[พี่ชาย]
.
.
.
มหาวิทยาลัย S
“วันนี้เราไปดริ้งค์กันไหมแก!” น้ำเสียงตื่นเต้นพร้อมใบหน้าสวยเอนมาหยุดลงตรงหน้า ฉันถอนใจเหนื่อยหน่ายพลางใช้นิ้วเรียวผลักหน้าสวยนั่นหลบไปจากหนังสือบนโต๊ะ เสียงพูดคุยของเหล่านักศึกษาปีสามดังจอแจขึ้นหลังจากอาจารย์ออกจากห้องไป รวมไปถึงเสียงเล็กใสของเพื่อนสาวคนสนิทเพียงคนเดียวของฉัน “พันเก้าจ๋า ไปดริ้งค์กันเหอะน๊า ๆ ๆ”
ก่อนอื่นฉันขอแนะนำตัวเลยแล้วกัน อย่างที่เห็น ๆ ชื่อของฉันคือ ‘พันเก้า’ ส่วนยัยตัวเล็กนี่ชื่อ ‘ไกอา’ เราสองคนเรียนอยู่คณะนิเทศศาสตร์สาขาวิชาการโฆษณาปีสามของมหาวิทยาลัย S สถาบันการศึกษาอันดับต้น ๆ ของเมืองไทย
“เฮ้ยแก... อย่าเงียบดิ” ไกอาทำหน้างอขณะเราสองคนกำลังเดินออกจากคณะ ยัยนี่ชอบเป็นแบบนี้ประจำแหละ ชอบบังคับให้ฉันพูด ทั้งที่ความเป็นจริงแล้วนิสัยฉันไม่ชอบพูด ชอบอยู่เงียบ ๆ ไม่ชอบวุ่นวายกับใคร
“...ไปไม่ได้” ฉันถอนใจอีกรอบ ยัยนี่ไม่เบื่อบ้างหรือไงกันนะ ชวนฉันไปเที่ยวได้ทุกวี่ทุกวันทั้งที่ก็รู้อยู่แก่ใจว่าฉันไปไม่ได้
“ทำไมอ่ะแก อีกแล้วนะ!” ท่าทางไม่พอใจนั่นไม่ได้ทำให้ฉันสนใจเลยสักนิด เพราะฉันเจอแบบนี้อยู่ทุกวันและทุกครั้งที่ไปเที่ยวกับมันไม่ได้ “เฮียไมล์อีกล่ะสิ เหอะ! ฉันล่ะเซ็งกับพี่ชายสุดที่รักของแกจริง ๆ เข้าใจนะว่ามีน้องสาวสวยแบบแกเนี่ยมันก็ต้องหวงเป็นธรรมดา แต่ไอ้หวงแบบมารับมาส่งตรงเวลาแถมไม่ให้ไปเที่ยวไหนอีกนี่มันไม่เกินไปหน่อยหรือวะ!”
ไกอาเดินไปบ่นไปยาวเหยียดสีหน้าบ่งบอกชัดเจนว่าไม่พอใจพี่ชายฉันเป็นอย่างมาก สิ่งที่ยัยนี่พูดมาถูกต้องทุกอย่าง ฉันมีพี่ชายหนึ่งคน หมอนั่นชื่อ 'พันไมล์' ฉันก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไรเขาถึงได้ห่วงและหวงฉันนักหนา คอยตามมารับมาส่งระหว่างคณะกับคอนโดของฉันทุกวัน
เขาทำแบบนี้ตั้งแต่ฉันก้าวเท้าเข้ามาเหยียบภายในรั้วมหาวิทยาลัยแห่งนี้แล้วล่ะ ตอนนั้นฉันเป็นน้องใหม่อยู่ปีหนึ่ง แถมยังได้รับเลือกเป็นดาวคณะอีกต่างหาก เขาจึงตามคุมฉันตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา แต่ถึงจะอย่างนั้นมันก็ต้องมีบางวันที่เขาไม่ว่างล่ะนะ วันไหนเขาไม่ว่างก็จะส่งเพื่อนสนิทของเขามาแทน น่ารักไหมล่ะพี่ชายฉัน น่ารักมากกก(กัดฟัน)
“ช่างเขาเถอะน่า ฉันไม่ได้เดือดร้อนอะไรอยู่แล้ว”
“แต่ฉันเดือดร้อนยะ!” ไกอาส่งค้อนขวับทำปากยื่นบ่นกระปอดกระแปด ความจริงฉันรู้สึกเฉย ๆ นะกับเรื่องนี้ เพราะปกติไม่ชอบเที่ยวอยู่แล้ว บอกแล้วไง ฉันน่ะ! ชอบอยู่เงียบ ๆ คนเดียว อีกอย่างนะ มีคนมารับมาส่งแบบนี้นะสบายจะตาย ไม่ต้องเดินทางเองแถมวันไหนที่เฮียไม่ว่างฉันยังได้เจอ 'เขา’ อีกต่างหาก ยัยเพื่อนรักส่งสายตาจับผิดเมื่อเห็นฉันอมยิ้มน้อย ๆ “เชอะ! ที่แกไม่เดือดร้อนเพราะได้เจอคนบางคนบ่อย ๆ น่ะสิ!”
เมื่อนึกขึ้นได้ว่ากำลังเผลอยิ้มจนเพื่อนรักจับได้ ฉันก็รีบปรับสีหน้าเป็นปกติ คิดถึงเขาทีไรหัวใจฉันเต้นแรงทุกทีสิน่า...
ไลน์!
.
PANMILE : อยู่หน้าคณะแล้ว อย่าต้องให้รอ!
.
โทรศัพท์ในมือถูกหย่อนลงกระเป๋าหลังจากเปิดอ่านข้อความสนทนาจากพี่ชายร่วมสายเลือด เสียงจิ๊จ๊ะขัดใจดังขึ้นข้างตัว ไม่ต้องมองก็รู้ว่ายัยเพื่อนรักกำลังทำสีหน้าแบบไหน
เราสองคนเดินมาถึงลานจอดรถหน้าคณะในเวลาต่อมา สายตาฉันหยุดอยู่ที่ผู้ชายร่างสูงโปร่ง เขามีใบหน้าหล่อเหลาและดวงตาสีน้ำตาลเหมือนกับฉันนั้นถูกปิดบังไว้ด้วยแว่นกันแดดสีดำ ริมฝีปากหนาพ่นควันสีขาวขึ้นท้องฟ้า นิ้วเรียวคีบบุหรี่ค้างไว้ตรงหน้า ผมสีน้ำตาลธรรมชาติสีเดียวกับผมของฉันสะท้อนรับแสงแดด
พูดได้อย่างเต็มปากเลยว่าพี่ชายของฉันโคตรจะฮอตในหมู่สาว ๆ เลย ถึงแม้ชุดนักศึกษาของเขาจะอยู่ในสภาพยับเยิน แต่มันกลับยิ่งทำให้ลุคเขาดูหล่อร้ายขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ เนี่ยน่ะ! เพลย์บอยตัวฉกาจเลยนะ!
“ฉันไปก่อนดีกว่า ไว้โทรหาแล้วกันนะ” ไกอาพูดด้วยสีหน้าไม่ชอบใจ สายตาจับจ้องไปทางร่างสูงตรงหน้าที่กำลังมองมาทางเราสองคนเช่นกัน แต่สายตาเขาไม่ได้มองฉันนะ มันหยุดอยู่ที่ยัยตัวเล็กข้างฉันต่างหากล่ะ มันเป็นเรื่องปกติไปซะแล้วสำหรับคู่นี้ ฉันไม่เคยสังเกตเลยว่าพี่ชายกับเพื่อนสนิทของฉันไปผิดใจกันตอนไหน มาสังเกตจริง ๆ จัง ๆ อีกทีก็ช่วงหลายเดือนที่ผ่านมานี่แหละ ก่อนหน้านี้ทั้งคู่ก็แค่ทำเฉยใส่กัน ต่างคนต่างอยู่ แต่ตอนนี้นี่สิ... สายตาฟาดฟันกันมาก
“อืม... กลับบ้านดี ๆ ล่ะ” ยัยนั่นพยักหน้ารับแล้วเดินหนีไปอีกทางเป็นจังหวะเดียวกับเฮียพันไมล์เดินเข้ามาพอดี เขามองร่างเล็กนั่นเงียบ ๆ แล้วหันมามองฉันด้วยสีหน้านิ่งเรียบผิดปกติ “อะไร?”
เขาคว้าแขนฉันแล้วลากไปทางรถสปอร์ตคันหรูโดยไม่พูดอะไรสักคำ ซึ่งมันผิดปกติกับนิสัยขี้บ่นของเขามาก เมื่อขึ้นมานั่งบนรถเรียบร้อย รถบีเอ็มสีดำรัตติกาลก็ทะยานไปข้างหน้าด้วยความเร็วสูงบ่งบอกถึงอารมณ์คุกรุ่นของคนขับเป็นอย่างดี ฉันจึงเลือกที่จะนั่งเงียบไปตลอดระหว่างทางไปคลับ แปลกใจอยู่ไม่น้อยที่เฮียพาฉันไปคลับเวลานี้ เพราะนี้มันเพิ่งจะห้าโมงเย็น หรือเขาจะลืมของไว้ที่นั่นน่ะ
อย่าลืมสิ... เขาเป็นหุ้นส่วนของคลับนั้นนะ