เที่ยงของวันต่อมา
หมอนรสิงห์ลางานช่วงบ่ายเพื่อมารับพีรญาไปที่คอนโดมิเนียม เขาขับรถมาหาหญิงสาวที่หอพักจากนั้นก็ช่วยกันยกของใช้ที่จำเป็นใส่รถก่อนจะขับออกมาจากที่นั่น
“คุณหมอคะที่นี่มันหรูหราเกินไปหรือเปล่า” พีรญาทำหน้าตาตื่นเมื่อหมอนรสิงห์ขับรถพาเธอมายังคอนโดแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ไม่ไกลจากมหาวิทยาลัยของเธอ
“ไม่หรอกห้องที่ฉันจะให้เธออยู่มันเป็นแค่ห้องเล็ก ๆ แต่ที่เลือกที่นี่เพราะมันอยู่ใกล้มหาวิทยาลัยเธอจะได้เดินทางไปเรียนได้สะดวกไม่ต้องขี่แล้วนะไอ้มอเตอร์ไซค์คันเล็กของเธอนั่นน่ะ”
“ทำไมคะ หนูว่ามันคล่องตัวดีออก”
“ก็ที่นี่ใกล้สถานีรถไฟฟ้าเธอนั่งรถไฟฟ้าไปดีกว่าไหม จะได้ไม่อันตรายหรือถ้าไม่อยากนั่งรถไฟฟ้าจะให้ฉันรับส่งดีไหมล่ะ”
“พรีมคงไม่รบกวนคุณหมอมากขนาดนั้นหรอกค่ะ แค่ให้พรีมย้ายมาอยู่ที่นี่ก็เกรงใจมากแล้วค่ะ”
“ถ้าอย่างนั้นขึ้นไปดูห้องกันก่อนก็แล้วกันนะ”
เขาพาหญิงสาวขึ้นมาดูห้องพักขนาดกลางด้านในมีห้องนอนใหญ่หนึ่งห้อง มีส่วนของห้องครัวแยกออกมาชัดเจน มีห้องรับแขกและมุมเล็ก ๆ ไว้สำหรับนั่งทำงานหรืออ่านหนังสือซึ่งตอนนี้โต๊ะและเฟอร์นิเจอร์ทุกอย่างถูกจัดวางไว้อย่างเรียบร้อยแล้ว
“โอ้โห.....พรีมว่าข้างนอกมันหรูแล้วข้างในยิ่งหรูมากกว่า เทียบกับห้องพักเดิมของพรีมแทบไม่ได้เลย” หญิงสาวตาเป็นประกายระหว่างมองไปรอบ ๆ ห้อง
“แล้วชอบไหมล่ะ”
“ชอบมาก ๆ ค่ะ แต่พรีมว่าคุณหมอจะเสียเงินให้พรีมมากเกินไปหรือเปล่าแค่หนี้สามแสนนั่นมันก็มากเกินไปแล้วนะคะ”
“อย่าคิดอย่างนั้นสิเราตกลงกันแล้ว ฉันจะดูแลเธอจนกว่าเธอจะเรียนจบ”
“ขอบคุณนะคะคุณหมอ”
“เลิกเรียกฉันว่าคุณหมอได้แล้วนะ เรียกแค่หมอหรือหมอสิงห์ก็พอ”
“ได้ค่ะหมอสิงห์”
“ที่นี่จะมีแม่บ้านมาทำความสะอาดสะอาดสัปดาห์ละสองครั้งนะ ส่วนพวกเสื้อผ้าฉันก็ติดต่อร้านซักรีดไว้แล้วเธอแค่เอาทุกอย่างลงตะกร้าเดี๋ยวเขาจะจัดการเอง”
“หมอสิงห์คะ แค่ให้พรีมมาอยู่ฟรีพรีมก็เกรงใจแล้ว เรื่องแม่บ้านกับเรื่องซักผ้าพรีมขอจัดการเองได้ไหม หมอจะได้ไม่ต้องเสียเงินเพิ่ม”
“ถ้าอย่างนั้นเรื่องทำความสะอาดเธอจัดการเองส่วนเรื่องเสื้อผ้ามันคงไม่สะดวกนักเพราะห้องฉัน มีแค่เครื่องซักผ้าอันเล็ก ๆ เอาไว้ซักพวกชุดนอนแค่นั้นเอง ตกลงไหม”
“เอาอย่างงั้นก็ได้ค่ะ ขอบคุณนะคะ”
“เดินดูนะว่ายังขาดเหลืออะไรบ้างเดี๋ยว ตอนบ่ายฉันจะพาไปซื้อ”
“ได้ค่ะ” หญิงสาวเดินสำรวจรอบห้องแล้วยิ้มอย่างพอใจ ที่นี่มันแตกต่างจากห้องพักของเธอเราฟ้ากับเหวยิ่งเห็นแบบนี้เธอก็ยิ่งรู้สึกเกรงใจหมอนรสิงห์มากยิ่งขึ้น
“ขาดเหลืออะไรไหม”
“ไม่ค่ะ พรีมคิดว่าน่าจะครบแล้วค่ะ”
“แน่นะ ไม่ใช่ตอบแบบนี้เพราะเกรงใจ”
“แน่ค่ะ หมอสิงห์คะ พรีมเห็นมีห้องครัวและมีอุปกรณ์ทำครัวครบเลย พรีมขอทำอาหารในนี้ได้ไหมคะ ทางคอนโดเขาจะว่าอะไรหรือเปล่า”
“ทำเป็นเหรอ”
“พอได้ค่ะ”
“งั้นก็ทำสิ แต่ทุกครั้งที่ทำอาหารก็เปิดที่ดูดควันแค่นั้นเอง แล้วก็อย่าทำอะไรที่มันกลิ่นเหม็นมาก ๆ ก็แล้วกัน กฎของคอนโดวางอยู่บนเคาน์เตอร์ถ้าว่างก็อ่านดู”
“ได้ค่ะพรีมจะค่อย ๆ ศึกษาดูค่ะ แล้วกฎของคุณหมอในการอยู่ที่นี่ของพรีมล่ะคะ”
“ฉันไม่มีกฎอะไรหรอก ที่นี่ก็ยกให้เป็นที่ส่วนตัวของเธอก็แล้วกัน”
“หมายความว่าหมอจะไม่อยู่ที่นี่กับพรีมใช่ไหมคะ”
“ใช่ ฉันมีบ้าน”
“อ๋อ.....ค่ะ” หญิงสาวดีใจและรู้สึกหญิงสาวรู้สึกโล่งใจที่เขาจะไม่ค้างกับเธอที่นี่
“หมอจะไม่มานอนที่นี่ใช่ไหมคะ?”
“ฉันคิดว่าเราตกลงกันและเข้าใจกันดีแล้วนะ ว่าฉันดูแลเธอในฐานะอะไร”
“ค่ะ พรีมรู้ก็แค่ถามดู” หญิงสาวไม่รู้หรอกว่าเขาจะมาค้างที่นี่กับเธอบ่อยแค่ไหนแต่เธอก็ยอมรับชะตากรรมชีวิตแล้วว่ายังไงก็ต้องนอนกับผู้ชายคนนี้ ซึ่งมันก็ยังดีกว่าต้องไปนอนกับใครก็ไม่รู้อีกหลายคนในผับของเสี่ยทรงพล
หลังจากสำรวจห้องจนพอใจแล้วนรสิงห์ก็พาพีรญาออกไปซื้อของที่ห้างสรรพสินค้าที่อยู่ใกล้ ๆ กับคอนโด
เขาพาเดินเธอเดินผ่านแผนกเสื้อผ้าสตรีและสินค้าแบรนด์เนมแต่หญิงสาวไม่ยอมซื้ออะไรสักอย่างเพราะเธอรู้สึกเกรงใจนรสิงห์มาก ๆ
“เธอรู้มั้ยพรีม ถ้าเป็นผู้หญิงคนอื่นพวกเธอคงรีบซื้อทุกอย่างที่ฉันเสนอ”
“ก็พวกเธอไม่ได้เป็นหนี้เยอะอย่างพรีมนี่คะ เงินสามแสนที่หมอจ่ายกับคอนโดที่ให้พรีมอยู่ฟรีนี่มันก็มากเกินไปแล้วนะคะ”
“ฉันให้เธอได้เยอะกว่านี้ถ้าเธอเป็นเด็กดีของฉัน”
คำว่าเด็กดีของฉันทำให้หญิงสาวรู้สึกหวั่นไหวกับคำพูดนั้นแม้รู้ว่าเขาหมายถึงผู้หญิงที่เขาซื้อด้วยเงินแต่ก็แอบดีใจ
“ค่ะหมอสิงห์”
“อยากได้อะไรเพิ่ม อยากซื้ออะไรก็บอกฉันเข้าใจไหม”
“เข้าใจค่ะ”
หลังจากซื้อของจนเหนื่อยแล้วหมอนรสิงห์ก็พีรญามาทานอาหารที่ร้านแห่งหนึ่งบรรยากาศภายในร้านตกแต่งอย่างสวยงามทำให้หญิงสาวรู้สึกประหม่าเป็นอย่างมาก เพราะเธอไม่เคยเข้าร้านอาหารหรู ๆ แบบนี้เลย
“อยากกินอะไรก็สั่งเลยนะ นี้สเต๊กอร่อยมากสนใจไหม” นรสิงห์ส่งเมนูให้หญิงสาวเลือก
“พรีมของเป็นสปาเกตตีได้ไหม”
“ได้สิ จะเอาสลัดเพิ่มด้วยไหมล่ะ”
หญิงสาวมองหน้าเขาแล้วยิ้มก่อนจะพยักหน้าหน้า
คุณหมอหนุ่มจัดการสั่งอาหารให้ตนเองและเด็กของเขาจากนั้นทั้งสองก็นั่งทานกันอย่างเงียบ ๆ หญิงสาวไม่รู้ ว่าจะชวนเขาคุยเรื่องอะไร
“สุรัชบอกว่าเธอยังไม่ได้ลาออกจากผับใช่ไหม” นรสิงห์ถามขึ้นทำลายความเงียบ
“ค่ะ”
“ทำไมล่ะ ฉันบอกแล้วใช่ไหมว่าถ้าเป็นเด็กของฉันแล้วฉันไม่ให้ออกไปทำงานกลางคืนแบบนั้น”
“แต่ถ้าจู่ ๆ พรีมลาออกมากะทันหันเพื่อน ๆ ต้องสงสัยแน่เลยค่ะว่าพรีมทำไมพรีมถึงไม่ทำงานเพราะก่อนหน้านี้พรีมบอกเพื่อนว่าจำเป็นต้องใช้เงินเป็นจำนวนมาก”
“เธอบอกเรื่องที่มาอยู่กับฉันให้เพื่อนฟังหรือเปล่า”
“ไม่ค่ะ พรีมไม่กล้าเล่าเรื่องนี้ให้ใครฟังหรอก มันน่าอายมากนะคะที่เรายอมขายศักดิ์ศรีของเราให้กับผู้ชายที่เจอกันเพียงไม่กี่ครั้ง”
“ฉันเข้าใจนะและมันก็ดีสำหรับตัวเธอที่ไม่บอกเรื่องนี้กับใครถ้าใครถามเธอก็บอกว่าเธอย้ายมาอยู่กับญาติก็ได้”
“ก็ได้ค่ะ แต่พรีมขอไปทำงานที่คาเฟ่ตอนกลางวันอย่างเดิมได้ไหมคะ ถ้าให้อยู่แต่ห้องพรีมคงเบื่อแย่”
“แล้วจะทำที่นั่นตลอดเลยหรือเปล่า”
“ไม่หรอกค่ะ พรีมคงทำอีกเดือนเดียวพอเปิดเทอมก็ว่าจะไม่ทำแล้วเพราะพรีมต้องไปฝึกงานค่ะ”
“ฝึกที่ไหนเหรอ”
“ยังไม่รู้เลยค่ะแล้ว”
“เรื่องจะไปทำงานที่คาเฟ่ฉันตามใจเธอแล้วกันนะ ฉันห้ามก็แค่งานกลางคืน”
“ขอบคุณค่ะ”
“เรื่องเงินเดือนอยากได้เท่าไหร่”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ พรีมพอมีใช้”
“ฉันบอกว่าจะดูแล” เขาพูดเสียงเรียบแต่ฟังแล้วดูเหมือนเป็นคำสั่ง
“แล้วแต่หมอสิงห์ค่ะ”
“งั้นฉันให้ไปก่อนสี่หมื่นนะ เอาไว้ใช้จ่ายทั่วไปแต่ถ้าต้องซื้อของใช้หรืออยากได้อะไรเพิ่มก็บอก”
“เยอะเกินไปแล้วค่ะ”
“ไม่เยอะหรอกฉันว่ากำลังดี ส่วนเรื่องสุรัชเดี๋ยวฉันจัดการบอกเขาเองตกลงไหม”
“พรีมขอบคุณหมอสิงห์มากนะคะที่ยื่นมือเข้ามาช่วย”
“ฉันไม่ได้ใจดีแบบนี้กับทุกคนหรอกนะ ที่ฉันยื่นมือมาช่วยเพราะรู้สึกถูกชะตาเพราะฉะนั้นอย่าทำให้ฉันผิดหวัง”
“หมายความว่ายังไง”
“ก็หมายความว่าถ้าเธอตกลงจะเป็นคนของฉันแล้วเธอไม่มีสิทธิ์คบใครหรือมองผู้ชายคนไหนอย่างเด็ดขาด มีเพื่อนสนิทที่เป็นผู้ชายไหม”
“เพื่อนผู้ชายในห้องก็จะเป็นผู้ชายที่ไม่ชอบผู้หญิงค่ะ”
นรสิงห์พยักหน้าอย่างเข้าใจ
จากนั้นนรสิงห์ก็ชวนเธอคุยเรื่องเรียนก่อนจะจบลงด้วยเรื่องที่เขาจะพาเธอไปตรวจเลือดและเลือกวิธีคุมกำเนิด
พีรญาเข้าใจเรื่องนี้ดี ถึงเขาไม่บอกให้เธอคุมกำเนิดตัวเธอเองก็คงต้องทำเพราะเธอไม่อยากพลาดท้องทั้งที่เป็นแค่เด็กเลี้ยงของเขาอีกทั้งยังเรียนไม่จบ เธอตัดสินใจยอมรับในสถานะใหม่ของตัวเองอย่างเป็นผู้ใหญ่และเข้าใจในความเป็นจริง