ลูคัสกวาดสายตามองไปทั่วคลับของเขา ก่อนจะสะดุดเข้ากับร่างบางที่ตามหา หญิงสาวอยู่ในชุดนี้ช่างเซ็กซี่ เย้ายวนชวนฝัน คิดไม่ผิดจริงๆ ที่เขาเลือกชุดนี้มาเพื่อเธอ
“สินค้าที่ส่งไปต่างประเทศเรียบร้อยดีมั้ย”
“เรียบร้อยดีครับ คุณเจไดจัดการพวกลักลอบทั้งหมดแล้ว”
“ถ้ามีใครมาขอพบกูวันนี้ก็ปฏิเสธไป”
“ได้ครับนาย”
ระหว่างที่เขากำลังคุยกับลูกน้องคนสนิทอยู่นั้น เสียงดังเอะอะโวยวายจากด้านล่างก็ดังขึ้น ตามด้วยเสียงขวดแก้วแตกกระจายเป็นเสี่ยง ลูคัสมองลงไปด้านล่างพบหญิงสาวในชุดเมดกำลังสร้างเรื่องให้เขา
“มึงทำอะไร จับนิดจับหน่อยทำมาสะดีดสะดิ้ง” ชายวัยกลางคนตะคอกด่าหญิงสาวที่ลุกขึ้นถอยหนี
“คุณไม่ควรลวนลามพนักงานในร้านนะคะ” ณัชชาทนอยู่นาน มือปลาหมึกของเขาเริ่มเลื่อยไปมาจนเธอทนไม่ไหว
“มึงสำคัญตัวเองมากไปรึเปล่า คิดว่ากูจ่ายให้มึงไปตั้งเยอะเพื่อมานั่งคุยอย่างเดียวรึไง”
“จ่ายเยอะก็ไม่ควรทำตัวหยาบคายกับคนอื่นค่ะ”
“มึงกล้าเถียงกูเหรอ…รู้มั้ยว่ากูเป็นใคร”
“คุณยังไม่รู้ว่าตัวเองเป็นใครแล้วฉันจะไปรู้ได้ยัง”
“คุณน้องใจเย็นก่อนนะคะ…เสี่ยค่ะน้องยังใหม่อยู่คริสตี้ต้องขอโทษด้วยนะคะ”
“กูไม่สน ถ้าคืนนี้ไม่ให้อีนี่กลับไปกลับกู…ร้านมึงพังแน่”
“น้ำชาขอโทษเสี่ยเขาไปเถอะ ถ้าคุณลูคัสรู้เรื่องนี้เธอตายแน่” ใช่ว่ามาม่าซังจะกลัวคนตรงหน้า แต่คนที่เขากลัวจริงๆ คงเป็นเจ้านายปีศาจของเขามากกว่า
ณัชชาพยายามข่มอารมณ์โกรธของตัวเองเอาไว้ ทั้งที่ตอนนี้เธออยากจะหยิบขวดเหล้าที่อยู่ใกล้มือฟาดเข้าไปที่หัวของอีกฝ่าย
“มึงกล้าดียังไงมามองกูแบบนั้น”
“น้ำชา!” คริสตี้พยายามเรียกสติหญิงสาวอีกครั้ง ความน่ากลัวกำลังคืบคลานเข้ามาช้าๆ ท่ามกลางความวุ่นวายที่เกิดขึ้น
“ให้ตายน้ำชาก็ไม่ขอโทษคนเลวๆ แบบนี้หรอกค่ะ” ณัชชายืนกรานเสียงแข็ง แววตาเต็มไปด้วยความโกรธ ก่อนที่ร่างบางจะถูกกระชากจากด้านหลัง
“คุณ…” ดวงตากลมเบิกกว้าง ใบหน้าของชายหนุ่มด้านหลังเย็นชาไร้ซึ่งอารมณ์ใดๆ จนเธอเดาอารมณ์ของเขาไม่ถูก
“จัดการตรงนี้ด้วย ส่วนเธอ…ฉันจะจัดการเอง”
“หยุดเดี๋ยวนี้นะ มึงจะเอาผู้หญิงของกูไปไหน”
“เมาแล้วก็กลับไป”
“มึงไม่รู้รึไงว่ากูเป็นใคร”
“กูต้องรู้?” มาเฟียหนุ่มเลิกคิ้วสูงมองคนตรงหน้าตั้งแต่หัวจรดเท้า
คนมาเที่ยวคลับของเขาล้วนกระเป๋าหนักกันทั้งนั้น แต่จะมีบางคนที่มาเพื่ออวดเบ่งไปวันๆ ทั้งที่หนีเมียมาเที่ยวด้วยซ้ำ เช่นคนตรงหน้าดูจากการที่ไม่รู้ว่าเขาเป็นใครก็พอจะเดาได้
“เดี๋ยวผมจัดการต่อเองครับนาย” เจฟเข้ามาพร้อมการ์ดอีกนับสิบคน ล้อมรอบชายวัยกลางคนนั้นไว้
“…..” แขนเรียวถูกลากออกมาจากตรงนั้น ไปยังรถที่จอดอยู่
“จะพาฉันไปไหน” ร่างสูงลากเธอฝ่าฝูงชนออกมานอกร้าน ก่อนจะพาขึ้นรถหรูของเขาออกไป
“เงียบ!”
“ทำไมฉันต้องเงียบด้วย”
“เงียบ! ก่อนที่ฉันจะเอาปืนปิดปากเธอซะ”
“เลว!”
“เธอด่าฉันว่า…เลวสองรอบแล้วนะ”
“ฉันจะด่าอีกสามรอบ สี่รอบมันก็ยังเหมือนเดิม คุณมันเลว”
“…..”
“จอดรถ!”
“..…”
“ฉันบอกให้จอดรถคุณลูคัส”
นอกจากมาเฟียหนุ่มจะไม่จอดตามที่ร่างบางออกคำสั่งแล้ว เขายังเหยียบคันเร่งเพิ่มความเร็วขึ้นไปอีก ณัชชาที่นั่งอยู่ตกใจด้วยความกลัวจึงเงียบเสียงลงอัตโนมัติ
“ไม่ปากดีแล้วเหรอ ด่าฉันอีกสิ”
ณัชชาข่มอารมณ์โกรธไว้ภายในใจ รอให้รถจอดก่อนเถอะ อย่าว่าแต่ด่าเลย แม่ก็จะเสยให้ล้มทั้งยืนเลยคอยดู
เอี๊ยด!!!
รถหรูเบรกกะทันหันเมื่อถึงจุดหมายที่มาเฟียหนุ่มต้องการ ลูคัสเดินลงจากรถอ้อมไปฝั่งที่เธอนั่งอยู่ ก่อนที่เข้าจะเปิดประตูรถโผล่หน้าเข้ามาปลดเข็มขัดนิรภัยออก กระชากร่างบางให้เดินตามไป
“ปล่อยนะ”
“เลิกดื้อสักที”
“ฉันดื้อเหรอ คุณมากกว่า”
“ทำไมชอบเถียง” สายตาเย็นชาของมาเฟียหนุ่มจ้องมองเธอ หัวใจดวงน้อยกระตุกวูบ อยู่ดีๆ เธอก็รู้สึกกลัวคนตรงหน้าขึ้นมา
“…..”
ตึก!
ตึก!
“เข้ามา” ลิฟต์ขึ้นมาถึงชั้นที่ณัชชาอาศัยอยู่ เธอยืนนิ่งไม่ขยับมองห้องเธอที่อยู่ข้างๆ ว่าแล้วเชียวทำไมเขาถึงรู้จักห้องเธอที่แท้ก็อยู่ติดกัน
“ขอบคุณค่ะที่มาส่ง”
“จะไปไหน”
“กลับห้องตัวเองไงคะ”
“ใครอนุญาต ฉันยังไม่ได้คิดบัญชีที่เธอก่อความวุ่นวายในร้านของฉันเลยนะ จะเข้ามาดีๆ หรือให้ฉันลากเข้ามา”
“..…” ร่างบางใช้ความคิดอยู่ครู่หนึ่ง เธออาศัยช่วงเวลาที่เขากำลังหันหลังเดินเข้าไปถอดรองเท้าในห้อง วิ่งไปกดรหัสเข้าห้องตัวเอง ทว่าความเร็วของเธอไม่มากพอเท่ามาเฟียที่รู้ทันอยู่แล้ว
“กรี๊ดดดด…ปล่อยนะ” ทั้งที่รู้อยู่เต็มอกว่ามาเฟียหนุ่มคงไม่ปล่อยเธอไปง่ายๆ เธอก็ยังส่งเสียงร้องออกมาหวังให้ห้องอื่นได้ยินแล้วออกมาช่วย
“ร้องไปเหอะไม่มีใครได้ยินเธอหรอก ห้องทั้งหมดในชั้นนี้เป็นของฉันคนเดียว” น้ำเสียงยียวนของมาเฟียหนุ่มที่อ่านความคิดของเธอได้
“ว่าไงนะ”
“เธอได้ยินไม่ผิด ฉันซื้อทั้งชั้นไว้หมด ตอนแรกฉันก็สงสัยนะว่าใครมาซื้อห้องในชั้นนี้ตัดหน้า แต่ฉันก็ช่างมันก็แค่ห้องเดียว”
มันเป็นเวรกรรมอะไรของเธอนะที่ต้องมาเจอผู้ชายแบบนี้ ทั้งที่หนีไอ้แมงดาแฟนเก่ามาได้แล้วแท้ๆ ยังมาเจอโรคจิตในคราบเจ้านายอีก
ณัชชาใช้เรี่ยวแรงทั้งหมดขัดขืน ทว่าเรี่ยวแรงของเธอเทียบไม่ได้กับเรี่ยวแรงของร่างสูง เพียงเขาออกแรงดึงนิดเดียว เธอก็ปลิวไปตามแรงเขาแล้ว
“ฉันจะแจ้งตำรวจ” มือบางลวงโทรศัพท์เครื่องหรูในผ้ากันเปื้อน
เพล้ง! ปัง!
ดวงตากลมต้องเบิกกว้างอีกครั้ง โทรศัพท์เครื่องหรูราคาครึ่งแสนถูกปาทิ้งอย่างไม่ไยดี กระแทกเข้ากับฝาผนังหน้าจอแตกเป็นเสี่ยงๆ
“โทรศัพท์ฉัน” ร่างบางมองโทรศัพท์ตาละห้อยด้วยความอาลัย
“..…” มาเฟียหนุ่มมองตามด้วยความชอบใจ ของเล่นชิ้นนี้สนุกกว่าที่เขาคิดไว้
“ทำบ้าอะไรของนาย ไม่ให้แจ้งก็บอกกันดีๆ สิ รู้มั้ยว่ามันแพง”
“บอกแล้วเธอจะทำ” เหอะ! ปฏิเสธไม่ได้จริงๆ ว่าคนตรงหน้าอ่านเธอออกหมดทุกอย่าง