ยัยตัวดีหลับไปแล้ว...
กะละมังใบเล็กถูกวางลงบนโต๊ะหัวเตียง ผ้าขนหนูชุ่มน้ำหมาด ๆ วางทาบบนหน้าผากเนียนใส ผมก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าจะสนใจยัยนี่ทำไม น่าจะปล่อยให้ไข้ขึ้นจนตายไปเลย!
แต่ถึงจะคิดแบบนั้นก็อดไม่ได้ที่จะใช้ผ้าผืนเล็กเช็ดไปตามพวงแก้มใสร้อนฉ่า ริมฝีปากสีแดงระเรื่อบวมช้ำเต็มไปด้วยรอยคมเขี้ยว ผมใช้ผ้าถูแรง ๆ อย่างหงุดหงิด และลากไล้ผ้าชื้น ๆ ลงตามลำคอขาวที่บัดนี้มีร่องรอยสีกุหลาบบ่งบอกว่าร่างกายนวลเนียนนี้ถูกตีตรามาอย่างสาหัสสากรรจ์
รอยมันน้อยไปเปล่าวะ!
ผมคิดพลางขมวดคิ้วมุ่น อยากทำรอยแม่งไว้เยอะ ๆ ให้เป็นรอยไปตลอดได้ยิ่งดี จะได้คอยตอกย้ำให้ยัยตัวดีสำนึกว่าเธอเป็นของใคร!
ความจริงพันเก้าเป็นของผมโดยสมบูรณ์นานแล้วล่ะ... เพราะความชะล่าใจของไอ้พวกเวรนั่น บวกกับความโง่เง่าของเธอที่เดินเข้ามาติดบ่วงของผมเอง ตลอดเวลาที่ผ่านมาไอ้พวกนั้นตามคุมยัยนี่ไม่ห่างทำให้ผมไม่สามารถเข้าถึงตัวเธอได้เลย พวกมันน่ะ! หวงยัยนี่ยิ่งกว่าไข่ในหินซะอีก
และเมื่อสบโอกาสที่เฝ้ารอมาหลายปี มีใครบ้างล่ะที่จะไม่ทำ แล้วคืนนั้นผมก็ไม่ได้ข่มขืนยัยนี่นะ! เธอเต็มใจพลีกายเป็นของผมเองต่างหาก...
โอเค... ยอมรับก็ได้ว่าผมเล่นสกปรกนิดหน่อย มันก็แค่ยาปลุกเซ็กส์ล่ะวะ ใคร ๆ ก็เคยใช้ป่ะ!
ผมเคลื่อนผ้าขนหนูลงเช็ดทั่วเนินอกขาวเด่น ร่างเปลือยเปล่าเต็มไปด้วยร่องรอยสีกุหลาบและคมเขี้ยวทำให้ผมรีบเบือนหน้าหนี
นี่กูโรคจิตหรือเปล่าวะแม่ง! เห็นร่องรอยเวร ๆ นี่แล้วเสือกของขึ้น!
พรึ่บ!
ผ้าห่มผืนหนาเลื่อนปิดรวดเร็วก่อนจะห้ามใจไม่อยู่ แค่สัมผัสร่างนวลเนียนนี่ไม่กี่ครั้งก็ทำให้ผมแทบจะคลั่งตาย หัวสมองมันคอยแต่จะนึกถึงเหตุการณ์คืนนั้นตลอดเวลา ค่ำคืนเร่าร้อนระหว่างผมกับพันเก้า…
หนึ่งเดือนก่อน
‘อย่า... นะ... ไอ้ชั่ว... พวกแก...’ เสียงหวานอ้อแอ้ดังขึ้น สองมือพยายามปัดป้องมือหนาของผู้ชายร่างสูงสองคนที่ยืนล้อมหน้าล้อมหลังเธอไว้ให้ออกจากร่างกายของเธอ ‘ออกปายย ปายเด้ไอ้เวร!’
รอยยิ้มเย็น ๆ ปรากฏขึ้นบนใบหน้ามาดร้ายของผมที่กำลังยืนมองด้วยความสมเพช เมาขนาดนี้ยังไม่วายปากดีได้อีก ฮึ! สมแล้วที่เป็นน้องสาวไอ้เวรนั่น ผมยืนนิ่งปล่อยให้ไอ้ผู้ชายสองคนนั้นลูบคลำร่างบางตามใจชอบพลางยกบุหรี่ขึ้นสูบอย่างใจเย็น
‘อย่าเล่นตัวเลยน่าคนสวย ดื่มเข้าไปอีกสิ ดื่มเยอะ ๆ เลย รับรองคืนนี้เธอได้ขึ้นสวรรค์เป็นสิบรอบ’
‘ฮ่า ๆ’ เสียงหัวเราะชอบใจดังขึ้นพร้อมกันขณะริมฝีปากบางร้องอู้อี้ เพราะโดนมือหนาบีบปลายคางบังคับให้กลืนของเหลวสีอำพันลงคอ
‘แค่ก ๆ! พะ.. พอแล้ว’ มือบางปัดป้องแต่ยังไม่วายตะโกนด่าสาปแช่ง ‘ปายตายซ๊า อ้ายพวกสารเลวว’
บุหรี่ในมือถูกโยนลงพื้นแล้วเหยียบขยี้หนัก ๆ ด้วยปลายเท้า ก่อนจะเดินเข้าไปทางร่างบางที่เริ่มเมาจนพูดจาไม่รู้เรื่อง ไอ้เวรสองคนนั้นมองหน้าผมยิ้ม ๆ แล้วผละมือออกจากเธอ แต่พวกมันยังไม่วายส่งสายตาเสียดายมาให้ยัยขี้เมาแสนสวยตรงหน้า
ตึง!
เสียงถีบโต๊ะดังลั่นทำให้มันสองตัวหันมายิ้มแหย ๆ ให้ผมอีกครั้งแล้วรีบเดินออกไป ผมปรายตากลับมามองใบหน้าสวยชื้นเหงื่อที่เริ่มโอนเอนร่างไปมาเหมือนจะล้มก็ไม่ล้ม ขัดหูขัดตาจนต้องคว้าข้อมือเล็กให้เข้ามาใกล้
‘อ๊ะ...’ ใบหน้าสวยซบลงบนแผ่นอกแกร่งขณะร่างกายเริ่มสั่นสะท้าน ลมหายใจอุ่นร้อนของพันเก้ากระชั้นถี่ขึ้น มือข้างที่ไม่โดนจับสัมผัสลูบไล้กล้ามแขนของผมอย่างร้อนรน...
ยานั่น... ออกฤทธิ์แล้วสินะ
‘ร้อนนน อื้ออ ร้อนจางงง’ เสียงหวานพึมพำร่างกายซวนเซไร้เรี่ยวแรงที่จะยืน ผมช้อนร่างยัยขี้เมาขึ้นไว้ในอ้อมแขนพลางสาวเท้าเดินไปที่รถ ตลอดทางพันเก้าเอาแต่พึมพำว่าร้อน ฝ่ามือเล็กลูบคลำแผงอกเร่งเร้าจนผมต้องกัดฟันแน่น
‘ยั่วนักนะยัยตัวดี! เดี๋ยวจะเอาให้หมดแรงยั่วเลยคอยดู!’
‘ปายหนาย อื้ออ’ ผมกดจูบหนัก ๆ หนึ่งทีเมื่อยัยขี้ยั่วถามขึ้นตอนวางเธอลงบนเบาะรถ ริมฝีปากเล็กคล้ายจะต่อต้านในตอนแรกแล้วเปลี่ยนมาตอบรับอย่างเงอะงะจนผมต้องรีบถอนริมฝีปากออก เพราะมือเล็กพยายามดึงทึ้งเสื้อแถมล้วงฝ่ามือร้อนเข้ามาสัมผัสแผงอกแน่นของผมอีก
ให้ตาย! ยั่วขนาดนี้เดี๋ยวจับกดแม่งในรถเลย!
ปัง!
ผมสบถออกมาอย่างหงุดหงิดรีบปิดประตูฝั่งเธอแล้วเดินอ้อมมาขึ้นฝั่งคนขับ พอขึ้นมานั่งบนรถก็แทบสติแตกเมื่อยัยขี้เมาข้างกายฉีกทึ้งเสื้อตัวบางของตัวเองจนเห็นผิวเนื้อขาวเนียนที่เหลือเพียงบราเซียสีดำปกปิดไว้ ริมฝีปากบางพร่ำว่าร้อนบ้าง อึดอัดบ้าง ผมนี่เหยียบคันเร่งแทบมิด!
ไอ้นำทัพเอ๊ย! มึงเป็นห่าอะไรเนี่ย! โดนยัยนี่ยั่วแค่นี้ถึงกับเสียการควบคุม หึ้ย!