ตอนที่ 1

1207 Words
ชายแดนอัฟกานิสถาน             ภายในฐานที่มั่นของกองทัพสหรัฐอเมริกา เบื้องหลังแนวบังเกอร์ป้องกันการโจมตีของข้าศึก เสียงปืนกลลั่นรัวถี่ยิบมาหลายนาทีไม่ได้หยุด ปลอกกระสุนที่สาดออกไปจากปากกระบอกปืนกลเกลื่อนกระจายอยู่เต็มพื้นทราย  สลับกับลูกไฟที่พุ่งออกจากฐานยิงขีปนาวุธทำลายล้างอย่างต่อเนื่องไม่ขาดสาย ตามสูตรการต่อสู้ป้องกันฐานทัพฉบับอเมริกาที่ต้องใช้กำลังทหารราบยิงสกัดป้องกันฐาน แล้วตามถล่มด้วยปืนใหญ่ ก่อนจะเรียกทันเดอร์โบกับอาปาเช่ เครื่องบินรบสมรรถนะสูงเข้ามาช่วยปูพรมยิงถล่มซ้ำอีกระลอก เพื่อให้ทหารราบบุกเข้าเคลียร์พื้นที่ได้สะดวก และที่กล่าวมาทั้งหมดนี้… คืองานของ ‘ลีโอ โดโนแวน’ ผู้บังคับกองพัน U.S.  Army Rangers หน่วยทหารราบอันลือชื่อในเรื่องฝีมือการสู้รบของกองทัพบกสหรัฐอเมริกา                         สามวันถัดมา กลางดึกของคืนหนึ่ง ที่บ้านโดโนแวน ซานฟราน  ซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา             “รอให้สว่างแล้วค่อยออกไปไม่ดีกว่าหรือลูก… ลีโอ” ด้วยความเป็นห่วง รสรินรีบทักท้วงลูกชายคนเดียวที่เพิ่งกลับมาจากปฏิบัติภาระกิจกลางสมรภูมิรบในอัฟกานิสถานมาหยกๆ เมื่อสังเกตเห็นว่าชายหนุ่มออกอาการร้อนรนจะไปหาแฟนสาวซึ่งพักอาศัยอยู่ในอพาร์ทเมนท์ย่านลอมบาร์ดของซานฟรานซิสโก “ไม่เป็นไรครับแม่…” ตอบพลางลากกระเป๋าสัมภาระเข้าไปเก็บไว้ในห้องนอนของตัวเอง “แน่ะ… ยังจะดื้ออีก” รสรินเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนใจ ทำราวกับลีโอเป็นเด็กๆ แม้รู้ดีว่าลูกชายของตนอายุกำลังจะย่างเข้าสามสิบสี่ปีในอีกไม่  กี่วัน หากแต่ในสายตาของมารดาที่รักและเลี้ยงดูลูกชายมาอย่างใกล้ชิด ก็อดแสดงความเป็นห่วงไม่ได้ “ผมอยากเจอนาตาลีครับ ไม่ได้เจอกันตั้งสองเดือนมาแล้ว ลอมบาร์ดก็อยู่ใกล้แค่นี้เองครับแม่ ขับรถไปเดี๋ยวเดียวก็ถึง” ด้วยสีหน้าและแววตาดื้อดึงมาแต่ไหนแต่ไร นายทหารเลือดร้อนให้เหตุผลกับมารดาขณะก้าวยาวๆ เข้าไปในห้องนอนของตัวเอง ลีโอรีบเปลี่ยนเสื้อผ้าจากเครื่องแบบทหารบกชุดลายพรางเต็มยศจนแลดูน่าอึดอัด ใช้เวลาเพียงครู่สั้นๆ เขาก็ออกมาในชุดเสื้อยืดกางเกงยีนส์ซึ่งสบายกว่า นานเกือบสามเดือนมาแล้วที่รสรินไม่ได้เห็นหน้าลีโอชัดๆ เหมือนในตอนนี้ สายตาภาคภูมิใจของหล่อนแทบไม่ละจากใบหน้าหล่อเหลาของลูกชาย ลีโอมีดวงตาสีน้ำตาลชวนฝัน เหมือนกับดวงตาของเดวิดผู้เป็นสามีของหล่อนไม่มีผิดเพี้ยน แพขนคิ้วระบายแนวดกหนาอยู่เหนือกรอบดวงตาซึ่งแฝงประกายคมกริบ ดุจเดียวกับดวงตาของราชสีห์ สมกับชื่อ   ‘ลีโอ’ จมูกโด่งเป็นสันสวย หน้าผากกว้างเกลี้ยงเกลา รับกับทรงผมที่ตัดสั้นเกรียนคล้ายสกินเฮดยิ่งเน้นให้เห็นรูปทรงศีรษะสวย ริมฝีปากหยักลึกซึ่งในบางครั้งก็ทำให้เขาดูดุ หากแต่ใบหน้าคมคร้ามหน้ายำเกรงนั้นก็สามารถคลี่คลายไปสู่รอยยิ้มอ่อนโยนและอบอุ่นได้อย่างเหลือเชื่อ ในขณะที่หันมาสบตากับรสรินผู้เป็นมารดาของตน “ขับรถดีๆ นะลูก… แม่เป็นห่วง”             รสรินร้องสั่ง เมื่อเห็นว่าห้ามไม่หยุด ฉุดไม่อยู่ จึงทำได้แค่มองตามคนตัวใหญ่ที่กำลังจะจากไปด้วยสายตาเป็นห่วงเป็นใยเสียเหลือเกิน             หล่อนรู้จักลูกชายของตัวเองดีกว่าใคร ลีโอเป็นคนใจร้อน มีความเป็นตัวเองสูง ลองได้ตัดสินใจทำอะไรลงไปแล้วละก็ ต่อให้เอาช้างมาฉุดก็ไม่อยู่ “ครับแม่…” ลีโอตะโกนตอบกลับมา หากแต่ในขณะที่ขายาวๆ กำลังจะก้าวพ้นกรอบประตูออกไป ดวงตาของมารดาที่ทอดมองอย่างเป็นห่วง ก็ทำให้คนเป็นลูกชายต้องหมุนตัวกลับมาสวมกอดหล่อนอีกครั้ง “เดี๋ยวผมมานะครับ” บอกพลางหอมแก้มมารดาฟอดใหญ่สลับไปมาทั้งซ้ายขวา เสียงดังฟืดฟาดอย่างประจบประแจงเอาใจ ด้วยกลัวว่ารสรินจะน้อยใจที่เขาให้ความสำคัญกับแฟนสาวจนถึงกับอดทนรอให้ถึงรุ่งเช้าไม่ไหว หลายนาทีต่อมา “อ้าว… ลีโอไปแล้วรึโรส” เดวิดผู้เป็นบิดาของลีโอ ซึ่งขณะนั้นยังอยู่ในชุดนอนลายทาง เพิ่งเดินลงมาจากบันไดชั้นสองของบ้าน เอ่ยถามกับรสรินที่ยืนมองส่งลูกชายตาละห้อยอยู่ที่หน้าประตูบ้าน ทั้งเดวิดและลูกชายมักจะเรียกรสรินว่า ‘โรส’ จนติดปาก ด้วยออกเสียงได้ง่ายกว่า ‘รสริน’ ซึ่งเป็นชื่อจริงของเธอ  ตอนแรกเดวิดเรียกชื่อ    ‘รสริน’ ผิดเพี้ยนไปเป็น ‘โรสราเลน’ แต่หล่อนกลับไม่ชอบ ด้วยคำว่า      ‘โรสลาเรน’ ในภาษาฝรั่งเศสนั้นแปลว่า ‘กุหลาบราชินี’ ซึ่งฟังดูเลิศหรูและสูงส่งเกินไป เพราะเธอตระหนักดีว่าตัวเองเปรียบเสมือนดอกหญ้าที่เกิดและเติบโตมาในครอบครัวของชาวนาจนๆ หากแต่ความทะเยอทะยานของวัยสาว ก็ผลักดันให้ข้ามผ่านอุปสรรคขวากหนามในชีวิตต่างๆ นานา กระทั่งได้มาพบรักกับเดวิดในที่สุด             “โน่นแน่ะ ขับรถออกไปแล้ว รีบร้อนจะไปหาสาว… บอกว่ารอให้เช้าก่อนแล้วค่อยไปก็ไม่เชื่อ… ดื้อรั้นออกปานนั้น ให้มันได้อย่างนี้สิลูกชายตัวดีของคุณ” น้ำเสียงกระเง้ากระงอดของรสรินบอกความน้อยใจในตัวลูกชายจนเดวิดผู้เป็นสามีรู้สึกได้ “เข้าใจหัวอกผู้ชายหน่อยเถอะคุณ… ”   “แน่ะ… ยังจะมาเข้าข้างกันอีก ผู้ชายนะผู้ชาย” รสรินขึงตาใส่สามี “อย่าลืมว่าคราวนี้มันไปนานตั้งสามเดือน พอกลับมาก็ย่อมจะหิวโซเป็นธรรมดา… ไม่เอาน่าโรส เสือหิวก็เป็นอย่างนี้แหละคุณ เลือดหนุ่มฉกรรจ์มันกำลังแรง” เดวิดเอ่ยอย่างคนที่เข้าใจหัวอกของผู้ชายด้วยกันเป็นอย่างดี เขาเองก็เป็นอดีตนายทหารของกองทัพบกสหรัฐอเมริกาที่เคยผ่านร้อนผ่านหนาวกลางสมรภูมิรบมาอย่างโชกโชน ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าเวลาคิดถึงคนรักที่ต้องอยู่ห่างไกลกันนั้นเลือดหนุ่มมันพลุ่งพล่านได้ขนาดไหน โดยเฉพาะคนที่ต้องไปใช้ชีวิตนอนกลางดินกินกลางทรายอยู่ในสมรภูมิรบอันแร้นแค้นนานถึงสามเดือนอย่างลีโอ “นี่คุณ… แทนที่จะช่วยกันห้ามปรามลูกชาย กลับให้ท้ายกันเสียนี่” รสรินส่งสายตาค้อนขวับให้กับสามีเป็นครั้งที่นับไม่ถ้วน โทษฐานที่เห็นดีเห็นงามไปกับลูกชายที่เพิ่งขับรถพ้นประตูบ้านออกไปด้วยความใจร้อน “โธ่ โรสจ๋า… คุณก็น่าจะเข้าใจ” “เข้าใจอะไรคะเดฟ…” รสรินแกล้งทำเป็นเข้าใจอะไรยากขึ้นมาทันที “ก็เข้าใจว่าว่าเลือดหนุ่มมันกำลังร้อนรุ่มน่ะสิ “อิอิ… ” เดวิดทำหน้าทะเล้น แอบหัวเราะอยู่ในลำคอ “หัวเราะอะไรคะคุณ” “ก็ลืมไปแล้วหรือว่าตอนที่ผมต้องไปประจำการอยู่ในอิรักนานหลายเดือน ตอนนั้นผมคิดถึงคุณแทบขาดใจ… 
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD