บทที่ 2 (1/2) : ข้าขอเถิดนะ (1) ( มี nc นิด ๆ นะเจ้าคะ)

1078 Words
อวิ่นเฟยหยวนหรี่ตาขึ้นมอง เมื่อรับรู้ได้ถึงอาการสั่นไหวเพิ่มขึ้นของร่างบาง พอเห็นว่าอีกฝ่ายยังคงหลับตา เขาจึงตัดสินใจจับมือทั้งสองข้างของอวิ่นซงถิงขึ้นมาโอบรอบคอ แล้วอุ้มนางขึ้นนั่งบนโต๊ะ โดยที่ริมฝีปากของเขายังคงไม่ผละออกจากริมฝีปากของนาง หลังจากนั้นอวิ่นเฟยหยวนก็ขบเม้มริมฝีปากอิ่มทั้งบน และล่าง เรียวลิ้นร้ายปาดเลียไปตามรอยแยก ระหว่างนั้นฝ่ามือหนาก็ยกขึ้นมาแตะเบา ๆ ที่ปลายคาง แล้วใช้ปลายนิ้วโป้งกับปลายนิ้วชี้บีบพวงแก้มนุ่ม จนริมฝีปากอิ่มเผยอออก เรียวลิ้นร้ายที่ตามไล้เลียอยู่ไม่ห่าง พอสบโอกาสก็รีบสอดแทรกเข้าไปฉกชิมความหอมหวาน และไล่เกี่ยวรัดลิ้นเล็ก ๆ ของร่างบาง “อื้อ...” อวิ่นซงถิงครางประท้วง พร้อมกับลดมือทั้งสองข้างลงมาทุบเบา ๆ ที่แผงอกกว้าง นางกำลังจะขาดอากาศหายใจ อวิ่นเฟยหยวนก็ยอมผละริมฝีปากออกให้เล็กน้อย แต่ทว่าเพียงไม่นานก็ทาบทับริมฝีปากบางกลับลงมา จุมพิตครั้งนี้เร่าร้อนขึ้นกว่าเดิมมาก ริมฝีปากของอวิ่นซงถิงถูกดูดดึงไม่หนักไม่เบา เรียวลิ้นร้ายของอีกฝ่ายกวาดต้อนไปทั่วโพรงปากอย่างอุกอาจ จากนั้นก็ตามพัวพันหยอกเย้าลิ้นเล็ก ๆ ของนาง ฉับพลันเสียงคล้ายกับคนปาหินก้อนเล็กใส่ฝาไม้ด้านข้างของเรือนก็ดังขึ้นติดต่อกันถึงสามครั้ง!! เมื่อได้ยินเสียงสัญญาณจากอาต้าน อวิ่นเฟยหยวนก็รีบผละริมฝีปากออกด้วยความรู้สึกเสียดาย เขาก้มมองดวงหน้างามที่แดงก่ำ มองริมฝีปากอิ่มที่ฉ่ำวาวตรงหน้าอย่างหลงใหล ก่อนจะรีบเบือนหน้าหนีไปอีกทาง จากนั้นก็สูดลมหายใจเข้าออกลึก ๆ เพื่อระงับอารมณ์ที่กำลังพลุ่งพล่าน พอสงบใจได้ อวิ่นเฟยหยวนก็คลายอ้อมแขน แล้วก้าวเท้าออกไปดูว่า ผู้ใดกันที่เดินเข้ามาใกล้เรือนร้างหลังนี้ เพราะการที่อาต้านไม่ใช้อุบายไล่คนผู้นั้นให้ออกห่าง หรือไล่ต้อนคนผู้นั้นให้เดินไปอีกทาง แต่เลือกส่งสัญญาณบอกเขาเช่นนี้ ย่อมเป็นไปได้เกินแปดในสิบส่วนเลยว่า คนผู้นั้นจะต้องเป็นเจ้านายสักคนในจวนแห่งนี้ แต่ยังไม่ทันที่อวิ่นเฟยหยวนจะได้ก้าวเดินไปจนถึงประตูห้อง เสียงพูดคุยของผู้มาใหม่ก็ทำให้เขาหยุดชะงัก แล้วรีบหันหลังกระโจนเข้าไปรวบร่างอวิ่นซงถิงเข้ามาในอ้อมแขน จากนั้นก็พุ่งแทรกกายเข้าไปใต้เตียง เพื่อหลบซ่อน “พี่ชายทำ...” อวิ่นซงถิงถามยังไม่ทันจบ อีกฝ่ายก็กดศีรษะของนางแนบเข้ากับแผงอก แล้วก้มลงมากระซิบเบา ๆ ที่ข้างหูว่า “ชู่ว์ อยู่เงียบ ๆ นิ่ง ๆ ก่อนนะคนดี” ลมหายใจอุ่นร้อนของฝ่ายตรงข้ามเป่ารดลงมาที่ข้างแก้มขวา อวิ่นซงถิงรีบซุกใบหน้าลงไปที่แผงอกกว้าง แล้วเมื่อรับรู้ได้ว่า ร่างกายของนางกับร่างกายของอวิ่นเฟยหยวนใกล้ชิดแนบสนิท โดยไม่มีส่วนใดเว้นวาง แม้ยามนี้จะมีเสื้อผ้าขวางกั้น แต่ทว่าสิ่งใหญ่โตแข็ง ๆ บางอย่าง มันกำลังแนบชิดอยู่ที่หน้าขาของนาง! อวิ่นซงถิงตัวแข็งทื่อ หัวใจของนางสั่นไหว แล้วในขณะนั้นนางก็ได้ยินเสียงเปิดปิดประตูห้อง ตามด้วยเสียงฝีเท้าไม่ต่ำกว่าสองคู่เดินเข้ามาใกล้บริเวณที่พวกนางกำลังซ่อนตัวอยู่ หลังจากนั้นอวิ่นซงถิงก็ได้ยินเสียงพูดคุยที่คุ้นหูดังขึ้นว่า “อาเฉียว ข้าคิดถึงเจ้ายิ่งนัก” “บ่าวก็คิดถึงนายท่านเจ้าค่ะ แต่...นี่ยังกลางวันอยู่เลยนะเจ้าคะ นายท่านเจ้าคะ! อย่า...อื้อ!” “ข้าหาได้สนเรื่องเวลาไม่ ข้าสนเพียงแค่...” “นายท่านเจ้าคะ บ่าวยังจะต้อง...อึก! นายท่าน...ตรงนั้น... อื้อ!!” ‘เสียงท่านพ่อกับอาเฉียว!’ อวิ่นซงถิงตกตะลึง แม้นางจะรับรู้มาโดยตลอดว่า มารดายินยอมให้ผู้เป็นบิดามีอนุภรรยากับบ่าวอุ่นเตียงได้หลายคน ในวัยเด็กแม่นมก็เคยเล่าให้ฟังว่า ก่อนจะมีนาง...ผู้เป็นมารดาถึงขั้นเคยคัดเลือกบ่าวสตรีในเรือนขึ้นเตียงให้กับบิดาเดือนละคน แต่นางก็ไม่เคยคาดคิดเลยว่า แม้แต่อาเฉียว ซึ่งเป็นบ่าวรับใช้คนสนิทของนางก็เป็นหนึ่งในบ่าวอุ่นเตียงของบิดาด้วย เมื่อดึงสติของตนเองกลับมาได้ อวิ่นซงถิงจึงยกคอขึ้นเล็กน้อย แล้วเอี้ยวมองออกไปจากใต้เตียง ยามนี้นางเห็นเท้าของหนึ่งบุรุษหนึ่งสตรีค่อย ๆ ถอยใกล้เข้ามาราวกับว่า คนทั้งสองกำลังโอบกอดกันอยู่ จากนั้นเท้าทั้งสองคู่ก็มาหยุดอยู่ข้างหน้าเตียง แล้วทรุดตัวนั่งลงมา แล้วหลังจากนั้นอวิ่นซงถิงก็เห็นเสื้อผ้าของคนทั้งสองร่วงลงมาที่พื้นทีละชิ้นทีละชิ้น “นายท่านเจ้าคะ เตียง...เตียงหลังนี้มันจะ...อึก! อย่าเพิ่งเจ้าค่ะ นาย...นายท่านเจ้าคะ ได้โปรด...อื้อ! ได้โปรดหยุดฟังที่บ่าวพูดสักนิดเถิดเจ้าค่ะ คือ เตียงหลังนี้คราก่อนมันใกล้จะ...อ๊ะ! อื้อ!!” “หึ! เจ้ากลัวเตียงจะหักอยู่หรือ? ดูให้ดีสิ...นี่มันเตียงหลังใหม่ ข้าเพิ่งให้คนนำมาเปลี่ยนเมื่อเช้า อาเฉียว ยกสะโพกของเจ้าขึ้นมา” “นายท่านเจ้าคะ บ่าว... อ๊ะ! นายท่านตรงนั้นมัน...อึก! ได้โปรดช้าลงหน่อยเจ้าค่ะ ข้าใกล้จะ...อ๊ะ! อ้า!!” “อาถิงอยู่นิ่ง ๆ” อวิ่นซงถิงเมื่อได้ยินเสียงกระซิบเตือนจากบุรุษข้างกาย นางก็รีบหดคอกลับลงมา วันนี้มีเรื่องทำให้นางรู้สึกตกใจมากมาย จนตอนนี้นางแทบจะแยกแยะความรู้สึกของตนเองไม่ได้ แต่เอาเถิด! เรื่องอาเฉียวกับผู้เป็นบิดาหาใช่เรื่องที่นางจะสอดมือเข้าไปยุ่งเกี่ยวได้ แต่ทว่า... “อาเฉียว ขึ้นมานั่งคร่อมบนตัวข้า” “นายท่านเจ้าคะ อย่าเพิ่งใส่เข้ามา...อ๊ะ! มัน...อึก! อย่าเพิ่งขยับเจ้าค่ะ! บ่าว...อื้อ!!”  ....................................................................... ผู้เขียนขอขอบคุณทุกยอดวิว ยอดกดหัวใจ ยอดกดติดตาม และทุกข้อความของผู้อ่านทุกท่านมาก ๆ นะคะ ทุกยอดคือกำลังใจที่ดีมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆของผู้เขียนเลยค่ะ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD