บทนำ
เมืองหลวงที่แสนวุ่นวาย รถติด ควันพิษ มิจฉาชีพ รวมสารพัดทุกสิ่งอย่างอยู่ที่นี่ ตึกสูงใหญ่ระฟ้าผุดขึ้นเป็นดอกเห็ด ถนนหลายสายเชื่อมต่อกันให้วุ่นวายไปหมด
"แล้วจะไปถูกมั้ย โทรศัพท์ก็ไม่มี รู้แบบนี้มาพร้อมแม่ตั้งแต่แรกก็ดี
ยืนบ่นอยู่คนเดียวท่ามกลางผู้คนที่เดินผ่านไปมา วันนี้ฉันต้องเดินทางเข้ามาในกรุงเทพเพื่อมาทำงานกับแม่ งานที่ว่าก็คือคนใช้บ้านเศรษฐีคนหนึ่ง แม่เล่าให้ฟังว่าท่านใจดีมากๆ ท่านมีลูกชายหนึ่งคน ไม่ค่อยเอาอะไรสักเท่าไหร่ ทำไมฉันถึงรู้นะเหรอ ก็แม่นั่นแหละเล่าให้ฟัง แม่ล่วงหน้ามาทำงานได้หลายเดือนแล้ว แต่ฉันเพียงรอให้สอบเสร็จก่อนเพียงเท่านั้น เรามีกันสองแม่ลูก ส่วนพ่อของฉันท่านเดินทางมาทำงานที่กรุงเทพเนี่ยแหละแล้วก็หายสาบสูญไปเลย ครอบครัวของเราจนมาก บ้านขนเกิดของฉันอยู่ห่างไกลความเจริญเป็นอย่างมาก มันเลยทำให้ฉันไม่ค่อยทันคนสักเท่าไหร่ เทคโนโลยีก็ไม่ค่อยตามทันเขา เมื่อนึกขึ้นได้ว่าแม่เคยเขียนเบอร์โทรศัพท์ไว้ให้ฉันนี่นา ฉันจึงรีบควานหาในกระเป๋าในทันที ไม่นานก็เจอกระดาษแผ่นเล็กที่มันโคตรจะยับยู่ยี่
"เหรียญไปไหนหมดวะเนี่ย " ฉันหาไปบ่นไป ตู้โทรศัพท์ก็ดูไม่น่าจะใช้เลย ทำไมมันเก่าแบบนี้เนี่ย ไม่นานฉันก็เจอเหรียญบาทประมาณสี่ห้าเหรียญ
ตื๊ดด ตื๊ดดด
"สวัสดีค่ะบ้านสวัสดิวัฒน์ค่ะ ไม่ทราบต้องการเรียนสายกับใครคะ" โห ดูท่าแล้วบ้านหลังนี้จะรวยมากเลยสินะ ฟังจากแค่นามสกุลก็อลังการแล้ว
"เอ่อ ขอสาย แม่สายใจค่ะ " ฉันตอบกลับไปอย่างตะกุกตะกัก ก็ฉันไม่เคยจะต้องพูดจาเป็นงานเป็นการขนาดนี้นี่นา
"สักครู่นะคะ " คนที่บ้านนี้มีมารยาทดีแฮะ เจ้านายคงจะใจดีอย่างที่แม่ว่าจริงๆ แหละ ปกติแล้วคนใช้อย่างเราจะมาใช้โทรศัพท์บ้านเจ้านายคงจะไม่ได้ ถ้าเป็นในละครนะโดนด่าเตพิดไปแล้ว แถมยังต้องโดนหักเงินเดือนอีก ฉันนี่อินกับละครมากไปมั้ยเนี่ย
"ฮัลโหล สายใจพูดค่ะ" ไม่นานฉันก็ได้ยินเสียงแม่ ดีใจจังเลยรอดตายแล้ว
"แหม พูดเพราะเชียวนะคุณสายใจ แม่จ๋า นี่หยาเองนะ หยามาถึงกรุงเทพแล้ว ตอนนี้อยู่ท่ารถ หยาจะต้องไปไงต่ออ่ะแม่ " ฉันเอ่ยแซวแม่เล็กน้อยก่อนที่จะเข้าเรื่องสำคัญในทันที เพราะมันมืดแปดด้านไปหมด ยิ่งโง่ๆ แบบฉันด้วย
"ขึ้นแท็กซี่มาก็ได้ลูก เพราะมันไม่ไกลสักเท่าไหร่ แพงหน่อยแต่ไม่ต้องปวดหัวจะได้ถึงเร็วๆ บอกคนขับว่ามาบ้านสวัสดิวัฒน์ ใครๆ เขาก็รู้จกกันทั้งนั้น" แสดงว่าตระกูลนี้ต้องดังมากแน่ๆ แม้กระทั่งคนขับแท็กซี่ยังรู้จัก ไม่ธรรมดาเลยจริงๆ
"จ๊ะแม่งั้นแค่นี้นะ " เอาหล่ะ เรื่องแค่นี้เองขึ้นแท็กซี่แกทำได้อยู่แล้วปั้นหยา
.....................
ตอนนี้ฉันก็ขึ้นมานั่งอยู่บนแท็กซี่เรียบร้อยแล้วรู้สึกสบายใจจังแฮะรอดตายไปหนึ่งด่าน ทำไมลุงคนขับต้องมองหน้าฉันแปลกๆ ด้วยเนี่ย
"จะไปทำอะไรที่บ้านหลังนั้นหล่ะอิหนู" ลุงแกคงอยากจะถามนานแล้วหล่ะ แต่คงไม่กล้า อัดอึดใช่มั้ยหล่ะลุงเลยถามออกมาเนี่ย
"ไปหาแม่จ่ะ แม่หนูทำงานอยู่ที่นั่น"
"ระวังตัวไว้บ้างก็ดีนะ สวยๆ แบบเนี๊ย" นี่ลุงพูดอะไรของลุงเนี่ย ฉันหล่ะงงไปหมดแล้ว แต่ก็ช่างเหอะ เอาที่ลุงสบายใจก็แล้วกัน ลุงแกอาจจะหวังดีอะไรประมาณนี้ก็ได้หล่ะมั้ง ฉันแค่ยิ้มออกไปเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
"เอ้าถึงแล้ว " ไม่นานรถก็มาจอดหน้าคฤหาสน์หลังใหญ่ ว้าว เหมือนกับในหนังไม่มีผิด ทำไมมันอลังการแบบนี้เนี่ย นี่ฉันจะต้องมาอยู่ที่นี่จริงๆ ใช้มั้ยเนี่ย ฉันจ่ายเงินค่าแท็กซี่เสร็จแล้วจึงหอบหิ้วสัมภาระเดินเข้ามาในเขตของตัวบ้านทันที
บรื้นนน
ปี๊นนนนน ปี๊นนนนนน
ใครมันมาขับรถบีบแตรไม่มีมารยาทแบบนี้เนี่ย ฉันจึงหันหลังกลับไปมอง แต่มันก็ต้องทำให้ฉันต้องใช้มือปิดตาเพราะแสงแดดที่มันสะท้อนกับกระจกรถมันส่องสะท้อนเข้ามาในดวงตาฉันอย่างจัง
"นี่ ยัยบื้อเอ๊ย มัวแต่ยืนปิดหน้าอยู่นั่นแหละ แหกตาดูรถมั่งสิ" โอ้โห นี่ปากคนหรอเนี่ย รถก็ออกจะดูแพงแสนแพง แต่ทำไมปากหมาได้ขนาดนี้ ดูท่าแล้วหน้าตาก็ออกจะหล่ะอยู่หรอกนะ ฉันมองไม่ชัดสักเท่าไหร่เพราะแสงมันแทงตาฉันอยู่
"นี่ทางมีตั้งเยอะแยะก็ขับไปสิ "
"เธอเป็นใครมาสั่งฉัน หลบไป ถ้าไม่อยากโดนชน" หึ คิดว่าฉันจะยอมหรอ ผู้ชายอะไรเอาแต่ใจชะมัด เอาสิกล้าชนก็เอาเลย
"กล้าชนก็เข้ามา" ฉันทำหน้าท้าทายเขา นั่นมันยิ่งทำให้เขาโมโหเพิ่มเป็นเท่าตัว
บรืนน บรืนนนน
"กรี๊ดดดดดด"
"หยาาาาาา "
เอี๊ยดดดดดดดดด
"หึ สมน้ำหน้า อวดเก่งดีนัก " ผู้ชายคนนั้นขับรถมาข้างๆ ฉันแล้วปรับกระจกลดลงมาล้อเลียนฉัน หนอยมันยิ่งทำให้ฉันแค้นเป็นอย่างมาก ดีนะที่แม่ฉันมาดึงฉันไม่ทัน ไม่งั้นป่านนี้ฉันคงจะไปเฝ้ายมบาลแล้วหล่ะ
"แม่ไอ้บ้านั่นใคร " ฉันเอ่ยถามแม่ออกไปขณะที่กำลังลุกขึ้นจากพื้น รู้สึกเจ็บก้นชะมัด
"นั่นหน่ะคือคุณคิมหัน ลูกชายคุณท่านที่แม่เคยเล่าให้ฟังไงหล่ะ " นี่หน่ะหรอ ลูกชายคุณท่าน ไม่เอาไหนแล้วแถมยังนิสัยไม่ดีอีกต่างหาด ชอบรังแกผู้หญิงสินะ ตุ๊ดรึป่าว
"น่ารังเกียจที่สุด หยาไม่ชอบเขาเลยแม่"
"เอาหน่าอย่าไปถือสาคุณเขาเลย ป่ะเข้าบ้านจะได้เอาข้าวของไปเก็บ "
"จ่ะ คิดถึงแม่จัง"
"ปากหวานจังนะเรา แล้วหอบอะไรมาเยอะแยะเลย" ในมือทั้งสองข้างของฉันเต็มไปด้วยกระเป๋าใบเล็กใบน้อย ฉันคิดว่าทุกสิ่งทุกอย่างมันจำเป็นกับฉันหมด อีกอย่างฉันก็จะไม่ได้เรียนต่อแล้ว ขอเก็บของพวกนี้เป็นความทรงก็แล้วกัน
.................