ปากดี 7

816 Words
“ครอบครัวต้องตกต่ำเพราะการกระทำของแก” เสียงนี้ดังก้องในหูทั้งคืนจนฉันไม่ได้หลับไม่ได้นอน ฉันไม่รู้ว่าบรรยากาศภายในบ้านมันแย่ลงขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไร อาจจะเริ่มตั้งแต่ตอนฉันเข้ามหาวิทยาลัยและไม่เรียนคณะเดียวกับที่พ่อแม่เลือก ฉันไม่ชอบยุ่งกับใครฉะนั้นจึงไม่รับช่วงต่อธุรกิจงานโรงแรมของครอบครัว และเบื่อการเมืองอันเน่าเฟะ ฉะนั้นจึงไม่ยอมเข้าคณะเดียวกับมินตรา รอยร้าวในความสัมพันธ์มันอาจจะก่อตัวขึ้นนับตั้งแต่ตอนนั้น ฉันนอนคิดหาสาเหตุว่าต้องทำยังไงกับสภาพครอบครัวที่ย่ำแย่ ฉันควรจะเริ่มที่ตรงไหน “เย็นนี้บ้านนั้นจะมากินข้าวด้วย” “บ้านไหนคะ” “แกมีหลายคนนักหรือไง” “มินเหรอคะ” ฉันดีใจหากบ้านมินจะมา เพราะตั้งแต่เกิดเรื่องฉันยังไม่ได้คุยกับมินเลย ไม่รู้ว่ายัยนั่นจะเห็นเหตุการณ์อะไรบ้าง และคำบอกเล่าของมินจะได้ลบล้างมลทินให้ฉันได้ แม่คิดว่าฉันทำเรื่องอุบาทว์กับไคม์ทั้งๆ ที่ยังอยู่ในเครื่องแบบนักศึกษา แต่ความหวังกลับทลายพังลงเมื่อคนที่มานั้นไม่ใช่! “คุณลุงกิตติ,คุณป้าดุจดาวสวัสดีครับ” “สบายดีนะชีวา,ไคม์” “ค่ะพี่กิต” “เราไปนั่งทานอาหารกันดีกว่านะกำลังร้อนๆ” ผู้ใหญ่ทั้งสามพูดคุยเรื่องสัพเพเหระทั่วๆ ไปแต่ฉันสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายเรื่องไม่ชอบมาพากล ไคม์ที่แต่ก่อนเคยยิ้มร่าหน้าชื่นตาบานคุยกับเขาได้ทั่วก็นิ่งไปมากเช่นกัน ถ้าผู้ใหญ่ไม่เอ่ยถามเขาก็ตักข้าวทานไปเงียบๆ มีเพียงบางครั้งที่เราเผลอเหลือบสบตากันเท่านั้น “พาพี่เขาไปเดินเล่นที่สระว่ายน้ำหลังบ้านหน่อยสิหนูดี” “ค่ะ!?” “ทางนี้ใช่ไหมครับ ป้ะครับหนูดี” ไคม์คงเข้าใจท่าทีผู้ใหญ่ว่าพวกเขามีเรื่องจะปรึกษากันและต้องการให้ฉันกับไคม์ออกไปไกลๆ สวนหลังบ้านติดสระว่ายน้ำบรรยากาศเงียบและกดดันกว่าที่เคยเพราะฉันต้องอยู่กับคนที่ไม่คุ้นชิน “นายกับป้ามาทำไม คงไม่ได้มาแค่กินข้าว” “คุณลุงคุณป้ายังไม่ได้บอกเหรอ” “บอกอะไร” “ก็ไหนว่าหนูดีตกลงแล้วไง สรุปคือ!?” ฉันคนเดียวที่ไม่รู้ว่าทุกคนกำลังทำอะไรกัน แต่เพราะฉันคงไม่มีสิทธิ์มีเสียงอะไรทั้งนั้น ฉันจึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องรู้ มองในแง่ดีก็อาจเป็นเพราะเรื่องนี้มันคงไม่เกี่ยวกับฉันก็ได้ “อีกสามวัน” “ทำไม” “ทุกอย่างถูกจัดเตรียมไว้พร้อมแล้วหนูดี อีกสามวัน เราต้องแต่งงานกัน” ... “แต่งงาน?” ฉันนิ่งไปพักหนึ่งเลยแต่ก็ไม่ได้เกินกว่าที่คาดการณ์ไว้ ภาพข่าวของฉันขณะกำลังคร่อมเอวไคม์ กอดคอ จูบปาก แลกลิ้นกันอย่างร้อนแรงบนรถตู้คันใหญ่กระแสก็ยังไม่แผ่วลง การแต่งงานคงจะเป็นการแก้ต่างที่ดีที่สุดเพื่อรักษาหน้าคุณหญิงดุจดาว ประธานสมาคมกุลสตรีไทยกับช่วยให้พ่อได้เข้ามาเล่นการเมืองได้ นี้แหละทางแก้ที่ทุกคนต้องการ โดยที่ฉันไม่มีสิทธิ์ตัดสินใจเรื่องนี้ “หนูดี” “อีกสามวันเหรอ” “จริงใช่ไหมที่หนูดีตกลงแล้ว” “อืม” สถานการณ์นี้ฉันจะตอบไคม์ว่าอะไรได้ ฉันอยากให้เรื่องบ้าๆ ทั้งหมดนี้รีบๆ มาถึงเพื่อจะได้ผ่านไปสักที เช้าวันต่อมา “เจ้าบ่าวโอบเอวเจ้าสาวแน่นๆ นะครับ เจ้าสาวมองตาเจ้าบ่าวแล้วก็...ยิ้ม!” แชะ! “ดีมากครับ คราวนี้มองกล้องนะครับ” แชะ! หนึ่งในอุปกรณ์ประกอบพิธีแต่งงานหนีไม่พ้นต้องมีภาพถ่ายเพื่อยืนยันความรักของคนสองคน อีกครั้งที่ฉันทำตามไปส่งๆ เพราะไม่อยากเรื่องมาก ถ่ายเสร็จจะได้แยกย้ายทางใครทางมัน “พี่ไปส่งนะหนูดี” “ไม่ต้อง! ฉันขับรถมา” “โอเคหรือเปล่าหนูดี ปกติใช่ไหม” “ฉันดูไม่ปกติตรงไหน หลบ! ฉันจะกลับบ้านแล้ว” อาจเป็นเพราะฉันกำลังซ้อมความอดทนจึงทำให้ฉันดูนิ่งกว่าที่เคย แต่มันน่าหงุดหงิดนะที่ไคม์ถาม แล้วถ้าฉันไม่โอเคแต่ฉันจะทำอะไรได้ ถามทำไม ฉันตอบแล้วจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงอย่างนั้นเหรอ “เดี๋ยว! ได้ล้างแผลบ้างหรือเปล่า ไปทำเล็บไหม วันนั้นเล็บเราน่าจะเลอะเลือด” ไคม์จับมือฉันไปดูจึงเห็นว่าปัญหานั่นฉันจัดการเองแล้ว ฉันกลับไปที่ร้านประจำของตัวเองและทำใหม่เรียบร้อยรวมทั้งล้างแผล “อ้าว...เรียบร้อยแล้วเหรอ” “ใช่! คราวนี้ฉันจะไปได้หรือยัง” “อืม”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD