บทที่ 2

1625 Words
“เอาล่ะตอนนี้พวกเราก็เห็นแล้วว่านางม่านที่ได้ตายลงไปครั้งหนึ่ง ทว่ากลับฟื้นคืนชีพขึ้นมาอีก เสี่ยวม่าน เจ้าพอจะจำอะไรได้บ้างรึไม่ เรื่องที่เกี่ยวกับตัวเจ้า” “ก็จำได้หลายอย่าง จำได้ว่าชอบกินไก่ทอด ชาบู หมูกระทะ น้ำปั่น.” “พอ ๆ เอาเป็นว่าข้าเข้าใจมันทั้งหมดแล้ว อาหมิงเอ๊ย! เมียเจ้านางเสียความเป็นตัวเองไปทั้งหมด นางเหมือนเด็กแรกเกิดที่ต้องสั่งสอนใหม่ เจ้าที่เป็นสามีของนางจงระมัดระวังดูแลนางให้ดี อย่าให้เผลอทำอะไรล่วงเกินคนจนเดือดร้อนผู้อื่นเข้า” “คนในหมู่บ้านอาจจะพอเข้าใจนางได้ แต่คนนอกที่เข้ามาเขาไม่รู้สาเหตุ อย่างไรช่วงนี้ก็เป็นช่วงเก็บเกี่ยวผลผลิต จะมีพ่อค้าและคนทั่วไปเข้ามาเจรจาซื้อขาย” “ข้าเข้าใจขอรับผู้อาวุโส ขอบคุณท่านกับพี่น้องทุกท่านมากที่เข้าใจ” “ไม่ต้อง ๆ พวกเรายินดีจะช่วยท่านเจ้าค่ะ โอ๊ย!” “จะทำอะไรห้ะอาเจิน! เมียเขาฟื้นขึ้นมาแล้ว เจ้ายังจะหน้าหนาจับมือสามีเขาอีก มานี่เลย หัดมียางอายเสียบ้าง” “พอแล้ว ๆ ข้ารู้แล้ว อย่าดึงหูข้าสิมันจะขาด” “ไม่ขาดหรอก หนังเจ้ามันหนาปานนี้ มากับข้าเดี๋ยวนี้เลย” นางเจินถูกคู่ปรับอย่างนางจวงพาออกไป ท่ามกลางเสียงหัวเราะขบขันของผู้คน สตรีสองนางแท้จริงเป็นสหายที่สนิทและเติบโตมาด้วยกัน จึงพูดจาด่าทอตักเตือนกันอย่างตรงไปตรงมา อีกทั้งพวกนางก็ขึ้นคานเป็นสาวทื่อเหมือนกัน ด้วยรูปลักษณ์ที่กรำแดดกร้านลมทำไร่ไถนาสู้พระอาทิตย์กับสายฝน ลมกระโชกแรง เพียงแต่คนหนึ่งขยันตั้งใจทำกิน แต่อีกคนคอยวิ่งไล่ตามสามีผู้อื่น ความต่างที่ลงตัวทำให้นางเจินมักจะถูกนางจวนตำหนิ หากถามว่านางเจินโกรธไหม คำตอบคือไม่ ไม่เข็ด “พวกข้าคงต้องกลับก่อน เจ้าสองคนก็อยู่กันดี ๆ” “ขอรับ” “นี่ ลุงเขาพูดแบบนี้หมายความว่ายังไง ที่ว่าฉันเอ๊ยข้าจะก่อเรื่อง” “เพราะเจ้าประหลาดอย่างไร” “ใครประหลาด เอะอะก็พูดว่าให้กัน จะไปไหน หยุดเดี๋ยวนี้เรายังคุยกันไม่จบเลย หยุดสิ” มะเหมี่ยวไม่เข้าใจ ทำไมคนที่นี่ถึงได้มองว่าตนจะเป็นฝ่ายสร้างปัญหา คนเขาออกจะเรียบร้อยใสซื่อไร้เดียงสา ทั้งยังบริสุทธิ์เหมือนเด็กสองขวบ พูดมาได้ยังไง ฮึ่ยขัดใจ! “นี่นาย หมายถึงเจ้านะ ตกลงแล้วข้าคือภรรยาของเจ้า ที่ป่วยจนตายจริงหรือ?” “ก็จริงนะสิ หาไม่แล้วข้าคงไม่ให้เจ้าอยู่ที่บ้านด้วยหรอก” “แหม ๆ ฟังจากคำพูดคำจาที่เหินห่างยังกับคนแปลกหน้า แสดงว่าที่ผ่านมาพวกเราไม่เคยรักกันเลยใช่มั้ย แล้วทำไมถึงได้แต่งงานกันได้” “เพราะข้าต้องรับผิดชอบเจ้า ถึงต้องแต่งด้วย” “รับผิดชอบ ไหนบอกว่าข้าไม่ถูกใจแล้วทำไมถึงปล้ำกันได้” “ปล้ำ?” “หมายถึง... กิจกรรมเข้าจังหวะแบบ อิ๊ ๆ อิ๊ ๆ ไง” “จะ เจ้า! อย่าร้องแบบนี้สิ ข้าขนลุก ที่บอกว่ารับผิดชอบคือเราพลัดตกลงไปในน้ำด้วยกัน สตรีเมื่ออยู่กับบุรุษแบบนั้นย่อมไม่อาจตกแต่งให้ผู้ใดได้อีก ไม่ใช่ว่าข้าจะหน้ามืดไปข่มขืนเจ้า แค่เห็นหน้าก็หดหมดสู้ไหวแล้ว” “โห! แรงอะ พูดแบบนี้ฆ่ากันให้ตายเลยดีกว่ามั้ย ถึงว่าเมียเจ้าจึงชิงตายหนีไปก่อน มีสามีปากจัดราวแม่ค้าในตลาด” “เฮ้! เจ้าอย่ามาเปรียบข้าเหมือนสตรีเช่นนี้ ที่ข้าพูดล้วนเป็นความจริง และเจ้าก็เป็นคนเอ่ยถามข้าเอง” “เหอะ! แล้วตกลงว่ายังไง” “ยังไง อะไรของเจ้าอีก” “ก็อยากรู้ว่าต่อไปต้องทำยังไง ที่นี่เขาใช้ชีวิตกันแบบไหน เจ้าทำงานอะไร ข้าเล่าต้องทำอย่างไร ทุกอย่างมันต้องเริ่มต้นใหม่ทั้งหมดเพราะข้าไม่รู้อะไรสักอย่างในโลกใบนี้” “เฮ้อ! เจ้านี่ไม่ได้ต่างจากเด็กทารก เหมือนอย่างที่ผู้อาวุโสบอกจริง ๆ ไม่รู้ก็ค่อยเป็นค่อยไป เดี๋ยวข้าจะบอกเจ้าเองว่าต้องทำอย่างไรบ้าง เริ่มจากการช่วยทำงานบ้าน เพราะเดิมหน้าที่ของเจ้าคือดูแลบ้านเท่านั้น ข้าไม่ได้ให้ภรรยาต้องออกไปทำงานหาเงินเหมือนผู้อื่น” แปะ ๆ! แปะ ๆ! “สุภาพบุรุษตัวจริง หาเลี้ยงเมีย” ถึงไม่รักไม่ชอบ แต่เขาก็ดูและภรรยาเป็นอย่างดี ไม่แย่ ๆ “แต่ถึงข้าจะไม่ให้เจ้าออกไปทำงาน แต่เจ้าก็ยังดิ้นรนออกไปทำนาอยู่ดี และก็ทำงานเหมือนคนบ้า ที่นาสี่สิบหมู่เจ้าทำมันคนเดียว ข้าห้ามอย่างไรก็ไม่ยอมฟังสุดท้ายถึงได้ผอมโซมีแต่หัว” “จริงดิ แปลกนะให้อยู่สบาย ๆ ไม่ชอบ แต่ชอบออกไปลำบาก มันผิดวิสัย มีอะไรที่บอกไม่หมดรึเปล่า” มะเหมี่ยวมองอาหมิงอย่างจับผิด ไม่เชื่อหรอกว่านี่จะเป็นสาเหตุการตายของเจ้าของร่าง มันต้องมีอะไรมากกว่านั้น “อะแฮ่ม! ที่จริงก็มี การที่เจ้าล้มป่วยไม่ใช่เพราะทำงานหนักอย่างเดียวแต่..” “เจ้าขาดหยาง” “ขาดหยาง?” มะเหมี่ยวครุ่นคิด ก่อนจะนึกได้ราง ๆ “อ๋อ หมายถึงพลังงานของฝั่งผู้ชายใช่รึเปล่า” “ใช่” หยินหยางคือการเปรียบธาตุของผู้หญิงกับผู้ชาย หยินคือผู้หญิง หยางจะเป็นผู้ชาย นายหน้าหล่อบอกว่านางม่านคนนี้ขาดหยางงั้นก็แสดงว่า. “เจ้าไม่ทำการบ้านจนเมียตายสินะ นี่อายุก็เพิ่งเท่าไรเองของเสื่อมแล้วหรือ” “เจ้าพูดบ้าอะไร! ของข้ายังดีอยู่แต่ที่ไม่ได้ทำให้เพราะเวลามองเจ้าอารมณ์ข้ามันหายหมดต่างหาก” “เพ้อเจ้อ จะบอกว่าเมียขี้เหร่จนมองหน้าแล้วหมดอารมณ์รึไง” “ข้าไม่ได้เพ้อเจ้อ หากเจ้าอยากรู้ก็ไปส่องเงาในน้ำดู จะได้รู้ว่าข้าไม่ได้พูดเกินจริง” “บ้าน่า อะไรจะขนาดนั้น มันจะมีด้วยหรือผู้หญิงที่น่าเกลียด จนมองแล้วไม่มีอารมณ์นะ” อาหมิงไม่พูดคำใดอีก เขายังมีงานต้องทำจึงเดินหนีนางไป อุตส่าห์ลางานมาจัดพิธีฝังศพให้เมีย ไม่เพียงตายแล้วฟื้นขึ้นมาได้ แต่ยังกลายเป็นคนเรื่องมากบ่นเก่ง หากรู้ว่านางจะเป็นแบบนี้ เขาจะตอกตะปูสองชั้นใส่โลงซ้อนอีกสี่โลง เอาให้ตายจริงไม่ต้องตื่นขึ้นมาป่วนอีกเลย “จะไปไหนอีกแล้ว เฮ้! ข้าถามเจ้าอยู่นะ” แต่เรียกไปก็เท่านั้นเขารีบออกไปจากบ้านทันที ทำให้มะเหมี่ยวบ่นออกมาอย่างไม่พอใจ “ตาบ้านี่ ทำหูทวนลมใส่กันอีก ชิ!” “แล้วยังไงต่อล่ะ มาโผล่ที่ไหนก็ไม่รู้ แต่ร่างนี้จะน่าเกลียดเหมือนที่เขาว่าจริงหรือ ไปหาน้ำส่องดูดีกว่า” ไม่มีกระจกก็ต้องใช้น้ำส่องเงา อยากจะเห็นหนังหน้าตัวเองเหมือนกัน ว่าทำไมสามีเจ้าของร่างถึงได้ไม่ชอบนางขนาดนั้น “โอ้แม่เจ้า! นี่มันหน้าคนหรือหุ่นขี้ผึ้งยุคดึกดำบรรพ์ ขี้เหร่กว่าลิงแก่ ๆ ในสวนสัตว์เสียอีก ถึงว่าตาหน้าหล่อเห็นแล้วจุ๊ดจู๋เหี่ยวจนทำการบ้านไม่ได้” มองเงาที่สะท้อนจากอ่างน้ำ แม้จะไม่ชัดเหมือนกระจกส่องแต่พอเห็นหน้าตัวเองในตอนนี้แล้วแทบจะหงายหลัง ไม่คิดว่าจะมีผู้หญิงที่หน้าตาย่ำแย่ขนาดนี้ด้วย “หรือเราจะอยู่ในยุคที่มีแต่คนหน้าตาดี ไม่สิตั้งแต่ลืมตามาโผล่ที่นี่ยังไม่เห็นคนที่หน้าตาแย่ขนาดนี้เลย” “อืมแต่เบ้าหน้าแบบนี้ยังได้สามีหล่อขนาดนั้น วาสนาไม่เลว เสียดายที่เขาไม่ปล่อยน้ำใส่นาให้ จนแม่นางม่านเฉาตายคาเครือ ไม่นะ! มะเหมี่ยวคนนี้จะไม่ยอมพลาดของแซ่บเด็ดขาด คนที่หล่อขนาดนี้เป็นของเราคนเดียวนะแค่คิดก็ฟินแล้วคิก ๆ” “ฮา แต่จะทำยังไงถึงจะฟื้นฟูสภาพร่างกายของร่างนี้ ให้สวยปิ้งเหมือนสาวในยุคของเราได้ ไม่ต้องสวยเหมือนนางแบบพริตตี้เงินล้านหรอก แค่สวยเหมือนเราในชีวิตก่อนก็ยังยากเลย” “โอ๊ยกลุ้ม!” “เปิดระบบ” “หือ? เสียงใคร” “คุณผู้ถูกเลือกได้เข้าสู่ระบบพัฒนาบุคลิกภาพด้านปรับปรุงจุดบกพร่อง หากต้องการใช้สิทธิ์นั้นกรุณายืนยันรับสิทธิ์ หากปฏิเสธรางวัลนี้จะหายไปและไม่อาจนำกลับมาใช้ได้อีก จะหมดเวลาใน สิบ” “เก้า” “แปด” “เจ็ด” “หก” “ห้า” “สี่” “สาม” “สอง” “หนึ่ง” “ยืนยัน!” ไม่เข้าใจว่าเสียงนั้นคืออะไร แต่เพื่อความสวยมะเหมี่ยวของใช้สิทธิ์ในวินาทีสุดท้าย “คุณผู้ถูกเลือกได้ยืนยันรับสิทธิ์ ของรางวัลจะถูกมอบให้ในอีกสองชั่วโมง เป็นเซตกู้หน้าโทรมและเซตขับสารพิษตกค้างกับเซตบำรุงผิว” “ทำไมนานจัง” “ตอบคำถาม เพราะสภาพที่ย่ำแย่ของผู้ถูกเลือกมันหนักหนาและสาหัสมาก ระบบจึงต้องใช้เวลานานในการจัดหาเครื่องสำอางกับผลิตภัณฑ์เหล่านั้น ระยะเวลาสองชั่วโมงถือว่าเร็วที่สุดกับความสามารถของระบบ” “...” ระบบนี่วอนทีนเสียแล้ว “คำเตือน อย่าแอบด่าหรือนินทาระบบในใจ ไม่อย่างนั้นจะยึดของรางวัลคืน” “เปล่า! ไม่เคยเลย” “โอเค รู้เรื่อง” “...”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD