MF#1_มนตรา

893 Words
ณ ประเทศอังกฤษ ​ ..ปังง.. ..ปังง.. ..ปังง.. ​ “เจ้านาย! พวกมันหนีไปทางนั้นแล้วครับ” “ตามไปซิวะ!! อย่าให้หนีรอดไปได้” ..ปังง.. ..ปังง.. “อ๊ากกกก!!!” ​ ..ปังง... “กรี๊ดดดดด!!!!” ​ ...ปังง... เสียงปืนและเสียงร้องด้วยความเจ็บปวดดังกึกก้องไปทั่วทั้งผืนป่า ตามมาด้วยเสียงกรีดร้องอันโหยหวนบาดลึกลงไปในหัวใจเหมือนคมมีดของยมทูต.. ท่ามกลางอากาศอันหนาวเหน็บเย็นเชียบในฤดูหนาวของประเทศอังกฤษ ลมหายใจหนักๆของกลุ่มชายฉกรรจ์ที่มีไม่ต่ำกว่าสิบคนพาให้เกิดกลุ่มควันเล็กๆพวยพุ่งออกมาจากริมฝีปากที่เม้มแน่น.. “เรียบร้อยแล้วครับเจ้านาย” หนึ่งในกลุ่มชายฉกรรจน์พูดขึ้นท่ามกลางความมืดมิดของป่าสนสีขาวโพลน มีเพียงแสงจากเงาจันทร์เท่านั้นที่สาดส่องเล็ดลอดลงมากระทบเข้ากับเกล็ดหิมะ.. "พวกมันมีกี่คน?" เสียงทุ้มๆเย็นยะเยือกเหมือนเสียงน้ำแข็งขั้วโลกเอ่ยขึ้นเบาๆ ร่างสูงใหญ่ถูกบดบังด้วยเงามืดของต้นสนต้นใหญ่.. "เราเก็บพวกมันไปได้สี่ แต่ผมไม่แน่ใจว่าครอบครัวของคนไทยยังอยู่รึเปล่า?" ..สวบ.. ..สวบ.. ​ ...คลิ๊ก... "เฮ้ย! อย่ายิงกูเอง" เสียงร้องห้ามหอบๆดังออกมาจากปากของชายฉกรรจ์ร่างสูงที่เพิ่งตามเข้ามาสมทบ "นายครับ!!" ก้าวยาวๆเข้ามาหาร่างสูงใหญ่กลางวงล้อมของกลุ่มชายฉกรรจ์.. “.....” ไม่มีเสียงตอบรับของร่างในเงามืด "ผัวเมียชาวไทยตายแล้วครับ ผัวถูกยิงเข้าที่หัวในระยะเผาขน ส่วนเมียถูกยิงเข้ากลางหลัง ผมไม่แน่ใจว่าลูกกระสุนจะเป็นของเราหรือของพวกมันที่ฆ่าทั้งสองคน" รายงานเสียงเครียด หลังจากที่ได้รับคำสั่งให้เข้าไปแทรกซึมอยู่ในกลุ่มของศัตรูตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมาเพื่อคอยจับตาดูความเคลื่อนไหว และกลับรายงานข้อมูลเชิงลึกให้เจ้านายหนุ่มรับรู้ รวมถึงเหตุการณ์ครั้งนี้ด้วย.. ความเงียบเกิดขึ้นชั่วขณะ มีเพียงเสียงลมหายใจหนักๆและกลุ่มควันสีขาวที่พวยพุ่งออกมาจากปากและจมูกท่ามกลางเกล็ดหิมะที่เริ่มโปรยปรายลงมาไม่ขาดสาย.. "เก็บให้สะอาด อย่าให้มีแม้แต่เส้นผมหลุดรอดออกไป" ​คำสั่งเฉียบขาดดังออกมาจากปากที่เม้มแน่นของชายหนุ่ม ร่างสูงใหญ่เริ่มขยับออกจากเงาของต้นสน.. “..ฮึก..ฮึกๆ..” ​ชะงักกึก หยุดการเคลื่อนไหว ตั้งใจฟังเสียงที่ลอยมาตามสายลมเย็นยะเยือก “..ฮึกๆ.. ฮึกๆ..” เสียงสะอื้นแผ่วๆเกือบถูกกลบด้วยเสียงลมและเสียงของใบไม้ที่กำลังพลิ้วไหวไปตามแรงลม.. ไม่ต้องรอให้บอก ชายฉกรรจ์นับสิบคนเคลื่อนตัวอย่างเงียบเชียบแต่ฉับไว กระจายกันออกไปทั่วทั้งบริเวณเพื่อตามหาเสียงปริศนา พร้อมกับมือที่ยกปืนขึ้นเล็ง.. “..ฮึก..ๆๆ.. ฮือๆๆ..” “ทางนี้!” เสียงกระซิบเบาๆกับการเคลื่อนไหวมือน้อยๆเป็นการส่งสัญญาณ เมื่อหนึ่งในกลุ่มเริ่มเข้าไปใกล้เป้าหมาย.. “ฮือๆๆ..ฮึก” หนึ่งในชายฉกรรจ์ก้าวพรวดออกไปยืนจังก้าพร้อมกับยกปืนในมือขึ้นเล็งไปที่ใบหน้าเนียนๆแดงก่ำเปรอะเปื้อนไปด้วยหยาดน้ำตา.. "เจ้านายเด็กผู้หญิง!!!" อ้าปากค้าง ลดปืนในมือลงช้าๆ มองร่างของเด็กสาวที่กำลังนั่งกอดเข่าคุดคู้ ก้มหน้าร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่หลังตันสนต้นใหญ่ด้วยสีหน้าตกตะลึง ทำอะไรไม่ถูก “ฆ่าทิ้งให้หมด! เก็บเอาไว้ก็ไม่มีประโยชน์” เสียงออกคำสั่งห้วนๆ ดังขึ้นในความมืดก่อนที่ร่างสูงใหญ่จะก้าวเข้ามาสมทบ.. “เอ่ออ...” อึกอัก ยกปืนในมือขึ้นช้าๆอีกครั้ง ลังเลไม่กล้ายิง ...คลิ๊ก... ร่างสูงใหญ่ของผู้เป็นเจ้านายก้าวเข้ามาแทนที่ หลังจากที่ผลักลูกน้องออกจนพ้นทางก่อนจะยกปืนในมือขึ้นแล้วเล็งไปที่หัวเล็กๆที่มีเส้นผมดกยาวหยักโศกด้วยตัวเอง.. "พี่จ๋า!! หนูกลัว ช่วยด้วย!!" เงยหน้าที่มีน้ำตานองขึ้นมอง ดวงตากลมโตสีน้ำตาลอ่อนทอแสงสีทองท่ามกลางแสงจันทร์ หยาดน้ำใสๆคลอคลองเปล่งประกายสะท้อนแสงวิบวับราวอัญมณี ริมฝีปากเล็กบางของอัญญาในวัยสิบขวบสั่นระริกอ้อนวอนเสียงพลิ้วหวานเหมือนเสียงระฆังกังวานในคืนอันมืดมิดหนาวเหน็บ.. (เมขลิน วรวงศ์เดชา (อัญญา) อายุ สิบขวบ) สรรพสิ่งรอบกายเงียบงันไร้ซึ่งเสียงใบไม้ไหว.. แม้แต่เสียงลมพัดเมื่อสักครู่ก็จางหายไป ราวกับทุกอย่างถูกสะกดไว้ด้วยเวทมนต์ที่มองไม่เห็น ทุกสิ่งหยุดนิ่งไร้การเคลื่อนไหวลงชั่วขณะ.. "เจ้านาย" เสียงเรียกเบาๆดึงให้มนตราบางอย่างหลุดลอย ร่างสูงใหญ่ดำทะมึนขยับช้าๆก่อนจะลดปืนในมือลงด้วยความไม่เข้าใจ สับสนกับอะไรบางอย่างที่มองไม่เห็น.. "เก็บให้เกลี้ยง!" เสียงเย็นยะเยือกออกคำสั่งไร้ซึ่งความปรานีก่อนจะหันหลังแล้วก้าวยาวๆจากไป "เด็ก??" ชายที่ถูกทิ้งไว้ข้างหลังพร้อมกับเด็กผู้หญิง พึมพำเบาๆ ยังไม่แน่ใจในคำสั่ง “ยิงทิ้งซิวะไอ้โง่!” เสียงของอีกคนตอบสวนกลับมาท่ามกลางเสียงหวีดหวิวของลมกรรโชกและเกล็ดขาวๆของหิมะที่เริ่มโปรยปรายลงมาอย่างหนัก.. ---------------------------------------------@@-♡-@@---------------------------------------------
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD