ปากดี 9

883 Words
“ค่ะแม่” ... “ก็ปกติค่ะ มีอะไรอีกไหมคะ” ห้าวันจากวันแต่งงานฉันแอบหนีไปเก็บตัวคนเดียวที่คอนโด หนึ่งในสมบัติที่พ่อแม่หามาประเคนให้ ฉันไม่ติดต่อใครเลยและไม่ไปเรียน ฉันกินนอนอยู่แต่ในห้องนี้จนวันที่แม่โทรมาตามให้กลับไปเยี่ยมที่บ้านบ้าง น้ำเสียงแม่ดูจะคิดถึงฉันแต่ก็ไม่อาจรู้ว่าของจริงไหม “บอกพี่เขาแล้วใช่ไหมว่าจะค้างที่นี่” “ค่ะ” หลังมื้อเย็นอันราบเรียบเงียบกริบผ่านไปฉันก็ตรงกลับขึ้นห้อง น่าหงุดหงิดชะมัดที่ที่นี่มันคือเซฟโซนของฉัน บ้านที่ไม่ได้อบอุ่นนักกลับเป็นสถานที่ที่ฉันสบายใจมากที่สุดแล้ว “งั้นก็นอนซะ” “ค่ะ” สถานที่คุ้นเคยทำเอาฉันเคลิ้มหลับแทบจะในทันทีที่หัวตกถึงหมอน แตกต่างจากคอนโดที่แม้จะอยู่คนเดียว แต่มันทำให้ฉันนอนไม่ได้หลับไม่สนิทนัก หนุบหนับ~ “ไม่รู้ว่าชุดนอนจะเซ็กซี่ขนาดนี้” ... “อืม...ขาวจั๊วะ” “ใครอะ” “จะใครละครับ ก็ผัวไง” “ไอ้บ้าไคม์ แกเข้าห้องฉันมาได้ยังไงห้ะ” เช้าวันใหม่ตื่นมาก็เจอไคม์ มันนั่งคร่อมต้นขาของฉันและกำลังลูบไล้ก้นงอน “ห้องนอนเมียทำไมจะเข้าไม่ได้” “ฉันไม่ใช่! แกอย่าเอาอะไรแบบนั้นมันยัดเหยียด” “อะไรแบบนั้นที่ว่ากำลังแข็งจัดเลยตอนเช้าๆ ตอนนี้ มามะ! ผัวจะล้างหน้าไก่ให้” กรี๊ดดด มันพูดจาลามกที่คนอย่างฉันไม่อาจเข้าใจเท่าไร แต่สายตาท่าทางบวกกับไอ้นั่นแข็งๆ ที่มัดจ่อก้นฉันอยู่คงเดาได้ไม่ยาก สองมือของไคม์รั้งมือฉันไว้กับเตียง ส่วนตัวมันก็ลงนอนทับฉันจากด้านหลัง “ปล่อยนะไอ้ไคม์” “ผัวขา ไหนลองพูดสิ” “ไอ้สารเลว” “เมียดื้อจะโดนผัวเอาจนขาสั่นเลยนะ อยากโดนล้างหน้าไก่หรือไง” ยอมรับว่าตอนนั้นฉันนึกกลัวไคม์ขึ้นมาจริงๆ ท่วงท่าสุ่มเสี่ยงแบบนี้ฉันคงไม่อาจสู้มันได้ แค่มันถอดกางเกงชั้นในออกทุกอย่างก็หมดสิ้น “นายต้องการอะไรไอ้ไคม์” “เ****น! ผู้ชายเ****นต้องการอะไรละครับ” “เด็กนายก็มีอยู่เยอะแยะไปเรียกมาสิ” “มีเมียแล้วก็ต้องเอากับเมียสิ จะมีเมียไว้ทำไมถ้าเอาไม่ได้” “ไอ้บ้า! นายมาหาฉันก็เพราะเรื่องแค่นี้เหรอ” ฉันหงุดหงิดนะที่มันพูดจาเลวๆ แบบนี้ แต่อยู่ๆ ไคม์ก็ยอมปล่อยมือและลุกออกจากเตียงไปนั่งลงที่พื้น “เรามาคุยกันหน่อยได้ไหม” “คุยกันดีๆ หลังจากที่นายจะข่มขืนฉันอะนะ” “เออ! หรืออยากให้เอาจริงๆ นี้ก็แข็งจริงนะเว้ย จะนั่งคุยหรือนอนคุยว่ามา” ฉันสัมผัสได้ถึงความแข็งจัดของอวัยวะด้านล่างจริงๆ และฉันก็ไม่เสี่ยงกับสถานการณ์แบบเมื่อกี้อีกแน่นอน “ขอเบอร์หน่อย” “ไม่ให้” “หนูดี! ผัวไม่มีเบอร์เมียมันไม่แปลกไปหน่อยรึไง” “เอาอีกแหละ! เลิกพูดได้ไหม ผัวๆ เมียๆ” ฉันกลอกตามองบนกับสรรพนามที่ใช้แทนกันระหว่างฉันกับไคม์ อีตานี้พูดแบบนี้ง่ายดีจัง สงสัยเพราะความเคยชิน “เราต้องปรับตัวให้เคยชินไหมหนูดี เป็นพี่เป็นน้องเขาแต่งงานกันได้มั้ง แต่งด้วยกันแล้วจะให้เป็นอะไร” “นั่นมันก็ที่คนอื่นเขาเข้าใจแต่ฉันกับนายไม่ใช่ นายไม่ใช่สามีฉัน และฉันก็ไม่ได้อยากใช้สามีร่วมกับผู้หญิงพวกนั้น” “พวกนั้น? ถามจริงเคยเห็นที่มาแสดงตัวจังๆ สักคนรึยัง พูดอยู่นั่นแหละ เห็นกับตาสักครั้งก็ไม่เคย” ไคม์บ่นกระปอดกระแปดหาว่าฉันใส่ความ “แล้วที่ฉันโดนตบที่ห้างกับโดนสาดน้ำในห้องน้ำพวกนั้นเป็นใคร มันพูดชัดว่าฉันไปยุ่งกับผัวมัน” “ผัวของเขาอาจไม่ใช่พี่ก็ได้” “ฉันไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับใครนอกจากนาย” “ถามจริง” “เออสิ! ฉันไม่เคยเกี่ยวข้องกับผู้ชายคนไหนมาก่อน มีแค่นายคนเดียว” ^^ “ยิ้มอะไรวะ” น่าหงุดหงิดชะมัดที่ไคม์เอาแต่ยิ้มเล็กยิ้มน้อย มันเห็นความเดือดร้อนฉันเป็นเรื่องสนุกอย่างนั้นสินะ “งั้นพี่ก็เป็นคนแรกของเราเลยสิ” “ใช่! ฉันไม่เคยเกลียดใครเท่านายมาก่อนในชีวิต” สะใจ! ประโยคใส่อารมณ์ของฉันทำให้ไคม์หุบยิ้มได้ในทันทีที่ได้ยิน ในเมื่อมันได้ผลขนาดนี้งั้นต้องเอามาพูดบ่อยๆ มันจะได้เลิกวุ่นวายกับชีวิตฉันสักที “ลุก!!” แต่ผลกลับไม่เป็นตามที่คาดไว้ เมื่อไอ้บ้าไคม์ฉุดฉันลงจากเตียงแล้วเหวี่ยงเข้าไปในห้องน้ำ “ต้องแปรงฟันซะหน่อยจะได้สะอาดๆ พ่นวาจามาแต่ละคำพาลให้โมโห” “งั้นนายต้องเปลี่ยนสบู่ล้างหน้าซะหน่อยนะ” “ทำไม” “เพราะฉันเหม็น” “อ๋อ! จะเล่นมุกเหม็นขี้หน้างั้นเหรอ ได้!”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD