สุดทางแล้ว

1398 Words
นับจากคืนที่พีรญาก้าวลงจากรถของหมอนรสิงห์ พร้อมกับคำว่า ‘ขอต่อเวลาอีกนิด ขอให้พรีมได้คิดอีกหน่อยนะคะ’ นาฬิกาชีวิตของเธอก็เริ่มเดินหน้าอย่างรวดเร็ว เธอเหลือเวลาไม่ถึงสิบวันในการหาเงินหนึ่งแสนบาทมาใช้หนี้ให้กับเสี่ยทรงพลเพื่อศักดิ์ศรีของตนเองเอาไว้ พีรญานอนไม่หลับเลยตลอดคืนนั้น สมองของเธอเต็มไปด้วยภาพของทางเลือกที่บีบคั้น นรกของเสี่ยทรงพลที่เธอรู้ดีว่าจะทำลายชีวิตเธอจนไม่เหลือชิ้นดีกับข้อเสนอของนรสิงห์ที่แม้จะปลอดภัยกว่าแต่ก็คือการแลกศักดิ์ศรีกับความช่วยเหลือ เช้าวันรุ่งขึ้นเธอตื่นขึ้นมาด้วยใบหน้าที่บวมช้ำจากการร้องไห้ แต่ก็ต้องฝืนตัวเองให้ลุกขึ้นแต่งตัวไปทำงานที่คาเฟ่ พีรญาขอเปลี่ยนกะทำงานเป็นกะที่ยาวนานขึ้นและรับงานทำความสะอาดเพิ่มเติม หญิงสาวทำทุกอย่างที่ได้เงิน ความสิ้นหวังทำให้เธอไม่สนใจความรู้สึกอื่นใดนอกจากเงินเพียงอย่างเดียวเท่านั้น เมื่อตกกลางคืนพีรญาก็ไปทำงานที่ผับของสุรัชต่อ เธอพยายามเร่งทำยอดเครื่องดื่มและรับทิปจากลูกค้าให้ได้มากที่สุด ทุกรอยยิ้มที่เธอฝืนส่งให้แขก ทุกแก้วที่เธอก้มลงเสิร์ฟ มันคือการต่อสู้เพื่อศักดิ์ศรี หมอนรสิงห์ยังคงแวะมาที่ผับทุกคืนแม้ว่าเขาจะทำงานเหนื่อยมาตลอดทั้งวันก็ตาม ในทุกคืนที่มาก็จะนั่งอยู่ที่มุมเดิมบนชั้นสอง แต่ก็พยายามรักษาระยะห่างเพราะอยากให้เวลาและพื้นที่เพื่อตัดสินใจของเธอตามที่ขอแต่การที่เขาอยู่ตรงนั้น มันคือการตอกย้ำถึงทางเลือกที่กำลังรออยู่ การมองเห็นเขาทำให้พีรญารู้สึกเหมือนตนเองกำลังถูกจ้องจับผิดแต่อีกความรู้สึกหนึ่งที่แทรกเข้ามาก็คือความปลอดภัยเพราะรู้ว่าหากคนของเสี่ยทรงพลมาหาเธออีกก็จะมีเขาคอยช่วย เมื่อเหลือเวลาเพียงห้าวัน ความกดดันก็เพิ่มมากขึ้น คืนหนึ่งในขณะที่พีรญากำลังขี่มอเตอร์ไซค์กลับหอพักหลังผับปิด คนของเสี่ยทรงพลก็มาดักรอเธออีกครั้ง คืนนี้พวกเขาไม่ได้มาทวงเงินแต่มาพร้อมกับรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความน่ากลัว “ไงพรีม ทำงานหนักจนหน้าโทรมเชียวนะ” ชายคนหนึ่งพูดขณะพิงรถมอเตอร์ไซค์ของตนเอง พีรญาตัวแข็งทื่อความกลัวแล่นจับขั้วหัวใจ แต่หญิงสาวก็พยายามรักษาน้ำเสียงให้เป็นปกติที่สุด “ฉันกำลังหาเงินอยู่” “เสี่ยไม่ได้ให้ฉันมาทวงหรอก แค่มาเตือนว่าอีกไม่กี่วันก็สิ้นเดือนแล้ว” ชายอีกคนว่า “รู้ไหมว่าผับของเสี่ยมีอะไรดี มีห้องพักส่วนตัวที่หรูหรากว่าหอพักเน่า ๆ ของเธอเยอะ มีเสื้อผ้าสวย ๆ ให้ใส่ มีเงินให้ใช้ ไม่ต้องมาเดินขาขวิดเสิร์ฟเหล้าแบบนี้” ชายอีกคนพูดเสริม “ฉันไม่ไป” พีรญากัดฟันตอบ “อย่าปากแข็งนักเลย ใคร ๆ ก็อยากได้โอกาสนี้นะ แต่เสี่ยให้โอกาสแค่เธอ เพราะเสี่ยชอบความดื้อรั้นของเธอ ลองคิดดูนะ แค่คืนเดียว ที่นั่น เธอได้เงินมากกว่าที่เธอทำงานที่นี่ทั้งเดือนรวมกัน” เขายิ้มอย่างน่ารังเกียจ “ฉันบอกว่าไม่ไป!” เธอยืนยันหนักแน่น “ได้… งั้นก็เตรียมตัวไว้แล้วกัน เพราะถ้าถึงวันที่เสี่ยสั่ง ต่อให้เธออยากอยู่กับผู้ชายคนไหนหรือซ่อนตัวที่ไหนเสี่ยก็จะให้คนมาลากเธอเอง” เขาข่มขู่เสียงเหี้ยมก่อนจะพากันหัวเราะเสียงดังแล้วขี่มอเตอร์ไซค์จากไปทิ้งให้พีรญายืนตัวสั่นอยู่ท่ามกลางความมืดมิด .... หลังกลับถึงหอพักพีรญาเทเงินทั้งหมดที่หามาได้ตลอดห้าวันที่ผ่านมาลงบนเตียงมันคือหยาดเหงื่อและศักดิ์ศรีที่เธอพยายามรักษาไว้เธอใช้เครื่องคิดเลขกดตัวเลขรวมกันแล้วถอนหายใจ “แค่เก้าพันเจ็ดเองเหรอ” แม้จะทำงานหนักจนร่างกายแทบแหลก แต่จำนวนเงินที่ได้ก็ไม่ถึงสิบเปอร์เซ็นต์ด้วยซ้ำ น้ำตาที่เริ่มไหลรินอีกครั้ง คราวนี้ไม่ใช่ความโกรธ แต่เป็นความสิ้นหวังที่แท้จริง หญิงสาวรู้สึกเหมือนกับตนเองกำลังยืนอยู่บนหน้าผา เธอทิ้งตัวลงนอนบนเตียงด้วยความหมดหวัง มองเพดานเก่าๆ อย่างเลื่อนลอย นึกถึงคำพูดของนรสิงห์ ‘อย่างน้อยฉันก็ไม่ทำให้เธอตกนรกแบบที่ผับของเสี่ยทรงพลจะทำ ศักดิ์ศรีไม่ใช่สิ่งที่เธอมีโอกาสรักษาไว้นานนะพรีม’ น้ำเสียงของเขาไม่ได้ฟังดูดูถูกอีกแล้ว แต่มันฟังดูเหมือน คำเตือนของศัลยแพทย์ที่เห็นคนไข้กำลังจะตาย การรักษาความบริสุทธิ์อาจไม่ใช่สิ่งจำเป็นสำหรับเธออีกต่อ แล้ววันสุดท้ายของเส้นตายมาถึงพีรญาไปทำงานที่ผับด้วยร่างกายที่อ่อนล้าและหัวใจที่กำลังแตกสลาย เพราะมันเป็นวันที่เธอต้องตัดสินใจแล้วมันเป็นการตัดสินใจที่เจ็บปวดที่สุดในชีวิต คืนนี้หมอนรสิงห์มาถึงที่ผับอย่างเคย เขาเฝ้ามองเธออยู่ห่าง ๆ แต่ในใจกลับเป็นกังวลว่าเธอจะยอมรับข้อเสนอของเขาหรือเปล่า นรสิงห์รอคอยอย่างใจจดใจจ่อ เมื่อเวลาใกล้เที่ยงคืนพีรญาเดินขึ้นไปที่ชั้นสองแล้วเธอเดินตรงไปที่โต๊ะของหมอนรสิงห์ด้วยความรู้สึกพ่ายแพ้ นรสิงห์มองเธอเงียบ ๆ เขาเข้าใจในความเจ็บปวดของพีรญาว่ามันยากแค่ไหนที่จะเดินมาบอกใครสักคนว่าเธอพร้อมที่จะเป็นของใครสักคนโดยไม่เต็มใจเลยแม้แต่น้อย “นั่งสิพรีม” หญิงสาวเธอนั่งลงอย่างช้า ๆ มองเธอไม่กล้าสบตาเขาเพราะละอายเกินกว่าจะพูดออกไปว่าเธอยอมแพ้แล้ว เธอยอมให้เขาดูแลและช่วยเหลือแล้ว พีรญาเงียบไปครู่หนึ่งกลืนน้ำตาที่จุกอยู่ในคอลงไปนี่คือการยอมจำนนต่อโชคชะตา “พรีมยอมรับข้อเสนอของคุณค่ะ” เธอบอกเสียงแผ่วแล้วเงยหน้าขึ้นมองเขา ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความหวาดกลัวและคำถามที่ยังค้างคา “มีอะไรอีกหรือเปล่า” “พรีมขอถามเพิ่มค่ะ” “ว่ามาสิ” “พรีมต้องอยู่กับคุณนานแค่ไหนค่ะ” “ฉันจะปล่อยเธอไป… เมื่อถึงเวลาที่ฉันพอใจเท่านั้น” “แล้วถ้าระหว่างนี้คุณหมอมีแฟนล่ะคะ คุณหมอจะยังให้พรีมเป็นผู้หญิงของคุณหมออีกหรือเปล่า” “เรื่องนั้นฉันไม่แน่ใจ เพราะอะไรถึงถามแบบนี้” “พรีมไม่อยากทำร้ายผู้หญิงด้วยกันค่ะ ถ้าคุณหมอมีคนรักก็ต้องปล่อยพรีมคุณหมอจะตกลงไหมคะ” “อือ....” นรสิงห์รับปากเพราะเขาเองไม่คิดจะมีคนรักหรือมีครอบครัว เขาชอบใช้ชีวิตอิสระแต่ที่ยอมยื่นมือมาช่วยเหลือเพราะรู้สึกชอบและถูกชะตาแต่ถ้าจะให้จริงจังถึงขั้นคบหาอย่างคนรักมันไม่อยู่ในหัวเขาเลย “พรีมต้องนอนกับคุณบ่อยแค่ไหนคะ” “นี่เธอ....” เพราะคำถามที่ตรงไปตรงมาทำให้นรสิงห์ถึงกับไปไม่ถูก รอยยิ้มมุมปากของเขาผุดขึ้นอย่างที่เธอไม่เคยเห็นมาก่อน หญิงสาวจ้องอย่างรอคอยคำตอบ “เธอคิดว่าฉันเป็นคนยังไงกันนะ คิดว่าที่ช่วยเพราะแค่อยากจะนอนด้วยแค่นั้นเหรอ” “หรือว่าไม่ใช่คะ ถ้าพรีมเข้าใจผิดพรีมก็ขอโทษด้วยค่ะ” “เรื่องนั้นมันก็ใช่....แต่ทำไม่คิดบ้างล่ะว่าถ้าฉันต้องการนอนกับใครสักคนฉันไม่จำเป็นต้องจ่ายเยอะขนาดนั้นเลย มีผู้หญิงหลายคนที่พร้อมจะนอนกับฉันโดนไม่ต้องจ่ายเงินเลย” พีรญาเข้าใจคำตอบของเขาเป็นอย่างดี และเธอก็ต้องยอมเพราะการนอนกับหมอนรสิงห์ก็ดีกว่าไปทำงานที่ผับของเสี่ยทรงพล “ฉันไม่บังคับนะ ให้เธอตัดสินใจเอง ถ้าพร้อมฉันจะจัดการเรื่องหนี้ให้” “พรีมตกลงค่ะ”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD