“ พ่อ…..พ่อจะเอาใครมาทำเมียผมไม่เคยว่า ไม่เคยสนใจ แต่ไม่ใช่คลำดูไม่มีหางก็เอาหมด มันทุกเรศ” คนเป็นลูกโกรธจัดจนใบหน้าคมแดงก่ำ สันกรามสบกันสั่นระริก
เพียะ!!….
มือใหญ่ฟาดลงที่ใบหน้าลูกชายจนหน้าหัน ก่อนที่ชายหนุ่มจะคอยๆหันกลับมาจ้องหน้าคนเป็นพ่อ ด้วยดวงตาขุ่นมัว
“ นี่กู….กูเป็นพ่อมึงนะ…ไอ้คราม มึงกล้าพูดแบบนี้เลยเหรอ?”
ก็ถ้าไม่ใช่พ่อกูคงด่าได้เต็มปากกว่านี้….
“พอเถอะค่ะคุณเดช อย่าใช้ความรุนแรงแบบนี้เลยค่ะ” กนกวรรณคือคนในหัวข้อสนทนาของสองพ่อลูก เธอยืนตัวลีบฟังอยู่ข้างๆท่านชัยเดช
“ วรรณก็ดูมันพูดซิ มันเห็นว่าฉันเป็นพ่อมันบ้างไหม มันคิดว่าตัวเองสูงส่งเหนือคนบนโลกนี้หรือไง “
กนกวรรณไม่รู้จะพูดยังไงให้ท่านชัยเดชใจเย็นลงบ้าง ได้แต่ลูบแขนอีกฝ่ายเบาๆ
“ คุณครามคะ ที่น้าแต่งงานกับคุณเดชเพราะน้าจะได้ดูแลท่านได้สะดวก น้ากับคุณเดชเรารักกัน และน้าจะไม่จดทะเบียนกับคุณเดช จะไม่มีสิทธิ์ในทรัพย์สินใดๆของที่นี่ น้าขอสัญญาค่ะ”
ชายหนุ่มเค้นหัวเราะในลำคอ ผู้หญิงไร้ยางอาย หิวเงินแบบนี้ เวลาอยากได้มันก็พูดอะไรได้ทั้งนั้น ถึงไม่จดทะเบียน แต่ก็คงหาวิธีฉกเงินทองจากพ่อตนอยู่วันยังค่ำ คิดว่าคนทั้งโลกจะเชื่อหรือไง
ใครเชื่อก็เชื่อแต่ไม่ใช่ไอ้ครามแน่…….
“ ขอร้องนะครับ อย่ามาเรียกแทนตัวเองด้วยสรรพนามสนิทสนมแบบนี้ ผมไม่เคยมีน้าเป็นคนใช้”
“ไอ้…..ไอ้คราม…..ไอ้ลูก….” คนเป็นพ่อง้างมือขึ้นอีกครั้ง
“ เอาเลยครับ ตบผมโชว์เมียชั้นต่ำของพ่อเลย เอาซิ….”
กนกวรรณรีบดึงแขนท่านชัยเดชลง เธอไม่อยากให้สองพ่อลูกต้องทะเลาะกันเพราะเรื่องของเธอเลย ที่เธอยอมตกลงแต่งงานกับท่านชัยเดช ไม่ใช่เพราะเรื่องเงินทองเพียงอย่างเดียว แต่เพราะเธอรักและอยากดูแลท่านชัยเดชจริงๆ ส่วนเรื่องชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น อันนั้นมันผลพลอยได้ แต่เธอกล้าสาบานเลยว่าไม่ได้มีเจตนาอยากได้อยากมีสิ่งใดที่เป็นของและเป็นสิทธิอันชอบธรรมของธีรวัฒน์เลยแม้แต่น้อย
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ธีรวัฒน์ มีปากเสียงกับคนเป็นพ่อเรื่องผู้หญิง ทุกครั้งคนเป็นพ่อก็แค่เลี้ยงเล่นๆ ทว่าครั้งนี้จู่ๆบิดาของเขากลับประกาศออกมาดื้อๆว่าจะแต่งงานครั้งใหม่กับกนกวรรณคนใช้ในบ้าน เป็นสิ่งที่ธีรวัฒน์ไม่คาดคิดเลยว่าบิดาตนจะสิ้นคิด ไร้สมองแบบนี้ คนชั้นต่ำพวกนี้ก็แค่หาทางลัดตะเกียกตะกายให้ตัวเองสบายเท่านั้น ถ้าบิดาตนไม่ใช่ผู้คุมบังเ**ยนบริษัทเครื่องดื่มยักษ์ใหญ่อย่างธีระกรุป มีทรัพย์สินเป็นพันล้าน มีบ้านที่ทุกคนเรียกว่าคฤหาสน์ใหญ่โตกลางกรุง จะมีผู้หญิงหน้าไหนมาหลงรักผู้ชายในวัย เกือบ 70 อยากรู้นัก
“ ถามจริง….พ่อไม่มีปัญญาหาผู้หญิงดีกว่านี้แล้วเหรอ ไม่อายบ้างเหรอ พ่อไม่อายแต่ผมอาย” ธีรวัฒน์ตะโกนกร้าวใส่หน้าคนเป็นพ่อ เขากำมือแน่น จนร่างใหญ่สั่นสะท้านไปทั้งตัว พูดจบก็หันหลังออกจากคฤหาสน์หลังใหญ่ทันที
ธีรวัฒน์ถูกคุณหญิงกาญจนาผู้เป็นแม่ เลี้ยงและสอนกันมาตั้งแต่เด็กๆ คุณกาญจนาที่มีปมเรื่องผู้หญิงชั้นต่ำมาตั้งแต่สมัยพ่อของเธอที่คว้าผู้หญิงข้างทางมาเป็นเมียน้อย พอเธอแต่งงานได้ไม่นาน สามีที่ครอบครัวหาให้ก็นอกใจไปมีสัมพันธ์กับเลขาหน้าห้องเป็นเหตุให้ชีวิตคู่ล้มเหลวอีก ความคับแค้นใจทั้งหมดเลยส่งต่อมาสู่ลูกชายเพียงคนเดียวอย่างธีรวัฒน์ แสนภักดี
3 ปี ต่อมา….
“ ฝันมาอยู่กับแม่เถอะลูก มาเรียนกรุงเทพ แม่ส่งฝันเรียนได้นะ ฝันจะได้เรียนดีๆ เรียนในสิ่งที่ฝันชอบ นะลูก”
กนกวรรณเทียวไล้เทียวขื่อทอฝันทุกวี่ทุกวัน เธอฝากทอฝันไว้กับยายลำดวน คุณยายบ้านข้างๆที่รักและเอ็นดูทอฝันเหมือนลูกหลานแท้ๆ เลี้ยงอยู่ที่เชียงใหม่ตั้งแต่ทอฝันอายุได้เพียง 10 ขวบ และเธอก็มาหางานทำที่กรุงเทพ จนได้มาเป็นแม่บ้านที่บ้านของท่านธีรเดช ปีหนึ่งกนกวรรณจะได้กลับไปเยี่ยมลูกสาวที่เชียงใหม่ปีละ 2-3 ครั้ง
ปีนี้ทอฝันถึงเวลาที่ต้องเข้ามหาวิทยาลัย เธอขยัน เรียนเก่ง สอบติดคณะบัญชีมหาวิทยาลัยชื่อดัง ทั้งที่ไม่ได้ติวที่ไหน ทีแรกทอฝันคิดว่าจะไม่ไป เธอเรียนมหาลัยในตัวจังหวัดก็ได้ จะได้อยู่ดูแลยายลำดวนด้วย แต่ยายกับแม่ไม่เห็นด้วยกับความคิดนี้
“ ไปเต๊อะลูก ไปเฮียนตี้กรุงเทพมันตึงดีกว่า บ่ต้องหวงตางเพ๊ อุ๊ยยังมีป้าสีนวลกับลุงเดชดูแลแหมประเลอะ” หญิงสูงวัยพูดพลางลูบศีรษะเด็กสาววัย 18 ปี ถึงไม่ใช่หลานในไส้ แต่เลี้ยงดูมานานเกือบ 10 ปีความรักความผูกพันที่มีต่อกันจึงเต็มเปี่ยม
ทอฝันยังซุกหน้าอยู่ในอ้อมกอดแสนอบอุ่นของคนเป็นยาย ร้องไห้สะอื้น
“ ฝันห่วงอุ๊ย อยากอยู่กับอุ๊ย “
“ ฝันฟังแม่นะ ไปเรียนเฉยๆ กรุงเทพกับเชียงใหม่นั่งเครื่องบินชั่วโมงเดียวก็ถึงแล้ว ฝันจะกลับมาหาอุ๊ยตอนไหนก็ได้ แต่ที่แม่กับอุ๊ยอยากให้ฝันไปเรียนที่นู่นเพราะเป็นโอกาสที่ดีกว่า ฝันก็ชอบแล้วก็อยากเรียนคณะนี้ มหาลัยนี้ไม่ใช่เหรอลูก” มันคือความฝันของลูกสาวเธอรู้ดี
“ ค่ะ…..” ทอฝันพยักหน้าหงึกๆ ปาดเช็ดคราบน้ำตาบนหน้า “ อุ๊ยต้องดูแลตัวเก่าดีๆเน้อ ฝันจะปิ๊กมาหาอุ๊ยหมั่นๆ”
ยายลำดวนพยักหน้ารับคำหลานสาวคนสวยพร้อมรอยยิ้มบนหน้า
จากวันนั้นถึงวันนี้ ทอฝันก็ย่างเท้าเข้ามาใช้ชีวิตอยู่ในคฤหาสน์ตระกูลแสนภักดี เกือบ 3 ปีแล้ว เธออยู่ในบ้านในฐานะลูกสาวของกนกวรรณ ทำให้มีฐานะมากกว่าคนใช้ในบ้าน ถึงอย่างนั้นกนกวรรณก็สอนลูกสาวอยู่ตลอดว่าเราเป็นเพียงผู้อาศัยเท่านั้น
“ แล้วเมื่อไหร่คุณ….คุณครามอะไรนั้นจะกลับมาละจ๊ะแม่ นี่ฝันมาอยู่ที่นี่ 3 ปีแล้ว ไม่เห็นลูกชายคุณท่านกลับมาเยี่ยมบ้านสักครั้ง” ทอฝันช้อนตาขึ้นมองหน้ามารดา แล้วถามออกไปเป็นครั้งแรก เดิมทีเธอเพียงรู้ว่าท่านชัยเดชมีลูกชาย 1 คนที่เกิดกับภรรยาคนแรกที่เสียชีวิตไปแล้ว แต่ตอนนี้ไปเรียนต่อและดูแลธุรกิจที่เมืองนอก พออยู่ไปนานเข้า ถึงมาสงสัยว่า เพราะอะไรคนคนนี้ถึงไม่กลับมาเยี่ยมบ้านบ้างเลย
“ คุณครามไปเรียนต่อปริญญาโทที่เมืองนอก แล้วก็ดูธุรกิจของธีระกรุปที่นู่น ไม่ยอมกลับมาสักที คุณเดชก็พยายามให้กลับ แต่ก็ไม่
สำเร็จ “
“ทั้งที่พ่อตัวเองอายุมากขนาดนี้ ยังไม่กลับมาดูแล แย่จัง “ นอกจากหน้าตาดี นิสัยก็ควรจะดีด้วยซิ
“ อย่าไปว่าคุณครามแบบนั้นเลยฝัน คุณครามกับคุณท่านทะเลาะกันก่อนที่คุณครามจะไปเมืองนอก ก็เพราะเรื่องแม่ เรื่องที่แม่จะ
แต่งงานกับคุณเดชนั่นแหละ”
“ ใจแคบชะมัด…..แม่แต่งงานก็ไม่ได้จดทะเบียน คอยดูแลบ้าน ดูแลคุณท่านทุกอย่าง งานในบ้านก็ยังทำไม่เคยหยุด แบบนี้ยังจะมาหา
ว่าแม่ฝันไม่ดีอีก” คนเป็นลูกไม่พอใจ พูดด้วยท่าทางฟึดฟัด
“ ช่างเถอะฝัน คุณครามเธอไม่รู้นิ เธอก็คงคิดว่าแม่จะมาเกาะพ่อของเธอละมั้ง เขาจะคิดอะไรก็คิดไป เราไม่ได้ทำ ไม่ได้คิดแบบนั้นซะ
อย่าง จริงมั้ย” คนเป็นแม่ยิ้มแล้วลูบศีรษะลูกสาว ที่นั่งเด็ดกะเพราช่วยอยู่ในครัว
“ เพราะแม่ใจดี เป็นแม่พระแบบนี้ไงคะ” ทอฝันถอนหายใจทิ้ง แม่ใจดีเกินไปแล้ว แบบนี้เลยโดนคนอื่นรังแก ต่อไปฝันนี่แหละจะปกป้อง
แม่เอง
สาธุ!!….ขอให้ไอ้คุณคราม ไปแล้วไปลับเลยละกัน ไม่ต้องกลับมาแล้ว….. เพี้ยง!!!