“กูถามว่ามึงกำลังทำเหี้ยอะไร เงียบเพื่อ?”
“ไม่ใช่เรื่องของมึง ถอยไปไอ้พัน”
“เข้าใจผิดแล้วไอ้เดย์… ไอวี่น่ะเรื่องของกู ส่วนยัยนี่น่ะเรื่องของมึง เอาคืนไปซะ”
พลั่ก!
นับพันผลักผู้หญิงคนหนึ่งที่ฉันไม่ทันสังเกตเห็นไปทางเดวิล เธอคนนั้นเสียหลักกระแทกเข้ากับแผงอกแกร่งนั่นจนเกือบจะล้มถ้าไม่ถูกมือหนาของเดวิลคว้าจับเอาไว้ได้ซะก่อน แล้วเขาก็กระชากเธอออกจากตัวเองด้วยความรุนแรง สายตาดุดันหันกลับมามองฉันอีกครั้ง ส่วนฉันในตอนนี้นิ่งค้างไปแล้วเมื่อได้สบตากับผู้หญิงข้างกายเดวิล...
นั่นมัน… มิริน!
“มึงคิดจะทำอะไรวะ ฝากผู้หญิงของมึงไว้กับกู แล้วตัวเองก็มาทำเรื่องชั่ว ๆ กับผู้หญิงของกูแทนเนี่ยนะ”
ฉันเหลือบมองนับพันอย่างไม่ชอบใจ ฉันไปเป็นผู้หญิงของเขาตั้งแต่เมื่อไหร่ แล้วที่เขาพูดน่ะหมายความว่ายังไง เขารู้จักกับเดวิลอย่างนั้นเหรอ แล้วใครเป็นผู้หญิงของผู้ชายสารเลวคนนั้น…
“กูยังคุยกับยัยนั่นไม่จบ มึงหลบไปไอ้พัน”
“คุยเหี้ยอะไรอีก มึงรู้จักไอวี่ด้วยเหรอวะ?”
นับพันผลักเดวิลให้ถอยหลังกลับไปยืนที่เดิมอีกรอบ มือหนานั่นยังคงจับข้อมือมิรินแน่นไม่ยอมปล่อย ฉันสบตากับมิรินนิ่ง เธอเองก็มองฉันเช่นกัน มันทำให้ฉันนึกย้อนกลับไปวันนั้น วันที่ฉันเห็นเดวิลกำลังลากมิรินออกจากบล็อกหก
สองคนนี้รู้จักกันอย่างนั้นสินะ… เผลอ ๆ อาจจะยิ่งกว่ารู้จักซะอีก…
“ไอวี่… หึ!”
ฉันละสายตาจากมิรินเพื่อมองผู้ชายร่างสูงข้างกายเธอแทน เรือนผมสีเทาของเขาลอยเด่นท่ามกลางความมืดสลัว ฉันสบตากับเขาเพียงชั่วครู่ก่อนจะละสายตาออกพร้อมกับสวมหน้ากากเช่นเดิม ฉันไม่ควรจะยืนอยู่ตรงนี้ต่อแม้แต่วินาทีเดียว ฉันควรจะหนีจากคนพวกนี้ซะ
“เดี๋ยว… จะรีบไปไหนวะ” ร่างของฉันถูกผลักให้กลับไปพิงผนังตามเดิมด้วยฝีมือของนับพัน สีหน้าเขาตอนนี้ดูหงุดหงิดอย่างมาก สันดานชอบใช้กำลังไม่ต่างกันเลย ฉันเกลียดผู้ชายสองคนนี้ที่สุด
“อย่ามายุ่งกับฉัน…” กัดฟันพูดเสียงต่ำก่อนจะออกแรงผลักร่างสูงใหญ่สุดแรง นับพันถอยหลังไปเล็กน้อยฉันจึงอาศัยจังหวะนั้นเดินหนีออกมา ได้ยินเสียงนับพันโวยวายดังลั่น ฉันก็รีบสาวเท้าเร็วขึ้นมากกว่าเดิม หมอนั่นไม่มีทางปล่อยฉันหนีง่าย ๆ แน่
“คิดว่าจะหนีฉันพ้นเหรอวะ! ส่วนมึงไอ้เดย์… เดี๋ยวเคลียร์กับกูยาว!!”
.
.
.
หมับ!
“อ๊ะ..! จะทำบ้าอะไร!!” ฉันพยายามดึงประตูห้องแต่งตัวปิดแต่กลับถูกมือหนาคว้าบานประตูเอาไว้ เขาออกแรงกระชากจนฉันต้องยอมปล่อยในที่สุด ร่างสูงใหญ่แทรกกายเข้ามาพร้อมกับปิดประตูลงและกดล็อกเสร็จสรรพ การกระทำเลว ๆ ของเขาอยู่ในสายตาของฉันตลอดเวลา “ออกไปจากห้องฉันเดี๋ยวนี้นะ!”
“หึ กับฉันนะทำเป็นไล่ ทีกับไอ้เดวิลเมื่อกี้ทำไมนิ่งนักวะ”
ฉันจิกสายตาใส่นับพัน หมอนี่เอาสายตาที่ไหนมองว่าฉันนิ่งกับเดวิล ฉันไม่ได้ยอมเขาสักหน่อย ฉันขัดขืนแทบตายแต่สู้แรงเขาไม่ได้ต่างหากล่ะ อีกอย่างฉันว่ามันก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับหมอนี่ป่ะ คิดว่าตัวเองมีสิทธิ์อะไรถึงคุกคามฉันแบบนี้
“ออกไป…” ฉันกัดฟันไล่ สองเท้าถอยหลังช้า ๆ เหตุการณ์มันซ้ำรอยเดิมเลย เหมือนกับวันนั้นที่เขาเข้ามาในห้องนี้แล้วทำเรื่องสารเลวกับฉัน นับพันเป็นเจ้ากรรมนายเวรของฉันหรือไงกันนะ ทำไมถึงตามติดชีวิตฉันขนาดนี้
“ไม่ต้องไล่ วันนี้ถ้าฉันไม่ได้เธอ ฉันจะไม่ไปไหนทั้งสิ้น”
“พูดบ้าอะไรของนาย! เลิกยุ่งกับฉันสักทีได้ไหม!”
“เลิกยุ่งน่ะได้ แต่อยู่ที่ความพอใจว่าฉันจะเลิกหรือเปล่า”
นับพันแสยะยิ้ม แววตาคมกริบจับจ้องนิ่ง บางทีฉันก็คิดนะว่าผู้ชายคนนี้ต้องการอะไรจากฉันกันแน่ วันแรกที่เจอกันฉันก็เกือบพลาดท่าให้กับเขา ขนาดตอนนี้เขาเข้าใจว่าฉันเป็นแฟนอาร์มี่เพื่อนของเขา เขายังไม่ยอมเลิกยุ่งกับฉันเลย แบบนี้ถ้าไม่เรียกว่าชั่วก็คงไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาเปรียบแล้ว
“เธอนี่เสน่ห์แรงไม่เบาเลยนะ ไหนจะไอ้อาร์มี่ ไหนจะไอ้เดวิล เออว่าแต่…” นับพันลากเสียงเล็กน้อยขณะจับจ้องฉันด้วยแววตาอ่านยาก “ไอ้อาร์มี่น่ะผัวคนปัจจุบัน แต่ไอ้เดวิลนี่สิเป็นอะไรกับเธอ?”
คำถามสารเลวดังขึ้นจากริมฝีปากหนาน่ารังเกียจ ฉันจิกตาใส่เขาด้วยความเกลียดชัง ฉันเกลียดหมอนี่ชะมัด ทำไมเขาต้องมายุ่งวุ่นวายกับชีวิตฉันนักหนา
“ว่าไง? ไอ้เดวิลมันเป็นอะไรกับเธอ? ผัวใหม่… หรือ… ผัวเก่า?”
ฉันกัดริมฝีปากตัวเองแน่นจนรู้สึกถึงกลิ่นคาวเลือด รู้เลยว่าตอนนี้ร่างกายกำลังสั่นขนาดไหน ฉันละสายตาจากแววตาคมเข้มนั่น ไม่อยากจะตอบคำถามบ้าบออะไรทั้งนั้น
“เงียบแบบนี้คือฉันเดาถูกข้อใดข้อหนึ่งสินะ” ฉันถอยหลังมาจนชิดกับผนังห้องโดยมีร่างกายสูงใหญ่ของนับพันตามมาทาบทับติด ๆ แม้จะเว้นระยะห่างเพียงช่วงฝ่ามือ ทว่ามันกลับอึดอัดจนหายใจแทบไม่ออก “ข้อแรกน่ะคงไม่ใช่ เพราะผัวใหม่ของเธอจะต้องเป็นฉันเท่านั้น ส่วนข้อหลัง… อืม… น่าคิด”