--รอยยิ้มกลางสนามหญ้า--
แดดยามบ่ายคลี่ตัวลงเหนือสนามหญ้ากว้างหน้าโรงเรียน
เสียงเพื่อน ๆ กำลังเล่นฟุตบอลดังแว่วมา
แต่สำหรับ ภาคิน เด็กชายชั้น ม.2
วันนี้กลับไม่สนุกเลย
เขาถูกครูทำโทษให้เก็บขยะรอบสนาม
เพราะลืมทำเวรประจำวัน
เด็กชายก้ม ๆ เงย ๆ หยิบเศษกระดาษกับขวดน้ำใส่ถุงดำ รู้สึกอายที่เพื่อน ๆ หลายคนหันมามอง พลันได้ยินเสียงใส ๆ ดังขึ้นข้าง ๆ
...
“ไง โดนทำโทษสินะ ให้เราช่วยนะ”
..
เขาเงยหน้าขึ้น แล้วพบรอยยิ้มสดใสของ
เด็กหญิง เธอชื่อ "พาฝัน" เพื่อนเรียนชั้น ม.2
เธอเรียนห้องคิง เด็กเก่งติดท๊อป1ใน5 ของชั้น
พาฝันเป็นเด็กที่ใคร ๆ ในโรงเรียนต่างก็ชื่นชม ทั้งเรียนดี ทั้งสุภาพ เรียบร้อย
ภาคินถึงกับนิ่งไปครู่หนึ่ง
ใจเต้นแรงจนพูดไม่ออก
“…ไม่ต้องหรอกครับ เดี๋ยวจะลำบาก”
เขารีบปฏิเสธ
.
แต่พาฝันย่อตัวลง
หยิบขวดน้ำข้างเท้าใส่ถุงขยะในมือเขา
พลางหัวเราะเบา ๆ
“ไม่เป็นไรหรอก แค่ช่วยเก็บนิดหน่อย
สนามก็จะสะอาดขึ้นไง”
..
ตั้งแต่วินาทีนั้น
ภาคินไม่รู้ว่าแสงแดดยามบ่ายมันร้อนจริง ๆ
หรือเป็นเพราะหัวใจของเขา
กำลังเต้นแรงขึ้นกันแน่ เขาเก็บขยะเงียบ ๆ
เคียงข้างเธอ รู้สึกเหมือนเวลาหมุนช้าลง
..
ไม่นาน ขยะที่เรี่ยราด นำมารวมเป็นกองใหญ่
ก็ถูกเก็บเรียบร้อย
พาฝันสะบัดมือที่เปื้อนดินเบา ๆ
แล้วหันมายิ้มให้เขาอีกครั้ง
.
“เราว่านะ ถึงมันจะเป็นการทำโทษ
แต่มันก็ดูน่ารักดีที่เราได้ช่วยกัน” >//
..
คำพูดธรรมดา ๆ นั้นกลับกลายเป็นเสียงก้อง
อยู่ในหัวเด็กชายไปตลอดทางกลับบ้าน
..
วันนั้นเองที่เขารู้ตัวแน่ชัดว่า…..
เขาได้... แอบปลื้มพาฝัน มาตลอด..
โดยที่สัญญากับตัวเองไว้ว่า
สักวันหนึ่งเขาจะต้องทำความรู้จักกับเธอ
ให้มากกว่านี้แน่นอน
........
-- -- --
ภาคิน
ลูกชายคนที่สองของบ้าน "กฤตยานนท์" ครอบครัวของผมมีชื่อเสียงพอสมควร
.
พ่อกับแม่ทำธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์
และการลงทุน มีเงินทอง มีชื่อเสียง
มีคนรู้จักมากมาย
ผมมีพี่ชายหนึ่งคน เขาสมบูรณ์แบบ
ในสายตาทุกคน เก่ง ฉลาด มุ่งมั่น
และพร้อมจะสืบต่อกิจการ
..
ผมเป็น "ลูกชายคนรอง"
ที่ไม่ค่อยถูกคาดหวังมากนัก
อาจเพราะแบบนั้น...
ผมเลยมีโอกาสเลือกเส้นทางของตัวเอง
..
ตั้งแต่สมัยมัธยมปลายในประเทศอังกฤษ
ผมชอบนั่งอ่านหนังสือในร้านกาแฟเล็ก ๆ
ชอบบรรยากาศกลิ่นหอมของเมล็ดกาแฟยามเช้า
ชอบความอบอุ่นเวลาคนเข้ามาแล้วได้นั่งพักผ่อน
-- จนสุดท้าย หลังจากเรียนจบ
ผมตัดสินใจเปิดร้านของตัวเองในไทย --
.
"ภาคิน...ลูกไม่จำเป็นต้องเหนื่อยหรอก
ธุรกิจของบ้านเราก็มีพร้อมแล้ว"
ชายผู้เป็นพ่อเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
..
"ลูกชายคนอื่น ๆ เขามุ่งไปข้างหน้า
ทำไมลูกต้องเลือกเปิดร้านเล็ก ๆ แบบนี้?"
แม่คัดค้าน
ผมตอบพวกท่านไปด้วยรอยยิ้ม
"บางครั้ง ความสุขมันไม่ได้อยู่ที่ว่า
เราจะยิ่งใหญ่แค่ไหน...
แต่อยู่ที่เราได้ทำในสิ่งที่เรารักจริง ๆ"
ผมคิดว่า ความถ่อมตัวไม่ใช่การทำตัวต่ำต้อย
แต่มันคือการไม่ลืมว่าตัวเองเป็นใคร
และใช้ชีวิตในแบบที่เราอยากเป็นจริง ๆ
...
และบางที...โชคชะตา
ก็อาจกำลังใช้ร้านกาแฟเล็ก ๆ นี้
เป็นสะพานพาผมไปพบใครบางคน
ที่สำคัญกว่าทุกธุรกิจใหญ่โตในโลกใบนี้ก็เป็นได้
...
//ห้องทำงานชั้นบน
ร้านกาแฟสำนักงานใหญ่ของภาคิน///
ก้องภพ (ผู้ช่วยส่วนตัว) เดินเข้ามาในห้อง
พร้อมแฟ้มเอกสารบางอย่าง
ภาคินนั่งพิงเก้าอี้ มองออกไปที่หน้าต่าง
สีหน้าครุ่นคิด
..
"คุณคิน...ช่วงนี้คุณดูแปลก ๆ นะครับ
เหมือนมีอะไรในใจตลอด"
..
ภาคิน ถอนหายใจเบา ๆ
"ก้อง...ฉันอยากให้ช่วยอะไรสักอย่าง"
..
ก้อง เลิกคิ้ว
"แน่นอนครับ บอกมาได้เลย คุณอยากให้ผมตามหาคู่แข่งร้านกาแฟ หรือธุรกิจใหม่ของบริษัท?"
ภาคิน ส่ายหน้า ยิ้มบาง ๆ
"ไม่ใช่เรื่องธุรกิจ...แต่เป็นเรื่องของผู้หญิงคนหนึ่ง"
ก้องพยักหน้า แต่ก็ถามอย่างเป็นห่วง
"ถ้าให้ผมสืบเรื่องส่วนตัวของเธอ..
...จะไม่เกินไปหน่อยเหรอครับ? "
..
"ฉันไม่ต้องการล่วงเกินชีวิตเธอ...
แค่จะหาทางเข้าไปอยู่ใกล้ ๆ
ในจังหวะที่เธอพร้อมจะเปิดใจ ไม่ใช่ยัดเยียด"
...
ก้องพยักหน้ารับ เข้าใจในน้ำเสียงหนักแน่น
ของเจ้านาย
///////ที่ผ่านมา ผมก้าวตามเธอ////////
วันที่ผมรู้ว่าพาฝันกำลังทำอะไรอยู่...
ผมยอมรับเลยว่าผมประทับใจเธอ
มากกว่าเดิมหลายเท่า
..
ก้องเอาข้อมูลที่สืบมาให้ผม—
เธอได้ทุนเรียนปริญญาโท
ในมหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศ
และไม่ใช่เพราะอยากมีชื่อเสียงหรือความหรูหรา
แต่เพราะเธอมีความฝันชัดเจน
พาฝันอยากเป็นข้าราชการตุลาการ
เหมือนคุณพ่อของเธอ อยากช่วยเหลือคนไร้โอกาส ขาดที่พึ่งทางกฎหมาย
..
ตอนที่ผมอ่านประโยคสั้น ๆ นั้นในแฟ้ม
ข้างในผมรู้สึกเหมือนถูกเขย่าแรง ๆ ...///>
..
ผู้หญิงคนนี้ไม่ได้มีดีแค่ความเก่งหรือความฉลาด
แต่เธอมี “หัวใจที่มั่นคง” กว่าคนทั่วไปมากนัก
...
เย็นวันถัดมา
ผมนั่งคุยกับพ่อที่ห้องทำงานใหญ่ของบ้าน
"พ่อครับ...ผมมีเรื่องอยากขอ"
.
พ่อ เงยหน้าขึ้นจากกองเอกสาร
"เรื่องอะไรล่ะคิน? ถ้าเป็นเรื่องธุรกิจอสังหาฯ
พ่อยกให้ลูกดูแลอยู่แล้ว"
ผม ส่ายหัว
"ไม่ใช่เรื่องอสังหาฯ ครับ...
ผมอยากขยายธุรกิจร้านกาแฟของเรา
ไปเปิดสาขาใหม่ในย่านมหาวิทยาลัยที่หนึ่ง
ผมคิดว่าคงไปได้ดี"
..
พ่อเลิกคิ้ว
"มหาวิทยาลัย...?
นี่ลูกกำลังคิดอะไรอยู่ภาคิน"
..
"ผมอยากเรียนต่อด้านบริหารธุรกิจ
ที่นั่นเหมือนกันครับ...แล้วก็อยากทำให้ร้านกาแฟ
ของเราเป็นที่พักพิงของนักศึกษา
ที่มีความฝัน ไม่ใช่แค่สถานที่ขายกาแฟ"
..
พ่อนิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะถอนหายใจเบา ๆ
"แต่ลูกก็จบปริญาตรีด้านธุรกิจต่างประเทศ
จะมาเรียนในเมืองไทยอีกทำไม ?
..
พ่อถามด้วยความงุนงง
เพราะลูกชายทั้งสองถูกส่งไปเรียนต่างประเทศตั้งแต่จบชั้นมัธยมต้น
..
"เอาสิ บางทีทางที่ลูกเลือก
อาจเป็นสิ่งที่ทำให้ครอบครัวเรา
ได้เรียนรู้อะไรใหม่ ๆ"
..
"ขอบคุณครับพ่อ"
ผมยิ้มทั้งนอกและในใจแทบปริ
ผมกลับไปที่สำนักงานในคืนนั้น
ใจเต้นแรงกว่าที่เคย
—เพราะผมรู้แล้วว่าเส้นทางของผมต่อจากนี้...ไม่ใช่แค่เรื่องธุรกิจ ไม่ใช่แค่ร้านกาแฟ
..
แต่คือการได้ “ก้าวไปอยู่ข้าง ๆ พาฝัน”
..
ในโลกที่เธอกำลังสร้างขึ้นด้วยความตั้งใจ
และผมก็สัญญากับตัวเองว่า..
ต่อให้เธอยังไม่พร้อมมองผมในฐานะคนพิเศษ
แต่ผมจะอยู่ตรงนั้นเสมอ
อยู่ใกล้พอที่เธอจะเห็น
ว่ามีใครสักคนพร้อมจะเดินไปกับเธอ
....
—ในห้องสมุดที่แสนสงัด—
เสียงพลิกหน้ากระดาษแผ่วเบา
ดังสลับกับลมหายใจที่ไม่เป็นจังหวะของเขา
ทุกครั้งที่เธอยืนอยู่ตรงนั้น
มันเหมือนโลกทั้งใบกลายเป็นกรงขังที่บีบหัวใจ
ให้แน่นขึ้นเรื่อย ๆ
เขารู้ตัวดีว่าเธอไม่เคยหันมามอง
รู้ดีว่าเธอมีคนในใจอยู่แล้ว…
ชายหนุ่มนักศึกษาป.โท
ที่คอยเดินมาส่งเธอหลังเลิกเรียนเป็นประจำ
..
ภาพนั้นยังตามหลอกหลอนอยู่ในมุมความคิด
แม้พยายามอ่านหนังสือเท่าไร
ก็กลับอ่านไม่เคยเข้าใจ
แต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ยังเลือกนั่งโต๊ะเดิม
เวลาเดิม เพียงเพื่อรอเธอเดินเข้ามา
แม้จะได้แค่เฝ้ามองจากไกล ๆ ก็ตาม
//////หัวใจมันทรมานอย่างประหลาด///////
—เหมือนกำลังทำร้ายตัวเองทุกครั้งที่เห็นเธอหัวเราะกับใครคนนั้น
..
แต่เขาก็ไม่เคยหยุด
ไม่เคยเลิกแอบหวังว่าซักวันหนึ่ง...
เธออาจเหลือบมองมาที่เขาบ้าง
ทว่าลึก ๆ แล้ว เขาก็รู้ดีว่า.....
ความหวังนั้นอาจไม่เคยเกิดขึ้นเลยตั้งแต่ต้น.
..
ไม่นาน เสียงฝีเท้าเบา ๆ ดังใกล้เข้ามา
ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้น…แล้วโลกทั้งใบก็หยุดหมุน
“เอ่อ…ขอโทษนะคะ”
เสียงหวานนุ่มเอ่ยขึ้น เธอยืนอยู่ตรงหน้า
ใกล้จนได้กลิ่นหอมอ่อน ๆ จากเส้นผม
...
“พอดีว่า..เออ..ฉันลืมเอาปากกามา
ถ้าจะรบกวนขอยืมใช้ของคุณหน่อย
พอจะได้ไหมคะ?”
..
มือของเขาแข็งทื่ออยู่ชั่วขณะ
ก่อนจะรีบหยิบปากกาสีดำที่วางบนโต๊ะ
ยื่นให้ทั้งที่ปลายนิ้วสั่นน้อย ๆ
“อ๋อ…ได้ครับ”
เสียงเขาเบากว่าที่คิด
ราวกับกลัวทำลายบรรยากาศเงียบสงบ
..
เธอยื่นมือมารับ นิ้วเรียวยาวสัมผัสกับมือเขา
เพียงเสี้ยววินาที แต่กลับทิ้งร่องรอย
ร้อนวาบไว้ในหัวใจ
..
“ขอบคุณนะคะ” เธอยิ้มบาง ๆ
เพียงแค่นั้นเอง แต่สำหรับเขา
มันกลับเป็นรอยยิ้มที่ตราตรึงกว่าภาพใด ๆ
ที่เคยเห็น
เขาเฝ้ามองเธอเดินกลับไปนั่งที่โต๊ะ
..
รู้สึกเหมือนปากกาธรรมดาด้ามนั้น
เพิ่งกลายเป็นของมีค่าที่สุดในโลก