CHAPTER 04
หลอกหมอ
เป็นอีกครั้งที่ต้องมานั่งว้าวุ่นเพราะคนๆเดิม ความสงสัยครั้งก่อนยังไม่ได้คำตอบอะไรเลย ดันมีเรื่องต้องกลุ้มใจเพิ่มมาอีกเรื่องซะได้ มาเฟียหนุ่มเป็นแบบนี้มาเกือบอาทิตย์แล้ว เขาไม่เคยต้องมากังวลเรื่องไม่เป็นเรื่องเหมือนที่กำลังเป็นอยู่ตอนนี้เลยสักครั้ง อยากรู้อะไรก็ต้องได้รู้ อยากได้อะไรก็ต้องได้ แต่ผู้ชายคนนั้น.. คนที่เคยทำแผลจากการโดนยิงเมื่อคราวก่อน พอเจอแล้วก็มีเรื่องให้น่าหงุดหงิดเยอะแยะไปหมด
“มันคงไม่ได้... โอ้ย หงุดหงิด!!”
มันคงไม่ได้เอากูเป็นเมียมันหรอกใช่ไหม...
หากปากก็บ่นออกมาได้เพียงแค่นั้น แต่สิ่งที่คิดในใจกลับเป็นประโยคเต็มความหมายของสิ่งที่คิดไว้ มันจะมีสักกี่อย่างกันที่ทำให้คนเจ็บและหน่วงตรงนั้นได้ แต่ก็ไม่อยากจะคิดว่าเกิดเรื่องบัดซบแบบนั้นขึ้นจริงๆ คนเป็นหมอเขาไม่ทำอะไรระยำแบบนี้หรอก พร่ำนึกปลอบใจตัวเองเพราะถ้า
เรื่องนี้เป็นความจริงเขาก็รับไม่ได้เช่นกัน
เป็นอีกครั้งที่จนแล้วจนเล่าก็อยากจะรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่
“เป็นไรไอ้ตี๋ เฮียเห็นนั่งหน้าหงิกเป็นชั่วโมงแล้ว”
“กลุ้มใจว่ะเฮีย หงุดหงิด”
“อย่าค้างคาสิวะ รีบสะสางไปจะได้ไม่ต้องมานั่งฟึดฟัดแบบนี้ กูเห็นแล้วรำคาญลูกตา”
“ก็...กำลังสะสาง อย่ายุ่งน่าเฮีย”
เขาก็ไม่ได้จะปล่อยผ่านทุกอย่างไปซะทีเดียวหรอกนะ ว่าแล้วก็เดินแยกจากพี่ชายไปหาลูกน้องคนสนิทอย่างต้องการคำตอบว่าสิ่งที่เขาให้ไปทำนั้นมันคืบหน้ายังไงบ้าง
“ครับคุณหนู”
เฉินคำนับให้เจ้านายอย่างอ่อนน้อมเมื่อเห็นคนเป็นนายเดินหน้ามู่เข้ามาหา
“ไอ้หมอเป็นไงบ้าง มันได้ไปหาแก๊งไหนรึเปล่า?”
“หมอเมฆไม่น่าจะใช่คนของแก๊งไหนที่เป็นอริเรานะครับ หนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมาเราติดตามตลอด ก็ใช้ชีวิตปกติ ไป-กลับคอนโดกับโรงพยาบาล อีกอย่างก็ไม่เห็นหมอจะสุงสิงกับใครมากนักนะครับ”
ภภีมพยักหน้ารับรู้สิ่งที่ลูกน้องรายงานพลางครุ่นคิดถึงความเป็น ไปได้ ไม่อยากจะเชื่อว่าไม่ใช่คนของแก๊งไหน ถ้าไม่มีใครสั่งมาแล้วจะมาทำแบบนี้ทำไม ทำในสิ่งที่กำกวมและไม่แน่ใจให้เขากังวลใจแบบนี้เพื่ออะไร
“แล้ว..ไอ้หมอมันพาใครมาที่คอนโดรึเปล่า ผู้หญิงหรือผู้ชาย?”
ชักจะไม่แน่ใจว่าเขาคาดหวังในคำตอบของคำถามที่ถามออกไปรึเปล่า เหมือนคำตอบมันจะชี้ชัดถึงความว้าวุ่นและคลายมันลงได้หากคำตอบ
เป็นไปในทิศทางที่เขาต้องการ
“ไม่นะครับ หมอเมฆไม่พาใครมาที่คอนโดเลย แล้วก็ไม่ได้ไปไหนเลยครับนอกจากทำงานแล้วกลับมาพักผ่อนที่คอนโด”
“ไม่มีเลยเหรอ? มันไม่พาสาวๆที่ไหนมาบ้างเหรอวะ”
“ไม่มีเลยครับคุณหนู”
“อืม ตามมันต่อไป กูไม่เชื่อหรอกว่าไม่มีใครคอยสั่งมัน ถ้ามันทำอะไรนอกเหนือจากไปกลับโรงพยาบาลกับคอนโดรีบรายงานกูเลยนะ”
“ครับ คุณหนู”
เขากลายเป็นคนอยู่ติดบ้านมาเป็นอาทิตย์แล้วเพราะไม่มีกระจิต กระใจจะออกไปทะเลาะกับใคร อยากจะกำจัดสิ่งที่กวนใจออกไปก่อน แต่อยู่บ้านก็ไม่มีอะไรทำเช่นกัน นั่งๆนอนๆจนรู้สึกเบื่อ
“ไม่ออกไปไหนเหรอตี๋ เฮียสอนงานให้เอาไหม?”
“หุบปากไปเลยเฮีย งานการอะไรไม่ทำหรอก”
“เออ เรื่องของมึงเหอะ”
ภคินได้แต่ส่ายหัวกับการทำตัวไร้สาระของน้องชาย เขาถอดใจที่จะให้น้องชายเรียนรู้งานบริหารแล้วล่ะ แต่ถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะให้มาช่วยเขาบ้างเหมือนกัน
“คุณหนูหายปวดท้องรึยังคะ ยังปวดอยู่ไหมป้าจะได้หายาให้”
ป้าแม่บ้านอาวุโสที่เลี้ยงดูสองพี่น้องมาตั้งแต่วัยเยาว์เอ่ยถามคุณหนูคนเล็กของบ้านด้วยความเป็นห่วง หลังจากที่ภภีมกลับมาที่บ้านเมื่อหลายวันก่อนเขาบ่นปวดท้องแปลกๆ เหมือนท้องอืดก็ไม่เชิง แถมยังมีอาการหน่วงและเจ็บอีกหลังจากกลับมาจากคอนโดของหมอเมฆ
“ตอนนี้หายแล้วป้า”
เมื่อตอบคำตอบจบภภีมก็ย้อนคิดกลับไปเมื่อวันนั้นอีกครั้ง พอปะติดปะต่อทุกอย่างเข้าด้วยกันแล้วไม่อยากจะยอมรับอะไรทั้งนั้นแหละถ้าจะคิดให้มันใช่มันก็ใช่
“เฮียๆ เฮียเคยได้กับผู้ชา... เฮ้อออ ไม่มีอะไรละ”
ร่างบางสะบัดหัวไล่ความคิดที่มักจะกวนใจเขาตลอดเวลาแล้วเดินมาต่อสายจอยน์เกมเข้ากับทีวีตัวใหญ่ของบ้าน ก่อนที่เขาจะเล่นเกมโปรดอย่างเมามันเสียงดังลั่น เกมแล้วเกมเล่าที่เขาเล่นจบไปจนเจ้าตัวเริ่มจะง่วงขึ้นมาอีกครา
“คุณหนูครับ มีเรื่องหมอเมฆมารายงานครับ”
ทันทีที่ได้ยินชื่อคนคนนั้นมือเรียวก็ชะงักทุกอย่างแล้วหันมาตั้งใจฟังโดยอัตโนมัติ
“ได้เรื่องว่ายังไงเฉิน”
“ตอนนี้หมอเมฆกำลังไปผับกับเพื่อนครับ เหมือนว่าจะเป็นวันเกิดเพื่อนพยาบาลของเขาที่ชื่อต้นหลิว”
“ที่ไหน?”
“ซานตาโน่ผับครับ”
หน้าเรียวหันมองนาฬิกาที่ตอนนี้บอกเวลาเกือบสองทุ่ม เขารีบขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัวซะใหม่พร้อมกับยิ้มร่าเมื่อเขารู้แล้วว่าจะทำยังไงให้หมอเมฆคายความลับทุกอย่างออกมา
__________________________
ZANTANO PUB
เสียงจังหวะเพลงหนักๆพาหัวใจเต้นตาม เหล่านักล่าราตรีออกลีลาการเต้นกันอย่างไม่มีใครยอมใคร หากแต่คนมากหน้าหลายตาขนาดนี้ มาเฟียหนุ่มกลับให้ความสนใจแค่คนเดียวเท่านั้น คือคนที่ใส่เสื้อเชิ้ตสีน้ำเงินเข้มและกำลังยกแก้วเหล้าดื่มไปพร้อมๆกับเพื่อนอีกสองคนที่นั่งโต๊ะเดียวกัน
ภภีมไม่ได้จะเดินพรวดเข้าไปหาหรอก เพียงแต่เขาแอบมองจากมุมทางเข้าห้องน้ำตรงนี้และรอจังหวะเท่านั้นเอง รอจังหวะที่หมอเมฆเดินมาเข้าห้องน้ำแล้วจะแสร้งทำเหมือนว่ามาเจอกันโดยบังเอิญ
เกือบครึ่งชั่วโมงที่เขายืนมองร่างสูงทุกการกระทำ พร้อมทั้งภาวนาให้เดินมาตรงนี้เสียที และตอนนี้เหยื่อกำลังเดินมาทางนี้แล้วที่เขามาดักรออยู่ตรงนี้เพราะคนดื่มเหล้ายังไงก็ต้องเข้าห้องน้ำ
“อ้าวเฮ้ย ไอ้หมอ มาเที่ยวเหมือนกันเหรอ?”
“อืม”
ร่างสูงที่กำลังเดินมาเข้าห้องน้ำเงยหน้ามองมาเฟียหนุ่มแล้วตอบสั้นๆก่อนจะเดินผ่านร่างบางเข้าห้องน้ำไปโดยไม่พูดอะไรอีก
อะไรของมันวะ..
ภภีมบ่นในใจให้คนที่เพิ่งเดินผ่านเขาไปเมื่อครู่ด้วยความไม่เข้าใจ อุตส่าห์ทักทายก่อนแต่ตอบกลับมาแค่นั้นเองเหรอ? เขายังคงยืนรออย่างไม่ย่อท้อ ไม่นานหมอเมฆก็เดินออกมา
“เดี๋ยวก่อนหมอ ไหนๆก็เจอกันแล้วอ่ะ มากินเหล้าเป็นเพื่อนหน่อยดิ กู..มาคนเดียวว่ะ”
หมอเมฆกำลังจะเดินผ่านไปโดยไม่สนใจร่างบางแต่มือเล็กก็คว้าเข้า
ที่ข้อมือเขาไว้เสียก่อน ทำให้เขาต้องชะงักและหันมาคุยด้วย
“จะดวลเหล้ากับผมเหรอ? แน่ใจนะ?”
หน้าหล่อของหมอเมฆโน้มไปใกล้มาเฟียหนุ่มโดยมีระยะห่างระหว่างกันเพียงสองเซนติเมตรเท่านั้น ภภีมย่นคอหนีแล้วถดตัวถอยหลังจนตัวเขาแนบชิดกับผนังอย่างจนมุม ทว่าหมอเจ้าเล่ห์ก็ยังคงตามมาไม่ห่าง มือใหญ่เท้ากับผนังข้างหนึ่งก่อนจะยกมืออีกข้างขึ้นมาเกลี่ยแก้มใสที่เขาก็ไม่คิดว่าจะได้สัมผัสมันอีก
“อืม มานั่งเป็นเพื่อนหน่อย”
“อะไรนะครับ?”
หมอเมฆเอียงหน้าเข้าไปหาจนแก้มตัวเองชนเข้ากับจมูกโด่งของ ภภีมอย่างตั้งใจ มาเฟียหนุ่มถึงกับตัวแข็งทื่อไปเลย เพราะนี่มันเป็นการหอมแก้มผู้ชายด้วยกันครั้งแรกของเขาเพียงแต่เขาคิดว่าหมอเมฆคงจะเมาและไม่ได้ตั้งใจจะทำท่านัวเนียใส่เขาแบบนี้ เขาดันแผงอกกว้างให้หน้าหล่อถอยห่างจากเขาก่อนจะย้ำคำพูดอีกครั้ง
“มากินเหล้าเป็นเพื่อนหน่อย กูมาคนเดียวไม่มีเพื่อน!!”
“จุ๊ๆๆๆ พูดกับผมเพราะๆก่อน พี่หมอครับ...”
มาเฟียหนุ่มกำหมัดแน่นด้วยความโมโห เพราะหมอเมฆชักจะต้องการเยอะเกินไปแล้ว หากแต่ความอยากรู้เรื่องที่ผ่านมาทำให้เขาต้องยอมทำตาม ปากเรียวที่เม้มเข้าหากันแน่นเริ่มขยับไปพร้อมกับส่งสายตาจ้องกลับไปยังร่างสูงตรงหน้า
“พี่หมอครับ มานั่งกับผมนะครับ”
เมื่อพูดประโยคสะอิดสะเอียนนั้นจบเขาก็ต้องกัดปากตัวเอง ครับงั้นเหรอ นอกจากพ่อแม่ก็ไม่เคยพูดกับใครเลยนะ
“อืมมม ได้สิครับ วันนี้พี่หมอจะนั่งกับคนสวยของพี่หมอนะครับ เอาเป็นว่า...ไปนั่งที่เคาน์เตอร์ตรงนั้นดีกว่า”
มือใหญ่จูงมือคนตัวเล็กให้เดินตามไปยังโต๊ะเพื่อนของเขา ทว่าภภีมขืนดึงมือออกเพราะไม่อยากให้จูง มีที่ไหนผู้ชายเดินจับมือกัน เขามองรอบตัวเกรงว่าจะมีคนมองเขาไม่ดี แต่ยิ่งขืนหมอเมฆยิ่งกำมือแน่นกว่าเดิม ร่างบางนึกโกรธตัวเองที่ต้องยอมพูดคำพูดพวกนั้นไม่หนำซ้ำยังต้องโดนจูงมือเป็นเด็กแบบนี้อีก
“พอดีเจอน้องว่ะ เดี๋ยวกูขอแยกไปนั่งกินเหล้ากับน้องนะมีธุระต้องคุยกัน แฮปปี้เบิร์ดเดย์นะต้นหลิว”
เพื่อนที่โต๊ะทั้งต้นหลิวและธีต่างมองที่มือทั้งสองคนด้วยความงงงวย หมอเมฆไม่เห็นจะเคยสนิทกับใครแบบนี้เลยสักครั้ง แม้แต่ธีที่ว่าสนิทกันมาหลายปียังไม่เคยเดินจับมือกันแบบนี้เลย
มาเฟียหนุ่มสบตาต้นหลิวด้วยหัวใจตุ้มๆต่อมๆกับความสะสวยของเธอ โดยปกติถ้าเขาอยากได้ผู้หญิงที่ไหนเขาก็ต้องได้ และวันนี้เขาก็หวังจะได้ต้นหลิวมาเป็นคู่นอนโดยไม่สนว่าต้นหลิวเป็นเพื่อนหมอเมฆแล้วจะยินยอมเขาหรือไม่
“สวยว่ะหมอ เพื่อนหมอน่ะกูขอนะคืนนี้”
หลังจากที่ทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้หน้าเคาน์เตอร์บาร์แล้วนี่ก็เป็นประโยคแรกที่ภภีมพูดออกไปโดยที่ไม่ละสายตาจากการมองต้นหลิวแม้แต่น้อย แต่ว่ามันกลับเป็นเรื่องตลกของหมอเมฆจนตัวเขาหลุดหัวเราะออกมา ในความคิดหมอของเมฆนั้นเพื่อนสาวของเขายังจะดูมาดแมนกว่าคนตัวเล็กตรงหน้าเสียอีก
“ชอบต้นหลิวเหรอ?”
หมอเมฆถามพร้อมกับยื่นแก้วเหล้าที่สั่งส่งไปให้ภภีม
“ก็สวยดี ได้สักทีก็คงจะดีเหมือนกัน”
“หึ เอาเป็นว่าคืนนี้แข่งกับผมไหมว่าใครจะได้สาว ใครจะเมาหลับ? เอ้อ แล้วนี่แผลโดนยิงเป็นไงบ้างน่ะ”
มือใหญ่เอื้อมไปดึงปกเสื้อของคนตัวเล็กที่เพื่อดู การที่ภภีมปลดกระดุมโชว์หน้าอกขาวนั่นมันเลยทำให้เขาถกเสื้อกว้างนั่นให้เห็นแผลที่หัวไหล่ได้เช่นกัน
“ก็ดีอ่ะ จะหายแล้ว ไม่ต้องมาห้ามกินแอลกอฮอล์นะเพราะยังไงกูก็จะกิน ห้ามกูไม่ได้ทุกเรื่องหรอกหมอ”
“อ่ะ งั้นก็หมดแก้ว”
เหล้าสีเข้มหลายต่อหลายแก้วถูกกลืนลงท้องของคนทั้งคู่ง่ายดายประดุจน้ำเปล่าฤทธิ์เหล้าทำให้พวกเขาคุยกันอย่างออกรสออกชาติ เสียงหัวเราะที่ต่างฝ่ายต่างเพิ่งเคยได้ยินกันและกัน เรื่องราวหลายต่อหลายเรื่องที่แชร์ให้กันฟังโดยที่ถ้าถามถึงความสนิทพวกเขาไม่ได้สนิทกันเลยด้วยซ้ำ เพียงแต่ร่างกายของพวกเขามันเคยสนิทกันไปแล้วครั้งหนึ่งและค่อนข้างจะเข้ากันได้ดีก็เท่านั้นเอง
“มึงบอกกูสิหมอ ว่าวันก่อนเกิดอะไรขึ้น”
“หมดแก้วก่อนแล้วจะบอก”
สติของทั้งคู่มันเหลืออยู่ไม่มากนักหลังจากผลัดกันกระดกน้ำสีอำพันนั่นอย่างไม่มีใครยอมใคร ภภีมจึงตัดสินใจถามออกไปเพียงแต่ว่าก็ยังไม่ได้คำตอบอะไรกลับมาอยู่ดี
มาเฟียหนุ่มยกแก้วเหล้ากระดกโดยไม่ชั่งใจแม้แต่น้อยจะเมาแค่ไหนก็ยอมขอแค่ได้คำตอบที่เขาต้องการ แต่สำหรับหมอเมฆเขาไม่หลวมตัวบอกง่ายๆหรอก ชอบให้คนตัวเล็กง้องอนบ่อยๆ ยิ่งพร่ำถามเขา ยิ่งเหมือนโดนอ้อน หมอเมฆมองว่าเป็นเรื่องดีที่ได้เห็นคนดื้อด้านมาคอยถามคอยออดอ้อนออเซาะเลยไม่คิดบอกอะไรออกไป
ฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ทำให้สติและสายตาเริ่มพร่ามัว ท่ามกลางไฟสลัวๆแบบนี้การมองเห็นมันไม่ได้ชัดเจนนัก สายตาของภภีมกลับมอง หมอเมฆเป็นต้นหลิวซะอย่างงั้น เขาครองสติตัวเองแทบจะไม่ไหว รู้เพียงว่าคืนนี้เขาต้องได้ต้นหลิวมานอนเคียงกายได้อย่างแน่นอน
อุ๊บ
ร่างบางพุ่งเข้าไปประกบปากโดยที่หมอเมฆยังไม่ทันตั้งตัวอะไรเลย แล้วมีหรือที่เขาโดนคนตัวเล็กรุกแบบนี้แล้วจะไม่ตอบสนอง ริมฝีปากเรียวของทั้งคู่สอดประสานกันท่ามกลางเสียงดนตรีจังหวะหนักๆแบบนี้และ ความมืดทำให้ไม่มีใครมาสนใจการกระทำของพวกเขา มือใหญ่ของร่างสูงจับเข้าที่สะโพกมนก่อนจะดึงร่างบางเข้ามาหาตัวแล้วเร่งจังหวะการจูบให้เร่าร้อนมากขึ้น
“ไปต่อกับผมนะ ต้นหลิว...”
หมอเมฆขมวดคิ้วหลังจากได้ยินชื่อของเพื่อนสาวของเขาหลุดออกมาจากปากสวยไม่ทันที่เขาจะคิดอะไรนาน มือเล็กก็โอบเข้าที่เอวแล้วพาร่างสูงเดินออกมาข้างนอกด้วยอาการเมาจนแทบจะเดินกันไม่ไหว หมอเมฆก็เมามากเช่นกันแต่ยังสามารถประคองสติตัวเองได้อยู่ อย่างน้อยก็มีสติกว่าคนตัวเล็กตรงหน้าก็แล้วกัน
“จะไปไหน กลับบ้านไหมผมจะไปส่ง”
“อึก ไอ้หมอแม่งไม่ยอมบอกความจริง ผมน่ะกลุ้มใจมาตั้งหลายวัน
จนจะเป็นบ้าอยู่แล้ว อึก”
ร่างบางบ่นออกมาเพราะนึกว่าคนที่เขาคลอเคลียอยู่ตอนนี้คือ ต้นหลิว แต่สิ่งที่ภภีมพูดมันกลับทำให้รอยยิ้มอ่อนโยนผุดขึ้นบนใบหน้าหล่อของหมอเมฆ ไม่อยากจะเชื่อว่าคนโผงผางอย่างภภีมจะเป็นคนคิดมาก เก็บเรื่องนั้นเรื่องนี้มาคิดเล็กคิดน้อย ซึ่งเขาไม่ใช่คนแบบนั้นเลย ผ่านแล้วก็คือผ่านไปไม่เก็บอะไรมาใส่ใจให้ปวดหัว
“จะไปไหน บอกมาสิ”
กลายเป็นหมอเมฆเองต่างหากที่ต้องประคองคนตัวเล็กเมื่อเห็นว่า ภภีมแทบจะยืนเองไม่ไหว
“โน่น ม่านรูดตรงนั้น”
เขามองตามไปยังที่ที่นิ้วเรียวชี้ของภภีมที่ชี้ออกไปยังเบื้องหน้าก็พบว่าเป็นโรงแรมม่านรูดจริงๆและไม่ห่างจากตรงนี้มาก สามารถเดินไปได้
“แน่ใจนะว่าจะเข้าม่านรูดด้วยกัน?”
“แน่ซะยิ่งกว่าแน่ ต้นหลิวสวยขนาดนี้ผมก็คงปล่อยผ่านไปไม่ได้”
“นั่นสินะ เจอกันทั้งทีจะปล่อยผ่านไปได้ยังไง เนอะ”
เหมือนว่าทั้งสองคนจะไม่ได้พูดไปในทิศทางเดียวกัน แต่จุดหมายก็คงจะเหมือนกันนั่นล่ะมั้ง หมอเมฆจัดการประคองภภีมให้เดินไปที่โรงแรมม่านรูดด้วยกัน จากตรงนี้ไปก็ใช้เวลาแค่สิบนาทีเห็นจะได้ โดยระหว่างทางต้องฟังร่างเล็กบ่นเสียงอ้อแอ้ถึงตัวเขาเองทั้งนั้นในเรื่องที่เขาถามแล้ว หมอเมฆไม่ยอมบอก น่าตกใจที่ภภีมเก็บเรื่องของเขาไปคิดมากขนาดนี้
บ่นทั้งเรื่องรอยที่คอ ทั้งอาการเจ็บนั่น มันน่าเอ็นดูในสายตาของหมอเมฆเหลือเกินจนทำให้เขายิ้มมาตลอดทาง
ตุ้บ
ร่างบางถูกวางลงบนเตียงก่อนที่หมอเมฆเองจะล้มตัวลงนอนข้างๆด้วยอาการเหนื่อยหอบเพราะต้องประคองทั้งภภีม และประคองสติตัวเองด้วยเช่นกัน เขาจัดการถอดเสื้อของตัวเองออกแล้วนอนหอบหายใจอีกครั้งเนื่องจากร้อนและเหงื่อเริ่มออก
เปลือกตาที่อ่อนล้ามาทั้งวันกำลังจะปิดลง ทว่าคนตัวเล็กขยับตัว ทำให้เขาต้องลืมตาขึ้นมามอง
“ผมพร้อมแล้ว ต้นหลิวพร้อมรึยัง?”
คำถามชวนสยิวของมาเฟียหนุ่มเอ่ยออกมาพร้อมกับการที่เจ้าตัวกำลังถอดเสื้อผ้าของตัวเองออกทีละชิ้นจนเหลือแต่บ็อกเซอร์
“ทำอะไร? จะปล้ำนี่รึไง?”
“อื้อ จะปล้ำแล้วนะ”
ร่างบางพลิกตัวเข้าหาก่อนจะขึ้นคร่อมคนที่ตัวเองคิดว่าคือสาวสวย เขาเล้าโลมปรนเปรอร่างสูงด้วยปลายลิ้นร้อน ซอกคออุ่นถูกมาเฟียหนุ่มครอบครองด้วยความเร่าร้อน และไล่ลงมายังหน้าท้องแกร่งที่เกิดอาการเกร็งทุกครั้งเมื่อลิ้นเล็กซุกซนใกล้ๆสะดือ มือใหญ่ลูบไล้ผิวเนียนของคนที่อยู่ด้านบนด้วยอารมณ์ที่มันกำลังจะปะทุ ริมฝีปากเรียวเม้มเข้าหากันแน่นเมื่อปลายลิ้นร้อนไล้เลียสะดือของเขาสลับกับกำลังลูบเป้ากางเกงของเขาไปด้วย
นี่ถือซะว่าคุณต้องการผมเองนะ คุณเริ่มทุกอย่างก่อนเอง...
เขาดึงคนที่กำลังเลื้อยต่ำลงให้ขึ้นมาในระดับใบหน้าที่เท่ากัน ก่อนจะประกบจูบคนด้านบนเสียเอง ความเมาของภภีมทำให้สนองการจูบทั้งเร่งเร้าและเร่าร้อนโดยไม่รู้เลยว่ากำลังจะเสียท่าให้หมอเมฆอีกครั้ง มือใหญ่สอดเข้าไปภายใต้กางเกงบ็อกเซอร์ และจัดการขยำบั้นท้ายมน จนในที่สุดเขาก็
ถอดบ็อกเซอร์ของคนตัวเล็กออกทำให้ร่างกายของคนด้านบนเปล่าเปลือย
“หืม ต้นหลิวใส่กางเกงเหรอ?”
“อ๋อ อื้ม ถอดให้หน่อยสิ อยากโดนปล้ำแล้ว”
หมอเมฆพูดหยอดด้วยประโยคสยิวนั่นก่อนจะก้มลงมองร่างโอนเอนที่เมาเต็มที่กำลังนั่งถอดกางเกงให้เขาจนตอนนี้เปลื้องผ้าหมดแล้วทั้งคู่ มาถึงขนาดนี้หมอเมฆก็มั่นใจแล้วว่าภภีมไม่มีสติอยู่แล้วจริงๆ ขนาดแก้ผ้าด้วยกันทั้งคู่ยังไม่สังเกตเห็นเลยหรือว่าอะไรที่เรามีมันกำลังตั้งชันเหมือนกัน แก่นกายที่ตั้งตระหง่านตรงหน้าไม่สะดุดตาบ้างเลยหรือไง
เขาจัดการจับร่างเล็กให้นอนหงายก่อนจะพาตัวเองแทรกกลางที่หว่างขาเรียว
“ตะ ต้นหลิวมานอน เดี๋ยวทำเอง”
เสียงอ้อแอ้พูดตะกุกตะกักเมื่อส่วนปลายที่แข็งขืนเริ่มดันเข้าไปด้านในแล้วเล็กน้อย
“ไม่รู้ตัวเลยเหรอว่าตัวเองรุกใครเขาไม่ขึ้นแล้ว คงต้องโดนผมรุกอย่างเดียวแล้วล่ะมั้ง หึ”
“อ๊า ... ไม่เอา เจ็บ... ออกไป อ๊ะ ต้น...หลิว”
เขาพยายามถดตัวหนีความเจ็บที่กำลังจะได้รับทว่าหมอเมฆก็จับสะโพกเขาไว้แน่นไม่ให้หนีไปไหน สะโพกสอบดันเข้าไปจนสุดแล้วขยับกายเข้าออกเป็นจังหวะ บรรยากาศภายในห้องมันหมุนติ้วไปหมดเพราะเขาเองก็เมามาก สองมือจับสะโพกบางแน่นเพื่อทรงตัวเพราะตัวเองก็จะล้มเช่นกัน เมื่อภภีมกึ่งหลับกึ่งตื่นและไม่ขยับตัวหนีไปไหนเขาจึงใช้มือข้างหนึ่งจับ แก่นกายเล็กที่ตั้งชันรูดขึ้นลงตามจังหวะเอวของเขา
“ผมชอบมองคุณจากมุมนี้ที่สุด ซี้ดดดด”
ความรู้สึกแปลกใหม่ที่ร่างบางได้รับตอนนี้มันก็ไม่ได้แย่ ภภีมรับรู้เพียงแต่ความเสียวเบื้องล่างและการโดนรูดของแก่นกาย ภาพในหัวคือร่างสวยสะพรั่งของต้นหลิวกำลังปรนเปรอความสุขให้เขาอยู่ด้านบน แต่ความเป็นจริงกลับตรงกันข้าม
มันรู้สึกดีจนเขาต้องครางร้องออกมาเสียงหลง ทั้งที่เวลาโดนสาวๆออนท็อปเขาก็ไม่ได้ร้องแบบนี้ซะหน่อย แต่ครั้งนี้มันต่าง มันเสียวช่วงล่างไปเสียหมดจนไม่รู้อะไรเป็นอะไร แต่จะลืมตามองยังแทบจะไม่มีแรงด้วยซ้ำไปจึงทำได้เพียงหลับตาพริ้มน้อมรับความสุขที่เขาคิดไปเองว่าเป็นต้นหลิวทั้งที่มันไม่ใช่
ร่างสูงที่กำลังเสพสมร่างบางจัดการจับคนตัวเล็กขึ้นมานั่งบนตักของตัวเองโดยโอบกอดร่างที่โอนเอนจะล้มไว้แน่นก่อนจะสวนสะโพกเข้าไปพร้อมทั้งจับให้เจ้าตัวขยับขึ้นลงเพื่อประคองจังหวะสวาทที่กำลังได้ที่นั่นไปด้วย
“อ๊ะ อื้อ ต้น..หลิว”
เขาจะรู้หรือเปล่าว่าตอนนี้ตัวเองเซ็กซี่มากแค่ไหน ตาหวานปรือๆประกอบกับใบหน้าที่แดงจากฤทธิ์เหล้า เสียงลมหายใจที่มันขาดห้วง และร่างกายที่มันเคลื่อนไหวอยู่บนตักร่างสูงนี้ มันทำให้หมอเมฆละสายตาไปจากใบหน้าหวานไม่ได้เลย
จริงอยู่ที่เขาชอบมีอะไรตอนที่อีกฝ่ายไม่มีสติ ยิ่งร่วมเพศกับคนที่นอนให้เขาทำนิ่งๆเขาจะรู้สึกดีเป็นพิเศษ แต่ครั้งนี้มันกึ่งมีสติกันทั้งคู่ และรสชาติเซ็กส์มันช่างจัดจ้านจนเขายอมเป็นฝ่ายโดนรุกบ้าง
“ขึ้นเก่งเหมือนกันนะเนี่ย”
เหมือนกับว่าหมอเมฆคุมสติและออกแรงมาสักพักหนึ่ง ฤทธิ์เหล้ามันเริ่มจืดจางลงจนตอนนี้อาการบ้านหมุนได้หายไปแล้ว ตาคมมองคนตรง
หน้ากำลังโยกกายอยู่บนหน้าตักของเขาด้วยความรู้สึกที่แตกต่าง
จะว่าเขาบ้าก็ได้ แต่เขามองว่าคนตรงหน้าสวยเหลือเกิน...
อีกอย่าง คนเมาอย่างภภีมจะรู้ตัวไหมนะว่าครั้งนี้ตัวเองทำอะไรลงไปบ้าง ทั้งรุกจูบก่อน แก้ผ้าก่อน แถมยังออนท็อปให้อีก ไม่นานร่างสูงก็ปลดปล่อยของเหลวเข้าไปในช่องทางคับแคบ เป็นจังหวะที่คนตัวเล็กหมดแรงพอดีจึงฟุบหน้าลงที่ลาดไหล่กว้างของร่างสูงเสียงหอบกระเส่าของคนทั้งคู่สะท้อนอยู่ภายในห้อง
“ไอ้หมอมัน...ไม่ยอมบอกผม”
ประโยคแรกหลังเสร็จกิจที่ภภีมพูดมันออกมา ทำให้คนถึงกับ ขมวดคิ้ว
“นี่คุณยังนึกถึงเรื่องผมอยู่อีกเหรอ? เดี๋ยวคุณตื่นมาคุณจะรู้เอง ถึงตอนนั้นผมจะรอรับมือนะ ผม...อยากเจอคุณอีก..มั้ง..”
หมอเมฆบอกออกไปโดยที่ไม่รู้ว่ามาเฟียหนุ่มมีสติพอจะเข้าใจไหม ทว่าครั้งนี้เขาก็ยังคงไม่คิดจะแคร์อะไรอยู่ดี ระหว่างเขานั้นร่างสูงคิดเพียงว่าเป็นเพื่อนร่วมเซ็กส์กันเท่านั้น หากเจอกันอีกก็มามีอะไรกันได้
เขาจัดการอุ้มร่างบางให้นอนบนหมอนดีๆแล้วห่มผ้าให้ ตัวเขาหันหลังเดินเข้าห้องน้ำไปจัดการชำระล้างร่างกายของตัวเองก่อนจะออกจากห้องไปด้วยความรู้สึกว่างเปล่า และไม่แม้แต่จะหันหลังมามองคนตัวเล็กที่นอนร่างกายเปล่าเปลือยอยู่ภายใต้ผ้าห่มผืนหนาเลยแม้แต่น้อย
_________________________
13:20
หลังจากเข้าสู่นิทราไปหลายชั่วโมง ร่างบางลืมตาตื่นด้วยอาการหนักหัวกว่าทุกวัน เมื่อเขาขยับตัวจึงได้รู้ว่าตนเองนั้นอยู่ในสภาพเปล่าเปลือย เขายังคงจำต้นหลิวได้ดี จำได้ว่าเมื่อคืนเขาและต้นหลิวมีความสุขกันแค่ไหน
“ต้นหลิว ยังอยู่ที่นี่รึเปล่า!”
ภภีมตะโกนถามหาหญิงสาวที่เพิ่งได้เสียกันเมื่อคืน ทว่าความเงียบของห้องคือคำตอบ มาเฟียหนุ่มยังคงนอนบนเตียงนิ่ง ในความรู้สึกยังคงจดจำได้ว่าเมื่อคืนนั้นเขาเมามากและมีเซ็กส์ได้แบบสุดเหวี่ยง จำได้อีกว่ามันเสียวสะท้านแค่ไหน ใครจะไปคิดว่าพยาบาลจะเผ็ดร้อนเรื่องอย่างว่าได้มากมายขนาดนี้
มือเรียวควานหามือถือไปทั่วเตียงก็ไม่พบ จึงหยัดตัวลุกขึ้นนั่งและมองไปยังโต๊ะต่างๆภายในห้องเพื่อหามัน จนเจอวางอยู่ที่โต๊ะเยื้องๆกับปลายเตียงนั่นเอง เขาจึงลุกขึ้นมาหยิบทั้งที่สภาพไม่เหลือเสื้อผ้าสักชิ้น
แต่เมื่อเขาปลดล็อคหน้าจอมือถือได้นั้น สิ่งที่เขาเห็นทำตัวเขาแทบทรุดลงไปกับพื้นห้อง
หน้าจอมือถือเข้าคลังภาพทิ้งไว้และมัน..มีวิดีโอของเขากับ...
นิ้วเรียวสั่นระริกก่อนจะจิ้มที่หน้าจอเพื่อเปิดมันดู ร่างกายรู้สึกชาวาบขึ้นมาทันทีเมื่อวิดีโอแสดงเรื่องราวต่างๆให้เขาได้เห็น เรื่องราวระหว่างเขากับหมอเมฆ ตอกย้ำสิ่งที่เขาไม่แน่ใจหลายๆอย่างให้มันชัดเจนขึ้น เขากดเลื่อนไปดูเพราะไม่อยากจะเห็นรายละเอียดอะไรมากนัก
“กูเนี่ยนะขึ้นมัน กะ กูทำอย่างงั้นเหรอวะ...”
เพราะเมื่อคืนเมามากทำให้ทุกอย่างมันกลายเป็นแบบนี้ เขาปิด
วิดีโอบ้านั่นลงแล้วกำมือถือในมือแน่นจนแทบจะแหลกคามือ แววตาคู่สวยสั่นระริกด้วยความโกรธ เกลียดตัวเองที่ปล่อยให้เรื่องแย่ๆแบบนี้เกิดขึ้น เสือผู้หญิงอย่างเขามามีอะไรกับผู้ชายด้วยกันเนี่ยนะ รู้ไปถึงไหนคงอายไป ถึงนั่น แต่สิ่งที่น่าตกใจกว่าคือรสชาติเซ็กส์ที่เขาจดจำมันได้ตอนตื่นนอนมันคือรสชาติเซ็กส์ระหว่างเขากับหมอเมฆซะอย่างงั้น
และเรื่องนี้มันควรเป็นความลับ!!
นิ้วเรียวกดโทรออกหาลูกน้องคนสนิทด้วยอาการร้อนรน...
ตู๊ดดดด ตู๊ดด
“ฉะ เฉิน คืนนี้ไปลากตัวไอ้หมอเมฆมาที่โกดัง กูจะฆ่ามัน!! แล้วมึงเตรียมอำพรางศพมันด้วย!!”
[ครับ คุณหนู]
แววตาสั่นระริกเมื่อครู่แปรเปลี่ยนเป็นแววตาที่ดุดัน มาดมั่น และเอาจริง เรื่องราวเมื่อคืนมันจะตายไปพร้อมกับหมอเมฆภายในคืนนี้กะจะหลอกมอมเหล้าถามความจริง หลอกล่อให้หลุดปากออกมาแต่กลายเป็นเขาเองที่เสียท่าให้ซะได้ แล้วคิดว่าคนอย่างภภีมจะยอมง่ายๆเหรอไม่มีวัน!