บอลยืนมองผู้ชายร่างบางที่กำลังเดินไล่กอด แม่ของเขา น้องสาวเขา ตากับยาย แล้วจึงหันมองรอบข้างเหมือนหาใครสักคน บอลอยากเดินออกไปนะแต่กลัวจะไปรั้งเขาไว้ จึงทำได้แค่แอบมองอยู่ตรงนี้ บอลยืนมองจนเห็นพ่อหิ้วกระเป๋าเดินทางไปส่งให้บนรถ ก่อนจะตบบ่าเบาๆ สองสามครั้งแล้วเดินลงจากรถประจำทาง ก่อนที่รถคันนั้นจะพาคน คนนั้นจากบอลไปไกล
….
“ บอล ” บอลหันไปตามเสียงเรียกของแม่
“ ครับ ”
“ ทำไมพักนี้แลหงอยๆ คิดถึงดินเหรอ ”
“ ครับ ” บอลยอมรับออกไปตรงๆ ก็จะให้บอลปฏิเสธทำไมละครับ ก็ในเมื่อบอลคิดถึงเขาจริงๆ
“ แม่ก็คิดถึงเหมือนกัน บอลจะคิดถึงจนหงอยก็ไม่แปลก ก็ตัวติดกันตลอด พอแยกก็แยกไปไกลเลย ”
“ เขาโทรมาบ้างไหมครับแม่ ”
“ อยากรู้ต้องถามเบญนะ เพราะดินไม่ได้โทรหาแม่หลายวันแล้ว ว่าแต่บอลไม่ได้มีปัญหาอะไรกับน้าเขาใช่ไหมลูก ”
“ เปล่าครับ ”
“ แล้วทำไมวันที่น้าเขาไปกรุงเทพ ถึงไม่ไปส่งน้าเขา ”
“ ผมแค่…”
“ เอาเถอะไม่ต้องอธิบายหรอก ถ้าบอลบอกว่าไม่มีปัญหาแม่ก็ไม่ว่าอะไร แต่โทรหาน้าเขาบ้างนะ ไปอยู่ทางโน้นคงเหงาแย่ ” บอลยังไม่ทันจะอธิบายอะไรแม่ก็พูดขัดขึ้นมาก่อน
“ แล้ว…”
“ ….. ”
“ ไม่มีอะไรครับ ” บอลหยุดพูดไป เพราะไม่รู้ว่าจะถามยังไงให้มันดูเป็นธรรมชาติมากที่สุด อยากถามว่าสบายดีไหมกินอยู่อย่างไร เพราะตั้งแต่จากไป บอลก็ยังไม่กล้าโทรหาเขา
…..
น้าดินอายุห่างจากผม 3 ปี ด้วยอายุที่ห่างกันไม่มาก แม่ผมกับยายจึงเลี้ยงเรา 2 คนด้วยกัน ครอบครัวผมมีฐานะปานกลาง แต่ครอบครัวน้าดิน ซึ่งก็เป็นครอบครัวเดิมของแม่นั่นแหละ มีฐานะไม่ดีหรือถ้าจะพูดภาษาชาวบ้านก็จนนั้นแหละ เพราะอย่างนั้นผมจึงเห็นผู้ชายตัวเล็กๆ คนนี้ ทำนั้นทำนี้ไม่หยุด งานไหนที่ได้ตังค์คนนี้ทำได้หมด
ซึ่งผมมองว่ามันช่างไม่เหมาะกับรูปร่างผอมๆ กับผิวขาวๆเลยสักนิด บางครั้งอยากจะเข้าไปทำแทน แต่ก็โดนกันออกมาหมดโดยใช้อำนาจ คำว่าน้ามาเล่นงานผม บางครั้งผมอยากตะโกนใส่หน้า ว่าใครอยากเป็นหลานกัน และตั้งแต่จำความได้เราสองคนก็แทบจะไม่เคยแยกจากกันเลย และเพราะความจน ทำให้คนคนนั้น ต้องไปห่างไกลผมขนาดนี้
ผมเรียนโรงเรียนเดียวกันกับน้าดิน ตั้งแต่ผมเข้าอนุบาล จนตอนนี้ ผมจบม. 3 แล้วน้าดินก็จบ ม. 6 ผมยังจำได้ดี วันแรกที่ผมได้ เข้าไปเรียนหนังสือ มีมือเล็กๆคู่หนึ่ง ยื่นมารอรับ มือของผม
[หลายปีก่อน]
“ ดิน พี่ฝากหลานด้วยนะ ” เสียงแม่พูดอยู่ข้างๆ แต่ผมไม่ได้เงยขึ้นไปมองหรอก เพราะตอนนี้ ผมกำลังยืนจ้องตากัน กับผู้ชาย รูปร่างผอมผิวขาว ที่ยื่นมือมาข้างหน้า เพื่อที่จะรอให้ผมเอามือไปวาง
“ ได้ครับ พี่ส้ม ” เด็กผู้ชายตรงหน้าผมหันไปยิ้มฟันขาวให้กับแม่ของผม
“ บอล อยู่กับน้าเขาก็อย่าดื้อล่ะ ต้องเชื่อฟังน้ารู้ไหมลูก ”
“ ครับ ” ผมตอบรับไปเบาๆและยังจ้องหน้าน้าดินอยู่
“ ถ้างั้นแม่กลับแล้วนะ ดูแลตัวเองด้วยนะลูก เดี๋ยวตอนเย็นแม่มารับ ” แม่เดินกลับไปแล้วส่วนน้าดินก็จูงมือผมเดินเข้าไปภายในบริเวณโรงเรียน
“ เฮ้ยๆ น้องดินมา ”
“ คนอะไรจะน่ารักขนาดนั้น ขนาดกูเป็นผู้ชาย กูยังชอบน้องเลย ”
“ ใจเย็นนะมึง น้องพึ่งจะอยู่ป. 1 เอง และนั่นพาใครมา ”
“ หลานมั้ง กูรู้มาว่าน้องดินเป็นลูกคนสุดท้องและก็มีหลานวัยไล่เลี่ยกัน ”
“ น่าเอ็นดู จับมือกันเดินด้วย ”
ตลอดทางที่น้าดินพาผมเดินผ่านมาเพื่อที่จะไปส่งที่ห้องเรียน ผมได้ยินพวกพี่ๆเขาคุยกันแบบนี้ตลอดทั้งสองข้างทาง ผมจึงเงยหน้าขึ้นมอง เด็กผู้ชายที่จูงมือผมอยู่
“ น้าดินน่ารักเหรอครับ น้าดินไม่ได้หล่อเหรอ ” ผมหันไปถามคนข้างๆ ก็น้าดินเป็นผู้ชายต้องใช้คำว่าหล่อไม่ใช่เหรอแล้วทำไมพวกพี่ๆเขาถึงทักว่าน้าดินน่ารักกัน
“ น้าไม่ได้น่ารักหรอก บอลต่างหากที่น่ารัก ”
“…..” ผมหันไปมองหน้าน้าดิน ผมก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี ว่าผมก็เป็นผู้ชายทำไมน้าดินบอกว่าผมน่ารัก
“ เอาล่ะน้าต้องไปเข้าห้องเรียนแล้ว บอลนั่งรอตรงนี้ได้ไหมเดี๋ยวอีกสักพักคุณครูก็จะมา ”
“ บอลไปกับน้าไม่ได้เหรอ ”
“ ไม่ได้ครับบอลต้องอยู่รอเพื่อนกับคุณครูในห้องนี้นะเดี๋ยวตอนเย็นแม่จะมารับ ” ผมพยักหน้าตอบกลับไปอย่างว่าง่าย ก่อนที่น้าดินจะหันหลังเดินออกไปจากห้อง
ผมใช้เวลาเรียนอยู่ในห้อง จนถึงตอนเย็นที่แม่มารับผม คุณครูเดินไปส่งผม ที่หน้าโรงเรียน ตลอดสองข้างทางผมพยายามที่จะมองหาน้าดิน ว่าเขาอยู่ตรงไหน
“ เป็นไงบ้างลูก เรียนวันแรก สนุกไหมครับ ”
“ สนุกครับ แต่ผมอยากไปเรียนกับน้าดินมากกว่า ”
“ ไม่ได้หรอกค่ะน้าดินน่ะ เขาเป็นรุ่นพี่บอลจะไปเรียนกับน้าไม่ได้ ” แม่หันมาส่งยิ้มให้ผมก่อนจะยกตัวผมขึ้นอุ้ม แต่ผมไม่ยอมจึงดิ้นลง
“ ถ้างั้นเลิกเรียนแม่ไม่ต้องมารับก่อนได้ไหมครับ เดี๋ยวบอลจะไปนั่งรอกับน้าดิน ”
“ แม่มารับน่ะดีแล้ว น้าเขาจะได้เรียนหนังสือ ไม่ต้องคอยมาห่วงบอล ”
“ ครับ ” ผมตอบรับออกไปสั้นๆ โดยที่แม่ทำเพียงแค่หันมาส่งยิ้มให้ผมแล้วไม่ได้พูดอะไรต่อ
วันต่อมาแม่ไม่ได้มาส่งผมไปโรงเรียนแต่ให้ผมเดินไปกับน้าดินแทน ซึ่งน้าดิน ก็เดินไปส่งผมที่ห้องเรียนเช่นเดิม ตลอดสองข้างทาง ผมก็ยังได้ยินพวกพี่ๆเขาพูดถึงน้าดิน ว่าน้าดินเป็นเด็กน่ารักเรียบร้อย และยังมีพี่ผู้หญิงบางกลุ่ม ซื้อขนมมาให้น้าดิน ซึ่งน้าดินก็เอามาให้ผมอีกต่อหนึ่ง
จนถึงตอนเย็น ผมขอคุณครูออกไปเล่นกับเพื่อนๆ แต่ผมไม่ได้ไปเล่นกับเพื่อนๆหรอก ผมเดินไปตามหาน้าดิน เพื่อที่จะขอเข้าไปนั่งรอน้าดินในห้องเรียน
“ นั่นหลานดินนี่ ” ผมหันไปตามเสียงพูดคุยกัน
“ หนู หนูเป็นหลานดินใช่ไหม ” ผมหันไปมองหน้าพี่ผู้หญิงที่จับกลุ่มคุยกันอยู่ก่อนหน้าที่ผมจะเดินผ่านมา
“ ครับ ” ผมตอบรับออกไปสั้นๆแล้วก็ก้มลงไม่กล้าสบตาพวกพี่ๆเขา
“ ว้าย น่าเอ็นดู ” เสียงพี่หนึ่งในนั้นพูดขึ้นมาแต่ผมไม่แน่ใจว่าเป็นใครเพราะผมไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมอง
“ วันนี้จะไปไหนคะ ” มีเสียงพูดขึ้นมาอีกครั้งแต่ผมก็ยังไม่กล้าเงยหน้าขึ้นไปมองอยู่ดี ว่าใครเป็นคนพูด
“ ผมจะไปหาน้าดินครับ ” ผมตอบออกไปแต่ก็ยังไม่ยอมเงยหน้าอยู่ดี
“ น่ารัก มาค่ะ เดี๋ยวพี่พาไป ” แล้ว พี่ผู้หญิงกลุ่มนั้นก็จูงแขนผมพาเดินไปยังอาคารหนึ่งซึ่งผมพยายามจดจำไว้เพื่อที่ครั้งหน้าผมจะได้เดินไปหาน้าดินเอง
“ ถึงแล้วค่ะ ” พี่คนที่จูงแขนผมบอกหลังจากที่เราเดินมาถึงหน้าห้องห้องหนึ่ง ผมมองเข้าไปข้างในแต่ผมไม่เห็นน้าดิน
“ ครับ ” ผมตอบออกไปสั้นๆเพราะผมไม่รู้จะทำยังไงต่อ
“ น่ารัก แกฉันอยากฟัดแก้ม ” พี่คนเดิมพูดขึ้นมาแต่ผมไม่ได้สนใจผมพยายามที่จะมองหาน้าดินแต่ก็ยังไม่เจอ
“ อ้าว ชะเง้อใหญ่ เดี๋ยวพี่ขออนุญาตคุณครูให้แล้วกัน ครูคะ หลานดินเขามาหาค่ะ ” หลังจากที่พูดกับผมเสร็จ พี่คนนั้นเขาก็หันกลับไปพูดกับคุณครูที่กำลังเขียนกระดานอยู่ในห้อง
“ อ้าวไม่มีผู้ปกครองมารับเหรอ ” ผมได้ยินเสียงดุๆ ส่งออกมาจากคุณครูที่ยืนอยู่หน้าห้อง
“ ไม่แน่ใจค่ะแต่เห็นบอกว่าจะเดินมาหาน้าหนูก็เลยพามาส่ง ” หนึ่งในกลุ่มของพี่ที่เดินมาส่งผมพูดออกไป
“ ถ้างั้นก็ กฤษณะ ออกไปรับหลานมานั่งด้วยก็ได้ แต่อย่าเสียงดังรบกวนคนอื่นนะ ” เสียงที่ส่งออกมายังไม่คลายความดุลงซักนิด นั่นทำให้ผมเริ่มกลัว
“ ไม่ต้องกลัวนะคะ คุณครูเขาพูดเสียงดุไปงั้นเอง ถ้างั้นเดี๋ยวพวกพี่กลับก่อนนะ ” พวกพี่ที่เดินมาส่งผมยกมือขึ้นลูบหลังผมเบาๆ ผมคงจะแสดงสีหน้าตกใจออกไปไม่มากก็น้อย
“ ขอบคุณครับ ” ผมบอกพี่ๆกลุ่มนั้นเป็นจังหวะเดียวกันกับที่น้าดินเดินออกมาถึงตัวผม
“ แม่ยังไม่มารับเหรอ ” แค่คำถามแรกที่ส่งมาก็ทำให้ผมใจหายวาบ เพราะคุณครูดุผม ผมก็ตกใจแทบแย่แล้ว นี้น้าดินยังมาดุผมอีก
“ ฮึก.. ไม่รู้ บอลแค่อยากมาหาน้าดิน ไม่รู้ว่าแม่มารับหรือยัง ” ผมพยายามอดกลั้น ไม่ให้ตัวเองปล่อยน้ำตาออกมาให้น้าดินเห็น
“ น้าไม่ได้ว่า น้าแค่กลัวว่าถ้าแม่มาตามหาบอลไม่เจอแล้วแม่จะเป็นห่วง ” น้าดินพูดขึ้นมาเบาๆพร้อมกับยื่นมือมาดึงแขนผมเพื่อที่จะเดินเข้าไปในห้อง
“ อ้าวเข้ามานั่งเร็วๆสิกฤษณะเดี๋ยวจดไม่ทันเพื่อนนะ ” เสียงคุณครูดังขึ้นมาอีกครั้งเมื่อเห็นว่าน้าดินเดินออกมานานแต่ยังไม่เดินกลับเข้าไปในห้องสักที
“ ครับ ” หน้าดินตอบรับสั้นๆแล้วก็จูงผมเข้าไปนั่งข้างๆซึ่งน้าดินไปยกเก้าอี้ มาวางให้ผมได้นั่งข้างๆโต๊ะเขา ผมแอบใจเสียเพราะผมทำให้น้าดินโดนดุอีกแล้ว
“ ไม่ต้องทำหน้าอย่างนั้น คุณครูเขาเป็นคนเสียงดังเขาไม่ได้ดุอะไรน้า ” ไม่รู้ว่าผมแสดงออกทางสีหน้ามากไปหรือเปล่าทำให้น้าดินพูดออกมาอย่างนั้นแถมยังยกมือขึ้นมาลูบหัวผมอีก ผมจึงส่งยิ้ม เต็มใบหน้ากลับไปให้น้าดิน
ผมไม่รู้ว่าผมนั่งอยู่กับน้าดินนานเท่าไหร่ แต่ผมได้ยินเสียงโวยวายอยู่นอกห้อง ก่อนที่คุณครูที่กำลังสอนอยู่จะหันออกไปมอง แล้วหันกลับมาทางผม
“ เด็กชายกฤษณะ พี่สาวเธอมารับหลานแล้ว เอาหลานเธอออกไปส่งให้พี่สาว ” เสียงคุณครูที่ดังมาจากหน้าห้องเรียนทำให้ผมลุกจากเก้าอี้แทบจะทันที ผมหันออกไปทางหน้าห้องเรียน เห็นแม่ยืนหอบอยู่ น้าดินจึงพาผมเดินออกไปหาแม่
“ บอลทำไมบอลไม่อยู่ห้องละลูกแม่เดินตามหาแทบแย่ ” ผมได้แต่ก้มหน้าลงเพราะรู้สึกผิด ที่ทำให้แม่เป็นห่วง
“ เอาล่ะ เด็กชายกฤษณะ กลับเข้ามานั่งรวมกับเพื่อนก่อนเดี๋ยวครูจะปล่อยแล้ว ส่วนส้มรอพี่แป๊บหนึ่ง เดี๋ยวพี่มีเรื่องจะคุยด้วย ” เสียงดุๆ ของคุณครูดังขึ้นอีกครั้งผมหันมองตามน้าดินที่เดินกลับเข้าไป นั่งรอกับเพื่อนๆ แล้วจึงเงยหน้าขึ้นมองหน้าแม่
“ บอลขอโทษครับแม่ บอลแค่อยากจะนั่งรอแม่กับน้าดิน บอลไม่ได้ตั้งใจจะทำให้แม่เป็นห่วงนะ ”
“ แม่รู้จ้า แต่ครั้งต่อไป ก่อนจะไปไหนบอลต้องบอกคุณครูไว้ทุกครั้งนะครับ ”
“ ครับ ” ผมตอบรับไปสั้นๆแล้วหันไปมองทางน้าดินที่กำลังเดินออกมาจากห้องเรียนพร้อมเพื่อนๆและคุณครู
“ นี่ลูกชายคนโตของส้มเหรอ ” เสียงคุณครู ที่ดังขึ้นทำให้ผมต้องหันไปมองหน้าคุณครูอีกครั้ง
“ ใช่ค่ะ พี่กฤษสบายดีนะคะ ไม่ได้เจอกันนานเลย ” ผมมองหน้าแม่สลับกับมองหน้าคุณครูของหน้าดิน
“ สบายดีครับ นี่พี่ไม่ได้เจอส้มนาน จนลูกชายโตขนาดนี้แล้วหรอ ”
“ ใช่ค่ะ ส่วนคนเล็ก กำลังหัดพูดเลยค่ะ พูดเก่งน่าดูเลย ” ผมได้แต่มองน้าดิน สลับกับแม่แล้วก็คุณครูของน้าดินผมไม่รู้ว่า แม่กับคุณครู เขาคุยเรื่องอะไรกัน
“ เดี๋ยวว่างๆ พี่จะเข้าไปเยี่ยมพ่อกับแม่นะ บอกไอ้สิงห์ด้วย ว่างๆเดี๋ยวจะเข้าไปหา ”
“ ได้ค่ะเดี๋ยวส้มบอกพี่สิงห์ให้นะคะ ”
“ ครับ ถ้างั้นกฤษณะ ไปเข้าแถวรวมกับเพื่อนรอเวลากลับบ้านไปลูก ส่วนส้มจะรอกลับพร้อมกฤษณะใช่ไหม ถ้างั้นพาบอลไปนั่งรอใต้ต้นไม้ก่อนก็ได้นะ ”
“ ค่ะ ” ผมได้ยินเสียงแม่ตอบรับ แต่ผมก็ไม่ได้หันไปมองเพราะมัวมองตามร่างของน้าดินที่เดินไปเข้าแถวรวมกับเพื่อนๆ
“ แม่ครับ ผมขอไปนั่งรอ กับน้าดินได้ไหมครับ ” ผมตัดสินใจขอแม่ออกไป เพื่อที่แม่จะได้ไม่ต้องเดินตามหาผมตอนเลิกเรียน
“ ไปนั่งรอกับแม่ดีกว่าลูก ”
“ ไม่ใช่วันนี้ครับแม่ บอลหมายถึงทุกวันเลย ”
“ เอ่อ..” แม่พูดได้แค่นั้นแล้วก็หันกลับไปมองหน้าคุณครูของน้าดิน ซึ่งคุณครูของน้าดินก็หันกลับมามองผม อยู่ก่อนหน้านั้นแล้ว
“ เอางี้แล้วกัน เดี๋ยวให้บอล มานั่งเรียนกับกฤษณะก็ได้ เดี๋ยวพี่จะดูให้อีกแรงหนึ่ง ” คุณครูของน้าดิน พูดขึ้นมา ถึงแม้จะเป็นเสียงที่ดุ แต่ผมก็ยังยิ้มให้เขา
“ มันจะดีหรอคะพี่กฤษ ส้มกลัวจะไปรบกวนดิน แล้วไหนพี่กฤษยังต้องมาช่วยดูแลอีก ”
“ ไม่ต้องเกรงใจหรอก ลูกไอ้สิงห์ก็เหมือนลูกพี่ และอีกอย่าง คงจะไม่ดื้อใช่ไหมเราอ่ะ ” คุณครูของน้าดินพูดกับแม่ผม เสร็จแล้วหันมาพูดกับผมต่อ ซึ่งผมก็ตอบรับไปแทบจะทันที
“ ไม่ครับ ”
“ ฮ่ะฮ่ะ ตอบไวเชียว เอาตามนี้แหละส้ม เลิกเรียนแล้วก็ให้บอล มาอยู่กับกฤษณะ เดี๋ยวพี่ไปปล่อยเด็กๆกลับบ้านก่อน อย่าลืมบอกไอ้สิงห์นะ ว่าพี่จะเข้าไปหา ” ผมมองตามหลังคุณครูของน้าดินไป และได้มารู้ที่หลังว่าคุณครูของน้าดินเป็นเพื่อนกันกับพ่อผม
หลังจากวันนั้นผมก็ได้มานั่งรอน้าดินในห้องเรียนทุกวัน ผมไม่รู้หรอกว่าทำไมต้องอยากไปนั่งเรียนกับน้าดิน ผมรู้แค่ว่าชอบเวลาน้าดินหันมายิ้มให้ และยกมือลูบหัวผม แม้ตอนเลิกเรียนแล้วผมก็ยังอยากอยู่ใกล้ๆน้าดิน เย็นวันหนึ่งผมจึงขอแม่ว่าอยากไปอยู่กับน้าดิน
“ แม่ครับ บอลขอไปอยู่กับน้าดินได้ไหมครับ ”
“ ไปไม่ได้หรอกลูก ”
“ ทำไมละครับ ” ผมถามออกไปแทบจะทันทีที่แม่พูดจบ
“ รอบอลโตอีกหน่อยแล้วกันเน๊าะ ให้บอลดูแลตัวเองได้ก่อน เดี๋ยวแม่ให้ไป ” พอแม่พูดจบประโยคนั้นผมได้แต่ก้มหน้า ผมต้องดูแลตัวเองให้ได้ก่อนสินะ ถึงจะได้อยู่กับน้าดิน
“ แต่บอลอาบน้ำกับแต่งตัวเองได้แล้วนะครับแม่ และอีกอย่างแม่ก็ไม่ได้ป้อนข้าวบอลนานแล้ว บอลจำได้ ” ถึงจะคิดแบบนั้นแต่ผมก็อดที่จะแย้งแม่ออกไปไม่ได้
“ จ๊ะ บอลเก่งแล้ว เอาอย่างงี้ รอให้บอลตัวสูงกว่าน้าดินก่อน เดี๋ยวแม่จะให้ไปอยู่กับน้าดิน แบบนี้ดีไหมลูก ”
“ ครับ ” ผมรีบตอบทันทีเพราะตอนนี้ ผมเตี้ยกว่าน้าดินหน่อยเดียว แต่ใครจะรู้ละ กว่าผมจะสูงกว่าน้าดินได้ ก็ต้องรอจนน้าดินอยู่ ม.4
ผ่านไปหลายปี
“ เฮ้ยบอล น้ามึงนิน่ารักว่ะ ” ผมหันไปมองหน้าไอ้ตั้มที่เดินมานั่งลงข้างๆตั้งแต่ตอนไหนไม่รู้
“ แต่เราว่าน้าดินหล่อดีนะ เป็นผู้ชายช่างดูแล เราแอบเห็นนะว่าเขาทำข้าวกล่องมาให้บอลด้วย น้าเขามีแฟนยัง ” ผมหันไปมองหน้านิเพื่อนสาวที่พูดเข้าผสมโรงกับไอ้ตั้มเป็นปี่เป็นขลุ่ย พอเพื่อนพูดจบผมจึงเบนสายตาไปมองคนร่างโปร่ง ที่ตกเป็นหัวข้อสนทนา
ที่ตอนนี้กำลังคุยหัวเราะอยู่กับเพื่อน ผมรู้สึกคันยุบยิบในอกข้างซ้าย ทันทีที่เห็นเพื่อนผู้ชายยกมือขึ้นลูบหัวน้าดิน ผมไม่แน่ใจว่าอาการที่ผมเป็นอยู่เกิดจากคำพูดของเพื่อน หรือเกิดจากที่ผมหันไปเจอภาพของน้าดินที่ถูกเพื่อนลูบหัวกันแน่
พรึบ
“ เฮ้ย บอลจะไปไหน ” ตั้มถามทันทีที่ผมลุกยืนขึ้นแบบไม่บอกไม่กล่าว แต่ผมไม่มีกระจิตกระใจที่จะตอบ เพราะตอนนี้ผมอยากไปดึงคนร่างโปร่งออกมาจากเพื่อนของเขาที่ตอนนี้แทบจะรวมร่างกับน้าดินอยู่แล้ว
“ อ้าว บอล มาทำอะไรตรงนี้ มีธุระอะไรหรือเปล่า ” น้าดินส่งคำถามมาให้ผมทันที ที่หันมาเห็นผมทั้งๆที่ผมยังเดินไปไม่ถึงตัวเขาด้วยซ้ำ
“ สวัสดีครับพี่ๆ ” ผมยกมือไหว้เพื่อนๆของน้าดิน และเลือกที่จะเมินคำถามน้าดิน อะไรคือหันมาทำตาใสใส่แบบนั้นละ เดี๋ยวก็บีบแก้มให้แตกซะนิ
“ หวัดดีจ๊ะบอล มารับดินกลับบ้านเหรอ ” พี่ผู้หญิงสวยๆ ที่ชอบเดินกับน้าดินถามขึ้น พี่คนนี้ชอบไปกับน้าดินบ่อยๆแต่ผมจำชื่อไม่ได้ เอาจริงๆ ผมก็จำชื่อเพื่อนน้าดินไม่ได้ซักคนหรอก จนเพื่อนมันว่าผม
แต่ผมก็ไม่เถียงหรอก ว่าผมไม่ค่อยได้ใส่ใจกับคนรอบตัวน้าดิน ก็จะให้เอาเวลาที่ไหนไปใส่ใจคนอื่นละ แค่คิดเรื่องน้าดินก็ไม่มีเวลาไปใส่ใจอย่างอื่นแล้ว
“ ครับ ” ผมตอบรับแล้วหันไปมองน้าดินที่หันไปทำหน้างอแงใส่เพื่อน
“ รับกลับอะไรละปุ้ย เรียกว่ามาเรียกกลับบ้านจะโอเคกว่านะ ” ผมแอบยิ้มให้กับคำพูดของน้าดิน จะคำไหนก็หมายความว่าเราต้องกลับบ้านด้วยกันไม่ใช่เหรอ
“ จ๊ะ เรียกกลับก็เรียกกลับ เอาที่ดินว่าดีเลย ” ผมยืนมองพี่ปุ้ย ( ซึ่งผมน่าจะจำได้แค่ตอนนี้ ) คุยกับน้าดินโดยไม่ได้เข้าไปร่วมในบทสนทนา
“ ฮือ ไม่คุยกับปุ้ยแล้ว ไปเถอะกลับกันดีกว่าบอล ” พูดจบน้าดินก็หันมาคว้ามือผมก่อนจะพาเดินออกมา
“ ผมกลับแล้วนะครับ ” ผมหันไปลาพวกเพื่อนๆของน้าดินก่อนจะเดินตามแรงจูงของคนข้างหน้า
“ กลับดีๆนะดิน ” เสียงพี่คนสวยยังลอยมาจากทางที่เราเดินจากมา ( อาห์….ผมลืมชื่อพี่เขาอีกแล้ว )
ระหว่างทางผมไม่ได้พูดอะไรนอกจากฟังน้าดินคุยเรื่องเรียนกับเพื่อนของเขา ผมก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน ทำไมชอบจังเวลาที่มองปากน้าดินขยับ เวลาที่เขาพูดเรื่องนั้นเรื่องนี้ ทั้งๆที่บางทีผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาพูดอะไร
“ ……..บอลคิดว่าไง ” ผมเลื่อนสายตาออกจากปากน้าดินขึ้นไปสบตา
“ ครับ ดินพูดว่าอะไรนะครับ ” แย่ละสิ ผมไม่ทันฟังว่าคนตรงหน้าพูดเรื่องอะไร ก็ผมมัวแต่มองปากเขา
“ นี้บอลไม่ได้ฟังน้าพูดเลยเหรอ แล้วบอกกี่ครั้งแล้วว่าให้เรียกน้าดิน ไม่ใช่ดินเฉย บอกไม่เคยจำ ” ผมแค่ส่งยิ้มไปให้ไม่ได้รับปากว่าจะเรียกน้า ใครจะเรียกกัน น้าดินตัวเตี้ยกว่าผมตั้งหลายเซ็นติเมตร
“ ครับ? ดินพูดว่าอะไรนะครับ ” ผมถามออกไปอีกครั้งเมื่อน้าดินยังบ่นเรื่องคำนำหน้าเขาไม่เลิก ซึ่งสิ่งที่ผมได้รับกลับมาคือใบหน้าหล่อติดออกจะไปทางหวานยู่หน้าใส่ผม
“ ตามใจเถอะ อยากเรียกอะไรก็เรียก แล้วที่น้าถามว่าถ้าจบ ม. 6 แล้วน้าจะเข้าไปเรียนต่อในกรุงเทพฯ บอลว่าดีไหม ” คำบอกเล่าที่ออกจากปากคนตรงหน้า ทำให้ผมใจหายแว๊บ
“ ดินอยากไปเหรอครับ ” ผมถามออกไปด้วยเสียงที่เบาแทบจะไม่ได้ยิน
“ ใช่ ก็ถ้าอยู่ที่นี้น้าก็ไม่ได้เรียนหรอก ก็อย่างที่เห็น ตากับยายไม่มีเงินส่งให้น้าเรียน …..” ผมไม่รู้ว่าน้าดินพูดอะไรไปบ้าง เพราะตอนนี้ผมคิดได้แค่ว่าเขากำลังจะจากผมไปไกล
“ ….. ” ผมจับมือน้าดินที่โบกอยู่ตรงหน้าผมเข้ามากุมไว้
“ ว่าไงละ บอลเห็นด้วยไหม ”
“ ครับ ถ้าดินต้องการแบบนั้น ” ผมตอบรับออกไปแบบสุ่มๆเพราะไม่รู้ว่าน้าดินพูดถึงเรื่องอะไรบ้าง
“ ป่ะ ถ้างั้นรีบกลับไปอ่านหนังสือเถอะ ใกล้สอบแล้วนิ แต่บอลคงไม่ต้องอ่านหรอกมั้ง ฉลาดขนาดนี้ ”
“ ดินก็พูดเกินไปครับ ดินก็ฉลาดออก ขนาดไม่ค่อยมีเวลาอ่านหนังสือยังได้ท๊อปตลอด ”
“ เกินไปละ มาอวยกันเองสะงั้น ” แล้วผมก็ต้องเดินตามแรงลากจูงของคนด้านหน้าไปโดยไม่ได้พูดอะไรออกมา ก็จะให้ผมพูดอะไรละครับก็ในเมื่อความสุขของผม อยู่ตรงหน้าผมแล้ว เขาอยากทำอะไร ผมก็ทำได้แค่สนับสนุน
……..
“ นี่บอล เรามีเรื่องอยากรบกวนนาย ” ผมหันไปตามแรงสะกิดของเพื่อน ที่เดินเข้ามาจากทางด้านหลัง
“ มีอะไรเหรอนิ ” ผมมองเพื่อนสาวที่ทำหน้าตาลำบากใจ
“ คือเราชอบน้าดิน ช่วยไปบอกน้าดินให้เราหน่อยสิ ”
“…..” ผมเงียบเพราะกำลังประมวลผลอยู่ ว่าทำไมผมต้องใจหายเวลามีคนมาบอกชอบน้าดิน
“ นะบอลนะ ช่วยเราหน่อย เราชอบจริงๆนะ ” นิยังคงเขย่าแขนผมพร้อมกับทำตาอ้อนๆ ส่งมาให้
“ เอ่อ..” ผม ยังคงไม่ได้พูดอะไรออกไป เพราะถ้าเรื่องของน้าดินผมมักจะคิดช้าเสมอ
“ หรือว่าน้าดินเขามีคนที่ชอบอยู่แล้ว ” นิส่งคำถามมาให้ผมอีกครั้งเมื่อเห็นว่าผมยังไม่ได้พูดอะไรออกไป
“ เราก็ไม่แน่ใจเหมือนกันนะ แต่เดี๋ยวเรา จะลองบอกให้ ” ผมตัดสินใจพูดออกไปแบบแบ่งรับแบ่งสู้ เพราะผมไม่รู้ว่าน้าดินมีคนในใจหรือยัง ถ้ารับปากเพื่อนว่าจะช่วย ผมก็ไม่แน่ใจ ว่าอาการที่ผมเป็นอยู่ตอนนี้มันคืออะไร
“ ขอบคุณนะบอล น่ารักที่สุด ”
“ ไม่เป็นไร ป่ะขึ้นห้องเรียนกันเถอะ ” ผมตัดสินใจยุติบทสนทนาที่ทําให้ใจผมอยู่ไม่เป็นสุขทันที
“ ป่ะ ไปกัน ” นิพูดจบแล้วเดินนำผมออกไป
ผ่านไปหลายวันผมก็ยังไม่ได้พูดกับน้าดินเรื่องของนิซึ่งจริงๆผมแทบจะลืมไปแล้วด้วยว่านิ รบกวนให้ผมไปคุยอะไรกับน้าดิน หรือผมอาจจะตั้งใจลืมเพราะไม่อยากให้เพื่อนเข้าใกล้น้าก็ไม่รู้
“ เฮ้ย..บอล ” ผมหันไปตามเสียงเรียกของเพื่อน ที่วิ่งไวๆเข้ามาหาผม
“…….”
“ งานกีฬาสีที่จะถึงนี้ กูได้ข่าวว่านิจะไปสารภาพรักกับน้าดิน จริงป่ะ ”
“ ไม่รู้สิ ”
“ เอ่อ..กูมีเรื่องจะสารภาพกับมึง ” ผมหันไปหาเพื่อนเต็มตัวเมื่อได้ยินเสียงที่พูดออกมาเหมือนลำบากใจ แต่พอผมหันกลับไปมันกับไม่พูดอะไรออกมา
“ ………. ” ผมยังคงยืนมองนิ่งๆโดยไม่ถามอะไรออกไป
“ คือ ถ้ากูพูดไป มึงสัญญากับกูได้ไหม ว่าเรายังจะเหมือนเดิม ”
“ กูไม่สัญญา เพราะกูไม่รู้ว่ามึงจะพูดอะไร เผื่อกูสัญญาไปแล้ว มึงพูดมาในสิ่งที่กูรับไม่ได้ กูไม่ต้องผิดคำพูดเหรอ ” ผมเลือกที่จะไม่สัญญาออกไปเพราะผมไม่รู้ว่า ไอ้บิ๊กมันจะพูดอะไรกับผม
“ คือ กู……”
“ ……” ผมเลือกที่จะเงียบเพื่อรอให้ไอ้บิ๊กมันพูดออกมาเอง มีหลายคนบอกผมว่าไอ้บิ๊กมันต้องคิดอะไรกับผม เพราะมันตัวติดกันกับผมมาตั้งแต่ขึ้น ม.1 ผมก็ไม่อยากคิดเข้าข้างตัวเองหรอก แต่ท่าทางของมันในตอนนี้ เหมือนคนกำลังจะสารภาพรัก
“ คือ กูคิดว่ากูชอบน้าดินว่ะ ” แต่คำพูดที่ออกมาจากปากคนตรงหน้า มันเกินคาดจากที่ผมคิดไว้มาก และบวกกับผมไม่ได้เตรียมใจมารับฟังเรื่องของน้าดิน ตอนนี้ผมคงจะแสดงออกไปทางหน้าตาหมดแล้ว
“ ……… ” ผมนิ่งไปนานหลังจากที่ไอ้บิ๊กมันพูดจบ ตอนนี้ ผมกำลังสงสัยว่า อาการหน่วงๆในอกข้างซ้ายผม มันเกิดจากการหวงน้า หรือมันมากกว่านั้นกันแน่
“ เฮ้ย มึงพูดอะไรบ้างสิ มึงอย่าเอาแต่เงียบ กูรู้แหละ ว่ามันผิดธรรมชาติ แต่ทำไงได้วะ กูคิดดีแล้ว ว่ากูชอบน้าดินจริงๆ ”
“…..”
“ บอล มึงอย่าเงียบสิวะ กูรู้สึกใจคอไม่ดีเลย ”
“ มึงจะให้กูพูดอะไรละ ” ในที่สุดผมก็หาเสียงตัวเองเจอหลังจากเงียบไปนาน
“ ก็แบบ…”
“…..” ผมเงียบมองดูไอ้บิ๊ก
“ เห้อ…เอาตรงๆเลยนะ มึงพอจะช่วยกูได้ไหม ”
“ กูช่วยอะไรมึงไม่ได้หรอก ” พูดเสร็จผมก็หันหลังเดินจากไอ้บิ๊กมาเพราะไม่แน่ใจว่าถ้าผมอยู่ต่อผมจะแสดงกิริยาแบบไหนออกไป เพราะอาการหน่วงข้างซ้ายมันเยอะกว่าตอนที่รู้ว่านิจะไปสารภาพรักกับน้าดินซะอีก
“ เดี๋ยวสิบอล ” ผมได้ยินเสียงไอ้บิ๊กตามหลังมาติดๆ เป็นจังหวะเดียวกันกับไอ้ตั้มเดินสวนมา
“ เดี๋ยว! มึงจะตามวอแวอะไรไอ้บอลมันห๊าไอ้บิ๊ก ” ผมหันกลับไปมองตั้มที่ลาก ไอ้บิ๊กไปอีกทางพร้อมกับหันมาสบตาผม
ผมส่งสายตาไปขอบใจตั้ม เพราะตอนนี้ผมไม่ต้องการ จะคุยเรื่องของน้าดินกับใครทั้งนั้น ผมต้องรีบไปจัดการกับความรู้สึกของตัวเองก่อน เพราะตอนนี้ ผมไม่รู้ว่า รู้สึกยังไงกับน้าดินกันแน่