นักข่าวที่ได้ยินคำพูดและสายตาที่พีรวัสสื่อออกมาก็ทำให้พวกเธอพากันกรี๊ดในความเป็นสุภาพบุรุษของชายหนุ่มเป็นอย่างมาก
“งานหมั้นจะเกิดขึ้นเมื่อไรคะ”
“เร็ว ๆ นี้ครับ ถ้าได้วันที่แน่นอนแล้วผมจะส่งข่าวเชิญทุกคนอีกครั้งนะครับ สำหรับวันนี้ผมคงรบกวนพวกคุณเท่านี้ก่อน ถ้าอยากรู้อะไรเพิ่มเติมรอสัมภาษณ์พร้อมผมและรดาอีกรอบในงานวันหมั้นดีกว่าครับ” พีรวัสพูดจบก็ใช้รอยยิ้มของตัวเองให้เป็นประโยชน์แล้วเดินออกไปทันที โดยที่ศจีและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเป็นคนช่วยจัดการส่งนักข่าว
++++++
รินรดานั่งดูคลิปจนจบด้วยหัวใจที่เต้นแรง ใบหน้าเนียนสวยแดงก่ำ แต่ไม่ใช่มาจากความเขินอายหรือความยินดีที่ถูกประกาศว่าเป็นคู่หมั้นของพีรวัส เธอไม่คิดว่าเขาจะกล้าทำเรื่องนี้ทั้งที่ตกลงกันแล้วว่าเรื่องที่จะไม่มีการหมั้นอะไรเกิดขึ้นทั้งนั้น ทำไมเขาถึงทำแบบนี้เขาอยากจะทรมานแกล้งกันไปถึงไหน หรือที่เธอเจ็บอยู่ตอนนี้ยังไม่พอใจอีก เขาเป็นคนที่ผลักไสรังเกียจเธอมาตั้งแต่เด็กแล้วทำไมวันนี้ถึงประกาศแบบนี้ออกไป ตอนนี้ในหัวของเธอมีแต่คำว่าทำไม ๆ วนเวียนไปมา
“รดาเธอจะทำยังไงต่อไป” น้ำทิพย์ถามขึ้นมา
“ก็ไม่ทำยังไง...เพราะฉันจะไม่มีทางหมั้นกับเขาเด็ดขาด” รินรดาพูดเสียงเด็ดขาด แม้ในใจอีกส่วนอยากให้เป็นแบบนั้น แต่เธอทนไม่ได้ที่ต้องอยู่กับคนที่ไม่ได้รักเธอไปตลอดชีวิต
“รดาใจเย็น ๆ ก่อนครั้งนี้มันเป็นข่าวไปแล้ว ถ้าไม่หมั้นมีหวังเธอโดนรุมทึ้งแน่ ที่จริงนี่ก็เป็นโอกาสที่ดีนะที่เธอจะทำให้เขารู้ว่าเธอเองก็เหมาะสมและคู่ควรกับคุณพีรวัสไม่แพ้ผู้หญิงคนอื่นเหมือนกัน” ชัยยุทธช่วยพูดให้เพื่อนใจเย็นและฟังเหตุผลบ้าง เขาเองก็ตกใจไม่คิดว่าพีรวัสจะกล้าทำแบบนี้ แต่พอได้เห็นก็อดชื่นชมในความเป็นสุภาพบุรุษของเขาไม่ได้จริง ๆ
รินรดานั่งนิ่งคิดอยู่สักพักก็ตัดสินใจลุกขึ้นแล้วหยิบกระเป่าใบเล็กขึ้นมาอย่างรวดเร็วจนเพื่อนทั้งสองคนที่รอคำตอบพากันตกใจแล้วรีบผวาลุกตามทันที
“รดาเธอจะไปไหน!” ชัยยุทธรีบถามพร้อมกับจับแขนของเพื่อนเอาไว้ด้วย
“ฉันจะไปหาเขา จะไปคุยให้รู้เรื่องและเขาต้องแก้ข่าวเรื่องหมั้นครั้งนี้ด้วย” รินรดาพูดจบก็รีบเดินออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว
“รีบตามไปเร็วชาช่า ถ้าให้รดาขับรถเองมีหวังได้เหยียบมิดแน่” น้ำทิพย์พูดแล้วรีบวิ่งไปหยิบกระเป๋าโดยที่ชัยยุทธรีบวิ่งตามรินรดาไปก่อน
ในที่สุดรินรดาก็มาถึงโรงพยาบาลด้วยความปลอดภัยด้วยฝีมือการขับรถของชัยยุทธที่ไม่ยอมให้เธอขับรถเอง ตลอดเวลาที่อยู่ในรถรินรดาเงียบมาก มากจนเพื่อนทั้งสองคนนึกกลัวในความดื้อเพ่ง เพราะดูแล้วรินรดาคงไม่ยอมหมั้นกับพีรวัสง่าย ๆ แน่ น้ำทิพย์เองก็แอบส่งข้อความบอกชนาเทพให้เตรียมตัวรอรับพายุรินรดาไว้ได้เลย
...
ชนาเทพนั่งตรงข้ามเพื่อนรักในห้องทำงานของพีรวัสด้วย สายตาที่เขามองมันเรียบนิ่งจนเจ้าของห้องต้องถอนใจแล้วพูดออกมาหลังจากที่เล่นเกมส์จ้องตามาหลายนาที
“มีอะไรจะพูดก็พูดมาเถอะไอ้หนึ่งมานั่งมองหน้าฉันอยู่ได้”
“นายพูดเหมือนไม่รู้ว่าฉันมานั่งหน้าเพราะอะไร...ทำไมทำอะไรไม่ปรึกษากันก่อน” ชนาเทพเปิดฉากไต่สวนทันที
“ที่ไม่ปรึกษาเพราะบอกไปคงไม่มีใครยอมให้ฉันทำแบบนี้แน่ และที่ฉันทำเพราะต้องการปกป้องศักดิ์ศรีของรดา เรื่องที่เกิดขึ้นสาเหตุส่วนหนึ่งมันก็เป็นเพราะฉัน ถ้าวันนั้นฉันไม่ตามรดาไปและมีสติให้มากกว่านี้เรื่องแบบนี้คงไม่เกิดขึ้น แล้วถ้าฉันปล่อยให้รดารับกรรมคนเดียวฉันจะมีหน้าไปเจออาจามรได้ยังไง” พีรวัสพูดออกมา
เขาจำสายตาของจามรได้ดีท่านไม่ได้ตำหนิอะไรเขาเลยแม้แต่น้อย ตรงข้ามสายตาที่ท่านมองเขามันเต็มไปด้วยความเมตตาและเอ็นดูเขาเหมือนเดิม ทำให้เขานึกละอายใจ ไหนจะคำนินทาที่นางพยาบาลพูดกันอีกคงไม่ยุติธรรมสำหรับรินรดาเลยที่ต้องถูกต่อว่าคนเดียว
“แต่นายก็น่าจะรู้นี่ว่าเรื่องนี้รดายังไม่ยอมแน่ แล้วฉันก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่าที่นายทำอยู่ตอนนี้เพราะอะไร ไอ้เหตุผลเรื่องพ่อฉันมันดูไม่มีน้ำหนักเท่าไรเลยนะ” ชนาเทพหรี่ตาจับผิดเพื่อนรักที่นิ่งไปเมื่อได้ยินคำพูดของเขา
พีรวัสมองหน้าเพื่อนสนิทแล้วต้องถอนใจออกมา จะให้เขาพูดได้ยังไงว่าตอนที่เห็นรินรดาร้องไห้แล้วกอดบิดาพร้อมกับมีรอยยิ้มด้วยมันทำให้เขาเจ็บหน้าอกแปลก ๆ มันเหมือนมีอะไรมาบีบหัวใจ ตั้งแต่วันนั้นเขาไม่เคยสบายใจเลยที่เห็นน้ำตาของรินรดา
“เรื่องรดาปล่อยให้เป็นหน้าที่ของฉันเอง” เขาพูดอย่างมั่นใจว่าตัวเองสามารถจัดการได้ไม่ยาก แม้ว่าจะต้องเหนื่อยแค่ไหนก็ตามยังไงเขาต้องจัดงานหมั้นกับหญิงสาวให้ได้
ชนาเทพมองหน้าเพื่อนแล้วถอนหายใจก่อนจะพูดออกมาด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“ฉันจะยอมปล่อยให้นายจัดการเรื่องนี้เอง แต่อยากจะบอกอะไรสักอย่างหวังว่านายจะเก็บไปคิดดูให้ดี”
“บอกอะไร”
“ฉันอยากให้นายเปิดใจเปิดตาดูรดาให้ดีว่าน้องสาวฉันคนนี้เป็นอย่างที่นายคิดหรือเปล่า บางทีดูแค่ภายนอกเราไม่อาจรู้ได้หรอกว่าคน ๆ นั้นเป็นคนยังไง อย่าใช้อคติหรือความคิดของตัวเองมาตัดสินเพราะนายอาจจะพลาดอะไรดี ๆ ไปก็ได้” ชนาเทพพูดชี้ช่องให้พีรวัสมองรินรดาใหม่ เขารู้ว่าน้องสาวถึงจะพูดว่าไม่ต้องการให้ใครมารับผิดชอบ แต่ทำไมคนเป็นพี่อย่างเขาจะไม่รู้ว่ารินรดาไม่มีทางตัดใจจากพีรวัสได้หรอก ทางที่ดีเขาต้องทำหน้าที่กามเทพเปิดตาเปิดใจไอ้เพื่อนรักให้เห็นความจริงบางอย่าง
พีรวัสแม้จะไม่เข้าใจในสิ่งที่ชนาเทพพูดทุกอย่าง แต่เขาก็ยอมพยักหน้ารับไปก่อนแล้วค่อยคิดวันหลังเพราะวันนี้เขารู้สึกปวดศีรษะเหลือเกิน แต่ยังไม่ทันทีที่ชนาเทพจะเปิดประตูออกจากห้องไปอยู่ ๆ ก็หันกลับมาพูดอะไรบางอย่างกับเพื่อนรัก
“อีกสิบนาทีเตรียมตัวต้อนรับพายุรินรดาด้วยนะ ได้ข่าวว่าความแรงอยู่ในระดับที่ว่าพร้อมกับทำลายล้างเลย” ชนาเทพพูดและยกยิ้มให้เจ้าของห้องก่อนจะเดินออกไป เขาได้รับข้อความจากเพื่อนน้องสาวว่าตอนนี้ถึงโรงพยาบาลแล้วและกำลังจะขึ้นมาที่นี่ด้วย
พีรวัสนั่งอึ้งอยู่สักพักก็ยกมือขึ้นมาลูบหน้าของตัวเองอย่างหมดแรง และไม่ทันได้ให้เขาได้เตรียมตัวนานเสียงเคาะประตูหนัก ๆ ก็ดังขึ้นอีกฝ่ายไม่รอให้เขาอนุญาตก็เปิดประตูเข้ามาเลย
“คุณพีรวัสคุณทำบ้าอะไร! เราคุยกันรู้เรื่องแล้วนี่!” ประโยคแรกที่รินรดาเปิดฉากก็ดังลั่นห้องทำงานใหญ่
“ใจเย็น ๆ สิครับคุณคู่หมั้น มาเหนื่อย ๆ นั่งพักดื่มน้ำก่อนไหม” แทนที่จะตอบคำถามแต่พีรวัสดันพูดประโยคที่ ยียวนกวนประสาทที่สุดในความรู้สึกของรินรดา แต่พีรวัสกลับเริ่มนึกสนุกที่ได้ทำอะไรขัดใจผู้หญิงตรงหน้า
++++++