บะหมี่ หลังเรียนจบปริญญาตรีก็เข้าทำงานในบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง แผนกฝ่ายบุคคล ชีวิตในแต่ละวันของการทำงาน สงบราบเรียบ
ส่วนหนึ่งเพราะเธอไม่ค่อยหืออือกับใคร ใครว่าอะไรก็ตามนั้น ไม่ใช่ว่าเธอกลัว แต่เพราะคิดว่าเรื่องติฉินนินทาที่ไหนก็มีหมด
แค่ตัวเรา รู้ตัวดีก็พอแล้ว วันนี้เธอมาทำงานปกติ สะพายกระเป๋าสีดำเรียบๆ สวมกระโปรงดำยาวถึงหัวเข่า เสื้อเชิ้ตสีครีม ผูกโบตรงคอปก
หน้ายังไม่แต่ง เนื่องจากใกล้เวลาเข้างานพอดี จึงต้องรีบ เดินจ้ำอ้าวเข้าลิฟต์ ออกมาเจอใครคนหนึ่ง ผู้ชายรูปร่างสูงโปร่ง หน้าตาดี
หล่อเหลาเลยล่ะ เซตผม เหมือนพวกศิลปินเกาหลี ถ้ามองผิวเผิน ก็โอปป้าดีๆ นี่เอง
น่าเสียดายที่สุดหล่อคนนี้เป็นเกย์รุก บะหมี่ไม่สนใจ ใครจะเป็นยังไงก็เรื่องของเขา ขอให้วันเวลาผ่านไปเร็วๆ ก็พอ เธออยากกลับไปดูซีรีส์
ผู้ชายที่อายุน้อยกว่าเจ็ดปีคนนี้ จ้องหน้าเธอ นี่ไม่ใช่ครั้งแรก หมอนี่มองหน้าเธอประจำ
เดิมทีเธอก็ไม่ใช่คนหยิ่งอยู่แล้ว แต่ปกติรีบๆ จึงไม่ได้ยิ้มให้อีกฝ่าย วันนี้เลยเงยหน้ามองคนตัวสูง ยกยิ้มตามมารยาท อีกฝ่ายกลับเมินหน้าหนี
เดินผ่านตัวเธอเข้าไปในลิฟต์ บะหมี่ยืนหน้าเหวอ พูดไม่ออก “อะไรเฟ้ย?” เธอสบถ
ไอ้เด็กบ้านี่ เดินผ่านทีไร ชอบมองหน้าทุกที แต่พอยิ้มให้ กลับทำเป็นเมิน!!
บะหมี่เลิกสนใจ รีบไปสแกนลายนิ้วมือ เวลาเหลืออีกสองนาที นั่งบนโต๊ะทำงาน ยัดขนมปังใส่ปาก เคี้ยวรวดเร็ว ต่อด้วยทาแป้งลวกๆ
แบบนี้แหละถึงไม่มีแฟน เธอเข้าใจตนเองดี ว่านอกจากป้ำๆ เป๋อๆ แล้วยังทำตัวไม่สนโลก...
“ทำไมไม่ใส่ถุงน่อง หน้าเธอแพ้อะไรตุ่มเต็มเลย นี่สระผมมาทำงานไหม...” และบลาๆ เพื่อนที่ไม่รู้จะเรียกเพื่อนได้ไหม ตำหนิตั้งแต่หัวจรดตีน
แต่ไม่มองหนังหน้าตนเอง ถุงน่องก็ขาด อืม อีบะหมี่คนนี้ไม่อยากใส่ใจ ตอบแค่ “ขี้เกียจ!”
“เป็นผู้หญิงก็หัดรัก...” บลาๆๆๆๆ
อีบะหมี่อยากลาออกจากงานวันละร้อยรอบ แต่เงินในบัญชีติดลบไง เลยต้องอดทน!
“หมี่โอนเงินให้หนึ่งบาทสิ แล้วเอาเงินสดไป” เพื่อนที่บะหมี่ไม่แน่ใจว่าเป็นเพื่อนไหมสะกิดไหล่
“ไม่มี” บะหมี่ตอบตามจริง มีเงินมาทำงานแค่พอใช้ หมดแล้วก็ลำบากเหมือนกัน
“อะไร เงินเพิ่งออก แค่บาทเดียวก็ไม่มี?”
“เธอก็ไปให้น้องติณโอนให้สิ” บะหมี่พูดปัดๆ จากนั้นก็ไปนั่งกินข้าวที่ซื้อมาแล้วในห้องพักผ่อนของพนักงาน มองเพื่อนคนนั้นที่สอนให้ประหยัด
แต่ดื่มกาแฟแก้วละเกือบร้อย ส่วนบะหมี่ดื่มกาแฟกระป๋องสิบเก้าบาท และยังโดนแซว อีกว่ากาแฟที่บะหมี่ดื่ม เป็นกาแฟเกษตรกร!
“ติณๆ มีตังค์ในบัญชีหนึ่งบาทไหม โอนให้พี่หน่อย แล้วเอาเงินสดไป” เรไรกวักมือเรียกติณ
เกย์รุกสุดเท่ ในขณะที่อีกฝ่ายชงกาแฟเดินเข้ามาในห้องพักผ่อน ติณไม่ใช่แค่หน้าดี ฐานะดีด้วย เป็นถึงหลานเจ้าของบริษัท
แต่ก็นะอีบะหมี่คนนี้ไม่ลืม ที่อีกฝ่ายเมินตอนตนยิ้มให้ บะหมี่ก้มหน้าก้มตากินข้าว
ตักข้าวเข้าปากคำใหญ่ เวลาว่างของเธอมันมีค่า มีงานเสริมต้องทำ คือเขียนนิยาย จะขายดีหรือไม่ดี ก็ต้องทำ เพราะค่าบ้าน ค่าน้ำค่าไฟ
และอนาคตอยากมีรถเก๋งสักคัน ขณะหยิบขวดเป๊ปซี่ขึ้นดื่ม หลอดลอยขึ้นมาเกือบทิ่มตา
บะหมี่โคตรอาย แต่ไม่ทันแล้ว น้องติณเกย์รุกสุดฮอต เห็นเข้าเต็มตา มุมปากเม้มตรง
ไม่ขำและก็ไม่แยแส แต่ใครสนใจ บะหมี่ดูดน้ำเสร็จกินข้าวต่อ ขอแค่เพื่อนคนนั้นไม่เห็นก็พอ บะหมี่ขี้เกียจตอบคำถาม
“ขอบใจนะน้องติณ ตอนแรกพี่ขอให้บะหมี่โอนให้แล้ว แต่นางไม่มี...ขอบใจอีกครั้งนะ”
“แค่กๆ!” บะหมี่ข้าวเกือบติดคอ
“ไม่เป็นไรครับ”
ติณนั่งฝั่งตรงข้าม เนื่องจากไม่มีเก้าอี้ว่าง ช่วงเวลาไล่เลี่ยกันบะหมี่ยกขาไขว้กัน แล้วเผอิญไปเตะขาติณเข้าพอดิบพอดี บะหมี่ยิ้มแห้ง
ติณหน้านิ่งเฉย เอียงคอฟังเรไรพูดอะไรไม่รู้ ดูกะหนุงกะหนิง เหมือนคู่รัก
บะหมี่อดไม่ได้เบะปาก พลางคิดว่า...เกย์น่ะ ไม่เอาผู้หญิงทำเมียหรอกย่ะ!
เมื่อกลับเข้าไปทำงาน บะหมี่ที่ตั้งใจทำงานของตัวเองให้เสร็จ ได้ไม่ต้องทำ OT แต่ต้องพบข่าวร้าย เรไรขอให้เธอทำงานที่เหลือแทน
เพราะจะไปดื่มกับน้องติณ บะหมี่จะปฏิเสธ แต่แบงก์ร้อยในมือสองใบ ทำให้เธอเปลี่ยนความคิด ทำมือ OK อวยพรให้เพื่อนมีผัวในคืนนี้!
แล้วนั่งทำงานยาวไปถึงสองทุ่ม ในแผนกยังมีคนอื่นอีกสามคน แต่ถึงมีแค่เธอ เธอก็ไม่กลัว
เพราะเธอมันบาปหนา ผีไม่กล้ามาขอส่วนบุญ ลุกอย่างอิดออด เก็บของใส่กระเป๋า เดินไปเข้าห้องน้ำคนเดียว
“น้องติณ พกข้าวหลามมาทำงานด้วยทุกวัน ไม่หนักเหรอครับ...ให้พี่ช่วยแบ่งเบาให้นะ”
“เอ่อ...” บะหมี่เปิดประตูเข้ามาแล้ว ถอยหลังหนึ่งก้าว เพื่อมองป้ายหน้าห้องน้ำ ก็ถูกต้อง
ห้องน้ำผู้หญิง แต่ก็นะ เธอคิดว่าติณเป็นเกย์นี่ ก็คงคิดว่าตนเป็นสาว เลยพาคู่ขามาเข้าห้องน้ำ คนหนึ่งนั่งคุกเข่า ส่วนติณยืนหลังพิงอ่างล้างมือ
“...ฉันขอเวลาหนึ่งนาทีนะ จะรีบฉี่รีบไป”
บะหมี่เดินเข้าห้องน้ำใกล้สุด
...ไหนไปดื่มกับเรไร แล้วมาโผล่ในห้องน้ำผู้หญิงได้ไงวะ แต่ตอนเดินผ่าน กลิ่นเหล้าหึ่งเลย
น่าจะไปแล้วกลับมา เธอรีบทำธุระ แต่ตอนนี้ฉี่ไม่ออกแล้ว จึงทำแค่ นั่งลงและลุกขึ้น ออกไปก็ไม่เห็นผู้ชายที่จะกินข้าวหลาม เหลือเพียงติณ
เมื่อติณเห็นบะหมี่ เขาลดมือถือราคาแพงลง จ้องหน้าบะหมี่ตรงๆ บะหมี่ที่ดวงตาเหนื่อยล้า
ทำอะไรไม่ถูก พลันโบกไม้โบกมือ
“พี่ไม่ใช่คนปากมาก...”
ปัง!
“อะ! ติณ...น้องติณจะทำอะไร พี่บอกแล้วไงว่าไม่ใช่คนปากมาก ไม่เห็นต้องใช้กำลัง...”
“หุบปาก!” ติณล็อกประตู แกะเข็มขัดที่ถูกปลดไปครึ่งหนึ่ง รูดซิปกางเกง เอ็นกายเด้งออกมาทันที เขาไม่ได้ใส่กางเกงใน?
บะหมี่ตาโต ของเด็กหนุ่มวัยยี่สิบเอ็ด ใหญ่ยาวและชมพูเกินต้าน เธอที่ไม่เคยมีแฟนอดหวั่นไหวไม่ได้ ยืนขาสั่นพั่บๆ ตรงหน้าชักโครก
ห้องน้ำที่คับแคบ ทำให้หายใจไม่ออก แถมยังโดนบังทางหนี บะหมี่ เมื่อเห็นเขาขยับขึ้นหน้าก็ใช้แขนดันแผ่นอก ที่ตึงแน่นไปด้วยกล้ามเนื้อ
“น้องติณจะทำอะไร?”
“ขอยืมก้นของพี่บะหมี่หน่อยครับ”