บทที่ 8 เจ้ากรรมนายเวร
ร่างเล็กในชุดนักศึกษามันช่างคุ้นตาของผมนัก ต้องใช่แน่ๆ ผมเปิดประตูรถเดินลงไปหาเธอทันที เมื่อเธอเจอผมเธอมีสีหน้าตกใจเล็กน้อย ก่อนจะเปลี่ยนสีหน้าเป็นเรียบเฉย
"เป็นอะไรไหม"
"ไม่ค่ะ" วันนี้สงสัยจะซวยจริง เจอเจ้ากรรมนายเวรด้วย ฉันถอนหายใจ หันมามองหน้าผู้ชายหล่อตรงหน้า แล้วส่งยิ้มให้เขาเล็กน้อยก่อนจะเข้ามานั่งรอประกันภายในรถ
"อ้าว" ผมงงสิครับ นี้เธอเมินผมใช่ไหม เกิดมาพึ่งเคยถูกผู้หญิงเมินใส่ แม่เจ้าโว้ยยย ชักน่าสนใจแล้วสิ ผมเอามือเคาะกระจกรถเธอ ไม่นานกระจกรถก็เลื่อนลง
"มีอะไรคะ"
"ลงมา"
ฉันปรายตามองเขาเล็กน้อยก่อนจะกดเลื่อนกระจกรถขึ้น โรคจิตป่ะว่ะ อยู่ๆ ก็มาสั่ง เชอะ คิดว่าหล่อตายละ เขายังเคาะกระจกรถฉันไม่เลิกรา จะเอาไงดีว่ะ ฉันตัดสินใจกดเลื่อนกระจกรถลงอีกครั้ง "นี่คุณ เป็นบ้าอะไรเคาะอยู่นั่นแหละ"
"บอกให้ลงมา"
"ไม่"
"จะลงมาดีๆ ไหม"
ว่ะ ไอ้บ้านี้พูดเหมือนผัวมาตามเมียกลับบ้านเลย ฉันเริ่มจะรำคาญไอ้โรคจิตนั้น ตัดสินใจเปิดประตูลงมาจากรถ ยืนแขนเท้าสะเอวแหงนหน้ามองคนตรงหน้า "มีอะไร" ฉันพูดด้วยน้ำเสียงห้วนๆ เขาคงดูออกว่าฉันรำคาญเขาเต็มทน มือใหญ่จับเข้าที่ข้อมือเล็กของฉัน "ปล่อยดิว่ะ อะไรเนี่ย อย่ามาจับดิ" ฉันสะบัดมือออกจากมือใหญ่แต่ไม่เป็นผล
"ทำไมไม่ตอบไลน์ บล็อกไลน์ฉันใช่ไหม"
"อะไร คุณพูดอะไรฉันไม่เข้าใจ" เธอพูดจบเขาเอามืออีกข้างล่วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงหยิบโทรศัพท์ออกมา
"นี่ไง" ผมยื่นโทรศัพท์หน้าจอที่มีข้อความไลน์ที่ผมและเธอคุยกันไปจ่อที่หน้าของเธอ
"อ๋อ นายคือไอ้โรคจิตนี่เอง ไม่อยากคุยจะทำไม แล้วกรุณาปล่อยด้วย คนมองกันใหญ่แล้วนะ"
"หึ กล้าดีนิ"
"ปล่อย"
"เลิกบล็อคข้อความ"
"ได้แต่ปล่อยก่อนได้ไหม คนมองกันใหญ่แล้ว" ฉันหันมองไปรอบบริเวณ ซึ่งตอนนี้รถติดพร้อมคนมุงเต็มถนน
"ตอนนี้"
ฉันหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาปลดล็อกข้อความของเขา "พอใจยัง ปล่อยได้ยัง ฉันเจ็บนะ" ใบหน้าสวยคิ้วขมวดเข้าหากัน เขารีบคลายมือที่กำลังบีบข้อมือเล็กที่เผลอตัวด้วยความโมโห
"แต่งตัวไปเรียนหรือไปอ่อยผู้ชาย" ผมมองเธอหัวจรดเท้า แล้วส่ายหัว ทำไมผมต้องหงุดหงิดแบบนี้ที่เห็นเธอแต่งตัวแบบนี้ ผมถอนหายใจ ปล่อยมือจากข้อมือเล็กถอดเสื้อแจ็คเก็ตหนังสีดำมาผูกเอวให้เธอ "เก็บของ"
ฉันงงกับคำพูดของเขา จะให้ฉันเก็บของทำไม นี้ประกันยังไม่มาเลย "ไม่อ่ะ ฉันต้องรอประกัน"
"ไม่ต้อง เดี๋ยวคนของฉันจัดการให้ เก็บของ" เขาออกคำสั่งอีกครั้ง ฉันนี้ก็บ้า ดันทำตามที่เขาสั่ง ไม่รู้เขาร่ายมนตร์อะไรใส่ฉันรีบเก็บของทันที
"เอาลูกกุญแจรถมา"
ฉันยื่นลูกกุญแจรถให้เขาอย่างว่าง่าย มีชายร่างใหญ่สองคนเดินเข้ามา เขายื่นกุญแจรถของฉันให้ชายสองคน ไม่รู้เขาคุยอะไรกับชายสองคน ก่อนที่ชายร่างใหญ่จะโค้งคำนับเขาแล้วเดินจากไป มือใหญ่จับที่ข้อมือฉันอีกครั้ง เขาดึงให้ฉันเดินตาม ขึ้นสะพานลอยข้ามมาอีกฟาก ซึ่งมีรถยนต์สปอร์ตสีดำจอดรออยู่ เขาเปิดประตูให้ฉัน ร่างเล็กยืนนิ่งตัดสินใจอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะสบสายตากับคนร่างใหญ่
"ฉันกลับเองได้ค่ะ"
"ขึ้นรถ"
จะอะไรนักหนาว่ะ เอาแต่สั่งๆ กูนี่ก็ยอมทำตาม ไม่เข้าใจตัวเองจริงๆ ขึ้นก็ขึ้นสิ ชิ ฉันทำหน้าไม่สบอารมณ์ส่งให้เขาก่อนจะขึ้นมานั่งบนรถ ฉันปรายตามองเขาเป็นระยะ เขาหล่อจริงๆ แต่ชอบทำหน้านิ่ง ถ้าเขายิ้มจะเป็นไงนะ
"มองพอยัง"
"ใครมอง"
"อยู่กันสองคน จะมีใคร"
"แล้วจะพาฉันไปไหน"
"......."
"หูหนวกหรือไง"
"ฉันขอแวะไปทำธุระก่อน เดี๋ยวไปส่ง"
"ถามฉันยัง จอดข้างหน้า เดี๋ยวฉันกลับเอง"
"ฟังภาษาคนไม่รู้เรื่องหรอ"
"คุณนี่ยังไงนะ เป็นโรคจิตหรือไง เจอคุณทีไรมีแต่เรื่อง"
"เราเจอกันสามครั้ง"
สามครั้งหรอ ฉันกับเขาเจอกันแค่สองครั้งเองนะ ครั้งที่สามไปเจอกันตอนไหน นายมั่วหรือเปล่า แต่ฉันก็ไม่สนใจหรอกจะเจอกันมากี่ครั้ง ต่อไปก็ขออย่างได้เจอกันอีกเลย ฉันนั่งมองถนนที่รถเริ่มติด แล้วฉันจะได้กลับบ้านตอนไหน
กริ๊งง กริ๊ง
"ค่ะพี่"
(อยู่ไหน)
"เกิดอุบัติเหตุนิดหน่อยค่ะ คงกลับช้า พี่ทานข้าวก่อนได้เลยไม่ต้องรอค่ะ"
(เป็นอะไรมากไหม แล้วตอนนี้อยู่ไหน)
"หนูไม่เป็นไรค่ะ ส่วนรถต้องซ่อมเยอะหน่อยค่ะ"
(น้องไม่เป็นไรก็ดีแล้ว มีอะไรโทรหาพี่นะ)
"ค่ะ"
ติ๊ง ติ๊ง เสียงข้อความไลน์เข้า
(ถึงบ้านยังครับ)
"ค่ะ"
(ทานข้าวยัง)
"ยังเลยค่ะ"
(ตอนนี้ทำอะไรอยู่ครับ)
"ไม่ได้ทำอะไรคะ"
(พี่โทรได้ไหม)
"ตอนนี้ไม่สะดวกค่ะ"
(โกรธพี่หรือเปล่า)
"ไม่ค่ะ"
(จริงนะ)
"ค่ะ"
(เมื่อไหร่พรีมจะตกลงเป็นแฟนพี่สักทีครับ)
ฉันยิ้มออกมาแก้มแทบปริ พี่ต้นก็น่ารักแบบนี้ไง ฉันจะใจอ่อนไม่ได้ เล่นตัวอีกนิดยื้อเวลาอีกหน่อย เดี๋ยวเขาจะหาว่าเราง่าย แต่ตอนนี้อิพรีมเขินจ้าาาา คนอะไรไม่รู้หล่อแล้วยังน่ารักอีก
ผมมองคนนั่งข้างแล้วอารมณ์เสีย จะยิ้มอะไรนักหนา คุยกับใครถึงทำให้เธออารมณ์ดีได้ขนาดนี้ เมื่อรถจอดติดไฟแดง ผมจึงเหลือบตามองข้อความของเธอเล็กน้อย หึ!! คุณกับผู้ชายนี้เอง หน้าระรื่นเชียวนะ เธอจะได้คุยกับมันแค่วันนี้แหละแล้วต่อไปนี้อย่างหวังใครหน้าไหนจะมายุ่งกับเธอได้อีก