bc

พันธะต้องห้าม

book_age18+
27
FOLLOW
1K
READ
alpha
forbidden
heir/heiress
bxb
witty
campus
ABO
like
intro-logo
Blurb

บนโลกที่การแบ่งชนชั้นถูกกำหนดด้วยสัญชาติญาณดิบจากกลิ่นฟีโรโมน ABO คือระบบที่ทุกคนต้องยอมรับและอยู่ภายใต้ แต่ไม่ใช่กับ “เขา” ผู้ครอบครองสถานะต้องห้ามที่ถูกซ่อนเร้นจากสายตาทั่วทั้งโลก…

เขาคือ อีนิกม่า สิ่งมีชีวิตเหนือห้วงธรรมชาติ อำนาจและสายเลือดอันแข็งแกร่งกระตุ้นเพียงคำเดียว การครอบครอง ในขณะที่ผู้คนต่างยอมสยบต่อโอเมก้าอย่างไร้เงื่อนไข ผู้ที่อยู่เหนือโอเมก้ากลับเป็นเรื่องที่ไม่ควรมีอยู่ เป็นปริศนาบนสุดยอดของห่วงโซ่อาหารที่ทุกฝ่ายพยายามปิดบัง เพื่อไม่ให้โลกต้องสั่นคลอนด้วยอำนาจอันตราย ฟีโรโมนของเขา…คือคำสั่งที่ไม่มีใครต่อต้านได้ สายตาของเขา…เป็นเหมือนตรวนที่ผูกวิญญาณให้ต้องคุกเข่า หากแต่เจ้าของพลังระดับพระเจ้าคนนี้กลับเลือกปกปิดสถานะของตนอย่างแนบเนียน ใช้ชีวิตเหมือนอัลฟ่าในสังคมที่เต็มไปด้วยอคติทางพันธุกรรม

ทว่าทุกอย่างเปลี่ยนไป เมื่อเขาได้พบ ชายคนหนึ่ง ที่ช่วงชิงสายตาและสัญชาติญาณของเขาไปโดยไม่ตั้งใจ ความต้องการที่ไม่อาจห้าม สัญชาตญาณการครอบครองที่โหยหามานานถูกปลดปล่อยเขาพร้อมฉีกกฎทุกอย่าง พร้อมเปิดเผยความจริงที่โลกหวาดกลัวไม่สนเหตุผล…ไม่สนผลลัพธ์…เพราะคนคนนั้น ต้องเป็นของ เขา เพียงผู้เดียว

chap-preview
Free preview
ตอนที่ 1 กว่าจะมาเป็น เยี่ยน หัวเซ่อฯม่มีชื่อ
ในสายของวันที่อากาศสดใส กับกลิ่นสะอาดจางๆ ของน้ำยาฆ่าเชื้อปะปนกับกลิ่นของดอกลิลลี่ขาวอ่อน ๆ จากเครื่องฟอกอากาศที่ส่งกลิ่นกำจายออกมาอย่าง แผ่วเบาตลอดทางตามโถงทางเดินยาวของหลงหม่าจินเสิน อาคารสูงแห่งนี้คือสถานพักฟื้นสำหรับผู้สูงวัยที่ได้ชื่อว่าหรูหราที่สุดในเมืองซี กระจกใสขนาดใหญ่ตามอาคารสะท้อนแสงอาทิตย์จากยามเช้าอุ่น ๆ แต่กลับไม่อาจทำให้บรรยากาศเย็นเยียบในใจของชายหนุ่มร่างสูงโปร่งคลายลงได้เยี่ยนหานลี่ ที่เกิดมาอยู่ในตระกูลอัลฟ่าระดับเอสบวกผู้ทรงอิทธิพลและเป็นทายาทเพียงคนเดียวที่นั่งตำแหน่งประธานบริหาร เยี่ยนหัวเซ่อ เมดิคัลแอนด์แวคซีนเซนเตอร์ กลุ่มธุรกิจยักษ์ใหญ่ด้านการแพทย์และวัคซีนที่แผ่อิทธิพลทั้งในประเทศและต่างประเทศ บริษัท เยี่ยนหัวเซ่อ เมดิคัลแอนด์แวคซีนเซนเตอร์ เยี่ยนหัวเซ่อฯ บริษัทยักษ์ใหญ่ผู้นำทางด้านเทคโนโลยีทางการแพทย์ นั้นถูกก่อตั้งขึ้นโดยตระกูลเยี่ยนซึ่งมีสายสัมพันธ์แน่นแฟ้นกับหน่วยงานทางภาครัฐและราชการรวมไปถึงมีเครือข่ายทุนระดับโลกที่คอยสนับสนุน จุดเริ่มต้นนั้นก็มาจากห้องวิจัยที่โอ่อ่าทันสมัยและได้มาตรฐานรับรองจากหน่วยงานของรัฐ นับได้ว่าเป็นอันดับหนึ่งด้านภูมิคุ้มกันและชีวะเวชศาสตร์เมื่อหลายสิบปีก่อน จนกลายเป็นหนึ่งใน กลุ่มธุรกิจการแพทย์และวัคซีนที่ทรงอิทธิพลที่สุดในภูมิภาคเอเชีย โดยมีโครงสร้างธุรกิจหลักของบริษัทที่ประกอบด้วยหลายฝ่ายดังนี้ ฝ่ายวิจัยและพัฒนาวัคซีน (R&D) มีศูนย์กลางที่ หลงหม่าจินเสิน เป็นแหล่งทดลองและผลิตวัคซีนระดับนาโนโมเลกุลโดยเฉพาะมีงานวิจัยบางส่วนเกี่ยวพันโดยตรงกับ พันธุกรรมอัลฟ่า–โอเมก้า และการควบคุม/ปรับเปลี่ยนการหลั่งฟีโรโมนส์ ซึ่งถือเป็นความลับเชิงกลยุทธ์ ฝ่ายปฏิบัติการอยู่ในหน่วยความรับผิดชอบของโรงพยาบาลและเครือข่ายการแพทย์ บริหารโรงพยาบาลเอกชนหลายแห่ง ทั้งในประเทศและต่างประเทศมีแพทย์เฉพาะทางชั้นนำด้านพันธุศาสตร์ และพันธุกรรมในการพัฒนาโครงการวิจัยเด็กหลอดแก้ว คลินิกสำหรับผู้มีปัญหาด้านรัท–ฮีท ออกใบรับรองสถานะด้วยเครื่องตรวจอันทันสมัยและได้ผลที่แม่นยำที่สุด และรวมไปถึงแผนกรักษาโอเมก้าแฝงอย่างอีนิกม่า ที่ปกปิดเป็นความลับสุดยอด โดยในส่วนของฝ่ายการลงทุนและพันธมิตรกับต่างประเทศมีการร่วมทุนกับบริษัทยาข้ามชาติ และกองทุนวิจัยทางพันธุกรรมในยุโรป–อเมริกา รายงานการเงินที่เปิดเผยในที่ประชุมบอร์ดบริหารที่ผ่านมานั้นดูเหมือนมุ่งเน้นการพัฒนาวัคซีนทั่วไป แต่ในความเป็นจริงนั้นงบลับจำนวนมหาศาลถูกทุ่มเข้าสู่ “โครงการพันธุกรรม” ที่เกี่ยวพันกับสายเลือดของอัลฟ่า–โอเมก้าโดยตรง ภาพลักษณ์ที่เผยแพร่สู่สาธารณะของ บริษัท เยี่ยนหัวเซ่อฯ นั้นถูกมองว่าเป็น “ความหวัง” ของวงการแพทย์ ด้วยการผลิตวัคซีนที่ช่วยป้องกันโรคอุบัติใหม่ร้ายแรง ส่วนด้านการโปรโมทและการประชาสัมพันธ์ที่บริษัทฯมักจะมุ่งเน้นความห่วงใยต่อชีวิตมนุษย์ และการเป็นองค์กรที่ “ยืนอยู่เคียงข้างสังคม” แต่คล้ายกับยังมีเงามืดอยู่เบื้องหลังภายในองค์กรของบริษัท เยี่ยน หัวเซ่อฯเองก็ยังมีการแบ่งฝ่ายอำนาจระหว่างตระกูลเยี่ยนรุ่นเก่า กับคณะกรรมการผู้ถือหุ้นรุ่นใหม่อยู่ นั่นเป็นอีกหนึ่งปัญหาที่ หานลี่จะต้องเร่งดำเนินการจัดการ ทำให้สองฝ่ายอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุขภายใต้ เยี่ยนหัวเซ่อฯให้ได้ ในส่วนของ “โครงการพันธุกรรม” ที่แท้จริงเกี่ยวข้องกับการทดลองสร้าง อัล ฟ่าระดับเอสบวก และ การกดกลไกโอเมก้าแฝง เพื่อใช้เป็นอาวุธเชิงเศรษฐกิจและการเมือง จนมีข่าวลือว่าหลายเคสผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษา “สูญหาย” หรือถูกปกปิดผลข้างเคียงอย่างเป็นระบบอิทธิพลต่อสังคม ในด้านการเมือง เศรษฐกิจ และวงการของนักวิชาการ ล้วนถูกแผ่อำนาจของเยี่ยนหัวเซ่อฯ ครอบคลุม เหล่านักวิจัยรวมไปถึงนักวิชาการและสื่อหลายรายที่พยายามเปิดโปงกลับ “หายไป” หรือถูกซื้อขาดความเงียบ สกุลเยี่ยนที่ในเวลานี้ มีเพียงเขาเหยี่ยน หานลี่ผู้เดียวที่ แบกรับภาระหน้าที่ด้วยสองไหล่ที่จะนำพาองค์กรของเขาให้หยัดยืนในระดับนานาประเทศอย่างยั่งยืนสืบไป วันนี้เขามาที่นี่เพื่อเยี่ยม เยี่ยนจวินหาวบิดาผู้ล้มป่วยด้วยอาการของต่อมไร้ท่อฟีโรโมนเสียหายและฉีกขาดจนต้องพักรักษาในห้องพิเศษชั้นบน สุดบิดาของเขาผู้ที่ครั้งหนึ่งเคยกำหนดชะตาชีวิตของเขา บิดาผู้นี้ผู้ที่อาจกำลังซ่อนความลับบางอย่าง ซึ่งเกี่ยวพันกับสายเลือดและตำแหน่งผู้สืบทอด ตั้งแต่หานลี่จำความได้เขาก็เริ่มรู้สึกว่าตนนั้นไม่เหมือนเด็กคนอื่นในตระ กูลเยี่ยนแม้เขาจะถูกเลี้ยงดูในคฤหาสน์ใหญ่โตของท่านประธานจวินหาน อัลฟ่าระดับเอสบวกที่เข้มงวดและทรงอำนาจ แต่ทว่าเรื่องราวของมารดาของเขากลับถูกบิดาปิดเงียบ ไม่มีแม้กระ ทั่งภาพถ่าย ไม่มีแม้หลักฐานใดๆ สักชิ้นที่แสดงถึงการมีอยู่ของมารดาเขา มีเพียงเสียงกระซิบที่แว่วดังเข้าหูเด็กชายอยู่เสมอว่า “เยี่ยน หานลี่เด็กคนนี้… ไม่เหมือนใคร” แม้ว่าความทรงจำของเขาเกี่ยวกับมารดาจะพร่าเลือน แต่ในห้วงความคิดลึกๆ หานลี่กลับจำได้ถึง กลิ่นหอมจางๆ คล้ายกับกลิ่นของดอกโบตั๋นในยามค่ำคืน มีอยู่ครั้งหนึ่งเมื่อเขาอายุราวห้าขวบ เขาเคยสะดุ้งตื่นขึ้นมากลางดึกและเห็นเงารางเลือนของผู้หญิงนั่งอยู่ริมเตียง เธอค่อยๆ เอื้อมมือมาลูบศีรษะเขา เสียงกระซิบอ่อนโยนแผ่วเบา “ลี่เอ๋อร์…เด็กดี ลูกเป็นเลือดเนื้อของแม่ อย่าปล่อยให้ใครมาทำร้ายลูกได้” เจ้าของเสียงกระซิบอ่อนโยนนั้นยกยิ้มส่งให้เขาอย่างอบอุ่น ในตอนเช้าวันรุ่งขึ้นไม่มีใครพูดถึงเรื่องนั้น และเมื่อเขาถามหามารดาเยี่ยนจวินหานผู้เป็นบิดาก็เพียงตอบด้วยแววตาเย็นชา “อย่าเอ่ยชื่อนั้นอีก” ตลอดชีวิตที่ผ่านมาของหานลี่ ชายหนุ่มไม่เคยเห็นภาพถ่ายหรือหลักฐานยืนยันการมีอยู่ของผู้หญิงคนนั้นเลย มีเพียงกลิ่นโบตั๋วในความทรงจำที่ยังหลงเหลือเป็นร่องรอยผลกระทบต่อบุคลิกปัจจุบัน กับบททดสอบต่างที่ผ่านมาทั้งหมดนี้ผ่านวันเวลาที่เคี่ยวกรำเขาจะทำให้หานลี่กลายเป็นบุรุษที่มีองคาพยพสง่างามผู้เงียบขรึม นิ่งเฉย แต่ทรงพลังเขามักระมัดระวังไม่ให้ใครเข้าถึงตัวตนลึกๆ ได้ง่ายมีความสามารถกดฟีโรโมนส์ตัวเองให้นิ่งสนิท ราวกับกำแพงที่ไม่มีใครมองทะลุและในใจลึกๆ ยังแบกความลังเลต่อ “ชาติกำเนิดที่คลุมเครือ” ของตน จนในบางครั้ง… เมื่อเขาได้กลิ่นของดอกโบตั๋นจางๆ จากที่ใดที่หนึ่ง เขาก็มักจะหยุดชะงักงัน แล้วอยู่ๆหัวใจของเขาก็เต้นแรงโดยไม่รู้เหตุผล เหมือนความลับในอดีตกำลังค่อยๆ ไล่ตามเขามาใกล้ทีละน้อย ตั้งแต่เขาอายุยังไม่ถึงสิบขวบ ร่างกายของหานลี่ก็แสดงและส่งสัญญาณแปลกประหลาด เขาสามารถทนต่อกลิ่นฟีโรโมนส์ที่รุนแรงได้โดยไม่สั่นคลอน และในบางครั้งกลับเป็นฝ่ายปล่อยแรงกดดันตอบกลับโดยไม่รู้ตัว ครูพี่เลี้ยงหลายคนถึงกับหน้าซีดเมื่อถูกสายตาเย็นเฉียบของเด็กชายวัยเพียงเจ็ดขวบจับจ้อง “คุณชายใหญ่ ไม่ใช่อัลฟ่าเด็กธรรมดา” หนึ่งในผู้ดูแลเขาเคยเอ่ยขึ้น ก่อนที่ผู้ดูแลเขาในตอนนั้นจะถูกสั่งย้ายออกไปในทันทีในช่วงวัยเรียนที่ผ่านมานั้น หานลี่แทบไม่เคยมีเพื่อนที่ยอมพูดคุยหรือเล่นเป็นเพื่อนเลย เขามักเงียบขรึมและสังเกตมองดูผู้คนรอบตัวอย่างสุขุมเกินวัยที่ควรจะเป็น ทางด้านครอบครัวสกุลเยี่ยนเองก็พยายามปิดข่าวว่าลูกชายคนโตอาจมี ระดับฟีโร โมนส์สูงผิดปรกติ แต่เมื่อใดก็ตามที่มีการทดสอบร่างกายตรวจสอบร่างกาย ผลที่ออกมากลับถูกปิดผนึกอยู่ในแฟ้มลับของตระกูลและแม้แต่จื่อเหนิงน้องชายร่วมสายเลือดในตอนนั้นก็ยังถูกกันให้ออกห่างจากความจริงนั้น มีเพียงเยี่ยนจวินหานบิดาผู้เงียบขรึมที่คอยเฝ้าดูหานลี่ค่อยๆเติบโตอยู่ห่างๆ ด้วยแววตาที่ซับซ้อน ในแววตาของเจ้าสกุล เยี่ยน สายตรงนั้นมีทั้งความภูมิใจและความหวาดหวั่นปะปนกัน ราวกับว่าความแข็งแกร่งที่มอบให้ลูกชายคนนี้อนาคตข้างหน้าจะกลายเป็นเงื่อนไขผูกมัดชะตาของตระกูลเยี่ยนไปตลอดกาล ในบางค่ำคืนที่ไร้แสงจันทร์สาดส่อง หานลี่ได้ยินเสียงกระซิบผ่านทางเดินยาวของคฤหาสน์ “เลือดของเขา… ไม่ควรมีอยู่บนโลกนี้” “แต่มันก็เป็นเลือดเดียวที่จะปกป้องเยี่ยน หัวเซ่อร์ฯได้” เด็กชายหานลี่ในตอนนั้นไม่เข้าใจถ้อยคำเหล่านั้นสักเท่าใด แต่ด้วยสัญชาตญาณบอกเขาว่า ชาติกำเนิดของตนไม่ได้บริสุทธิ์ตรงไปตรงมา และตั้งแต่นั้นมา หานลี่ก็ตัดสินใจ—เขาจะค้นหาความจริงด้วยตัวเอง ไม่ว่าความจริงนั้นจะโหดร้ายเพียงใด หานลี่เติบโตขึ้นจากท่ามกลางการ ถูกควบคุมและถูกเฝ้าจับตามอง มากกว่าการถูกรักใคร่ในแบบเด็กทั่วไป ตั้งแต่เขายังไม่ถึงสิบขวบ เด็กน้อยก็ถูกบังคับให้นั่งในห้องฝึกพิเศษ ห้องที่ถูกปิดผนึกด้วยแผ่นผนังกันฟีโรโมนส์ และภายในห้องนั้นยังมีอัลฟ่า-โอเมก้าที่ถูกจัดเตรียมไว้เพื่อ “ทดสอบการควบคุม” ของเขาไว้เป็นจำนวนมากอีกด้วย เหตุใดบิดาเขาจึงต้องทำเช่นนี้ เขาก็แค่เด็กที่อายุยังไม่ครบสิบขวบเลยด้วยซ้ำ เด็กน้อยได้แต่รำพึงอยู่ในใจ ก่อนจะสะดุ้งจากภวังค์เพราะเสียงที่ตนได้ยิน “หานลี่… เจ้าลูกชายจงอย่าปล่อยให้สัญชาตญาณดิบของตนครอบงำ” เสียงของบิดาเยี่ยนจวินหานดังขึ้นข้างหูทุกครั้งที่การฝึกเริ่มต้น

editor-pick
Dreame-Editor's pick

bc

30 Days to Freedom: Abandoned Luna is Secret Shadow King

read
307.5K
bc

Too Late for Regret

read
271.6K
bc

Just One Kiss, before divorcing me

read
1.6M
bc

Alpha's Regret: the Luna is Secret Heiress!

read
1.2M
bc

The Warrior's Broken Mate

read
135.8K
bc

The Lost Pack

read
374.6K
bc

Revenge, served in a black dress

read
144.1K

Scan code to download app

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook