ร่างบางยังคงหันไปมองพี่ชายและหงส์นภาด้วยความแปลกใจและเป็นกังวลอยู่ในใจลึกๆ พลางเอ่ยถามเจ้านายจอมเผด็จการด้วยความฉงน “มีอะไรรึเปล่าคะ?”
“ไม่มีนี่ ผมก็แค่ดีใจที่คุณจะไปอยู่ที่บ้านผมแค่นั้นเอง” ภูชิตเอ่ยยิ้มๆ ทว่าในหัวกลับกำลังนึกถึงภาพของคนป่วยในห้องพักกับหงส์นภาญาติของตน
ป่านนี้หมอนั่นคงโดนยายหงส์จัดการให้นอนนิ่งไม่มีปากมีเสียงแน่ๆ หึๆ
“คนร้ายๆ อย่างคุณจะต้องมีแผนการอะไรแน่ๆ” ญานินเอ่ยอย่างประชด ภูชิตคลี่ยิ้มหวานก่อนจะพาเลขาฯ ส่วนตัวไปขึ้นรถและขับออกไปอย่างครึ้มใจ
“ดูหน้าก็รู้แล้วว่าต้องมีอะไรแน่ๆ” หญิงสาวพึมพำอย่างรู้ทัน
“อย่าคิดว่ามีพ่อฉันคอยให้ท้ายแล้วจะประชดฉันยังไงก็ได้นะ ยังไงซะเธอก็เป็นเลขาฯ ของฉัน เธอต้องคอยดูแลฉันเหมือนเดิม เพิ่มเติมอีกหน่อยคือตอนนี้เราต้องอยู่บ้านหลังเดียวกัน เธอต้องดูแลเรื่องส่วนตัวของฉันให้ด้วย หนึ่งคือเธอต้องปลุกฉันให้ตื่นตอนเช้า เพราะตอนตื่นนอนฉันจะดื่มน้ำอุ่นที่ห้อง เธอต้องเตรียมเสื้อผ้าให้ฉันด้วย และสุดท้ายเธอต้องไปทำงานและกลับพร้อมกับฉันด้วย โอเคไหม?”
พอได้ยินคำสั่งใหม่ของเจ้านายจอมเผด็จการ ญานินก็ถึงกับนัยน์ตาโตพลางหันไปมองชายหนุ่มตั้งแต่หัวจรดเท้า ทว่าภูชิตกลับยักไหล่อย่างไม่ยี่หระก่อนจะสตาร์ตรถ มือหนายื่นไปเคาะสันจมูกเล็กรั้นๆ อย่างหมั่นเขี้ยว
“งานแค่นี้ทำไมต้องตกใจขนาดนั้นด้วย” ชายหนุ่มยังไม่วายเอ่ยแซว
“นั่นมันเรื่องส่วนตัวของคุณล้วนๆ ไม่เกี่ยวกับเรื่องงานเลยนะคะ” ญานินอุทานอย่างคาดไม่ถึงว่าเขาจะสั่งการอะไรแบบนี้ ทว่าคนสั่งกลับพยักหน้ายอมรับอย่างหน้าตาเฉย
“ใช่ไง แล้วยังไง?” คนพูดยังคงเอ่ยหน้าตาย
“ถ้าจะให้ฉันทำ เจ้านายก็ต้องจ่ายค่าโอทีด้วยนะคะ” เมื่อไม่อาจเลี่ยงได้ ญานินจึงต้องจัดการยื่นข้อเสนอเผื่อว่าเขาจะเปลี่ยนใจ
“โอเค ไม่มีปัญหา ส่วนค่าจ้างต้องแล้วแต่ผมจะให้ด้วยนะ โอเคมั้ย?” ทว่าแทนที่ภูชิตจะเปลี่ยนใจ ชายหนุ่มกลับพยักหน้ายอมรับอย่างหน้าตาเฉย คนพูดยังคงฉายแววเจ้าเล่ห์อีกตามเคย ด้านญานินมองเจ้านายอย่างไม่ไว้วางใจ ทว่าจอมเผด็จการอย่างเขากลับทำเป็นทองไม่รู้ร้อนขับรถมองถนนอย่างชิลล์ๆ
เช้าวันแรกของการทำโอที ญานินตื่นเช้าขึ้นมาเพื่อเตรียมปลุกเจ้านายจอมเอาแต่ใจ พร้อมกับน้ำอุ่นๆ หนึ่งแก้ว เมื่อได้เวลาหญิงสาวก็ถือแก้วเข้าไปในห้องนอนกว้าง พอเข้าไปในห้องของภูชิตเท่านั้นแหละ เจ้าของร่างบางแทบจะร้องกรี๊ดแตกออกมา เมื่อเธอเห็นเขานอนใส่กางเกงบ๊อกเซอร์ตัวเดียว แถมยังอวดหุ่นน่าขย้ำอยู่บนเตียงจนเธอแทบสะดุดลมหายใจตัวเอง
“ตาบ๊องเอ๊ย! เปิดแอร์เย็นซะขนาดนั้น แถมยังนอนไม่ห่มผ้าอีกนะ เดี๋ยวก็ปอดบวมกันพอดี” หญิงสาวพึมพำก่อนจะวางแก้วน้ำลงบนโต๊ะข้างเตียง ด้านภูชิตที่ตื่นนอนนานแล้วและรอว่าเลขาฯ ของตนจะเข้ามาทำโอทีตามที่ตกลงกันหรือเปล่า พอได้ยินประตูเปิดเข้ามาชายหนุ่มก็รอดูว่าเธอจะทำยังไงต่อ…
“เจ้านายคะ เจ้านาย…” เธอเรียกเขาเบาๆ ทว่าภูชิตกลับแสร้งไม่ยอมตื่น มือบางจึงจับวงแขนแกร่งเขย่าแรงๆ พลางเรียกอีกครั้ง “เจ้านาย เจ้านายตื่นค่ะ!”
“อื้อ…อย่ากวนสิ…คนเขาจะนอน…” ภูชิตเอ่ยด้วยน้ำเสียงงัวเงีย ก่อนจะพลิกตัวนอนหงาย เผยให้เห็นเรือนร่างกำยำโชว์หราเต็มสองตา เล่นเอาดวงตาโตเบิกโพลง เพราะดันเผลอทะลึ่งไปมองสันนูนที่ดันกางเกงตรงหน้า
“อร๊าย! ตาบ้า!” มือเล็กถึงกับยกขึ้นปิดใบหน้าของตัวเองพลันหันหลังให้ ภูชิตถึงกับอดขำกับท่าทางไร้เดียงสาของเธอไม่ได้ พอญานินหันหน้ามาเขาก็หลับตาลงอีกครั้งเพราะอยากรู้ว่าเธอจะทำยังไงกับเขาต่อ
“เจ้านาย อย่าเล่นแบบนี้นะ เดี๋ยวก็ไปทำงานสายหรอก” ญานินพูดพลางจับมือหนาเขย่าแรงๆ ทว่าในจังหวะนั้นเองเจ้าของร่างแกร่งกลับยึดข้อมือเล็กไว้พร้อมกับเปิดเปลือกตาขึ้น
“เจ้านาย ตื่นแล้วก็ลุกขึ้นสิคะ” ญานินสบกับนัยน์ตาคมด้วยใบหน้าเห่อแดง ด้านภูชิตคลี่ยิ้มและไม่ยอมปล่อย แถมเจ้าของร่างแกร่งยังออกแรงรั้งร่างบางเข้าหาตัว จนหญิงสาวถึงกับเสียหลักล้มลงไปทาบทับกับร่างกำยำ
“ว๊าย! เจ้านาย…” ญานินร้องเสียงหลงด้วยความตกใจ เพราะริมฝีปากอิ่มแนบกับริมฝีปากอุ่นร้อนของเขาอย่างไม่ทันตั้งใจ ก่อนจะพยายามตะเกียกตะกายลงจากร่างหนาด้วยความแตกตื่น ทว่ากลับติดที่วงแขนแข็งแรงยังคงโอบกอดเธอเอาไว้แน่นไม่ยอมปล่อย
“วิธีปลุกแบบนี้ดีจัง ผมชอบ” ภูชิตยกตัวขึ้นจุ๊บแก้มนวลอย่างหยอกเย้า เล่นเอาญานินถึงกับใบหน้าแดงก่ำ เธอทั้งอายทั้งหวาดหวั่น เพราะไม่คิดว่าเขาจะเจ้าเล่ห์ขนาดนี้
“ปล่อยค่ะ สายแล้วนะคะ”
“สายก็สายสิ” คนเอาแต่ใจพูดด้วยแววตาวาววับ ผมนุ่มสลวยดุจแพรไหมกำลังคลอเคลียข้างแก้มสาก กลิ่นหอมละมุนลอยเข้ามาเตะในจมูก ทำให้ภูชิตขยับแก้มเข้าไปสัมผัสหญิงสาวมากขึ้นกว่าเดิม ส่วนเส้นผมบางส่วนก็ปัดป่ายบนอกเปล่าเปลือยของเขา
ทำไมเรารู้สึกดีเป็นบ้าขนาดนี้นะ…
“ได้ยังไงคะ คุณต้องไปทำงานนะคะ” ญานินรีบแย้งตาโต
“ลืมอะไรไปหรือเปล่าคุณเลขาฯ วันนี้มันวันหยุดผมนะครับ” ภูชิตเอ่ยยิ้มๆ ก่อนจะพลิกร่างเปลี่ยนตำแหน่งให้เธออยู่ใต้ร่างหนาของเขา เล่นเอาหญิงสาวถึงกับหัวใจเต้นแรงโครมครามจนภูชิตรู้สึกได้
นี่เราพลาดไปได้ยังไงเนี่ย รู้งี้เราจะรีบมาปลุกเขาทำไมกัน โอ๊ย! อยากจะบ้าตายยายนิน…