บทเริ่ม -

1577 Words
--รอยยิ้มกลางสนามหญ้า-- แดดยามบ่ายคลี่ตัวลงเหนือสนามหญ้ากว้างหน้าโรงเรียน เสียงเพื่อน ๆ กำลังเล่นฟุตบอลดังแว่วมา แต่สำหรับ ภาคิน เด็กชายชั้น ม.2 วันนี้กลับไม่สนุกเลย เขาถูกครูทำโทษให้เก็บขยะรอบสนาม เพราะลืมทำเวรประจำวัน เด็กชายก้ม ๆ เงย ๆ หยิบเศษกระดาษกับขวดน้ำใส่ถุงดำ รู้สึกอายที่เพื่อน ๆ หลายคนหันมามอง พลันได้ยินเสียงใส ๆ ดังขึ้นข้าง ๆ ... “ไง โดนทำโทษสินะ ให้เราช่วยนะ” .. เขาเงยหน้าขึ้น แล้วพบรอยยิ้มสดใสของ เด็กหญิง เธอชื่อ "พาฝัน" เพื่อนเรียนชั้น ม.2 เธอเรียนห้องคิง เด็กเก่งติดท๊อป1ใน5 ของชั้น พาฝันเป็นเด็กที่ใคร ๆ ในโรงเรียนต่างก็ชื่นชม ทั้งเรียนดี ทั้งสุภาพ เรียบร้อย ภาคินถึงกับนิ่งไปครู่หนึ่ง ใจเต้นแรงจนพูดไม่ออก “…ไม่ต้องหรอกครับ เดี๋ยวจะลำบาก” เขารีบปฏิเสธ . แต่พาฝันย่อตัวลง หยิบขวดน้ำข้างเท้าใส่ถุงขยะในมือเขา พลางหัวเราะเบา ๆ “ไม่เป็นไรหรอก แค่ช่วยเก็บนิดหน่อย สนามก็จะสะอาดขึ้นไง” .. ตั้งแต่วินาทีนั้น ภาคินไม่รู้ว่าแสงแดดยามบ่ายมันร้อนจริง ๆ หรือเป็นเพราะหัวใจของเขา กำลังเต้นแรงขึ้นกันแน่ เขาเก็บขยะเงียบ ๆ เคียงข้างเธอ รู้สึกเหมือนเวลาหมุนช้าลง .. ไม่นาน ขยะที่เรี่ยราด นำมารวมเป็นกองใหญ่ ก็ถูกเก็บเรียบร้อย พาฝันสะบัดมือที่เปื้อนดินเบา ๆ แล้วหันมายิ้มให้เขาอีกครั้ง . “เราว่านะ ถึงมันจะเป็นการทำโทษ แต่มันก็ดูน่ารักดีที่เราได้ช่วยกัน” >// .. คำพูดธรรมดา ๆ นั้นกลับกลายเป็นเสียงก้อง อยู่ในหัวเด็กชายไปตลอดทางกลับบ้าน .. วันนั้นเองที่เขารู้ตัวแน่ชัดว่า….. เขาได้... แอบปลื้มพาฝัน มาตลอด.. โดยที่สัญญากับตัวเองไว้ว่า สักวันหนึ่งเขาจะต้องทำความรู้จักกับเธอ ให้มากกว่านี้แน่นอน ........ -- -- -- ภาคิน ลูกชายคนที่สองของบ้าน "กฤตยานนท์" ครอบครัวของผมมีชื่อเสียงพอสมควร . พ่อกับแม่ทำธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ และการลงทุน มีเงินทอง มีชื่อเสียง มีคนรู้จักมากมาย ผมมีพี่ชายหนึ่งคน เขาสมบูรณ์แบบ ในสายตาทุกคน เก่ง ฉลาด มุ่งมั่น และพร้อมจะสืบต่อกิจการ .. ผมเป็น "ลูกชายคนรอง" ที่ไม่ค่อยถูกคาดหวังมากนัก อาจเพราะแบบนั้น... ผมเลยมีโอกาสเลือกเส้นทางของตัวเอง .. ตั้งแต่สมัยมัธยมปลายในประเทศอังกฤษ ผมชอบนั่งอ่านหนังสือในร้านกาแฟเล็ก ๆ ชอบบรรยากาศกลิ่นหอมของเมล็ดกาแฟยามเช้า ชอบความอบอุ่นเวลาคนเข้ามาแล้วได้นั่งพักผ่อน -- จนสุดท้าย หลังจากเรียนจบ ผมตัดสินใจเปิดร้านของตัวเองในไทย -- . "ภาคิน...ลูกไม่จำเป็นต้องเหนื่อยหรอก ธุรกิจของบ้านเราก็มีพร้อมแล้ว" ชายผู้เป็นพ่อเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบ .. "ลูกชายคนอื่น ๆ เขามุ่งไปข้างหน้า ทำไมลูกต้องเลือกเปิดร้านเล็ก ๆ แบบนี้?" แม่คัดค้าน ผมตอบพวกท่านไปด้วยรอยยิ้ม "บางครั้ง ความสุขมันไม่ได้อยู่ที่ว่า เราจะยิ่งใหญ่แค่ไหน... แต่อยู่ที่เราได้ทำในสิ่งที่เรารักจริง ๆ" ผมคิดว่า ความถ่อมตัวไม่ใช่การทำตัวต่ำต้อย แต่มันคือการไม่ลืมว่าตัวเองเป็นใคร และใช้ชีวิตในแบบที่เราอยากเป็นจริง ๆ ... และบางที...โชคชะตา ก็อาจกำลังใช้ร้านกาแฟเล็ก ๆ นี้ เป็นสะพานพาผมไปพบใครบางคน ที่สำคัญกว่าทุกธุรกิจใหญ่โตในโลกใบนี้ก็เป็นได้ ... //ห้องทำงานชั้นบน ร้านกาแฟสำนักงานใหญ่ของภาคิน/// ก้องภพ (ผู้ช่วยส่วนตัว) เดินเข้ามาในห้อง พร้อมแฟ้มเอกสารบางอย่าง ภาคินนั่งพิงเก้าอี้ มองออกไปที่หน้าต่าง สีหน้าครุ่นคิด .. "คุณคิน...ช่วงนี้คุณดูแปลก ๆ นะครับ เหมือนมีอะไรในใจตลอด" .. ภาคิน ถอนหายใจเบา ๆ "ก้อง...ฉันอยากให้ช่วยอะไรสักอย่าง" .. ก้อง เลิกคิ้ว "แน่นอนครับ บอกมาได้เลย คุณอยากให้ผมตามหาคู่แข่งร้านกาแฟ หรือธุรกิจใหม่ของบริษัท?" ภาคิน ส่ายหน้า ยิ้มบาง ๆ "ไม่ใช่เรื่องธุรกิจ...แต่เป็นเรื่องของผู้หญิงคนหนึ่ง" ก้องพยักหน้า แต่ก็ถามอย่างเป็นห่วง "ถ้าให้ผมสืบเรื่องส่วนตัวของเธอ.. ...จะไม่เกินไปหน่อยเหรอครับ? " .. "ฉันไม่ต้องการล่วงเกินชีวิตเธอ... แค่จะหาทางเข้าไปอยู่ใกล้ ๆ ในจังหวะที่เธอพร้อมจะเปิดใจ ไม่ใช่ยัดเยียด" ... ก้องพยักหน้ารับ เข้าใจในน้ำเสียงหนักแน่น ของเจ้านาย ///////ที่ผ่านมา ผมก้าวตามเธอ//////// วันที่ผมรู้ว่าพาฝันกำลังทำอะไรอยู่... ผมยอมรับเลยว่าผมประทับใจเธอ มากกว่าเดิมหลายเท่า .. ก้องเอาข้อมูลที่สืบมาให้ผม— เธอได้ทุนเรียนปริญญาโท ในมหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศ และไม่ใช่เพราะอยากมีชื่อเสียงหรือความหรูหรา แต่เพราะเธอมีความฝันชัดเจน พาฝันอยากเป็นข้าราชการตุลาการ เหมือนคุณพ่อของเธอ อยากช่วยเหลือคนไร้โอกาส ขาดที่พึ่งทางกฎหมาย .. ตอนที่ผมอ่านประโยคสั้น ๆ นั้นในแฟ้ม ข้างในผมรู้สึกเหมือนถูกเขย่าแรง ๆ ...///> .. ผู้หญิงคนนี้ไม่ได้มีดีแค่ความเก่งหรือความฉลาด แต่เธอมี “หัวใจที่มั่นคง” กว่าคนทั่วไปมากนัก ... เย็นวันถัดมา ผมนั่งคุยกับพ่อที่ห้องทำงานใหญ่ของบ้าน "พ่อครับ...ผมมีเรื่องอยากขอ" . พ่อ เงยหน้าขึ้นจากกองเอกสาร "เรื่องอะไรล่ะคิน? ถ้าเป็นเรื่องธุรกิจอสังหาฯ พ่อยกให้ลูกดูแลอยู่แล้ว" ผม ส่ายหัว "ไม่ใช่เรื่องอสังหาฯ ครับ... ผมอยากขยายธุรกิจร้านกาแฟของเรา ไปเปิดสาขาใหม่ในย่านมหาวิทยาลัยที่หนึ่ง ผมคิดว่าคงไปได้ดี" .. พ่อเลิกคิ้ว "มหาวิทยาลัย...? นี่ลูกกำลังคิดอะไรอยู่ภาคิน" .. "ผมอยากเรียนต่อด้านบริหารธุรกิจ ที่นั่นเหมือนกันครับ...แล้วก็อยากทำให้ร้านกาแฟ ของเราเป็นที่พักพิงของนักศึกษา ที่มีความฝัน ไม่ใช่แค่สถานที่ขายกาแฟ" .. พ่อนิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะถอนหายใจเบา ๆ "แต่ลูกก็จบปริญาตรีด้านธุรกิจต่างประเทศ จะมาเรียนในเมืองไทยอีกทำไม ? .. พ่อถามด้วยความงุนงง เพราะลูกชายทั้งสองถูกส่งไปเรียนต่างประเทศตั้งแต่จบชั้นมัธยมต้น .. "เอาสิ บางทีทางที่ลูกเลือก อาจเป็นสิ่งที่ทำให้ครอบครัวเรา ได้เรียนรู้อะไรใหม่ ๆ" .. "ขอบคุณครับพ่อ" ผมยิ้มทั้งนอกและในใจแทบปริ ผมกลับไปที่สำนักงานในคืนนั้น ใจเต้นแรงกว่าที่เคย —เพราะผมรู้แล้วว่าเส้นทางของผมต่อจากนี้...ไม่ใช่แค่เรื่องธุรกิจ ไม่ใช่แค่ร้านกาแฟ .. แต่คือการได้ “ก้าวไปอยู่ข้าง ๆ พาฝัน” .. ในโลกที่เธอกำลังสร้างขึ้นด้วยความตั้งใจ และผมก็สัญญากับตัวเองว่า.. ต่อให้เธอยังไม่พร้อมมองผมในฐานะคนพิเศษ แต่ผมจะอยู่ตรงนั้นเสมอ อยู่ใกล้พอที่เธอจะเห็น ว่ามีใครสักคนพร้อมจะเดินไปกับเธอ .... —ในห้องสมุดที่แสนสงัด— เสียงพลิกหน้ากระดาษแผ่วเบา ดังสลับกับลมหายใจที่ไม่เป็นจังหวะของเขา ทุกครั้งที่เธอยืนอยู่ตรงนั้น มันเหมือนโลกทั้งใบกลายเป็นกรงขังที่บีบหัวใจ ให้แน่นขึ้นเรื่อย ๆ เขารู้ตัวดีว่าเธอไม่เคยหันมามอง รู้ดีว่าเธอมีคนในใจอยู่แล้ว… ชายหนุ่มนักศึกษาป.โท ที่คอยเดินมาส่งเธอหลังเลิกเรียนเป็นประจำ .. ภาพนั้นยังตามหลอกหลอนอยู่ในมุมความคิด แม้พยายามอ่านหนังสือเท่าไร ก็กลับอ่านไม่เคยเข้าใจ แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ยังเลือกนั่งโต๊ะเดิม เวลาเดิม เพียงเพื่อรอเธอเดินเข้ามา แม้จะได้แค่เฝ้ามองจากไกล ๆ ก็ตาม //////หัวใจมันทรมานอย่างประหลาด/////// —เหมือนกำลังทำร้ายตัวเองทุกครั้งที่เห็นเธอหัวเราะกับใครคนนั้น .. แต่เขาก็ไม่เคยหยุด ไม่เคยเลิกแอบหวังว่าซักวันหนึ่ง... เธออาจเหลือบมองมาที่เขาบ้าง ทว่าลึก ๆ แล้ว เขาก็รู้ดีว่า..... ความหวังนั้นอาจไม่เคยเกิดขึ้นเลยตั้งแต่ต้น. .. ไม่นาน เสียงฝีเท้าเบา ๆ ดังใกล้เข้ามา ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้น…แล้วโลกทั้งใบก็หยุดหมุน “เอ่อ…ขอโทษนะคะ” เสียงหวานนุ่มเอ่ยขึ้น เธอยืนอยู่ตรงหน้า ใกล้จนได้กลิ่นหอมอ่อน ๆ จากเส้นผม ... “พอดีว่า..เออ..ฉันลืมเอาปากกามา ถ้าจะรบกวนขอยืมใช้ของคุณหน่อย พอจะได้ไหมคะ?” .. มือของเขาแข็งทื่ออยู่ชั่วขณะ ก่อนจะรีบหยิบปากกาสีดำที่วางบนโต๊ะ ยื่นให้ทั้งที่ปลายนิ้วสั่นน้อย ๆ “อ๋อ…ได้ครับ” เสียงเขาเบากว่าที่คิด ราวกับกลัวทำลายบรรยากาศเงียบสงบ .. เธอยื่นมือมารับ นิ้วเรียวยาวสัมผัสกับมือเขา เพียงเสี้ยววินาที แต่กลับทิ้งร่องรอย ร้อนวาบไว้ในหัวใจ .. “ขอบคุณนะคะ” เธอยิ้มบาง ๆ เพียงแค่นั้นเอง แต่สำหรับเขา มันกลับเป็นรอยยิ้มที่ตราตรึงกว่าภาพใด ๆ ที่เคยเห็น เขาเฝ้ามองเธอเดินกลับไปนั่งที่โต๊ะ .. รู้สึกเหมือนปากกาธรรมดาด้ามนั้น เพิ่งกลายเป็นของมีค่าที่สุดในโลก
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD