รินรดานั่งดูภาพยนตร์ต่างประเทศอย่างสบายใจบนตักก็มีจานของว่างที่แวะซื้อก่อนมา ใบหน้านวลก็มีรอยยิ้มประดับอยู่ ทำให้เจ้าของห้องอย่างชัยยุทธมองด้วยความหมั่นไว้ เพราะดูแล้วหญิงสาวจะมีความสุขเหลือเกิน แต่สุขที่ว่าไม่ได้เกิดจากการภาพยนตร์ที่กำลังฉายอยู่ต่อหน้าหรอก แต่เป็นเพราะสนุกที่ได้กลั่นแกล้งใครบางคนต่างหาก
“นี่หล่อนจะสบายใจเกินไปแล้วนะยัยคุณหนู ป่านนี้คุณพีรวัสกลับไปแล้วมั้ง” ชัยยุทธพูดและทำหน้าเบื่อใส่เพื่อนรัก
“เขายังนั่งอยู่ในรถไม่ได้ไปไหนหรอก” รินรดาพูดอย่างมั่นใจพร้อมกับยักคิ้วให้เพื่อนอย่างทะเล้น
“รู้ได้ยังไงในเมื่อเธอนั่งอยู่ที่นี่จะไปรู้เห็นเรื่องข้างล่างได้ยังไง” ชัยยุทธถามด้วยความสงสัยในความมั่นใจที่หญิงสาวทำ
“ถ้าเขาขับรถออกไปแล้วยามข้างล่างก็ต้องโทรขึ้นมาบอกแล้วน่ะสิ” คนเจ้าเล่ห์พูดและหัวเราะออกมาเมื่อเห็นสีหน้าของเพื่อนที่ตกใจและคาดไม่ถึง
“นี่ ๆ เธอจ้างยามคอยส่งข่าวเหรอเนี่ย ร้ายมาคุณหนูรินรดา”
รินรดาไม่พูดอะไรนอกจากยิ้มอย่างเดียว เธอจะทำให้เขารู้ซึ้งถึงการรอคอยเหมือนที่เธอเคยไปนั่งรอเขาที่สนามบาสแต่เขากลับทิ้งเธอไปกลับผู้หญิงคนอื่น พีรวัสชอบลืมและทิ้งเธอไว้มันบ่งบอกว่าเขาไม่เคยใส่ใจหรือสนใจอะไรเลย
“ฉันว่าเธอเล่นเกินไปหรือเปล่า ถ้าคิดอะไรกับเขาทำไมไม่พูดคุยกันดี ๆ ฉันว่าตอนนี้เขาก็น่าจะคิดอะไร ๆ กับเธอบ้างแล้วนะ” ชัยยุทธพูดขึ้นเพราะสังเกตเห็นสายตาเวลาที่พีรวัสมองมาที่เพื่อนรัก แต่ดูเหมือนว่าชายหนุ่มจะไม่รู้ว่าความรู้สึกนี้มันคืออะไรด้วยความที่ทั้งคู่รู้จักกันมานาน แถมเขาก็มีอคติกับรินรดาด้วย
“ไม่จริงหรอก เขาไม่มีทางคิดอะไรแบบที่เธอพูดหรอก” รินรดาแย้งเพราะไม่เชื่อว่าคนที่เคยเอ่ยปากไล่เธอเมื่อในอดีตจะรู้สึกอะไรแบบที่เพื่อนพูด
“ถ้าอย่างนั้นเธอจะเรียกร้องความสนใจจากเขาไปทำไม หรือแค้นที่เขาปฏิเสธเลยจะทำแบบนั้นกลับถ้าเป็นอย่างนั้นฉันอยากให้เธอคิดใหม่ ตอนนั้นเขาและเธอยังเด็กเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญคือเรื่องเรียน ฉันว่าคุณพีรวัสก็ทำถูกแล้วนะ” ชัยยุทธถามและพูดในมุมของตัวเอง เรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดเขาและน้ำทิพย์รับรู้มาโดยตลอด
เรื่องนี้ในมุมของเขา ถ้าพูดกันจริงไม่มีใครผิดใครถูกหรอกความรักและความรู้สึกดี ๆ ย่อมเกิดขึ้นได้ แต่พีรวัสที่โตกว่าต้องคิดมาอย่างรอบคอบแล้วถึงได้ปฏิเสธรินรดาอย่างไม่ใยดี แต่เพื่อนเขาเป็นคนที่เอาแต่ใจตัวเองเลยคิดว่าความคิดและความรู้สึกของตัวเองเป็นเรื่องที่ถูกต้อง
รินรดานั่งนิ่งไปเล็กน้อยเมื่อเจอคำถามนี้ เธอไม่คิดจะทำแบบนั้นแต่ที่ทำอยู่ตอนนี้เพราะอยากให้เขารู้ว่าการรอคอย การถูกเมินมันรู้สึกยังไง ถ้าวันหนึ่งเขารู้สึกแบบที่ชัยยุทธพูดเธอก็พร้อมจะเริ่มต้นใหม่กับเขา
“ฉันรู้ว่าตอนนั้นตัวเองทำเกินไป และต้องขอบคุณเขาด้วยซ้ำที่ทำให้ฉันหันกลับมาตั้งใจเรียนอย่างเต็มที่และคว้าสิ่งที่ทำให้ครอบครัวภูมิใจได้”
หลังจากที่พีรวัสไปเรียนต่อแล้วเธอกลายเป็นคนมุมานะเรียนอย่างเต็มที่เพื่อจะทำให้เขารู้ว่าคนที่ไร้สาระในสายตาเขาก็ไม่ได้น้อยหน้าไปกว่าผู้หญิงที่เขาชอบ เรื่องกิจกรรมต่าง ๆ เธอไม่ทำอีกเลย และผลของการตั้งใจเรียนก็ทำให้เธอหายเหนื่อยและคิดว่ามันช่างคุ้มค่าเหลือเกิน เธอเรียนจบปริญญาตรีด้วยคะแนนที่สูงจนได้เกียรตินิยมอันดับสอง วันที่ครอบครัวรู้เรื่องนี้ไม่มีใครเชื่อจนเธอต้องเอาคะแนนให้ดูถึงจะมีคนเชื่อ แววตาดีใจของบิดาและพี่ชายทำให้เธอดีใจที่อย่างน้อยเด็กเอาแต่ใจก็ทำเรื่องดี ๆ เป็น
“ฉันถามตรง ๆ นะ ตอนนี้เธอยังรู้สึกกับคุณพีรวัสเหมือนเมื่อก่อนจริงเหรอ แล้วแน่ใจนะว่าอยากทำแบบนี้ต่อ” ชัยยุทธถามอีกครั้งเพื่อให้รินรดาได้คิด
“ฉันขอพยายามอีกครั้ง ถ้าเขาไม่ได้คิดอะไรกับฉันจริง ๆ ฉันจะถอยไปเป็นน้องสาวตามที่เขาต้องการ” เธอคิดเอาไว้แล้วว่าจะลองพยายามทำให้เขาเห็นตัวตนที่แท้จริงของตัวเอง ถ้าวันข้างหน้าเขายังยืนยันว่าไม่รู้สึกอะไรกับเธอจริง ๆ วันนั้นเธอจะยอมอยู่ในสถานะที่เขาต้องการ
ชัยยุทธถอนหายใจออกมาและต้องยอมพยักหน้ารับเพราะรู้ว่าคนอย่างรินรดาถ้าลองตั้งใจทำอะไรแล้วก็ยากที่จะล้มเลิกง่าย ๆ ตอนนี้เขาทำได้แค่พูดเตือนสติไปเท่านั้น
“ตามใจแล้วกัน แต่อย่าทำอะไรที่มันมากเกินไปเพราะถ้าพลาดขึ้นมาคนที่เสียใจคือเธอนะรดา”
“ฉันรู้ ขอบใจนะที่เป็นห่วง” รินรดาพูดและยิ้มให้เพื่อนก่อนจะหันมาจะกอดร่างสูงของเพื่อนสาว แต่ก็ต้องชะงักค้างแล้วหัวเราะออกมาเมื่อชัยยุทธยกมือขึ้นมาดันหน้าเธอให้ออกห่าง
“รู้ว่าซึ้งแต่ไม่ต้องมากอดฉันมากยัยชะนี แค่วันนั้นก็ขนลุกจะแย่แล้ว” ไม่พูดเปล่าชายหนุ่มใจสาวยังทำท่าสยองออกมาอีกด้วย
ขณะที่ข้างบนกำลังหัวเราะมีความสุขและดูภาพยนตร์อย่างสบายใจ ซึ่งมันตรงข้ามกับคนหน้าตึงที่นั่งรออยู่ในรถมาหลายชั่วโมง เขานั่งคิดเรื่องในอดีตระหว่างตัวเองกับรินรดาว่ามันเกิดอะไรขึ้นมาบ้าง และภาพวันที่มารดาพูดบางอย่างที่ทำให้เขาหน้าเหวอไปเลย
“พีทมีแฟนหรือแอบมองผู้หญิงคนไหนไว้บ้างหรือเปล่า” ดวงเดือนถามขึ้นในระหว่างที่เธอและลูกชายนั่งทานอาหารเย็นอยู่
“ยังไม่มีเลยครับ ทำไมอยู่ ๆ แม่ถึงถามเรื่องนี้ขึ้นมาล่ะครับ” พีรวัสในวัยสิบเจ็ดปีถามมารดาขึ้น
“แม่แค่อยากรู้ว่าพีทมีแฟนหรือยัง แม่เห็นเด็กรุ่นเดียวกับพีทต่างก็เริ่มมีความรักกันหมดแล้ว” เพราะความที่เลี้ยงลูกมาคนเดียวที่เป็นทั้งพ่อและแม่ทำให้เธอต้องพูดขึ้นเรื่องนี้ให้เหมือนเรื่องทั่วไป เพราะอยากให้พีรวัสไว้ใจยอมพูดคุยเรื่องแบบนี้
“ผมจะเอาเวลาที่ไหนไปหาแฟนล่ะครับ เดี๋ยวถ้ารดารู้ก็ตามไปป่วนอีก” พีรวัสพูดแล้วหัวเราะออกมา เพราะตั้งแต่เล็กเวลาที่มีใครเข้ามาใกล้เขารินรดาก็ชอบมาขวาง ไม่ใช่เป็นแค่เขาคนเดียวนะกับชนาเทพรินรดาก็หวงและป่วนไปทั่ว คงเพราะเป็นน้องเล็กเลยหวงพี่ชาย ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะเขานี่แหละที่ชอบพูดว่าถ้าดื้อมากจะไม่สนใจไม่รักไม่เล่นด้วยแล้ว
+++++