ตอนที่ 4 แปรปรวน

2029 Words
“ผู้หญิงคนนั้นใครเหรอ?” ในที่สุดฉันก็หยุดยั้งความสงสัยของตัวเองเอาไว้ไม่ได้ แฟรงก์ที่กำลังจะเดินเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าถึงกับหันขวับมาจ้องหน้าฉันทันที “มันไม่เกี่ยวกับเธอหนิ” “ไม่เห็นต้องหงุดหงิดเลยนี่นา” ฉันหน้าบึ้งเมื่อแฟรงก์ใช้อารมณ์ หมอนั่นชอบหงุดหงิดใส่ฉันอยู่เรื่อย ให้ตายเถอะ “อ้อ” เขาหันกลับมาหลังจากที่เดินห่างไปแล้วหลายก้าว “ระหว่างรอจะไปเดินเล่นก่อนก็ได้นะ” ก็ไม่แคล้วไล่ฉันอีกอยู่ดี ให้ตายเถอะ ฉันไม่ยอมแพ้นายหรอกไอ้คนหยิ่งเอ๊ย คิดว่าหล่อนักเหรอไง ฉันก็ไม่ได้อยากจะหลงเสน่ห์นายนักหรอก นายต่างหากที่ต้องมาหลงเสน่ห์ฉัน เชอะ ฮื้อ!!... คิดออกแล้ว ฉันคลี่ยิ้มก่อนจะหมุนตัวเดินกลับไปที่เคาน์เตอร์เพื่อขอใช้สระว่ายน้ำ หลังจากนั้นก็เดินเข้าไปเลือกชุดว่ายน้ำที่ทางห้างฯ จัดเอาไว้ให้เช่าสำหรับคนที่ไม่ได้เตรียมมา หุหุ ฉันจะทำให้นายอึ้งกับสัดส่วนที่แม้แต่นางแบบยังอาย จับตาดูให้ดีเถอะแฟรงก์ …ว่าแต่ลงทุนไปไหม ฉันมองบิกินีที่สวมทับอยู่บนร่างกายอย่างรู้สึกอักอ่วนใจที่จะเดินออกไปอวดสายตาของใครต่อใคร บ้าจริง (ต่อมละอายใจเริ่มทำงาน) ทำไมต้องมาโชว์สัดส่วนและผิวขาวเนียนของตัวเองอย่างไร้สาระแบบนี้ด้วยเนี่ย แง่ง~ “นี่เธอ!” ระหว่างที่ฉันกำลังลังเลว่าจะออกไปในสภาพนี้ดีหรือเปล่า เสียงแข็งๆ ของผู้หญิงคนหนึ่งก็ดังขึ้นจากด้านหลัง ฉันไม่ได้หันไปมองแต่กลับจ้องเธอผ่านกระจกพร้อมกับเลิกคิ้วขึ้นอย่างเป็นคำถาม “กระจกน่ะ จะส่องอีกนานไหมคนอื่นเขาจะใช้” “อ่อ... โทษค่ะ” ฉันเข้าใจในทันทีและเลี่ยงออกมาอย่างรวดเร็ว พร้อมกับพึมพำขอโทษเธอเบาๆ อย่างรู้ตัวว่าผิด ยัยนั่นจึงคลายสีหน้าลงและพยักหน้าให้ฉันอย่างไม่ถือสา ย่ะ ถ้าเธอจะถือสาหาความเพราะเรื่องแค่นี้ฉันก็ว่าบ้าแล้วล่ะ! ฉันเดินมาหยิบผ้าคลุมอาบน้ำสีขาวขึ้นสวมทับบิกินีสีส้มสด ผูกสายคาดเอวเรียบร้อย เดินออกมาจากห้องแต่งตัวมุ่งตรงมาที่สระว่ายน้ำ “นึกว่าเธอไปเดินเล่น จะว่ายน้ำด้วยเหรอ?” แฟรงก์หันมามองหน้าฉัน หมอนั่นกำลังนอนเอกเขนกอยู่บนเก้าอี้สีขาวพร้อมกับบีบกล้ามเนื้อน่องขาตัวเองไปพลาง เหมือนกำลังสร้างความยืดหยุ่นให้กับร่างกาย “อืม” ฉันครางตอบเบาๆ แล้วทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้สีขาวข้างๆ หยิบครีมกันแดดที่อภินันทนาการจากทางห้างฯ ขึ้นมาบีบแล้วทาแขนและขาในส่วนที่เลยผ้าคลุมออกมา แฟรงก์ลุกขึ้นไม่พูดไม่จาเดินตรงไปที่สระว่ายน้ำแล้วกระโดดตูม! ฉันมองหมอนั่นแหวกว่ายอยู่ในสระสักพักจึงตัดสินใจถอดผ้าคลุมออกไปวางไว้ที่โต๊ะข้างๆ แล้วเริ่มทากันแดดในส่วนของร่างกายที่ถูกปกปิดก่อนหน้านี้ ว่าแต่... ทำไมฉันถึงไม่ทาตั้งแต่ตอนเปลี่ยนชุดว่ายน้ำนะ สมองช้าจริงๆ เฮ้! ฉันเปล่าออกมาทายั่วแฟรงก์นะ ไม่เคยมีความคิดแบบนั้นอยู่ในหัวฉันเลยจริงๆ “เอ๊ย!” ระหว่างที่ฉันกำลังด่าตัวเองอยู่ในใจ ก็มีใครบางคนแย่งครีมกันแดดในมือไป แล้วฉันก็ต้องเบิกตากว้างเมื่อคนคนนั้นคือแฟรงก์ “ให้ช่วยไหม” ตึกๆ ตึกๆ กรี๊ด! แล้วทำไมหัวใจฉันต้องเต้นแรงแบบนี้ด้วยเนี่ย ใบหน้าเรียวยาวได้รูปงดงามราวกับปั้นมาจากจิตรกรชั้นเอก จมูกคมมีหยดน้ำเกาะประปรายยิ่งทำให้หัวใจฉันสั่นระรัว กอปรกับดวงตาคมเฉี่ยวที่จ้องมองมาอย่างจงใจนั่นอีก กรี๊ด! นายมาปั่นป่วนหัวใจฉันทำม้ายยยย~ “เอ่อ... มะไม่เป็นไร” ฉันพยายามหันไปมองแฟรงก์ที่ยืนอยู่ด้านหลังแต่หมอนั่นก็ไวกว่าความคิด บีบครีมใส่หลังฉันเรียบร้อยโรงเรียนวัดไปแล้ว ฉันสะดุ้งวาบพร้อมกับจ้องหน้าแฟรงก์ตาลุกวาว หมอนี่มันคิดจะลวนลามฉันใช่ไหมฮะ “ไม่เป็นไรหรอกน่า... ฉันไม่ถือ” กรี๊ด!! พูดออกมาได้หน้าตาย “แฟรงก์ไม่ต้อง...” ฉันพยายามเบี่ยงหลังหลบมือหนาเปียกชื้นของแฟรงก์แต่ก็ไม่เป็นผล หลายทีเข้าหมอนั่นถึงกับใช้มืออีกข้างจับไหล่ฉันเอาไว้แน่น ไม่ให้ขยับเขยื้อนได้ แง่ง~ นายมันยังไงกันแน่เนี่ย!! “เสร็จแล้ว” หมอนั่นบอกอย่างอารมณ์ดีก่อนจะโยนครีมกันแดดลงบนโต๊ะอย่างไม่ไยดีแล้วจับแขนฉันให้ลุกขึ้น “เฮ้ย!” ฉันร้องเสียงหลงเพราะไม่ทันได้ตั้งตัวก็ถูกฉุดให้ลุกยืนอวดเรือนร่างสุดเซ็กซี่ของตัวเองต่อสายตาของใครต่อใครที่สระว่ายน้ำและที่แย่กว่านั้นก็คือสายตาคมปลาบของไอ้หน้าหล่อที่มองอยู่ใกล้ๆ นี่แหละที่ทำให้ฉันรู้สึกร้อนๆ หนาวๆ ไปทั้งตัวจนแทบอยากจะวิ่งกลับเข้าไปเปลี่ยนชุดให้มันรู้แล้วรู้รอด “หุ่นดีกว่าที่คิดนะเนี่ย รู้ไหมว่าเธอทำให้ฉันอารมณ์ดีขึ้นเป็นกองเลย” รอยยิ้มขี้เล่นของแฟรงก์ทำฉันเสียวท้องวูบ แต่ก่อนที่ฉันจะได้พูดอะไรออกไปแฟรงก์ก็ดึงฉันมาที่ขอบสระแล้วพากระโดดลงน้ำไปด้วยกันทั้งที่ฉันไม่ได้อยากทำแบบนั้นเลยสักนิด กรี๊ด!!! ตูม!!!! แค่กๆๆๆ “ฮะๆ ฮ่าๆ” “ทำอะไรของนายเนี่ย” ฉันโวยหลังจากที่โผล่หน้าขึ้นมาจากน้ำแล้ว แฟรงก์หัวเราะร่วนมองหน้าฉันเหมือนเป็นตัวตลกตามสวนสนุกก็ไม่ปาน “เห็นไอ้แว่นตรงนั้นไหม” แฟรงก์ไม่ตอบคำถามแต่กลับชี้ให้ฉันดูใครก็ไม่รู้ซึ่งกำลังมองมาที่ฉันกับแฟรงก์ตาไม่กะพริบ เอ่อ... แม้จะขัดใจอยู่บ้างแต่ฉันก็พอรู้สึกถึงแรงกดดันบางอย่างจากแววตาคู่นั้น มะเหมือนกันกำลังลามเลียฉันอยู่เลย อี๋!! รู้สึกขยะแขยงเป็นบ้า “มันมองเธอ... ท่าทางคงจิ้นไปไกลแล้ว” “กรี๊ดแฟรงก์หยุดพูดเดี๋ยวนี้นะ” ฉันจ้องหน้าแฟรงก์ตาเขียวพร้อมกับฟาดมือใส่หน้าอกแข็งๆ ที่โผล่พ้นน้ำขึ้นมาของแฟรงก์ดังเพียะ! “โอ๊ย อะไรเล่า ฉันอุตส่าห์ช่วยเธอให้รอดพ้นจากสายตาพวกถ้ำมองนะ” “ชิ! นายเองก็มองฉันเหอะ” “หา?...” หมอนั่นเลิกคิ้วขึ้นเหมือนกับฉันพูดอะไรผิดไป “หรือไม่จริง?” “ก๊าก!” แล้วมันก็หลุดขำออกมาก๊ากใหญ่ ท่าทีฮากระจายของแฟรงก์ทำฉันรู้สึกประหม่าจนทำอะไรไม่ถูก นี่ฉันพูดอะไรผิดไปงั้นเหรอ “ฮะๆ นี่เธอคิดว่าฉันมองเธอเพราะพิศวาสงั้นเหรอ?” ฉันมุ่นหัวคิ้ว เหลือบมองแฟรงก์ที่ขำจนหน้าแดงอย่างทำตัวไม่ถูก นี่นายไม่ได้คิดว่าหุ่นฉันมันเซ็กซี่ขยี้ใจจริงๆ อย่างงั้นเหรอ แล้วที่พูดก่อนหน้านี้ล่ะ “นี่จะบอกอะไรให้นะ เธอหุ่นดีก็จริงแต่มันก็ไม่ทำให้ฉันหวั่นไหวได้หรอกน่า หวายเอกซ์กว่าเธอตั้งหลายเท่า” จี๊ด!! ถึงว่าล่ะชินถึงได้ติดใจยัยนั่นนักหนา เหอะ!!! “ละแล้วนายมองฉันทำไมล่ะ!” ฉันละล่ำละลักพูดพร้อมกับหมุมตัวว่ายน้ำหนีจากแฟรงก์อย่างอายๆ “นี่อย่าบอกนะว่าเขินฉัน?” ทว่าหมอนั่นก็ยังตามมากวนใจฉันไม่เลิก “ใครบอก ทำไมฉันต้องเขินนายด้วย” “ก็นั่นน่ะสิ ไม่มีอะไรที่ต้องขัดเขินฉันหรอกน่า มาสนุกด้วยกันดีกว่า” แฟรงก์สอดวงแขนเข้าคล้องคอฉันอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย หมอนั่นดึงฉันมาที่กลางสระซึ่งลึกกว่าสามเมตร แน่นอนว่าขาฉันหยั่งไม่ถึงแน่นอนแม้แต่เขาเองก็เถอะ “ว้าย! ทำอะไรของนายน่ะแฟรงก์” ฉันตะกรุยตะกรายเพราะรู้สึกอึดอัดจนแทบหายใจไม่ออก ขาก็แหวกว่ายเตะป่ายใต้น้ำมั่วไปหมดด้วยอารมณ์ตกใจ ไอ้บ้าแฟรงก์คิดจะฆ่าฉันเหรอไงเนี่ย “นี่ ฉันต่อให้เธอ เรามาว่ายน้ำแข่งกันแก้เซ็งดีกว่านะ” หมอนั่นกระซิบบอกข้างหูฉัน ถึงแม้ว่าตัวจะแช่อยู่ในน้ำเย็นๆ ทว่าลมหายใจนั่นก็สร้างความร้อนรุ่มให้กับทรวงอกฉันได้ไม่น้อย กรี๊ด!! เพราะแบบนั้นนายก็เลยแกล้งพาฉันมาปล่อยไว้กลางสระโดยไม่ถามฉันสักคำว่าว่ายน้ำเป็นหรือเปล่าเนี่ยนะ ความจริงคือฉันว่ายน้ำได้ แต่ไม่รู้จะไปได้ไกลแค่ไหนเพราะไม่เคยได้ว่ายจริงๆ จังๆ สักครั้ง “อย่าเพิ่งไปไหนนะ รอให้ฉันไปแตะขอบฝั่งโน้นได้ซะก่อน แล้วพอฉันส่งสัญญาณเธอก็ออกตัวได้เลย โอเคนะ” ไม่โอเค!! “เดี๋ยวแฟรงก์ ค่อกๆ บุ๋งๆ แค่กๆ” ฉันลอยผลุบลอยโผล่อย่างจะจมแหล่มิจมแหล่ขณะมองแฟรงก์ว่ายห่างออกไป หมอนั่นไม่สนใจเสียงเรียกของฉันสักนิด ไม่ไหว... ถ้าขืนรอให้แฟรงก์ว่ายไปถึงขอบฝั่งโน้นมีหวังฉันได้จมน้ำตายก่อนจะได้แข่งกับเขาแน่ ฉันรีบตีขาตีแขนกระโจนเข้าหาฝั่งที่ตื้นก่อนที่ร่างกายจะจมจ่อมลงสู่ก้นสระ จำได้ว่ายกแขนได้เพียงสามรอบเสียงแฟรงก์ก็ดังก้องมาจากอีกฝั่ง “เฮ้! ขี้โกงหนิ อย่าเพิ่งสิ รอฉันก่อน เฮ้! เบส... นี่เบสอย่าล้อกันเล่นนะ” บุ๋งๆๆๆๆๆ เฮือก แค่กๆ ค่อกๆ ฉันดำผุดดำว่ายอย่างใจจะขาดเมื่อร่างกายจมลงสู้ผิวน้ำแต่เพราะแรงส่งตัวจากขาทั้งสองข้างก็ทำให้ฉันกลับขึ้นมาอยู่บนผิวน้ำเพื่อสูดอากาศหายใจต่อชีวิตได้อีกนิดก่อนจะจมลงไปกลืนน้ำรสชาติปะแล่มๆ ในสระอีกหลายอึก ทั้งแสบปากแสบคอ น้ำหูน้ำตาไหลเป็นว่าเล่น แงๆ นี่ฉันกำลังจะตายใช่ไหม “เบส!” เสียงแฟรงก์ดังก้องอยู่ในโสตประสาทพร้อมกับแรงจากวงแขนแข็งแรงคล้องคอฉันแล้วดึงขึ้นสู่ผิวน้ำ ฉันกำลังจะตายเพราะถูกช่วยเนี่ยแหละ แค่กๆ หายใจไม่ออก “แค่กๆ แฟรงก์... ปะปล่อยก่อน ฉันไม่เป็นไรแล้ว” ฉันบอกเสียงเหนื่อยอ่อน รู้สึกอ่อนระโหยโรยแรงอย่างบอกไม่ถูก แฟรงก์พาฉันว่ายกลับมาในบริเวณที่ตื้นขึ้นจนอยู่ในระดับอก เขาจึงยอมผละแขนออกไปแต่ก็ยังไม่วายใช้มือข้างหนึ่งประคองต้นแขนฉันเอาไว้หลวมๆ อย่างกลัวว่าฉันจะหมดแรงจมน้ำลงไปอีก “ว่ายน้ำไม่เป็นทำไมไม่บอก” เขาจ้องหน้าฉันอย่างเอาเรื่อง บ้าสิ นายเคยฟังฉันหรือเปล่าล่ะ ฉันเหลือบมองหน้าหมอนั่นพลางส่ายหน้าไปมา สูดหายใจเข้าปอดถี่รัวทดแทนออกซิเจนในส่วนที่ขาดไปก่อนหน้านี้ “...ฉัน พยายามบอกแล้ว แต่... แต่นายไม่ฟัง” “ทำฉันเสียอารมณ์อีกแล้วนะรู้ไหม” “ฉัน ฉันไม่รู้ ขอโทษ” ฉันเหลือบตาลงต่ำ เหนื่อยที่จะต้องทุ่มเถียงกับหมอนั่น แกะมือเขาออกเบาๆ ก่อนจะค่อยๆ เดินกลับขึ้นข้างบนอย่างโซเซ เฮ้อ... ฉันถอนหายใจดังเฮือกอีกระลอกหลังจากทิ้งตัวลงนั่งบนม้านั่งเรียบร้อยแล้ว อาการแสบจมูกยังไม่หายไป ฉันสำลักน้ำไปตั้งหลายฟอด รับรองได้เลยว่าตอนนี้ทั้งตาและจมูกคงแดงเถือกไปตามๆ กัน แฟรงก์จ้องมองฉันอยู่ที่เดิมสักพัก เขาไม่ได้ตามขึ้นมา หมอนั่นละสายตาจากฉันหลังจากเห็นว่าฉันปลอดภัยดีก่อนจะหันกลับไปว่ายน้ำต่ออีกเกือบๆ สิบนาทีแล้วชวนฉันกลับ หมดกัน แผนใกล้ชิดหมอนั่น นี่ฉันยังไม่ทันได้เริ่มอ่อยเขาเลยนะ ก็หมดเวลาซะแล้วเหรอ แง่ม
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD