หลังจากที่เที่ยวสวนสัตว์เสร็จ อีวานเอาใจไบรอันด้วยการพาไปเดินห้างเพื่อกินไอศกรีมต่อ
“แด๊ดครับ ผมอยากกินอันนี้” เสียงใสของเด็กน้อยเอ่ยอ้อนพ่อ แบบที่ไม่เคยทำมาก่อน
“ได้ซิ” อีวานยิ้มให้กับลูกชาย และหันไปยิ้มให้กับร่างบางตัวหอมที่อยู่ข้างๆ
“คุณล่ะ จะเอาอันไหน”
“อันนี้ก็ได้ค่ะ” นิ้วเรียวชี้ลงที่เมนูไอศกรีมสตอเบอรี่ถ้วยเล็ก
เมื่อไอศกรีมถูกเอามาวางตรงหน้าครบทุกคน ทั้งสามคนลงมือทาน โดยเฉพาะไบรอันที่วันนี้ดูมีความสุขเป็นพิเศษ ส่วนอีวานนั่งเขี่ยไอศกรีมไปมา เพราะเขาไม่ได้ชอบทานของหวานพวกนี้
“อุ๊ย!” เสียงหวานตกใจ ที่อยู่ๆ ก็มีทิชชูมาเช็ดที่ริมฝีปากล่างของเธอ ตาหวานเงยหน้าขึ้นมองสบตากับคนตรงหน้า
“กินเป็นเด็กไปได้”
“...” ลินลดารีบหลบสายตาคนตรงหน้า แววตาของเขาราวกับจะจับเธอกินแทนไอศกรีม
“แด๊ดเช็ดให้ผมบ้างซิครับ” เสียงใสของไบรอัน ทำให้คนเป็นพ่อที่กำลังจะจับกวางน้อยตรงหน้ากินทางสายตา ก็ต้องรีบหันมาจัดการเช็ดปากให้ลูกชายแทน
หลังจากที่จัดการไอศกรีมเรียบร้อยอีวานและลินลดาพาไบรอันเดินเล่นภายในห้างหรู ร่างใหญ่อย่างอีวานอุ้มไบรอันด้วยมือข้างเดียว ส่วนอีกมือคว้าเอามือเรียวมาจับโดยที่ไม่ได้ขออนุญาต
“คุณ!” เสียงหวานร้องขึ้น เมื่ออยู่ๆ มือเธอก็ถูกใครบางคนกุมแน่นไว้ไม่ปล่อย เธอพยายามดึงมือตัวเองออกจากการเกาะกุม แต่เขากับทำเป็นไม่สนใจ และจูงมือเธอเดินไปข้างหน้าเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทำเอาเธอเขิน ก้มหน้าเดินตลอดทาง
“เดินกับฉัน น่าอายมากนักหรือไง” เสียงทุ้มกระซิบข้างหูคนข้างกาย ลินลดาหันตามเสียงด้วยความตกใจ ทำให้ริมฝีปากบางชนเข้ากับริมฝีปากหนาอย่างไม่ตั้งใจ
“แด๊ดทำอะไรครูครับ” เสียงใสเอ่ยถามอย่างสงสัย ทำให้ทั้งคู่ผลักออกจากกันอย่างเร็ว
“ไม่มีอะไรครับ แด๊ดคุยกับครูนิดหน่อย”
“ทำไมต้องเอาปากแตะด้วยล่ะครับ” เสียงใสถามอย่างสงสัย
“เออ...ครูว่าเราไปดูของเล่นทางนั้นดีกว่านะคะ” ลินลดารีบเปลี่ยนเรื่อง เธออายจนไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน
ไม่นานไบรอันก็เผลอหลับ ซบอยู่ที่อกแกร่งของอีวานไปด้วยความเหนื่อยล้าจากที่ได้ไปเที่ยวเล่นมาตลอดทั้งวัน ไม่ต่างจากร่างบางที่ดูอ่อนเพลีย
“คุณอยากกลับหรือยัง” อีวานหันไปบอกกับร่างบางข้างกาย
“ค่ะ” ลินลดาตอบรับเมื่อเห็นว่าหนูน้อยนอนหลับซบอกพ่อของเขาไปแล้ว
“ปล่อยมือฉันเถอะนะคะ”
“คุณอยากซื้ออะไรหรือเปล่า” เขาไม่ได้สนใจที่เธอพูดแม้แต่น้อย
“คุณอีวาน ช่วยปล่อยมือดิฉันด้วยค่ะ” ลินลดาพูดเสียงแข็ง เมื่อคนตัวโตทำเมินคำพูดของเธอหลายครั้ง
“ไม่ให้ผมจับมือ หรือจะให้ผมทำอย่างอื่น” คำขู่ที่ได้ผล ทำให้ลินลดาถึงกับเงียบไม่ตอบโต้คนชอบฉวยโอกาสและเอาแต่ใจตัวเองเป็นที่สุด
“นายช่วยรับคุณหนูไปนอนที่รถที” เสียงทุ้มโทรหาลูกน้องที่ติดตามมาให้มารับไบรอัน
“ทำไมเราไม่พาคุณหนูกลับไปที่รถล่ะคะ” คำถามที่ไม่ได้รับคำตอบ เพียงไม่กี่นาทีลูกน้องของอีวานก็มารับเอาไบรอันกลับไปนอนบนรถ เหลือเพียงอีวานที่ยังคงจับมือเรียวไม่ยอมปล่อย
“คุณอีวาน ช่วยตอบคำถามดิฉันหน่อยได้มั้ยค่ะ” เธอเริ่มจะไม่พอใจที่เขาชอบตีรัว
“ไปกินข้าว ฉันหิวแล้ว” เสียงทุ้มพูดอย่างเอาแต่ใจ ทำให้ลินลดาจำต้องเดินตามเขาไป เพราะเขาไม่ยอมปล่อยมือเธอ
“สวัสดีค่ะ พี่อีวาน” ระหว่างที่ทั้งคู่นั่งทานข้าว ก็มีหญิงสาวทรงเสน่ห์เดินตรงมาที่โต๊ะอาหาร ทำให้ทั้งคู่หันไปมองตามเสียงพร้อมกัน
“เมญ่า!” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นหญิงสาวยืนมองเขา แล้วสลับไปมองหญิงสาวที่นั่งอยู่ตรงข้ามตาแข็งอย่างไม่พอใจ
“มาทานข้าว ไม่ชวนเมญ่าเลยนะคะ”
“พี่ขอเวลาส่วนตัวนะเมญ่า” อีวานพูดด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง แฝงไปด้วยความไม่พอใจ
“เมญ่าแค่แวะมาทักทายค่ะ ขอตัวนะคะ” สาวเปรี้ยวทรงเสน่ห์ที่เดินเข้ามาอย่างมั่นใจเมื่อครู่ รีบกลับทันที เพราะไม่อยากที่จะมีปัญหากับคนอย่างอีวาน รูฟาลอฟ ถ้าหากเขาเกิดไม่พอใจเธอขึ้นมาโอกาสที่จะได้ขึ้นเตียงกับอีวานต้องมลายหายไปแน่ๆ
@บ้านรูฟาลอฟ
“คุณหนูอยากฟังนิทานเรื่องไหนดีคะ” คืนนี้ลินลดาพาหนูน้อยไบรอันเข้านอน เพราะมะลิไม่สบาย
“อะไรก็ได้” เสียงใสบอกอย่างไม่ยี่หระ หลายวันที่ผ่านมาไบรอันเริ่มเปิดใจกับครูคนใหม่มากขึ้น ถึงจะมีบางครั้งที่ยังคงต่อต้านแต่ก็ถือว่าน้อยกว่าช่วงแรกมาก
ลินลดาหยิบหนังสือนิทานที่วางอยู่ใกล้ตัวมาอ่านเพียงสองเล่ม ไบรอันก็หลับสนิทไป เธอจึงห่มผ้า แล้วปิดไฟให้เรียบร้อย ก่อนจะออกจากห้อง
ลินลดาลงมาดื่มน้ำในห้องครัว แล้วเดินย้อนกลับขึ้นห้องของตัวเอง ในจังหวะที่กำลังปิดประตู ก็มีแรงบางอย่างดันประตูเข้ามาด้านในอย่างแรง ทำให้ร่างบางเสียหลัก ถอยหลังไปหลายก้าว
“อ๊ะ! คุณ อื้อ...” เสียงหวานเอ่ยได้เพียงเท่านั้น ก็ถูกมือหนาของใครบางคนปิดปากไว้ เสียงกลอนถูกล๊อกจากน้ำมือของคนที่เอามือปิดปากเธอ ดวงตาหวานเบิกโพลงด้วยความตกใจ
“อื้ออ”
“อย่าร้อง ไม่อย่างนั้นคนทั้งบ้านจะแห่มาฟังเสียงครางของเธอ” เสียงทุ้มเอ่ยกระซิบที่ข้างหู ทำให้คนที่ถูกปิดปากทำได้เพียงพยักหน้ารับ
“คุณเข้ามาทำไม คุณอีวาน” เสียงหวานรีบถามคนตรงหน้า หลังจากที่เขายอมเอามือออกจากปากเธอ
“ผมมีเรื่องอยากจะคุยกับคุณ” ขาแกร่งย่างสามขุมไปที่เตียงนอนนุ่มของครูสาวแสนหวานแล้วนั่งลงโดยไม่เกรงใจเจ้าของห้อง
“มีเรื่องอะไรเหรอคะ” เธอถามด้วยน้ำเสียงที่เป็นกังวล คิดว่าอาจจะเป็นเรื่องของไบรอันที่เธออาจทำอะไรไม่ถูกใจเขาแล้วจะมาตำหนิเธอ
“ผมอยากให้คุณช่วยเล่นเป็นแฟน เพื่อตบตาพ่อของผม” ดวงตาสีฟ้าหันไปสบเข้ากับตาหวานที่ยืนตกตะลึง
“...”
“ลินลดา ได้ยินที่ผมพูดหรือเปล่า”
“ค ค่ะ แล้วทำไมฉันต้องทำอย่างนั้น”
“เหตุผลส่วนตัว”
“ทำไมคุณไม่ไปหาคนอื่นช่วยล่ะค่ะ”
“ถ้าคุณยอมช่วย ผมจะให้เงินคุณเพิ่มอีกสองเท่าจากที่ได้อยู่ตอนนี้” เขาคิดไว้แล้วว่าเธอคงไม่ยอมง่ายๆ จึงเตรียมแผนสำรองมา
“สองเท่า!” เสียงหวานเอ่ยทวนอย่างตกใจ ถ้าได้เงินเดือนเพิ่มอีกสองเท่า เธอก็จะสามารถเอาเงินไปดาวน์บ้านได้สักหลังที่ต่างจังหวัดสักแห่ง เพื่อหนีแม่บุญธรรมที่ติดการพนัน แถมยังขี้เมาที่ชอบมาไถเงินเธอบ่อยๆ
“แล้วต้องแกล้งไปนานแค่ไหน”
“หกเดือน” ลินลดาคิดคำนวณจำนวนเงินที่จะได้เพิ่มสองเท่า ว่ารวมๆ แล้วเธอจะได้เงินเท่าไร เพียงพอที่จะดาวน์บ้านได้มั้ย ที่เหลือก็ค่อยทยอยผ่อนธนาคารไป
“ถ้าเธอไม่ตกลง ฉันคงจะต้องไปหา...”
“ตกลงค่ะ ฉันรับงานนี้” เสียงหวานรีบตอบรับก่อนที่เขาจะเปลี่ยนใจ นั่นทำให้คนตัวโตนั่งอมยิ้มอย่างภูมิใจ
“งั้นเราเริ่มทำหน้าที่แฟนกันเลยแล้วกัน” ขาแกร่งลุกจากที่นอนเดินตรงมาหยุดตรงหน้าของลินลดาที่มัวแต่คำนวณตัวเงินจนไม่ทันระวังตัว ถูกเขาโน้มตัวลงมาบดขยี้ริมฝีปากบาง
“อื้ออ” มือบางพยายามดันอกแกร่งออก เรี่ยวแรงอันน้อยนิดจะไปสู้คนตัวใหญ่ตรงหน้าได้อย่างไร เขารวบข้อมือบางทั้งสองข้างยกขึ้นเหนือหัว แล้วดันเธอชิดติดผนัง ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมากจนเธอตั้งตัวไม่ทัน
ปากบางพยายามส่งเสียงร้องแต่นั่นเท่ากับเปิดโอกาสให้เขาได้เข้ามาควานหาน้ำหวานในโพรงปากนุ่มจนทั่ว มือหนาบีบเคล้นเต้าอวบอิ่มสลับไปมา ขาแกร่งสอดเข้าตรงกลางระหว่างขาเรียว ยกขาขึ้นถูไถกลางกายสาวจนเกิดน้ำฉ่ำแฉะไหลออกมาเป็นวงเปื้อนกางเกงในตัวจิ๋ว
“อ่า...” ริมฝีปากบางที่ถูกปล่อยให้เป็นอิสระ ต่างจากร่างกายของเธอที่ยังคงถูกเขาพันธการไว้
“เราควรจะทำข้อตกลงกันก่อนนะคะ” สติที่เหลืออยู่น้อยนิดเอ่ยทวงสิทธิ์ของเธอ
“ข้อตกลงคือฉันให้ค่าตอบแทนเธอสองเท่าจากเงินเดือน แต่ตลอดหกเดือนต้องแสดงเป็นแฟนกันจริงๆ ห้ามให้ใครจับได้” เสียงทุ้มกระซิบข้างหู ยิ่งทำให้เธอสติหลุดลอยไปจนไม่มีการทักท้วงใดๆ สุดท้ายกวางน้อยก็ต้องถูกราชสีห์จับกินอย่างไม่มีทางหนีรอด