ตอนที่ 10 ลี่ถัง

1625 Words
วาระสุดท้ายของเจ้านักโทษผู้นี้นั้นดูเหมือนว่าจะจบไม่สวยนัก หลังจากที่เขาเล่นกับเรือนร่างของมันจนพึงพอใจแล้วชีวิตของมันจะต้องจบลงอย่างน่าสมเพช เพราะถึงอย่างไรตัวของท่านแม่ทัพเฟยเมียวก็ไม่คิดที่จะไว้ชีวิตของมันตั้งแต่แรกอยู่แล้ว มันควรที่จะรู้สึกสำนึกบุญคุณด้วยซ้ำที่มีโอกาสได้เห็นเรือนร่างที่สุดแสนจะงดงามของฮูหยิน ก่อนชีวิตของมันจะดับสิ้นไป นับว่าตัวของมันนั้นเกิดมาไม่เสียชาติเกิดแล้ว การกระทำของท่านแม่ทัพเฟยเมียวอาจจะมองดูแล้วโหดร้ายป่าเถื่อน แต่แท้ที่จริงแล้วภายในสถาวะสงครามเช่นนี้นั้นพฤติกรรมของเขาถือว่าเป็นเรื่องธรรมดาเป็นอย่างมากเพราะมีทหารเลวเป็นจำนวนไม่น้อยข่มขืนผู้หญิงชาวบ้านเป็นว่าเล่นหลังจากเมื่อมันอิ่มเอมใจแล้วพวกมันก็ดับลมหายใจของพวกนางอย่างไร้ปราณี เหตุการณ์ผู้ชายข่มขืนผู้หญิงหรือจะเป็นผู้หญิงข่มขืนผู้ชายก็เป็นภาพที่พบเห็นได้บ่อยในช่วงนี้โดยเฉพาะสภาวะของสงครามที่สามารถทำให้ผู้คนปลดปล่อยอารมณ์ด้านมืดของตนได้อย่างเต็มที่ “ท่านจะไปแล้วอย่างงั้นเหรอ ขุนพลสวรรค์ของข้า” ฮูหยินใหญ่นางกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเสียดายไม่น้อยเพราะตลอดช่วงเวลาที่อยู่ด้วยกันนั้นมันช่างผ่านไปรวดเร็วเหลือเกิน ไม่รู้ว่าอีกกี่วันกี่เดือนกันที่ท่านแม่ทัพผู้นี้จะได้เดินทางกลับ “ข้าหวังว่าตลอดระยะเวลาที่พวกเราอยู่ด้วยกันจะสามารถเติมเต็มให้กับเจ้าได้บ้าง” ท่านแม่ทัพเองก็รู้สึกเสียดายเช่นกันที่ไม่สามารถพานางไปด้วยได้ไม่เช่นนั้นแล้วคงจะเกิดเรื่องราวสนุกมากมายเป็นแน่ แต่ไม่ว่าจะอย่างไรก็จำเป็นที่จะต้องมีคนอยู่เฝ้าดูตระกูลไม่เช่นนั้นอาจจะเกิดปัญหา ในขณะที่ฮูหยินกล่าวคำอำลาต่อท่านแม่ทัพนางก็แอบไปมองที่เรือนร่างที่ใหญ่โตของคุณเหลียง นางอยากจะพูดจากับมันตั้งมากมายแต่ก็ไม่สามารถที่จะทำได้ตลอดชีวิตของนาง นางไม่เคยพบท่อนเอ็นที่ดีเยี่ยมเท่านี้มาก่อนเมื่อนางนึกถึงมันทีไรอดทำให้เสียวสั่นสะท้านไม่ได้ “ออกเดินทางได้” ท่านแม่ทัพบอกให้ขบวนทัพเคลื่อนพลในทันทีรถม้าค่อยๆเคลื่อนตัวไปอย่างช้าๆในเวลานี้นั้นเขาสามารถรวบรวมทหารหน้าใหม่เป็นจำนวนนับพันคนทั้งจากชาวบ้านที่ต้องการมาสมัครเป็นทหารหรือจะเป็นทาสรับใช้ที่มาจากตระกูลต่างๆคนทุกคนที่เข้ามาร่วมในสงครามก็ล้วนแล้วแต่มีจุดมุ้งหมายที่แตกต่างกันบ้างก็ต้องการที่จะสร้างชื่อเสียงให้กับวงตระกูลบ้างก็เพื่อต้องการให้เป็นอิสรภาพ โดยเฉพาะกับเจ้าพวกทาสพวกมันไม่มีทางเลือกอื่นนอกซะจากจะเข้าร่วมสงครามมีเพียงแต่วิธีนี้เท่านั้นที่จะสามารถแลกมาซึ่งอิสระได้ ขบวนรถม้านั้นค่อยๆเคลื่อนตัวไปอย่างช้าๆพร้อมทั้งมีทหารหน้าใหม่เป็นจำนวนมากที่เคลื่อนขบวนมาตามหลังกว่าที่จะเดินทางมาถึงค่ายพักก็กินเวลาไปหลายชั่วโมงในที่สุดพวกเขาก็เดินทางมาถึงแต่ในช่วงนี้นั้นมันก็เป็นเวลาที่มืดค่ำแล้ว “เอาหล่ะ เจ้าพวกทหารหน้าใหม่ทั้งหลายวันนี้พวกเจ้านอนพักกันที่ข้างนอกก่อนส่วนพรุ้งนี้เช้า ข้าจะจัดให้พวกเจ้าเข้าประจำการในแต่ล่ะกอง” นายทหารคนหนึ่งร้องตะโกนอย่างสุดเสียงเพื่อที่จะให้เจ้าพวกทหารหน้าใหม่พวกนี้ได้ยินเมื่อมันป่าวประกาศเสร็จแล้วมันจึงค่อยๆแจกเครื่องนุ่งห่มให้แต่ล่ะคนอย่างช้าๆจนกระทั่งครบทุกคน ทั่วทั้งบริเวณสถานที่แห่งนี้ผู้คนต่างพากันสุมกองไฟเพื่อที่จะบรรเทาอากาศที่หนาวเย็น สำหรับผู้คนส่วนใหญ่แล้วไม่คิดไม่ฝันมาก่อนเลยว่าตนเองจะได้มานอนกลางแจ้งเช่นนี้ แล้วทั่วทั้งบริเวณสถานที่แห่งนี้นั้นก็เต็มไปด้วยผืนทะเลทรายที่กว้างใหญ่ อากาศยามค่ำคืนนั้นถือว่าหนาวเย็นเป็นอย่างมาก ต่อให้ได้เครื่องนุ่งห่มมามันก็ยังให้ความรู้สึกที่เหน็บหนาวเสียดกระดูกอยู่ดี ในขณะที่กำลังก่อกองไฟอยู่นั้นก็มีคนกล่าวทักทายขึ้น “เจ้าชื่ออะไรมาจากไหนอย่างงั้นเหรอ” ชายผู้เต็มเปี่ยมไปด้วยอัธยาศัยดีผู้นี้นั้นเขามีนามว่า ลี่ถัง หน้าตาของเขานั้นถือว่าหล่อเหลาไม่เลว ไม่ว่าพบเจอผู้ใดชายผู้นี้นั้นก็กล่าวทักทายไปหมดไม่เว้นแม้แต่กับคุณเหลียงเองก็เช่นกัน “ข้ามีนามว่าคุณเหลียง ข้าเป็นทาสภายในตระกูลของท่านแม่ทัพ” คุณเหลียงกล่าวออกมาอย่างไม่ปิดบังว่าตนเองนั้นเป็นทาส หากมองแต่เพียงภายนอกนั้นย่อมไม่มีใครสามารถรับรู้ได้เลยว่าชายผู้นี้นั้นแท้ที่จริงแล้วก็เป็นทาสมาก่อนเพราะคนทุกคนในยามนี้นั้นล้วนแล้วแต่สวมเครื่องแบบทหารเหมือนกันหมด “ข้าลี่ถัง เป็นเพียงแค่ชาวบ้านธรรมดาผู้หนึ่งตัวของข้านั้นอาศัยอยู่ที่นอกเมืองหลวง” ลี่ถังไม่ได้รู้สึกลังเกียจคนที่เป็นทาสแม้แต่น้อย มันเกิดในชาติตระกูลที่ยากจนศักดิ์ฐานะของมันนั้นก็ไม่ได้ต่างอะไรไปจากพวกทาสตรงไหนที่มันสมัครมาเป็นทหารนั้นมันคาดหวังเป็นอย่างยิ่งว่าครอบครัวของมันนั้นจะมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นเพราะเมียของมันในยามนี้นั้นกำลังตั้งท้องลูกอยู่มันคาดหวังซะเหลือเกินเด็กที่เกิดออกมานั้นจะต้องมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีกว่ามันไม่ว่าจะอย่างไรจะต้องยกระดับฐานะของครอบครัวให้ได้ มีเพียงแต่ที่จะต้องเข้าร่วมเป็นพลทหารอาสาเท่านั้นที่จะสามารถทำได้หากตัวของมันทำผลงานที่ดีเกินพอ คนทั้งสองต่างพูดคุยกันเกือบตลอดทั้งคืนพวกเขาถือว่าเข้าขากันได้ดีไม่น้อย ทางด้านตัวของคุณเหลียงเองก็รู้สึกดีเป็นอย่างมากเพราะตลอดทั้งชีวิตของเขานั้นไม่เคยมีสหายมาก่อน เจ้าคนที่ชื่อลี่ถังผู้นี้นั้นถือว่าเป็นคนแรกที่ยินดีที่จะรับตนเป็นสหาย มันไม่รังเกียจตนเลยแม้แต่น้อยว่าเคยเป็นทาสมาก่อน เช้าวันถัดมานั้นนายกองได้สั่งเตรียมพลอีกครั้ง เพื่อที่จะให้ทุกคนแยกไปอยู่หน่วยสังกัดของตนเอง ทางด้านตัวของคุณเหลียงและลี่ถังถือว่าโชคดีเป็นอย่างมากที่คนทั้งสองนั้นได้อยู่หน่วยเดียวกันโดยบังเอิญภายในกองทัพที่ยิ่งใหญ่แห่งนี้นั้นมีจำนวนหน่วยนับไม่ถ้วน เมื่อถูกบรรจุเข้าหน่วยแล้วก็จะได้เข้าไปอยู่ภายในสถานที่พัก ถึงแม้ว่าจะขึ้นชื่อว่าเป็นสถานที่พักนั้นแต่มันก็คือเต็นท์ขนาดใหญ่ที่ถูกขึงเอาไว้ แต่มันก็ยังดีที่สามารถกันแดดกันฝนได้ ภายในค่ายทหารแห่งนี้นั้นไม่ค่อยมีอะไรเจริญหูเจริญตามากนัก สิ่งที่พิเศษสุดภายในค่ายแห่งนี้นั้นก็คือเรือนปลดปล่อยอารมณ์ มันคือเต็นท์ขนาดใหญ่และบริเวณภายในนั้นจะถูกซอยเป็นห้องๆ แน่นอนว่าเรือนปลดปล่อยอารมณ์ก็สมชื่อของมันภายในสถานที่แห่งนี้นั้นจะมีหญิงสาวโสเภณีคอยให้บริการเหล่าพลทหารที่กำลังหิวกระหาย ค่าบริการทั้งหมดกองทัพจะเป็นผู้จ่าย สาเหตุที่จำเป็นต้องมีสถานที่เช่นนี้นั้นเพราะทางกองทัพต้องการที่จะให้คนทุกคนที่เข้าร่วมศึกสงครามลืมความหวาดกลัวสิ่งเหล่านี้นั้นจะสามารถเยียวยาจิตใจของพวกมันได้ไม่มากก็น้อย ทั่วทั้งบริเวณของเรือนปลดปล่อยอารมณ์นั้นเต็มไปด้วยเสียงร้องครวญครางของสาวงาม แต่จะว่าไปผู้ที่จะมาใช้บริการสถานที่แห่งนี้นั้นมีเพียงแต่ตัวตนระดับร่างเท่านั้นที่จะต้องเข้ามาต่อคิวเพื่อที่จะได้รับการปลดปล่อย แต่หากเป็นผู้ที่มีตำแหน่งใหญ่โตสาวงามพวกนี้นั้นมาให้บริการถึงภายในห้องพักและสามารถที่จะหลับนอนกับพวกนางได้อย่างไม่จำกัดเวลา แต่ถ้าเป็นพวกทหารระดับล่างนั้นพวกมันจะมีระยะเวลาจำกัดเพียงแค่ไม่กี่นาทีเท่านั้น แต่สำหรับเจ้าพวกหน้าใหม่พวกนี้ถึงพวกมันจะอยากจะเข้าไปใช้บริการมากขนาดไหนแต่ในตอนนี้นั้นเกรงว่าจะไม่ได้ พวกมันในฐานะทหารใหม่ก่อนที่จะออกไปทำศึกสงครามพวกมันจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องฝึกฝนเพราะถึงแม้ว่าจะเกิดในยุคสมัยที่เลวร้ายและป่าเถื่อนแต่ทหารใหม่พวกนี้ก็เป็นเพียงแค่ชาวบ้านธรรมดาเท่านั้นที่ไม่เคยจับอาวุธมาก่อนหากส่งพวกมันออกรบก็เท่ากับเป็นการส่งให้พวกมันไปตายและมันจะเป็นผลต่อทิศทางของส่งครามเป็นอย่างมาก ดังนั้นแล้วไม่ว่าจะอย่างไรพวกมันจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องได้รับการฝึกฝนอย่างเร่งด่วนผู้ที่จะทำหน้าที่ฝึกฝนให้กับทหารใหม่พวกนี้นั้นก็คือทหารเก่าชุดก่อนหน้าที่เคยออกสมรภูมิสงครามจริง
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD