1839 Words
มินตรามองชายหนุ่มแล้วให้นึกสงสาร เขาเป็นคนรักใครรักจริงและรักปักใจ... แต่เหตุใดจึงต้องพานพบเรื่องเช่นนี้ มือหนาข้างหนึ่งยกขึ้นคล้ายไขว่คว้าบางอย่าง หญิงสาวรับรู้ว่าเขาละเมอแต่ก็เอื้อมมือออกไปหมายปลอบใจคนสติไร้ความสมบูรณ์ ทว่าเพียงปลายนิ้วสัมผัสนิ้ว มือหนาก็คว้าหมับที่มือเรียว ฉุดรั้งจนร่างบางล้มลงไปกองกับอกกว้างอย่างไม่ทันระวัง ใบหน้าหวานแทบแนบใบหน้าคมคาย ก่อเกิดความหวั่นไหวราวระลอกคลื่นลูกมหึมา เป็นเหตุให้หัวใจดวงน้อยเต้นระทึก โครงเครงดั่งเรือน้อยที่ลอยละล่องไร้ทิศทาง แต่ในความลึกเกินหยั่งถึงของธาราไม่อาจทำให้มินตราหวั่นเกรง ดวงตากลมโตคู่สวยดำขลับเอาแต่จ้องมองและกวาดสายตาทั่วผิวหน้าคมเข้ม กระทั่งเอวเล็กถูกกอดรัดด้วยท่อนแขนหนักแน่นทั้งสองข้าง พร้อมเสียงเพ้อพร่ำอะไรต่อมิอะไรนักหนา รู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้าง แต่สิ่งที่รู้เวลานี้คือร่างของหล่อนกำลังถูกพลิกลงไปอยู่ใต้แผงอกกว้าง ยิ่งไปกว่านั้นคือหล่อนไม่ได้คิดจะขัดขืน!! มินตราสับสนเล็กๆ และเริ่มหวาดหวั่นปะปนไปกับความตื่นเต้นระคนกัน ยิ่งเมื่อใบหน้าคมคายซุกไซ้ลงกับซอกคอระหงของสาวบริสุทธิ์ไร้ราคีคาวหญิงสาวก็ยิ่งเกร็งตัว แม้รู้ทั้งรู้ว่าหากยังปล่อยให้เรื่องนี้ดำเนินต่อไป สิ่งที่ป้องกันได้อาจสายเกินแก้ ทว่าความรักที่ซ่อนเร้นทำให้เกิดความเห็นแก่ตัว มือเล็กๆ กอดตอบเอวสอบที่ทาบทับแนบสนิท ไร้ช่องว่าง จนร่างบางเริ่มสั่น เมื่อสัดส่วนเย้ายวนถูกรุกรานจากคนเมา ต่างจากณนนท์ เมื่อเขาลืมตาขึ้นกลับเห็นเป็นใครอีกคนที่โหยหา หัวใจอันแห้งผากและสูญเสียมีชีวิตชีวาอีกครั้ง เมื่อรักแรกของเขากลับคืนสู่ใจ ญาณีกลับมาแล้วยิ้มอยู่ตรงหน้านี่เอง เขาจะไม่ปล่อยให้หล่อนหลุดมือไปอีกไม่ว่าอย่างไรก็ตาม! มินตราสะดุ้งเฮือก เมื่อมือหนาสอดลึกเข้าไปใต้เสื้อนอนตัวบาง ไหล่เล็กห่อเข้าหากันด้วยอาการสะท้านเยือก เมื่อยวงเนื้ออวบหยุ่นถูกครอบครองด้วยฝ่ามือเรียวยาว หญิงสาวเม้มปากแน่นพยายามเก็บกลั้นอาการซาบซ่านแปลกๆ ที่เกิดจากฝ่ามือของอีกฝ่ายสุดความสามารถ! “คุณนนท์...” แต่เสียงที่ณนนท์ได้ยินคือเสียงของใครอีกคน… เป็นของผู้หญิงคนแรกที่เขามอบใจให้ คนแรกที่ทำให้เขาคิดจะรักใครจริงจังทั้งที่ตลอดเวลาที่ผ่านมาไม่เคยคิด แต่เมื่อเขามอบใจให้ไป หล่อนกลับเหยียบย่ำ ทำให้ไร้ค่า… ทว่าสิ่งเหล่านั้นไร้ความหมายโดยสิ้นเชิงเมื่อหล่อนกลับมาหาเขาอีกครั้ง และเขาจะไม่ยอมปล่อยให้หล่อนจากไปไหนอีก… ตลอดกาล ขณะที่ณนนท์ยังคงเพริดไปกับรสรักชวนลุ่มหลง… มินตรากลับกระสับกระส่ายคล้ายคนบาดเจ็บ ใบหน้าหวานพลิกไปมาบนหมอนใบใหญ่ คิ้วเรียวสวยขมวดย่น มือเรียวขยำกำแน่นยังผ้าปูที่นอนผืนสวย ยิ่งสะท้านยามเสื้อนอนตัวบางถูกปลดเปลื้องจากร่าง หลงเหลือเพียงซับในตัวเล็กที่เกาะติดเรือนกาย! แต่มีก็เหมือนไม่มีเพราะสัมผัสจากฝ่ามืออุ่นร้อนทะลุเข้าไปในหัวใจ... คนตัวบางที่ยอมพลีความสาวถูกเคล้าคลึงจากคนเบื้องบนหนักขึ้น ก่อนสะดุ้งวาบเมื่อชั้นในตัวจิ๋วถูกดึงออก แล้วบัวตูมคู่สวยที่ไม่เคยต้องมือชายก็ถูกโลมไล้ด้วยปลายนิ้ว ไม่นานก็สะท้านสะเทือนเมื่อความอุ่นชื้นปัดป่ายไต่เลียถี่รัวลงมายังยอดบัวงามสีหวานช่ำชอง แม้จะมึนในน้ำเมาแต่ประสิทธิภาพแห่งการเล้าโลมยังคงเต็มเปี่ยมและแม่นยำ! โดยเฉพาะเสียงครางพลิ้วที่ดังแผ่วกระตุ้นให้คนที่กึ่งฝันกึ่งตื่นฮึกเหิม หัวใจที่เคยร้าวรานคล้ายถูกชโลมด้วยหยาดรักที่หวานเยิ้มชวนลิ้มลอง มิอาจต้านทานหรือยับยั้งชั่งใจต่อความงามเย้ายวนที่สัมผัส ตรงข้ามกับภาพจริงซึ่งถูกบิดเบือนพร่าเลือนตามห้วงจินตนาการ... เจ้าของดวงตาปิดพริ้มเบิกกว้าง เมื่อสัดส่วนบอบบางซ่อนเร้นเนิ่นนานถูกล่วงล้ำแสบเสียวเจ็บแปลบเมื่อถูกรุกรานจนรู้สึกใจแทบขาด! ริมฝีปากเผยอครางอย่างไม่อาจต้านทานความรู้สึกรวดร้าวระคนสุขสันต์นั้นได้ “อะ… อื้อ” “อืม... แยมจ๋า คนดี ผม... อ่า” สุ้มเสียงครวญครางจากเบื้องบนบ่งบอกว่าเขาสุขสุดหัวใจเพียงใดในขณะที่มินตราเจ็บลึก ยิ่งเมื่อถูกตอกย้ำดำดิ่งก็ยิ่งร้อนผ่าวระคนหนาวเหน็บจับใจ ความแปลบวาบแทรกซึมสู่ช่องทางลึกลับอย่างมิอาจหลีกเลี่ยง มันค่อยๆ คืบคลานผ่านเข้าไปอย่างเชื่องช้าทว่ามั่นคง มือเรียวเล็กไขว่คว้ากอดก่ายแผ่นหลังกว้างราวต้องการเหนี่ยวรั้งแนบชิด ริมฝีปากที่ครางหวานเม้มแน่น เจ็บ… จนน้ำตาซึม แต่กลับสุขเมื่อรับรู้ว่าร่างกายนี้เป็นของเขาคนที่หล่อนรัก! ในห้วงฝันหวานวาบหวามจนหัวใจดวงโตเต้นถี่ จิตสำนึกลึกสุดบอกเขาว่าร่างกายที่กำลังครอบครองนี้แปลกออกไป ทุกอย่างดูเครียดเขม็งแน่นตึงไปเสียหมด กลิ่นกายที่หอมฉุนถูกอีกกลิ่นที่หอมละมุนอ่อนโยนกว่าเข้าแทนที่ หากแต่ความสุขสมที่กำลังได้รับนั้นมากมายมหาศาล สร้างความทะยานอยากให้เร่งเร้าจนสุดกำลัง เสียงครางและการตอบรับอย่างเดียงสายิ่งพาให้เขาแทบคลั่ง! ก่อนจะขยับเขยื้อนเคลื่อนไหวไปในทิศทางที่ควรเป็น! “อือ... คะ... คุณนนท์” มือเล็กกอดไหล่หนาแน่น เจ็บแปลบเมื่อเขาขยับลงลึกในคราแรก แต่แล้วต้องประหลาดล้ำเมื่อเขาขยับใหม่อีกครั้ง และครั้งนี้มีแต่ความวาบหวิวที่ซ่านขึ้นจนถึงทรวง... “แยม...” สุขระคนเศร้าเมื่อเขาเรียกหาใครอีกคน ทว่าไม่นานความร้อนก็พุ่งวาบจับดวงหน้าจนแดงก่ำ เมื่อจังหวะพิศวาสมิได้เนิบนาบดังเก่า ทว่ากลับฉับไวเร่งเร้าสั่นร่างสาวให้สะเทือน ก่อเกิดเสียงครางหวานประสานเสียงทุ้ม ก่อนนิ่งอึ้งเมื่อริมฝีปากเต็มตึงถูกครอบครองสะแปะสะปะ แต่ทว่ากลับแม่นยำในภายหลังและเร่าร้อนจนอ่อนใจ! รักครั้งแรก เซ็กส์ครั้งแรกหล่อนมอบมันให้เขา ทุกอย่างในกายมิใช่ของหล่อนเพียงผู้เดียวอีกแล้ว อนาคตภายหน้าจะเป็นเช่นไรไม่อยากคิด ขอหยุดห้วงเวลาแห่งความสุขสมไว้เพียงแค่นี้ แค่มีหล่อนและเขา แค่รักในห้วงฝัน ขอแค่รอยรักของเขาเท่านั้นก็เพียงพอ... คิ้วหนาขมวดมุ่นเมื่อผละห่างจากริมฝีปากหวานด้วยความงุนงง รสชาติของจูบที่เคยซาบซ่านเร่งเร้าเปลี่ยนไป เพราะมันไม่ได้เร่าร้อนเหมือนก่อน แต่กลับหวานกำซาบ ลึกล้ำลงไปจนถึงทรวง ยิ่งเรียวลิ้นที่ตอบรับกึ่งกล้ากึ่งกลัวของคนใต้ร่างยิ่งทำให้เขาต้องก้มลงไปหาอีกครั้ง หัวสมองที่เบลอพร่ายิ่งเลือนรางเมื่อถูกพิษน้ำผึ้งเล่นงาน ยามเกี่ยวกระหวัดรัดรึงส่งรับลิ้นนุ่มก็ยิ่งมึนเมา หลงใหลยากแก่การถอดถอนทั้งกายใจ หากแต่ความต้องการทางกายมิได้ถูกลืม ยังคงโจนจ้วงตอกย้ำแม่นยำลงที่เก่า ลึกล้ำและดื่มด่ำเป็นจังหวะเร่งเร้าสลับเบาก่อนจะหนักหน่วงถี่เร็ว เกิดเสียงครวญครางจากเตียงกว้างดังกึกกัก ไม่ต่างไปจากร่างเล็กที่กระเพื่อมสะท้านทุกครั้งยามถูกมอบรักส่งกายกระแทกกระทั้น ใบหน้างามบิดเบี้ยวคล้ายเจ็บปวด ทว่าแท้จริงแล้วสุขเกินสุข หวามสุดหวาม ก่อนกรีดร้องก้องประสานเสียงห้าวทุ้มเมื่อแตะฝั่งฝันที่มีริ้วโค้งหลากสีงดงามอยู่บนนั้น บนที่ที่เรียกว่า วิมานฉิมพลี… ร่างหนาที่ทาบทับลงมาบนอกอิ่มหอบสะท้านไม่แพ้คนใต้ร่าง ก่อนจะพลิกตัวลงข้างๆ แล้วเกี่ยวเอวบางเข้ากอด มินตราได้ยินเขากระซิบพร่าบางอย่างแผ่วเบา จึงเงี่ยหูฟังความอย่างตั้งใจ ทว่าสิ่งที่ได้ยินทำให้ร่างเล็กเย็นเยียบตลอดกาย ปวดหนึบชาเหน็บไปทั้งใจเมื่อเขาเอ่ย “ผมรักคุณ... แยม” แล้วคนพึมพำก็หลับใหลไปในราตรีกาล ปล่อยให้คนที่ยอมพลีความสาวสดนอนตาค้างอยู่ในอ้อมแขนอุ่น หากเวลาต่อมาน้ำใสๆ ก็ไหลเอื่อยจนชุ่มอกที่ซุกซบ แล้วเอ่ยคำรักกระซิบแนบชิดยังที่ตั้งหัวใจแผ่วพร่า “มิ้นก็รักคุณนนท์ค่ะ... รักมากที่สุด” น้ำตายังไหลรินเป็นสาย กระซิกไห้อยู่เช่นนั้นอีกนาน กว่าจะรวบรวมกำลังใจและแรงกายหยัดลุกและถอยห่างจากอ้อมกอดที่ไม่เคยเป็นของหล่อน มินตรามองหลักฐานแห่งความสาวที่กลายเป็นจุดเจ็บในใจซึ่งฝังแน่นอยู่บนผ้าปูที่นอนแล้วยิ้มทั้งน้ำตา พรหมจารีนี้หล่อนมอบให้เขา มอบให้คนที่หล่อนรักสุดหัวใจ หลังจากเหตุการณ์คืนนี้ไปหล่อนก็จะกลับไปยืนอยู่เงียบๆ ในที่ของหล่อน จะคอยมองเขามีความสุขและจะคอยปลอบใจยามเขามีทุกข์... ร่างเล็กขยับลงไปยืนข้างเตียง ความเจ็บแปลบเล่นงานจนต้องขมวดคิ้ว จุกเสียดที่ท้องน้อยและจุดซ่อนเร้นจนต้องข่มกลั้นเสียงครางและเม้มปากแน่น ยืนนิ่งๆ ยกมือขึ้นกุมบริเวณนั้นเป็นนานกว่าจะเงยหน้าขึ้นมองร่างเปลือยท่อนล่างของณนนท์ด้วยสายตาหม่นเศร้า หากแต่แก้มร้อนผ่าวก่อนเมินหนีลงแล้วไปสะดุดที่อาภรณ์ของตนอย่างละอาย มือบางสั่นระริกเอื้อมลงหยิบขึ้นมาสวมใส่ ก่อนจะเดินไปหยิบผ้าขนหนูบิดจนหมาดน้ำเพื่อเช็ดร่างกายที่ชื้นเหงื่อของเขาอย่างไม่สนใจตนเองนัก กล้ำกลืนฝืนความอับอายทำความสะอาดร่างกายแกร่งทุกสัดส่วนอย่างไม่นึกรังเกียจ… เชิ้ตราคาแพงถูกถอดออกแล้วเปลี่ยนเป็นชุดนอนลายทางที่เขาชอบ คนเมาทั้งเหล้าเมาทั้งรักไม่รู้สึกตัว มีเพียงเสียงครางฮือออกมาเป็นบางครั้งเมื่อถูกจับพลิก หญิงสาวดึงผ้าปูผืนนั้นออก ไม่คิดทิ้งไว้ให้เป็นหลักฐานมัดตัว เพียงแค่หัวใจอย่างเดียวก็เกินพอ... กว่าจะเรียบร้อยทุกอย่างก็เล่นเอาเหนื่อยหอบ ร่างแน่งน้อยยืนมองร่างใหญ่โตที่หลับสนิทใต้ผ้าห่มผืนหนาด้วยแววตาสุขระคนทุกข์ ตรงข้ามกับใบหน้าคมคายที่เกลื่อนด้วยสุขฉาบฉายมิอาจปิดเร้น “ฝันดีนะคะคุณนนท์...” คนถูกอวยพรขยับยิ้มมุมปากคล้ายรับรู้ หญิงสาวน้ำตาซึมมั่นใจว่าในห้วงฝันของเขาไม่มีเคยหล่อน แต่ขอเป็นเพียงแค่เงาของความฝันก็พอแล้ว บอกตนเองแล้วหมุนตัวออกจากห้องของณนนท์ด้วยอาการหงอยเหงา...
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD