที่แล้วนะ” ทินกรจ้องตากับแฟนของเขาอยู่นาน มือก็ไม่ยอมปล่อยจากกัน คล้ายติดอยู่ในห้วงเวลาที่มีแค่พวกเขาสองคน ช่วงเวลาที่คล้ายเวลาหยุดเดิน เสียงรอบข้างเงียบสนิทมีเพียงเสียงหัวใจของคนทั้งสองที่กำลังเต้นดังอยู่ที่อกข้างซ้าย “เราเป็นแฟนกันแล้วจริง ๆ” หลินพูดย้ำสถานะของพวกเขาอีกครั้ง “พี่ครับ ซื้อดอกกุหลาบให้แฟนไหมครับ?” เสียงเด็กเดินขายออกไม้ผ่านมา ทินกรหันไปหยิบแบงค์ร้อยในกระเป๋าสตางก์ยื่นให้และได้ดอกไม้มาห้าดอก เขาไม่ได้เตรียมการอะไรเลย เพียงคิดว่าจังหวะนี้ต้องขอแล้วจริง ๆ สถานที่ และบรรยากาศ หรือแม้แต่ดอกไม้ก็ถูกซื้อสดที่หน้างาน ประธานบริษัทใหญ่ที่เพรียบพร้อม แต่ใครจะรู้ว่าเมื่อเขามีความรัก กลับเหมือนคนฝึกงานที่อ่อนหัดและไม่มีความพร้อมเลยสักนิด สิ่งที่พร้อม..คงมีแค่คำขอเป็นแฟนที่ซ้อมพูดอยู่หลายต่อหลายครั้ง สร้อยข้อมือเองเขาก็แอบซื้อตอนหลินไปเข้าห้องน้ำ เพราะไม่รู้ว่าควรให้อะไรอีกฝ่ายดี “ไว้ค่อยเอาช่อใหญ่กว่านี้นะ วันนี้มัดจำไปก่อน” กุหลาบช่อเล็กถูกยื่นให้แฟนเด็กหมาด ๆ ของเขา แต่แล้วช่วงเวลาสุดโรแมนติกก็จบลงเพราะหมูบนกระทะเริ่มส่งกลิ่นไหม้เตะจมูก “เฮ่ย!!! ไหม้แล้ว ๆ” หลินคีบหมูออกจากเตามือเป็นระวิง “มาพี่ช่วย” มือหนาช่วยคีบหมูออกจากเตาใส่จานซึ่งมันดำปี๋ไปข้างหนึ่ง พอคีบหมูไหม้ออกจากเตาจนหมดคนทั้งคู่หันมองหน้ากัน แล้วก็หลุดหัวเราะออกมา “ฮ่า ๆ ๆ ๆ ๆ” “หลินรู้ไหม หนูเป็นคนแรกที่พี่จีบเลยนะ” เสียงเข้มพูดพลางช่วยหลินกลับหมูบนเตา “จริงเหรอครับ?” “จริงสิ แต่ก็ไม่รู้มันผิดพลาดตรงไหน พี่ถึงได้กลายเป็นเสี่ยเลี้ยงเด็กไปซะอย่างนั้น” เขาเล่าในสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างพวกเขา ปากหยักยกยิ้มบาง ขบขันกับจุดเริ่มต้นของพวกเขาที่ออกจะพลิกล็อคไปนิด “นั่นคือแด๊ดจะจีบผมเหรอ?” เมื่อได้ยินอย่างนั้นหลินถลึงตาโตเท่าไข่ห่าน “ใช่” ตาคมเสมองไปทางอื่นเล็กน้อย “ฮ่า ๆ ใครเขาจะจีบกันด้วยการให้คนเรียกขึ้นไปคุยล่ะครับแด๊ด” เสียงทุ้มขำจนปวดท้อง “แล้วทำไมไม่บอกล่ะครับว่าจะจีบ” “ก็..ที่บอกว่าสนใจไง” “เปิดประตูมาเจอแบบนั้นมันทรงเสี่ยจะออฟเด็กไปเลี้ยงชัด ๆ เลยครับคุณอาทิตย์” “พี่ดูเหมือนคนแบบนั้นเหรอ?” “ก็..ดูแล้วไม่เหมือนคนของขาดนะครับ หล่อขนาดนี้..” หลินมองหน้าของแฟนหนุ่มอย่างพิจารณา “แล้วที่ผมถามว่าให้ผมได้เท่าไหร่ ทำไมไม่เอะใจเลยล่ะครับ” “ไม่รู้สิ ก็พี่ให้หลินได้จริง ๆ เลยตอบไปแบบนั้น” คำพูดหน้าหมั่นไส้ถูกปล่อยออกมาจากแฟนหนุ่มหล่อรวยฟังแล้วก็เถียงไม่ได้ ก็เขาให้ได้จริง ๆ ให้จนหลินไม่กล้าขอเพิ่มเสียเอง “ผิดที่เราสื่อสารกันไม่ชัดเจนสินะครับ ฮ่า ๆ “ “ไม่เป็นไรหรอก ไม่ว่ายังไงเราก็ได้เป็นแฟนกันแล้ว” หมูกระทะมื้อนี้คงเป็นหมูกระทะที่หวานที่สุดเท่าที่หลินเคยกินมา หวานชนิดที่ว่า มีคนมองมือที่กุมกันไว้ก็ไม่ยอมปล่อย ทั้งที่กินไม่ถนัดสักนิด สายตาโต๊ะข้าง ๆ ที่มองมาก็หันไปซุบซิบกันแล้วหันมามองเป็นระยะ สาว ๆ บางกลุ่มก็หันไปยิ้มกันเมื่อเห็นเหตุการณ์ตรงหน้า และหลินก็ได้เลื่อนสถานะเป็นแฟนคุณแด๊ดทินกร พร้อมกับการที่ตื่นขึ้นมาเจอแจ้งเตือนเงินโอนเข้ามาในบัญชีสองล้านบาทถ้วน พร้อมข้อความว่า คบกันวันแรก 28 october 2024. “นี่จะใช้เงินเปลืองเกินไปแล้วนะครับ..” คำนี้หลินเพียงบ่นกับตัวเองเบา ๆ เท่านั้น
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD