[หลบหน้า]
.
.
.
PANMILE : จะกลับห้องหรือยังหมวย?
: ทำไมไม่รับสายเฮียวะหมวย!
: จะกลับเมื่อไหร่ก็โทรมานะ เดี๋ยวเฮียไปรับ! ห้ามไปไหนคนเดียวเด็ดขาด!
.
ฉันเปิดข้อความสนทนาเกือบร้อยข้อความของเฮียไมล์ คำถามส่วนมากก็คงเป็นคำถามเดิม ๆ เวลาอยู่ในโหมดปกติเฮียจะเรียกฉันว่าหมวยเหมือนเตี่ยกับม้าตามประสาลูกหลานเชื้อสายจีน
ครอบครัวฉันประกอบธุรกิจเกี่ยวกับร้านอาหารจีนค่อนข้างโด่งดังในฮ่องกง มีสาขากว่าสิบประเทศทั่วโลก เตี่ยกับม้าจึงย้ายภูมิลำเนาไปประจำอยู่ที่ฮ่องกงเพื่อบริหารธุรกิจตั้งแต่ฉันเริ่มเข้ามหาวิทยาลัย นี่อาจเป็นหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เฮียไมล์ต้องคอยตามคุมฉันตลอด เพราะตอนนี้ที่เมืองไทยเหลือแค่เราสองคนแล้วไง นาน ๆ เตี่ยกับม้าจะโทรทางไกลมาหาสักที พวกท่านน่ะ ไม่เคยมีเวลาให้ลูก ๆ อย่างฉันกับเฮียหรอก
เฮ้อ... ดูเหมือนพวกเราเป็นเด็กบ้านแตกเลยเนอะ
Rrr…
ฉันสะดุ้งนิดหน่อยขณะปรายตามองหน้าจอโทรศัพท์ ถ้าเป็นเมื่อก่อนหัวใจฉันคงเต้นแรงจนเก็บอาการดีใจไว้ไม่อยู่ แต่ตอนนี้ฉันกลับรู้สึกปวดหนึบในใจแทน
ฉันกำลังพยายามตัดใจจากเขา... เพราะฉันเลิกกับเขาแล้ว
พูดง่ายแต่ทำยากชะมัด! การหักห้ามใจไม่ให้รับสายเขา ...มันช่างยากเย็นจริง ๆ
[-SILENT-]
“ใครโทรมาวะแก” ไกอาที่นั่งกดโทรศัพท์ในมืออยู่ชะโงกมาจ้องหน้าจอสว่างของโทรศัพท์ฉันแล้วขมวดคิ้วมุ่น “สุดที่รักแกอ่ะ ไม่รับล่ะ”
“ฉันไม่รู้จะคุยอะไรกับเขา” ตอบตามความจริง ตั้งแต่วันนั้น วันที่เฮียไมล์รู้ความจริงเรื่องของฉันกับเฮียไซแล้วฉันหมดสติไป ฉันตื่นขึ้นมาในตอนเช้าบนเตียงนอนในห้องห้องเดิมของเขา ห้องที่เขาเคยพาผู้หญิงมานอนจนนับไม่ถ้วน นึกถึงภาพนั้นแล้วเจ็บหัวใจชะมัด
“แก...” ไกอาวางโทรศัพท์ลงแล้วเอื้อมจับมือฉันพยายามจะปลอบใจ “ตอนนี้ไม่ต้องแอบคบกันแล้วนะเว้ย แกไม่ดีใจเหรอ?”
ฉันเคยบอกใช่ไหม ฉันไม่เคยมีความลับกับไกอา ยัยนี่รู้เรื่องระหว่างฉันกับเฮียไซมานานแล้ว ถึงแม้มันจะไม่ค่อยเห็นด้วยที่ฉันคบกับผู้ชายเย็นชาอย่างเขา แต่มันก็รู้ดีว่าฉันรักเขามากแค่ไหน
“ไม่รู้สิ.. มันไม่เหมือนเดิมแล้ว”
“อะไรล่ะที่มันไม่เหมือนเดิม” สายตาคาดคั้นของเพื่อนสนิททำให้ฉันอึดอึด “ปิดบังอะไรฉันอยู่หรือเปล่าวะ?”
ฉันไม่เคยมีความลับกับมัน... ยกเว้นเรื่องเดียว...
“บะ.. บ้าอะไรล่ะ!”
“ชัดเลยยยย” ยัยเพื่อนรักกระโดดดึ๋งมานั่งหันเข่าชนกันกับฉันในทันที ตอนนี้เรานั่งอยู่บนเตียงมันน่ะ อ้อ! ฉันลืมบอกไปว่าฉันอาศัยอยู่คอนโดไกอามาสามวันแล้ว สาเหตุก็เพราะต้องการหลบหน้าเฮียไมล์กับเฮียไซ อาจดูงี่เง่านะ แต่ฉันยังไม่พร้อมเจอใคร โดยเฉพาะเขา...
“อะไร...” ฉันหลบสายตาวูบ ไกอาเอียงคอมองสายตาจับผิดชัดเจน อย่ามากดดันทางสายตานะนังเพื่อนบ้า!
“เล่ามาเลยคุณเพื่อน หรือต้องให้ 'เหล้า' เข้าปากก่อน”
“หาว~ ง่วงจัง นอนดีกว่า” ไฟในห้องปิดลงด้วยฝีมือฉัน ก่อนเอนตัวลงนอน ยัยเพื่อนรักโวยวายทันที มันดึงผ้าห่มฉันอย่างไม่ยอมแพ้
“อย่ามาเนียนนะยัยบ้า ลุกขึ้นมาเลยยัยเก้า” มันเขย่าตัวฉันสักพักจึงถอนหายใจหนัก ๆ แล้วล้มตัวลงนอนข้าง ๆ ปากบ่นขมุบขมิบ “หัดมีความลับกับฉันนะ ชิ ๆ ๆ”
ขอโทษนะไกอา ฉันยังไม่พร้อมจะบอกตอนนี้จริง ๆ
.
.
.
มหาวิทยาลัย S
สุดท้ายฉันก็หลบหน้าเขาไม่สำเร็จ...
ดวงตาคมเข้มสีดำสนิทจับจ้องใบหน้าฉันมาเกือบสิบนาทีแล้ว เขายืนพิงกำแพงอาคารเรียนเงียบ ๆ ไม่ได้พูด ไม่ได้ถามอะไร คล้ายต้องการค้นหาอะไรบางอย่างจากฉัน แต่สิ่งหนึ่งที่ทำให้ฉันแปลกใจ... คือสายตาของเขา! มันแปลกไป...
“…” ฉันสบตากับเขาอีกครั้ง สายตาเย็นชาของเขาเปลี่ยนไป มันวูบไหวด้วยความรู้สึกอะไรบางอย่างจนหัวใจเต้นแรงกว่าทุกครั้ง ฉันจึงรีบหลุบตาลงมองปลายเท้าตัวเอง
ตอนนี้พวกเรายืนอยู่ข้างตึกคณะนิเทศฯ ฉันกับไกอากำลังจะกลับคอนโดของมัน แต่ดันมาเจอเฮียไซเรนท์ยืนอวดความหล่อให้สาว ๆ ในคณะฉันแอบกรี๊ด ตอนแรกตั้งใจจะเดินหนีเขาอยู่ แต่ติดตรงยัยตัวเล็กข้างฉันนี่สิที่รั้งเอาไว้ มันอยากให้ฉันเลิกหลบหน้าพวกเขาสักที
“เฮียมีอะไรจะคุยกับฉันหรือเปล่า?” ฉันถามด้วยน้ำเสียงปกติ ความจริงฉันเป็นคนเก็บความรู้สึกเก่งนะ ข้อดีของนิสัยฉันคือใบหน้านิ่ง ๆ นี่แหละ
“...อืม” เขาตอบสั้น ๆ ตามนิสัย ทำไมต้องรู้สึกประหม่าด้วยวะ! นิ่งไว้สิพันเก้า!
“พูดมาสิ ฉันจะได้รีบกลับ”
“…” มันอึดอัดนะ... ฉันเริ่มจะเกลียดความเงียบซะแล้วสิ!
“เฮีย...”
พรึ่บ
ความอบอุ่นกระจายไปทั่วร่างกายเมื่อผู้ชายตรงหน้าคว้าตัวฉันเข้าไปกอด เขากอดฉันแนบแน่น ราวกับต้องการส่งความรู้สึกของเขาผ่านการกระทำ เป็นครั้งแรกที่ฉันรู้สึกว่าอ้อมกอดของเขาอบอุ่น มันอบอุ่นไปถึงหัวใจที่กำลังจะแตกสลายของฉัน
“ฉัน.. ไม่สิ เฮีย” หัวใจฉันเต้นแรงจนกลัวเจ้าของอ้อมกอดจะได้ยิน น้ำเสียงนิ่งเรียบข้างหูลดความเย็นชาลงอย่างเห็นได้ชัด ฉันได้ยิน... เสียงหัวใจของเขา... เสียงหัวใจที่ฉันไม่เคยได้ยินจากเขามันกำลังเต้นแรง ถึงจะไม่แรงเท่าฉันก็เถอะ!
บ้าน่า... ฉันฝันอยู่หรือเปล่าวะ!
“…”
“เฮีย.. ขอโทษ” คำขอโทษแผ่วเบาจากเฮียไซดังก้องในสมองของฉัน เขาขอโทษฉันอย่างนั้นเหรอ...