ร่างเล็กนอนแช่น้ำอยู่ในห้องน้ำนานเป็นชั่วโมง เพราะรู้สึกขยะแขยงร่างกายตัวเองจนอยากขจัดคราบของเขาออกไปจากตัว
ทันทีที่เขาอิ่มจากการกินเธอแล้ว รามิลก็โยนเธอทิ้งไว้บนเตียง แล้วเลือกที่จะเดินกลับห้องตัวเองไปในสภาพเปลือยเปล่าทันที
ดวงตากลมหลับตาลง พลางถอนหายใจให้กับความพินาศที่เกิดขึ้นในชีวิตตัวเอง
น้ำตาสีใสหยดลงกระทบกับน้ำที่แช่ตัว ปลุกเธอให้ตื่นขึ้นมาสู้ต่อ เธอจะแพ้ไม่ได้ ต้องห้ามแพ้เด็ดขาด เพราะถ้าแพ้นั่นหมายความว่าเธอจะกลายเป็นคนไร้ค่าอย่างสมบูรณ์แบบ ซึ่งเธอไม่ต้องการให้เป็นแบบนั้น ในเมื่อเขาเลวมาเธอก็แค่ต้องเลวตอบ
ตาต่อตา ฟันต่อฟัน เอาให้ตายกันไปข้าง
น้ำเพชรออกจากห้องในรอบหลายวัน ตั้งแต่เธอถูกเขาพามาและมอบสถานะการเป็นเชลยให้ เธอก็ไม่เคยลงมาข้างล่างและพบเจอผู้คนเลย วันนี้เธอจะทำตัวให้สมกับเป็นเชลยของเขา เชลยที่ทำให้เขาอยู่ไม่สงบสุข…
“ทำอะไรอยู่”
น้ำเพชรเดินเข้าไปหาพลอยใสทันทีที่เห็นเธอทำอะไรบางอย่าง คนถูกทักเงยหน้าขึ้น พลางทำหน้าตกใจตอนที่เห็นเธอเดินเข้ามาหา
“ช่วยไหม” ทิ้งก้นนั่งลงข้างๆเธอ แล้วเอื้อมมือไปหยิบเอกสารมากมายที่วางอยู่บนโต๊ะ หวังจะช่วยแต่ก็ถูกคนตรงหน้าดึงออกไปจากมือเสียก่อน
เธอได้แต่ขมวดคิ้วงุนงง มองหญิงสาวที่อายุน้อยกว่าเธอตรงหน้าอย่างต้องการคำตอบ
พลอยใสกวาดเอกสารทั้งหมดตรงหน้าขึ้น แล้วทำท่าลุกจะหนีเธอไป เห็นอย่างนั้นเธอเลยคว้าที่แขนของเธอเอาไว้ก่อน
“เดี๋ยว เป็นอะไร”
“เอกสารนี้เป็นความลับค่ะ ให้คนอื่นดูไม่ได้”
“ความลับ?” แต่ให้หล่อนทำเนี่ยนะ? แลดูเขาไว้ใจผู้หญิงคนนี้ดีนะ
“ขนาดนั้นเลย?”
“ขอตัวนะคะ” แล้วพลอยใสก็หอบเอกสารวิ่งเข้าไปในห้องตัวเองด้วยท่าทางลุกลี้ลุกลน ปล่อยความสงสัยเอาไว้ที่เธอคนเดียว
เธอเลยเลือกที่จะเดินสำรวจบ้านของรามิลต่อ วันนี้รามิลไม่อยู่บ้านก็เลยดูเงียบๆ ก็ดีเหมือนกัน เพราะเธอเองก็ไม่ได้อยากเจอเขาสักเท่าไหร่
“รวยจากการโกงกินของคนอื่นมันน่าภูมิใจตรงไหน” เธอพูดกับตัวเองพลางกวาดตามองรอบๆบ้านอย่างตั้งใจ
ร่างบางเดินไปเรื่อยๆ ผ่านห้องนู้นห้องนี้มาตลอดทาง แต่มีอยู่ห้องเดียวที่ติดป้ายว่าห้ามเข้า จนเธอเกิดความอยากรู้อยากเห็น ร่างบางเดินมาหยุดอยู่ที่ห้องๆหนึ่ง ห้องนี้เป็นห้องที่อยู่ห่างจากห้องอื่นอยู่มาก ทั้งทางที่ลึกลับจนแทบหาทางเข้าไม่เจอ เธอแอบกลัวอยู่เหมือนกันว่าเธอจะจำทางออกไปยังทางเดิมได้ไหม เพราะห้องนี้อยู่ลึกมาก
มือเล็กค่อยๆเอื้อมไปเปิดประตูห้องนั้นอย่างช้าๆ จังหวะที่เธอกำลังจะหมุนลูกบิดประตูเข้าไป เสียงจากด้านหลังก็ดังขึ้นทำเธอสะดุ้งตกใจเสียก่อน
“เข้ามาทำอะไรที่นี่”
น้ำเพชรหันควับไปมองคนพูดด้วยความตกใจ แต่ก็ต้องหลับตาอย่างโล่งใจเมื่อคนที่เรียกไม่ใช่รามิล
“ออกไปซะ ก่อนที่นายจะกลับมา” เวกัสเอ่ยบอกด้วยใบหน้าที่นิ่งเรียบ หากเป็นคนอื่นได้ยินคงกลัวน้ำเสียงนี้จนหัวหด แต่ไม่ใช่กับเธอ เพราะเธอไม่เคยกลัวใคร
“ในนี้มีอะไร” พยักพเยิดหน้าไปทางประตู เอ่ยถามเขาว่าด้านหลังประตูบานนี้มีอะไรซ่อนอยู่ ถึงได้ติดป้ายห้ามเอาไว้
“ไม่ใช่เรื่องของคุณ”
เข้มสุดๆ หน้านี่ไม่เคยยิ้มเลยมั้ง
น้ำเพชรรู้ว่ายื้อไปก็เหนื่อยเปล่า เธอจึงเลือกที่จะก้าวเดินออกมาแทน แต่พอออกมากลับต้องหงุดหงิดยิ่งกว่าเดิม เพราะรามิลที่กลับมาแล้วได้ทันเวลาพอดี อีกทั้งตอนนี้เขายังยืนมือล้วงกระเป๋ากางเกง แล้วมองเธออยู่ตรงกลางบ้านอีกด้วย
ใบหน้าของเขาเหมือนคนไม่สบอารมณ์ คงหงุดหงิดหรือกินรังแตนที่ไหนมาสักที่แหละ แต่เกี่ยวอะไรกับเธอล่ะ?
คนตัวเล็กสะบัดใบหน้าหนี เตรียมจะเดินกลับเข้าไปยังห้องเหมือนเดิม แต่แล้วก็ต้องตาเบิกโพลงกว้างขึ้นทันที เมื่ออยู่ๆร่างของเธอก็ถูกกระชากให้เดินตามเขาไปที่ไหนสักที
“อ๊ะ! นายเป็นบ้าอะไรของนายเนี่ย” ทันทีที่เขาปล่อย เธอก็แหวใส่เขาทันที
“เธอเข้าไปทำไมข้างในนั้น!” รามิลตวาดใส่หน้าน้ำเพชรอย่างคนหงุดหงิด พลางพุ่งตัวเข้ามาบีบที่คอของเธอ แล้วดันตัวเธอให้แผ่นหลังติดกับกำแพง
“อึก! ปล่อย” มือเล็กทั้งตีทั้งทุบ แต่เขากลับไม่ได้รู้สึกอะไรเลย
“ตอบ!”
“เรื่อง ของ ฉัน” ใบหน้าของเธอเปลี่ยนสี คำพูดขาดๆหายๆ เพราะมือของเขาบีบคอเธอจนรู้สึกเหมือนกำลังจะขาดอากาศหายใจ
“ฉันขอสั่งห้ามเธอ ห้ามเข้าไปที่ห้องนั้นอีก!”
“รา มิล อึก! ปล่อย ก่อน…เฮือกก”
ทันทีที่เขาปล่อยมือออก คนตัวเล็กรีบคว้าเอาออกซิเจนเข้าปอดให้เยอะที่สุด สองขาที่เคยยืนอย่างมั่นคง ตอนนี้กลับไร้เรี่ยวแรงจนเธอล้มพับลงไปนั่งกองอยู่ที่พื้น
เธอรวบรวมสติ แล้วช้อนสายตาขึ้นมองเขาด้วยความโกรธเกลียด
“ห้องนั้นมันมีอะไรฮะ นายถึงต้องทำกับฉันขนาดนี้”
“ไม่ใช่เรื่องที่เชลยอย่างเธอต้องรู้”
พอเห็นเขาคลั่ง น้ำเพชรจึงได้คิดอะไรออก คนอย่างเธอไม่เคยเข็ดกับอะไรง่ายๆอยู่แล้ว และเขาจะเป็นคนแรกที่จะได้เห็นมัน
“ตอนแรกก็ไม่ได้อยากรู้หรอก แต่พอเห็นนายเป็นบ้าแบบนี้แล้วอยากรู้ขึ้นมาทันทีเลยแฮะ” รอยยิ้มร้ายโผล่ขึ้นมาบนใบหน้าสวย เธอตั้งใจทำให้เขาเป็นบ้า บอกเลยเห็นแบบนี้แล้วมันสนุกดี
“อย่าปากเก่งกับฉันน้ำเพชร” รามิลกัดฟันพูดแล้วส่งสายตาคมๆไปที่เธออย่างเอาเรื่อง
“หึหึ!” แค่นเสียงหัวเราะอยู่ในลำคอ ลุกขึ้นยืนสบตากับเขาอย่างลองดี
แม้ตัวเธอจะเล็กกว่าเขาแค่อก แต่ถ้าให้เทียบกับความบ้าบิ่นไม่กลัวใครของเธอกับเขา มันก็คงพอๆกัน
“หึ!กูอยากรู้นักว่าคนเก่งจะเก่งได้แบบนี้ไปอีกนานแค่ไหน”
“จนกว่านายจะยอมปล่อยฉันไปนั่นแหละ”
“อย่าฝันกลางวัน เธอเป็นเชลยของฉัน เธอลืมไปแล้วหรือไง ครอบครัวเธอเขาทิ้งเธอแล้วยังไม่รู้ตัวอีก ตอนนี้ไม่มีใครสนใจเธอแล้วนะน้ำเพชร…
…ทนเป็นผู้หญิงของฉัน แล้วใช้ช่วงล่างของเธอให้เป็นประโยชน์ดีกว่า ไม่แน่ ฉันอาจจะอยากทะนุถนอมเธอขึ้นมาบ้างก็ได้” รามิลพูดพร้อมกับเชยคางเธอขึ้นมา กลัวเธอจะฟังไม่ชัด
“ที่พ่อกับแม่เธอส่งเธอมาเป็นเชลยฉัน เธอไม่คิดบ้างเหรอว่าพวกนั้นไม่เคยเห็นเธอเป็นลูกอยู่แล้ว…
…ถ้าสำเหนียกตัวเองสักนิด ลองมองตัวเองดูบ้างนะ ว่าเธอมีค่าอะไรให้ฉันต้องปล่อยเธอไปบ้าง หึหึ!”
ดวงตากลมโตฟังเขาพูดจนจบ ขอบตาเริ่มแดงจนรู้สึกร้อนผ่าว คำพูดของรามิลเหมือนเป็นเข็มที่จี้ใจดำของเธอจนเจ็บแสบไปหมด
น้ำเพชรกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก เธอจุกกับคำพูดของเขาจนห้ามน้ำตาเอาไว้ไม่ได้ จนสุดท้ายเธอต้องใช้แรงทั้งหมดที่มี ผลักเขาออกจนกระเด็นไปด้านหลัง แล้ววิ่งหนีเขากลับขึ้นมาบนห้องทันที
รามิลมองตามคนตัวเล็กทิ่วิ่งไปอย่างสะใจ พลางกระตุกยิ้มที่มุมปากและแค่นเสียงหัวเราะใส่อย่างไร้อารมณ์
ปัง!
เสียงประตูห้องที่ปิดดังปัง ทำให้รามิลกลั้วหัวเราะออกมาด้วยความสะใจ
คิดจะเล่นกับเขาเหรอ เอาเลยเล่นเลยถ้าคิดว่าสามารถทนต่อคำพูดของเขาได้ แต่ถ้าใจไม่แข็งพอก็อย่าสะเออะทำเป็นเก่ง เพราะเขาไม่เคยรักษาน้ำใจใครอยู่แล้ว ยิ่งถ้าได้รู้จุดอ่อนของฝ่ายตรงข้าม เขายิ่งขยี้จนมันไม่กล้ากับเขาต่อ
น้ำเพชรสวยจริงเขายอมรับ แถมร่างกายของเธอยังทำให้เขาติดใจจนต้องจัดให้ทุกคืน แต่ปากของเธอนี่เขาโคตรไม่ชอบบอกตรงๆ ไม่ชอบจนอยากจะใช้ปากเขาขยี้ปากเธอให้ระบมจนไม่มีปากมาเก่งกับเขาต่อ
ของใหม่อะไรก็ดี รอแค่เบื่อเท่านั้นแหละ ถ้ายังปากเก่งปากดีแบบนี้ต่อ บอกเลยจบไม่สวยแน่