บทที่ 3 สะกดรอยตาม(1)

1390 Words
[Part of Narnia]  10 ปีผ่านไป...มหาวิทยาลัย L “เนียร์ วันนี้ไปแดกชาบูด้วยกันไหม” ต้นกล้าเพื่อนชายที่สนิทที่สุดของฉัน เอ่ยชวนเมื่อพวกเราหลังเดินออกมาจากอาคารเรียนคลาสเรียนสุดท้ายของวัน “เนียร์ คณบดีให้มาตามอะ” เสียงธารน้ำดังมาจากข้างหลัง ธารน้ำเป็นเพื่อนสาวที่ฉันสนิทด้วยอีกคน ซึ่งหน้าตาเธอก็เหมือนกับต้นกล้าทุกมุมเว้นแต่เพศที่ไม่เหมือนกัน...ฉันมีเพื่อนเป็นฝาแฝด “เรื่องเดิมอีกแล้วแน่เลย พวกแกไปกินเลย ฉันต้องทำงานพิเศษเพิ่มวันนี้ไม่ว่าง” ฉันบ่นอิดออดบอกลาแฝดแล้วเดินกลับขึ้นไปชั้นสองของตึกคณะอีกครั้ง “ขออนุญาตค่ะ” ฉันเคาะประตูแล้วเปิดเข้าไปเจอกับคณบดีผู้แสนใจดีของคณะบริหาร คณบดีชัยชนะเขากำลังนั่งยิ้มรอฉันที่โต๊ะเหมือนรู้ว่าคนที่จะต้องเข้ามาเป็นฉันแน่ๆ “เป็นไงบ้างละเรา....อะนี่” คณบดียื่นซองสีขาวให้ฉันแล้วยิ้มให้อย่างเอ็นดู ฉันเปิดดูมันเป็นใบเสร็จค่าเทอม เทอมสุดท้ายของการเรียนมหาวิทยาลัยแห่งนี้ “เนียร์ บอกแล้วว่าเนียร์ไม่อยากรบกวน เดี๋ยวเนียร์จะรีบหาเงินมาจ่ายคืนสิ้นเดือนนี้นะคะ” “ไม่เป็นไรอาบอกแล้วว่าอาจะช่วย” “แต่เนียร์ไม่อยากให้คุณอามีปัญหากับคุณอาหญิง” คณบดีชัยชนะเป็นเพื่อนสนิทของแม่ฉัน แต่ฉันคิดว่าสำหรับแม่ แม่คิดกับเขาแค่เพื่อนสนิท แต่คุณอาคงเป็นเพื่อนสนิทที่คิดไม่ซื่อกับแม่ ฉันพอจะดูออกหรอก ก็เลยไม่อยากจะสนิทกับเพื่อนแม่คนนี้สักเท่าไหร่นัก ฉันไม่อยากมีปัญหากับครอบครัวของคุณอาเขาด้วย “เงินที่แม่เราทิ้งไว้ให้มันพอแค่ค่าเทอมเทอมที่แล้วไม่ใช่เหรอนาเนียร์ ไหนจะค่ากินค่าอยู่อีกให้อาช่วยเถอะ” ที่คุณอาชัยชนะพูดก็ถูกอีกตั้งแต่แม่เสีย ฉันก็หนีออกมาอยู่ตัวคนเดียวถาวรไม่กลับบ้านอีก จนมารู้ทีหลังจากงานศพของแม่ว่าบ้านที่อยู่มาตั้งแต่เด็กโดนลุงแท้ๆ ขายเอาเงินไปถลุงให้กับบ่อนการพนันจนไม่เหลือสักสตางค์เดียวส่งมาถึงฉัน “ขอบคุณนะคะ แต่หนูขอยืนยันว่าหนูจะหามาคืนคุณอาให้ได้ค่ะ” “ตามใจเราละกัน” “หนูขอตัวก่อนนะคะ...ขอบคุณอีกครั้งค่ะ...สวัสดีค่ะ” ฉันเดินออกจากห้องคณบดีแล้วตรงกลับหอพักทันทีเพื่อรีบเปลี่ยนเสื้อผ้าไปทำงานพิเศษต่อ ฉันเปลี่ยนเป็นกางเกงยีนขายาว รองเท้าผ้าใบและสวมเสื้อแจ็คเก็ตแขนยาวยูนิฟอร์มของบริษัทส่งอาหารเดลิเวอร์รี่เจ้าดัง “หนู..หนูจ๊ะ” ป้าเจ้าของหอเรียกฉันทันทีที่เห็นฉันเดินออกห้อง “คะ..ป้า” “นี้ใบเสร็จค่าเช่าห้อง ป้าจะเอาให้หลายวันแล้วแต่ไม่ทันเห็นจะสอดไว้ใต้ประตูก็กลัวไม่ถึงมือ” “ใครจ่ายให้หนูคะ” “เห็นบอกว่าเป็นเพื่อนสนิทหนูนะ” ฉันยกมือขอบคุณป้าดูแลหอและรับใบเสร็จนั้นไว้ รีบต่อสายหาแฝดคนน้องทันที “น้ำ...นี่แกจ่ายค่าห้องให้ฉันเหรอ” (ใช่ ฉันก็ไปนอนกะแกออกบ่อย ไม่เป็นไรเอาเถอะ..แกกำลังจะไปทำงานเหรอ) “อืม...ขอบใจนะไว้ฉันจะหามาคืน” (ไม่เป็นไร..แค่นี้ก่อนนะ) ธารน้ำวางสายทันทีที่พูดจบ หากจะต่อกลับไปธารน้ำก็คงไม่ยอมรับเงินจากฉันอยู่ดี ฉันรีบเอาโทรศัพท์ยืดติดกับแท่นวางตรงแฮนด์รถ บิดกุญแจสตาร์ทรถเริ่มออกทำงานเดลิเวอร์รี่ส่งอาหาร ฉันจะทำงานนี้ทุกวันหลังเลิกเรียนจนถึงเที่ยงคืนเป็นงานพิเศษ งานนี้พอทำให้ฉันมีค่ากินค่าอยู่ได้ดีเลยถ้าลุงตัวดีของฉันไม่ชอบมาปล้นเอาเงินของฉันไป วันนี้ออเดอร์ที่ได้ไม่เยอะเท่าที่ควรฉันจึงออกงานก่อนกำหนด แล้วกลับหอไปอาบน้ำนอนเพราะพรุ่งนี้มีเรียนเช้า พอถึงหอฉันก็รีบดับรถหน้าประตูหอแล้วจูงรถเข้าไปจอดในโรงรถ เพราะกลัวเสียงดังรบกวนเพื่อนร่วมหอพัก พอจอดรถเสร็จสรรพก็รีบหยิบกระเป๋าเก็บอาหารออกจากรถ แต่ก็มีเสียงคุ้นหูดังมาจากทางข้างหลังซะก่อนที่จะเดินขึ้นห้อง “อีเนียร์” “ลุง!! มาได้ไงเนี่ย” “ไม่ต้องถามมาก มีเงินให้กูยืมหน่อยไหม” “ไม่มี!” “แล้วที่คาดเอวมึงนั้นอะไร เร็ว! เอามาให้กูก่อน” ฉันยอมรับในความสามารถของลุงฉันเลย นี่ฉันเปลี่ยนหอแล้วยังจะตามมาเจอได้อีก แต่พอมาคิดๆ ดูแล้ว ฉันพลาดเองที่เคยให้ที่อยู่ใหม่กับป้าข้างบ้านเก่า เพราะกลัวจะมีเอกสารของแม่ที่เหลือส่งมา ฉันจึงขอรบกวนให้เขาส่งมาให้ฉันที่นี่แทน แต่ทำไมวันนี้ฉันรู้สึกว่าแกจะดูร้อนรนผิดปกติหน้าตาก็มีแต่รอยฟกช้ำเต็มไปหมด “เร็วๆซิอีเนียร์” ลุงย้ำอีกครั้งแล้ววิ่งเข้ามากระชากกระเป๋าคาดเอวของฉันออกแต่มันล็อกแน่นจนสายคาดมันบาดเอวฉันจนเจ็บ “โอ๊ยลุง!! ถ้าจะเอาเงินก็ออกไปคุยกันข้างนอกหอ มันรบกวนคนอื่น เดี๋ยวฉันให้” “เร็วๆ” ลุงเดินออกไปทันทีที่ฉันบอกฉันเดินตามไปอย่างช้าๆ ทำไมวันนี้แกดูร้อนรนและเร่งรีบจังนะ “กระทืบมัน!!” อยู่ๆผู้ชายสามคนใส่หมวกกันน็อกก็วิ่งออกจากมุมกำแพงข้างๆ หอพักแล้วตรงปรี่มาหาลุงของฉันทันที ตุบ ตับ ตุบ ตับ เสียงกระทืบเท้ารุมกระหน่ำที่คนแก่ ลุงนอนขดงออยู่ท่ามกลางดงตีนนั้น ฉันมองอย่างอึ้งๆแต่พอตั้งสติได้เลยรีบเข้าไปช่วยลุงทันที “โอ๊ย” ฉันโดนพวกมันผลักออกมาอย่างแรง ดีที่ใส่เสื้อแขนยาวกับกางเกงยีนเลยไม่เป็นอะไรมาก แค่มือถลอกเล็กน้อย “หยุดนะโว้ย!!” เสียงต้นกล้าดังจากทางข้างหลังฉัน ต้นกล้ายืนพิงรถหรูของมันอยู่ ข้างๆมีเพื่อนอีก 2 คน ซึ่งฉันไม่รู้จัก หนึ่งในนั้นกำลังเล็งปืนมาทางฉันกับพวกที่รุมกระทืบลุงของฉันอยู่ “เฮ้ย!! ปืน” ฉันตกใจตะโกนออกมา พวกมันจึงรีบวิ่งหนีไปอีกทาง “ลุง!! เป็นยังไงบ้าง?” ฉันรีบเข้าไปประคองลุงทันที “เป็นอะไรบ้างเปล่ามึง” ต้นกล้าเดินมาถามฉัน ฉันส่ายหน้าตอบแล้วก้มมองดูลุงตัวเองที่สลบไปแล้ว “รีบเรียกรถพยาบาลเถอะ ดูท่าลุงเพื่อนมึงไม่ไหวแล้ว” เพื่อนของต้นกล้าที่ถือปืนขู่พวกมันบอกให้ต้นกล้า ไม่นานก็มีรถพยาบาลมารับเรา ต้นกล้านั่งมากับฉันแล้วทิ้งรถให้เพื่อนขับตามมา “เพื่อนแกพกปืนด้วยเหรอ” ฉันกระซิบถามเสียงเบากลัวพี่พยาบาลที่นั่งมาด้วยได้ยิน “ของจริงที่ไหน” ต้นกล้าตอบแล้วเงียบไป ลุงฉันเข้าห้องฉุกเฉินทำแผลได้ไม่นานก็ฟื้น พอฟื้นปุ๊บก็ลุกขึ้นปั๊บ ฉันจึงเดินเข้าไปถามเรื่องราวทั้งหมดทันที “พวกมันเป็นใคร...เจ้าหนี้?” “เออดิวะ!” “จะรอให้ตัวเองตายก่อนไง..ถึงเลิกเล่น?” “มึงไม่ต้องมาสอนกูอีเนียร์” “ปากดีแบบนี้หายเจ็บแล้วใช่ไหม” “กูจะกลับบ้านแล้ว...ไปละ” ลุงฉันเดินลงจากเตียงแล้วเดินกะเผลกออกห้องฉุกเฉินไป เรียกแท็กซี่แล้วหายไปเลย ฉันก็เลยต้องไปเคลียร์ค่าใช้จ่ายให้ “มึงจ่ายแล้วเงินพอแดกเหรอ” ต้นกล้ายืนคุยอยู่ข้างหลังฉันด้วยท่าทางที่สุดจะกวน “ไม่มี” “กูจ่ายให้” “ไม่เอา...ตอนเช้าน้องแกก็จ่ายค่าหอให้ฉัน เข้าใจว่ารวยแต่ฉันแบกรับความช่วยเหลือจากพวกแกไม่ไหวแล้ว” “เออ...ไม่มีแล้วหยิ่งอีกนะมึง” ต้นกล้าบ่นฉันแบบไม่จริงจังนักแล้วเดินไปนั่งรอฉันที่เก้าอี้ข้างหลัง
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD