พลั่ก!
ฉันทุบไหล่เขาสุดแรงพลางปัดมือปลาหมึกแสนน่ารังเกียจออกจากต้นขาตัวเองไปด้วย หมอนี่มันหน้าด้านมากอ่ะพูดเลย! จะมาตามติดอะไรฉันนักหนาก็ไม่รู้!
“ทำฉันเจ็บ… ระวังจะเจ็บยิ่งกว่านะ อ้อไม่สิ เธออาจจะเปลี่ยนจากเจ็บเป็นเสียวแทนก็ได้”
“ไอ้คนทุเรศ! หน้าตาก็บ้ากามยังทำสันดานโรคจิตอีก!”
“ด่าอย่างนี้เจ็บว่ะ หน้าตาฉันบ้ากามตรงไหน ออกจะหล่อเฟี้ยวขนาดนี้” นับพันขมวดคิ้วเถียงกลับอย่างไม่ยอมแพ้ “ด่าเรื่องสันดานยังพอทน แต่ด่าเรื่องหน้าตานี่ฉันไม่ยอมนะพูดเลย”
มันใช่เวลามามั่นหน้าตอนนี้ไหม?! ฉันละอยากจะบ้าตาย! หมอนี่มันประสาทหรือมันบ้า! ตอบ!!
“ปล่อย!” ฉันทุบไหล่เขาอีกหลายที ฉันไม่ตลกด้วยแล้วนะ! ยิ่งระยะห่างระหว่างเราลดลง ฉันก็ยิ่งจะบ้า!
“ฉันมีข้อเสนอ”
“ฉันไม่สน!” ตอบกลับอย่างไม่ต้องคิดให้เสียเวลา ไม่ว่าข้อเสนอบ้า ๆ ของเขาจะเป็นอะไรก็ตาม ฉันไม่มีทางทำตามข้อเสนอนั้นแน่ ๆ
“เฮ้ย! คิดก่อนก็ได้ป่ะ! ฉันอุตส่าห์มาขอคุยด้วยดี ๆ แล้วนะ”
“นี่ดีแล้วเหรอ? พ่อนายสั่งสอนมาแบบนี้หรือไง!” ฉันไม่ได้อยากจะก้าวร้าวอะไรหรอกนะ แต่มันหงุดหงิดไง ไหนจะลมหายใจร้อน ๆ ผสมกลิ่นแอลกอฮอล์ของเขาที่กำลังทำให้ฉันเวียนหัว ไหนจะฝ่ามืออบอุ่นที่พยายามลูบไล้ต้นขาฉันอีก ไม่หงุดหงิดก็ให้มันรู้ไปสิ!
“เปล่า ป๊าฉันสอนไว้ว่า… ขอดี ๆ ไม่ให้ก็ต้องฉุด!”
“อ๊ะ…” ฉันเผลอร้องออกมาเล็กน้อยเมื่อฝ่ามือร้อนทาบลงบนสะโพกของฉันก่อนจะดึงเข้าหาลำตัวเขาด้วยความรวดเร็ว สองขาแยกออกจากกันโดยมีลำตัวของนับพันแทรกกลางเข้ามาอย่างใกล้ชิดจนเกินความพอดี สองมือรีบยกขึ้นผลักแผ่นอกแกร่งพัลวัน ทั้งจิกทั้งข่วนจนรู้สึกเจ็บแสบเล็บไปหมด
“ซี๊ด… ชอบความรุนแรงหรือไงวะ เธอจิกฉันจนแสบไปหมดแล้วนะ”
“ฉันจะจิกให้เลือดออกจนหมดตัวเลยด้วยถ้านายยังไม่ยอมปล่อย!!”
“ฉันปล่อยก็ได้… แต่ปล่อยน้ำใส่เธอจนหมดตัวแทนนะ”
“ไอ้… ไอ้โรคจิต! ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้เลยนะ!” ฉันดีดดิ้นสุดแรงด้วยความโมโห นับพันทำฉันสติหลุดเป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้! ฉันอยากจะฆ่าเขานัก! เกิดมาไม่เคยพบเจอใครที่โคตรจะมึนได้อย่างเขาเลย!
“รู้ป่ะ ผู้หญิงที่ฉันจะยอมเชื่อฟังมีอยู่แค่สองคนบนโลกใบนี้”
อยู่ ๆ นับพันก็พูดขึ้นน้ำเสียงราบเรียบสบาย ๆ มือข้างหนึ่งล็อกสะโพกฉันแน่นจนขยับแทบไม่ได้ ส่วนมืออีกข้างวางทับลงบนต้นขาอ่อนของฉันจนน่าหวาดเสียว ฉันพยายามจิกเล็บลงบนหลังมือเขาเต็มแรง จะเอาให้ตายกันไปข้างเลยคอยดูสิ!
“คนแรกคือแม่”
“...” เขาบอกโดยที่ฉันไม่ได้ถาม อยากจะรู้ไหม? ก็ไม่! เสนอหน้าบอกเพื่ออะไร?
“ส่วนคนที่สองน่ะ ‘เมีย’”
นับพันละมือจากต้นขาขึ้นมาปลดสายรัดหน้ากากตรงท้ายทอยของฉันออก หน้ากากสีทองระยิบระยับร่วงหล่นลงพร้อมกับดวงตาคมเข้มทอประกายเจ้าเล่ห์ของผู้ชายตรงหน้าที่ลดระยะห่างเข้ามาเรื่อย ๆ
ฉันนิ่ง… ราวกับโดนสะกดจิต ไม่หรอก… ความจริงแล้วฉันเหนื่อยที่จะสู้รบกับเขาแล้วต่างหากล่ะ สู้ไปก็เหนื่อย แรงเท่ามดอย่างฉันจะไปสู้แรงควายอย่างเขาได้ยังไงกันล่ะ!
เอาเถอะ! อยากทำอะไรก็ทำ… ฉันเหนื่อยละ
“คนแรกมีแล้ว… แต่คนที่สองยังว่าง”
“...”
“สนใจสมัครเป็น ‘เมีย’ ฉันไหมล่ะไอวี่? ระดับนี้ลีลาชั้นดี การันตีเรื่องเซ็กส์”
“...”
“รับรองว่าฉันจะ ‘อ่อย’ เธอคนเดียว”
เขากระซิบข้างใบหูฉันพลางขบเม้มแผ่วเบาสร้างความรู้สึกสยิวแปลก ๆ อย่างบอกไม่ถูก แต่อย่าคิดว่าจะทำให้ฉันรู้สึกหวั่นไหวและโอนอ่อนผ่อนตามเขาง่าย ๆ ฉันไม่ได้อ่อนต่อโลกขนาดนั้นหรอกนะ!!
“เลิกเสนอตัวสักทีจะได้ไหม? มีอะไรก็รีบพูด ๆ มา! อย่าลีลา และปล่อยมือออกจากตัวฉันด้วย” ฉันปัดมือเขาออกจากท้ายทอยตัวเองก่อนจะผลักแผ่นอกแกร่งภายใต้เสื้อเชิ้ตตัวบางที่ปลดกระดุมลงมาสองสามเม็ด คิดว่าตัวเองเซ็กซี่ตายเลยสิ! เสียใจเถอะ! เซ็กซี่กว่าเขาฉันก็เคยเจอมาแล้ว! แค่นี้ไม่ได้ผลหรอก!
“ถ้างั้นเรามาเจรจากัน… ตัวต่อตัว”
“...”
“เสื้อผ้าไม่เกี่ยว… ดีไหม?”
ยัง… นับพันยังไม่เลิกกวนประสาทฉัน สีหน้าเขาดูอ้อล้อตลอดเวลา เห็นแล้วอยากจะเอาซีนีม่าสาดใส่หน้าเขาเหลือเกิน! ท่าทางจะคันมาก!
“ต้องการอะไร?! พูด!” ฉันตวาดใส่เสียงดังก่อนจะรีบชี้หน้าเขาอย่างรู้ทันเหมือนเห็นนับพันกำลังขยับริมฝีปากจะพูดอะไรบางอย่าง “ถ้าตอบว่าต้องการฉันอีกทีละก็… ฉันจะฆ่านาย!”
“หึ… ทำเป็นรู้ทัน”
เขายกยิ้มมุมปากพลางกระชับวงแขนมากขึ้น ส่งผลให้ส่วนนั้นของฉันมันถลาเข้าไปแนบชิดกับส่วนล่างของนับพันอย่างช่วยไม่ได้ ฉันกัดริมฝีปากตัวเองแน่น พยายามระงับสติตัวเองให้นิ่งเฉยเข้าไว้ ยิ่งฉันต่อต้าน ขัดขืน นับพันจะยิ่งสนุก อย่าทำให้เขาสมหวังเด็ดขาด โชคดีที่ฉันใส่กางเกงซับไว้ด้านในอีกชั้นหนึ่งนะ ไม่อยากนั้นอะไร ๆ มันอาจจะสัมผัสกันมากไปกว่านี้ก็เป็นได้
“ว่าไง? จะปล่อยได้ยัง? แล้วฉันจะฟังนายพูด”
“ไม่อ่ะ พูดมันท่านี้เลยนี่แหละ ‘เร้าใจ’ ดี”