CHAPTER 7

941 Words
“หนูก้อย” คุณชนาภามองลงไปด้านล่างเวที ก็เห็นว่าเกวลินปิดหน้าปิดตาร้องไห้ด้วยความเสียใจ และยังได้สบตากับคุณกิติยาด้วย เพื่อนรักรุ่นน้องมองมาด้วยสายตาเจ็บปวดเพราะถูกหักหน้าหักหลัง ตอนนี้หัวใจแหลกสลายแล้ว คุณปราบจับมือจับแขนของลูกกับเมียคนละข้าง พลางกระตุกเตือน “กลับได้แล้ว จะอยู่ทำไมให้เสียหน้า คุณยาเลิกคบไปเลยนะคนแบบนี้ ไม่ต้องไปนับถือกันแล้ว ทำกับเราได้ลงคอ หักหน้าผม ตอนนี้หน้าผมแตกไม่เหลือชิ้นดีแล้ว พอกันที” หัวหน้าครอบครัวพูดดังเสียด้วย แล้วคุณปราบก็กึ่งลากกึ่งดันหลังลูกสาวและเมียให้เดินออกจากงาน “พี่หมอจะทำยังไงดีคะ” คุณชนาภาหันไปถามความเห็นจากสามี “กิติยาต้องโกรธน้องมากแน่ ๆ เลยค่ะ” “ก็ต้องเลยตามเลย เราจะเสียหน้ากับคนทั้งหมดในนี้ไม่ได้ และนี่คือสิ่งที่น้องต้องการมาโดยตลอดไม่ใช่หรือ อยากให้ลูกเป็นฝั่งเป็นฝา แล้วตอนนี้ป้องก็พาแฟนมาประกาศตัว ถือว่าเป็นงานแต่งงานไปเลยก็แล้วกัน” ตอบด้วยเสียงสงบ นายแพทย์ปฐมเดชมองสองหนุ่มสาว ทั้งคู่เตรียมพร้อมและมาในชุดเจ้าบ่าวเจ้าสาวเสียขนาดนี้ “สรุปว่า จะมีการจัดงานแต่งงานอีกครั้งหรือไม่ครับ” แสงแฟลชยังคงสาดใส่บรรดาบ่าวสาว และครอบครัวบนเวทีเป็นระยะ ก่อนนักข่าวคนหนึ่งจะรีบยิงคำถามพร้อมจ่อไมโครโฟน นายแพทย์ปฐมเดชเดินแทรกมาด้านหน้า แล้วก้มลงไปตอบแทน “ก็แล้วแต่หนุ่มสาวละครับ วันนี้ก็ถือว่าเป็นทั้งงานหมั้นงานแต่งไปเลยก็แล้วกัน ผมกับภรรยาอยากได้หลาน ก็ต้องลุ้นให้ทั้งสองคนปั๊มทายาทให้เร็วที่สุด” ทุกคนฮือฮากับคำตอบ ที่แท้เหตุผลของงานวิวาห์ฟ้าแลบ คืออยากอุ้มหลานนั่นเอง “คุณชนาภาเอาแหวนมาสิ” เมื่อได้ยินคำสั่งของพ่อ อิงธาราผู้เป็นน้องสาว ก็รีบวิ่งลงไปหยิบพานใส่แหวนแล้วนำกลับขึ้นมาบนเวทีให้ “นี่ค่ะคุณพ่อ” “ป้องสวมแหวนให้น้องสิ” นายแพทย์ปฐมเดชหันไปกำกับลูกชาย “ครับ” ปรมะรับคำพลางหยิบแหวนวงเล็กขึ้นมา จับมือข้างซ้ายของมธุรดาเอาไว้ แล้วจ่อแหวนที่ปลายนิ้วนาง “สวมให้น้องเลย นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป พ่อถือว่าหนูกับเราเป็นครอบครัวเดียวกันแล้วนะ” “พี่บีค่ะคุณพ่อ” อิงธารายิ้มแย้มยิ้มให้มธุรดา ดีใจที่ได้พี่สะใภ้เป็นดาราดัง เธอยื่นหน้ามาช่วยแนะนำให้พ่อเสร็จสรรพ มธุรดาลอบกลืนน้ำลายอึกใหญ่ลงคอ ขณะจ้องมองตามแหวนกลมเกลี้ยงอันเป็นสัญลักษณ์ว่าตนมีพันธะแล้ว ถูกสวมเข้ามาบนนิ้วนางข้างซ้ายอย่างเชื่องช้า เธอยกหน้าขึ้นไปมองคนตัวโตที่กำลังก้มลงจุมพิตหลังมือของเธอ “บี สวมแหวนให้พี่สิลูก” มธุรดาหันไปมองหน้านายแพทย์ปฐมเดชที่ยิ้มและพยักหน้าให้ คนหลวมตัวได้แต่ส่งยิ้มแห้งกลับ เธอหยิบแหวนในพานออกมาด้วยความรู้สึกประหม่า มือที่กำลังสั่นน้อย ๆ จับมือซ้ายของปรมะเอาไว้ก่อนจะบรรจงสวมแหวนให้กับเขา เสียงปรบมือดังกึกก้องลั่นไปทั้งห้องจัดเลี้ยง คนเป็นแม่ถึงกับน้ำตาไหล “ต้องให้ทำแบบนี้สินะ ถึงได้ยอมเปิดตัวหวานใจให้พ่อแม่ได้รู้สักที” คุณแม่เอ่ยกับลูกชาย ก่อนจะเข้าไปบีบมือมธุรดา “แม่ดีใจมากที่หนูเป็นเจ้าสาวของป้อง แม่ยินดีต้อนรับนะคะ” มธุรดาเป็นเจ้าสาวไม่รู้ตัว มีสามีแบบกะทันหันตามที่หมอดูทัก ได้มาเป็นคนรักของคุณหมอหนุ่มเหมือนกับฝันเสียมากกว่า เธอลองหยิกหลังมือตัวเองดู ความเจ็บช่วยบอกให้รู้ว่าทั้งหมดคือเรื่องจริง “คุณไม่ได้ฝันไปหรอก เราสองคนแต่งงานกันแล้ว” เขาประคองกอด ทำเหมือนคู่รักที่หวานชื่นและรักกันมาแสนนาน จากนั้นคุณหมอก็จุมพิตลงไปที่ริมฝีปากของเธอแล้วนิ่งค้างไว้แบบนั้น เพื่อให้นักข่าวกดบันทึกภาพตามใจชอบ เสียงปรบมือกึกก้องดังไปทั้งงาน แขกเหรื่อต่างโห่ร้องแสดงความยินดีกับบ่าวสาวและครอบครัวอัศวิเวชน์ บอกได้เลยว่า เรื่องนี้จะกลายเป็นข่าวใหญ่ที่จะกลบเรื่องมธุรดาถูกโกงและเป็นหนี้สิบล้านได้อย่างแน่นอน ยังมีการเก็บภาพครอบครัวในหลายมุม มธุรดานั่งพับเพียบเคียงคู่กับนายแพทย์ปรมะ ห้อมล้อมด้วยญาติผู้ใหญ่ฝ่ายเจ้าบ่าว และแขกผู้มีเกียรติท่านอื่นที่มาร่วมงาน กว่าจะเสร็จสิ้นพิธีการทั้งหมดก็ใช้เวลาไปหลายชั่วโมง ตอนที่มธุรดาลุกขึ้นยืนเธอมีอาการหน้ามืด หลายสัปดาห์ที่ผ่านมา นักแสดงสาวโหมทำงานหนัก และคิดมากเรื่องหนี้สิน มธุรดาทุกข์ใจที่เพื่อนรักหลอกลวงและโกงเงินหายเข้ากลีบเมฆ เรื่องราวทั้งหมดที่กำลังเผชิญทำให้เธอนอนไม่หลับหลายคืนติด วันนี้ยังต้องออกมาทำงานด้วยสภาพร่างกายมาเต็มร้อย ดัวยอะไรหลายอย่างประดังประเดเรียงหน้าเข้ามาไม่หยุดหย่อน ฝืนอดทนมานานสุดท้ายเธอก็ไม่ไหว มธุรดาหมดสติไปในทันที โชคดีที่ปรมะอยู่ใกล้เขาจึงได้รับร่างของเธอไว้ทัน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD