“เธอน่ะ… ชื่อไอวี่ใช่ปะ?”
“...” ฉันมองเขานิ่ง แม้ว่าคนตัวสูงจะขยับใบหน้าเข้ามาใกล้กันจนลมหายใจสัมผัส แต่ฉันก็ไม่ได้มีท่าทีหวาดหวั่นอะไรแม้แต่น้อย ฉันไม่ใช่ผู้หญิงสะดีดสะดิ้งที่ชอบวี้ดว้ายเวลาผู้ชายเข้าใกล้ กลับกัน… ไม่ค่อยมีผู้ชายคนไหนกล้าเข้าใกล้ฉันซะด้วยซ้ำ
“แน่ะไม่ตอบ หรือต้องให้เฮียง้างปากด้วยปากอ่ะครับ”
“ถ้าใช่ แล้วจะทำไม” ฉันดึงสายตากลับ เพราะไม่อยากจ้องหน้ากวนประสาทของหมอนี่นาน ๆ
ไม่รู้สิ… ความรู้สึกฉันมันบอกว่าผู้ชายคนนี้ไม่ควรเข้าใกล้อย่างแรง
“อ่าหะ งั้นก็ถูกตัว อืม… ไหนเช็กของหน่อยซิ” เขาขยับตัวมายืนตรงหน้าฉันแล้ว สายตาคมมองต่ำราวกับกำลังสำรวจร่างกายฉันอย่างไรอย่างนั้น แถมยังยกนิ้วขึ้นจับปลายคางตัวเองเหมือนกำลังขบคิด ฉันมองเขาสีหน้านิ่งทั้งที่ความจริงอยากเดินหนีจะตายอยู่แล้ว “สัดส่วน... ถูกใจ ส่วนหน้าตา… ก็ตรงสเป็ค งั้นเราไปกันเลยดีกว่า เห็นแล้วของมันขึ้น”
“เดี๋ยว! ทำอะไรของนาย!” ฉันยื้อข้อมือตัวเองที่จู่ ๆ ก็ถูกผู้ชายแปลกหน้าคว้าไปจับ เขาพยายามจะลากฉันไปที่ไหนสักแห่งโดยไม่ถามความเห็นกันเลยสักนิด “นี่! ไม่ได้ยินเหรอวะ!”
“อะไร เป็นผู้หญิงพูดวะได้ไงหะ แล้วนี่ไม่รู้หน้าที่ตัวเองหรือไง จะเล่นตัวทำไมนัก”
“หน้าที่? พูดเรื่องอะไรของนาย?”
คราวนี้เขาชะงักแล้วหันกลับมามองฉันอีกรอบ คิ้วหนาขมวดเข้าหากันเล็กน้อย สีหน้าเขาดูสับสนงุนงงไปหมด นี่มันอะไรกัน ฉันก็งงไปด้วยนะ อยู่ ๆ ถูกผู้ชายแปลกหน้ามากระชากลากจูงแบบนี้ เป็นใครจะไม่งงบ้างล่ะ
“อ้อ ฉันยังไม่ได้แนะนำตัวนี่หว่า เออ ๆ ฉันชื่อนับพัน เป็นคนที่เธอจะต้องอยู่ด้วยทั้งคืน เก็ทยัง?”
อะไรนะ… อยู่ด้วยทั้งคืน? หมายความว่ายังไง?
“มุขโง่ไปนะ ฉันไม่รู้จักนาย ปล่อย” ฉันกระชากข้อมือจนหลุดออกจากการจับกุมของเขาสำเร็จ ตอนนี้ฉันรู้แล้วว่าเขาชื่อนับพัน แต่ที่ไม่เข้าใจคือเขาต้องการอะไรจากฉัน เราไม่เคยรู้จักกัน นั่นคือสิ่งเดียวที่ฉันรู้
“อะไรของเธอวะ จะมาเล่นตัวอะไรตอนนี้ มานี่เลย!”
แล้วเขาก็คว้าท่อนแขนฉันอีกรอบ คราวนี้เขาออกแรงกระชากลากถูจนฉันต้องเดินตามเขาไปอย่างช่วยไม่ได้ ฉันพยายามขัดขืนสุดกำลัง แต่เพราะทำแล้วมันเหนื่อย มันเปล่าประโยชน์ ฉันเลยปล่อยให้เขาลากไปตามใจชอบ
และในขณะที่กำลังจะเดินผ่านบล็อกหก สายตาฉันเหลือบไปเห็นมิรินกำลังถูกใครคนหนึ่งลากออกมาจากในห้องนั้นเช่นกัน เราสองคนอยู่ไกลกันมาก และมิรินเองก็คงจะไม่ได้มองมาทางฉัน เพราะสายตาของเธอกำลังจับจ้องไปทางเจ้าของการกระทำป่าเถื่อนที่กำลังพาเธอไปที่ไหนสักแห่ง
ฉันได้แต่มองตามสองคนนั้นไปจนลับสายตา ภายในใจมันก็สับสนวกวนไปหมด มิรินรู้จักกับเขาคนนั้นด้วยเหรอ
เดวิลน่ะ… รู้จักกับมิรินอย่างนั้นเหรอ
.
.
.
‘บล็อก 9’
ปึง!
ร่างของฉันถูกผลักลงบนเตียงขนาดใหญ่ภายในห้องนอนชั้นสองของตู้คอนเทนเนอร์ซึ่งถูกตกแต่งด้วยสไตล์ดิบ ๆ เถื่อน ๆ ตอนจะถูกลากเข้ามาในนี้ฉันทันได้สังเกตป้ายบนตู้จึงได้รู้ว่าที่นี่คือบล็อกเก้า บล็อกที่ฉันไม่เคยย่างกรายมาถึงเลยสักครั้ง อย่างที่รู้ว่าฉันเพิ่งรับงานพริตติ้นี่เป็นงานแรก แต่ไม่ใช่ว่าฉันจะไม่เคยมาที่นี่นะ ฉันเคยมาหลายครั้งแล้ว แต่ปกติจะมาแค่บล็อกสี่เท่านั้น
“ถอดเสื้อผ้าออกสิ”
“...” ฉันจิกตาใส่ผู้ชายร่างสูงตรงหน้า ตอนนี้รู้แล้วว่าจุดประสงค์ของเขาคืออะไร ลากฉันเข้ามาในห้องนอนแล้วผลักลงบนเตียงแบบนี้ คงมีแต่เรื่องต่ำ ๆ เท่านั้นแหละ!
“อย่าลีลา หรืออยากให้เฮียถอดให้? ก็ดีนะ… มันเร้าอารมณ์ดี”
นับพันถอดเสื้อตัวเองออกเผยให้เห็นรูปร่างภายในอันอัดแน่นไปด้วยซิคแพคของเขา ถ้าเป็นผู้หญิงคนอื่นคงจะอ่อนระทวยหรือหลงใหลในเรือนกายบุรุษเพศตรงหน้าไปแล้ว หากทว่ามันใช้ไม่ได้กับผู้หญิงอย่างฉัน
เพี๊ยะ!
“อย่ามาแตะตัวฉัน!”
และเมื่อเขาเคลื่อนตัวขึ้นมาทาบทับ มือเล็ก ๆ ของฉันก็สะบัดใส่ใบหน้าคมนั่นสุดแรงจนเขาต้องหลับตาแน่นราวกับข่มความโกรธเอาไว้ นับพันค่อย ๆ ลืมตาขึ้น แววตาของเขาวาวโรจน์ต่างไปจากเมื่อครู่อย่างสิ้นเชิง เขากำลังโกรธฉันสินะ แล้วยังไง? จำเป็นต้องแคร์ไหม? ก็ไม่!
“เธอ… ทำอะไร?”
มือหนาเลื่อนขึ้นมาบีบปลายคางฉันแน่น เขาผลักให้ฉันนอนราบอยู่บนที่นอนโดยมีร่างสูงทาบทับไปทั่วทุกส่วน แม้จะรู้สึกเจ็บแต่ฉันก็ยังคงซ่อนมันไว้ภายใต้สีหน้าเย็นชา นั่นยิ่งทำให้นับพันขบกรามแน่นเข้าไปอีก
“กล้าดียังไง… กล้าดียังไงถึงตบหน้าฉันวะ!”
“...”
“ตบแล้วเงียบ ระวังจะโดนเสียบไม่ยั้ง” ดวงตาคมดุดันจ้องลึก สีหน้าเขาทะมึนทึง มันทั้งหงุดหงิดและกวนประสาทในคราเดียวกัน “ไม่ได้เสียบด้วยมีดนะ… แต่จะเสียบด้วย ‘ไอ้นี่’”
“...” ฉันหลุบสายตามองตามตำแหน่งที่เขาชี้ปลายนิ้วไปทาง ‘ไอ้นี่’ ที่เขาหมายถึง มันคือจุดศูนย์กลางของร่างกายอันแข็งแกร่งของเขานั่นเอง ฉันเหยียดริมฝีปากอย่างรังเกียจก่อนจะเลื่อนสายตาขึ้นมอง “ปล่อย”
“ตบกันซะขนาดนี้ อย่าฝันว่าฉันจะปล่อยเธอง่าย ๆ ตอนแรกก็แค่อยากจะสนุกชั่วคืนหรอกนะ แต่ตอนนี้คิดว่าคงจะต้องสนุกกันไปอีกนาน พอดีว่าสันดานฉันมันไม่ชอบให้ใครมาทำร้ายกันฟรี ๆ ซะด้วยสิ”
“พร่ำอะไรนัก รู้จักกันไหม? ก็ไม่! แม่ไม่เคยสอนเหรอว่าไม่ควรทำตัวเลว ๆ ใส่คนอื่นแบบนี้น่ะ”
“ปากดีนักนะ อยากรู้นักรสชาติปากมันจะดีเหมือนกันไหม”