วันนี้เป็นวันที่ฉันต้องไปสมัครเรียนแล้วสินะ รู้สึกตื่นเต้นจัง ตามจริงแล้วมหาลัยที่ฉันจะไปสมัครเรียนเปิดรับสมัครมาหลายวันแล้ว อีกไม่กี่วันก็จะถึงเวลาเปิดภาคเรียนแล้ว ก่อนหน้านี้ฉันได้เตรียมซื้อชุดนักศึกษาไว้เป็นที่เรียบร้อย วันนี้ฉันเลยจัดการแต่งมันไปสมัครเรียนเอาซะเลยเพราะได้ข่าวว่าวันนี้เป็นวันปฐมนิเทศน์นักศึกษาใหม่ด้วย ไปสมัครเอาซะโค้งสุดท้ายเลยจริงๆ ฉันตื่นแต่เช้าเป็นพิเศษแต่งตัวเสร็จตั้งแต่หกโมงเช้าต่ื่นเต้นแค่ไหนก็ลองคิดดู ฉันออกมารอไอ้คุณคิมอยู่หน้าบ้าน ไม่รู้ว่าป่านนี้เขาตื่นรึยัง ได้ข่าวว่าเมื่อวานเขากลับดึกเพราะออกไปสังสรรค์กับบรรดากลุ่มเพื่อนของเขา หวังว่าเขาคงจะไม่กลั่นแกล้งอะไรฉันอีกหรอกนะ ฉันนั่งบวกเดินไปมาอยู่อย่างนั้นมองดูนาฬิกาเรือนเล็กที่ข้อมือตอนนี้มันก็จะแปดโมงแล้ว ยังไม่มีวี่แววของคุณคิมออกมาเลย
แล้วฉันจะได้ไปสมัครเรียนกับปฐมนิเทศน์รึป่าวเนี่ย จะเดินเข้าไปตามในตึกใหญ่มันก็จะน่าเกลียดไปรึป่าว สงสัยเขาคงจะลืมจริงๆ หล่ะมั้ง
"ไปเองก็ได้ แกทำได้อยู่แล้วหยา" ฉันตัดสินใจไม่ลงไม่รอมันแล้ว กว่าจะออกจากบ้านก็เกือบแปดโมงไหนจะต้องเผื่อเวลารถติดอีก ใครก็รู้ว่าเมืองหลวงรถติดจะตายไป ขืนยังนั่งรอคุณคิมฉันไม่ได้เรียนต่อพอดี ฉันเดินออกมาหน้าบ้านเพื่อหวังหาโบกแท็กซี่คัน เงินในกระเป๋าฉันก็พอมีอยู่บ้างเพราะคุณท่านได้ให้ติดตัวไว้เอาไปสมัครเรียนและซื้อชุดนักศึกษากับอุปกรณ์การเรียนมันมากเสียจนฉันตกใจ แต่คุณท่านก็บอกว่ามันเป็นเงินที่คุณท่านเต็มใจมอบให้กับฉัน ฉันจึงจำใจยอมรับเงินนั่นมาอย่างลำบากใจ เพราะแค่ค่าเทอมที่คุณท่านส่งเสียให้กับที่อยู่อาศัยรวมทั้งข้าวทุกมื้อฉันก็ไม่รู้จะตอบแทนยังไงแล้ว คุณท่านมีจิตที่มีเมตตากับฉันและแม่มาก
ทำไมนะคุณคิมถึงไม่ได้เสี้ยวของคุณท่านมาบ้างเลย
บรื้นนน บรื้นนนน
ปี๊นนนนนนน
"เอ๊ะ" ในขณะที่ฉันกำลังเดินออกมายังหน้าบ้านเพื่อหารถไปมหาลัย ก็มีรถบีบแตรเสียงดังไล่หลังฉันมาคงไม่ต้องเดาให้เสียเวลา
"ขึ้นรถ " คุณคิมลดกระจกลงมา แล้วสั่งให้ฉันขึ้นรถ ใบหน้าหล่อสวมด้วยแว่นสีดำมันทำให้เขามีเสน่ห์ยิ่งนัก ทำไมฉันจะต้องชื่นชมเขาด้วยนะ ทั้งๆ ที่ทุกครั้งที่เจอกันเขาไม่เคยญาติดีกับฉันเลยสักครั้ง
"จะยืนเอ๋ออีกนานมั้ย? บอกให้ขึ้นรถ จะไปรึป่าวสมัครเรียนเนี่ย!!! " เขาเริ่มขึ้นเสียงใส่ฉัน ฉันจึงรีบเปิดประตูขึ้นมานั่งบนรถข้างคนขับในทันที เพราะถ้าขืนยังยืนมึนอยู่อาจจะต้องได้ไปเองอย่างแน่นอน
.....บรรยากาศภายในรถเงียบสนิท ไม่มีแม้เสียงสนทนาใดๆ จากปากของฉันและคุณคิม เขาคงจำใจหล่ะมั้ง คงจะอยากนอนต่อเห็นว่าเมื่อคืนกลับดึกนี่ เฮ้อ ฉันก็รู้สึกอึดอัดนะ ไม่อยากที่จะรบกวนเขาหรอกแต่เพราะคุณท่านสั่งมา อีกอย่างฉันก็ไปไหนไม่ถูกด้วย ขนาดทางกลับบ้านยังไม่ได้ซะด้วยซ้ำใครเอาไปปล่อยที่ไหนก็คงต้องนอนตายอยู่ตรงนั้นแหละ แต่ครั้งต่อไปฉันคงจะไปได้เองไม่ต้องพึ่งใครแล้วหล่ะ ตลอดสองข้างทางฉันนั่งมองและจดจำเส้นทางไว้ตลอด เพราะครั้งต่อไปฉันจะได้มาเองได้
"ปฐมนิเทศน์กี่โมง" จู่คุณคิมก็พูดขึ้นมา
"เก้าโมงครึ้งค่ะ" คุณคิมยกข้อมมือขึ้นมาเพื่อมองดูเวลาเล็กน้อย ก่อนที่จะเร่งความเร็วจนฉันตกใจ เพราะตอนนี้มันก็เก้าโมงแล้ว
"เอ่อ คุณคิมคะ เบาๆ ก็ได้ค่ะ " ฉันพูดตะกุกตะกักออกมาเพราะความกลัว นี่มันจะเร็วไปมั้ยถ้าเกิดอะไรขึ้นมาแล้วแม่ฉันจะอยู่กับใคร ฉันได้แต่นึกถึงพ่อแก้วแม่แก้วเอาไว้ในใจ
"อย่ามาสั่งฉัน! อยากไปไม่ทันรึยังไง "
"คะ เอ่อ "
"หุบปากแล้วนั่งเงียบๆ " ฉันได้แต่ก้มหน้าในทันที มือทั้งสองของฉันนั่งบีบกันจนแน่นเหงื่อออกจนเปียกแฉะไปหมด เมื่อไหร่จะถึงสักทีเนี่ย
"อ่ะ ถึงแล้ว" ไม่นานฉันก็รู้สึกโล่ง ฉันรีบเปิดประตูรถลงไปอย่างรวดเร็ว มีความรู้สึกว่าขามันสั่นๆ ดีที่ไม่ฉี่แตกใส่รถคุณคิม
"ขอบคุณค่ะ" ฉันยกมือไหว้เป็นการขอบคุณ ถึงแม้ว่าไม่อยากไหว้สักเท่าไหร่แต่เขาก็อุตส่าห์ลากสังขารพาฉันมาทันเวลาเข้าปฐมนิเทศน์
"อืม ไปถูกรึป่าว" ฉันได้แต่ยิ้มแหยาและส่ายหน้าให้เขา มหาลัยออกจะใหญ่โตซะขนาดนี้ใครจะไปถูก ตึกน้องใหญ่เต็มไปหมด เห็นแล้วสับสน
"มาเดินตามาจะพาไปสมัครเรียนก่อน จะได้เข้าปฐมนิเทศน์"
"ค่ะ"
..คุณคิมพาฉันมายังสมัครเรียนของมหาลัย ตลอดทางที่เดินมาฉันเห็นพวกผู้หญิงซุบซิบนินทาอะไรกันไม่รู้แล้วก็มองมาที่ฉันกับคุณคิม แต่ฉันก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรมากมาย ฉันสมัครเรียนเสร็จเรียบร้อย จากนั้นคุณคิมก็พาฉันไปส่งยังหอประชุมที่ใช้เป็นสถานที่ปฐมนิเทศน์
"เอามือถือมาแล้วเมมเบอร์ฉันไว้ เลิกแล้วก็โทรมา"
"เอ่อ หยาไม่มีมือถือค่ะ"
"อะไรวะ เออๆ งั้นฉันจะรออยู่แถวนี้แล้วกัน "
"คุณคิมกลับก่อนก็ได้นะคะเดี๋ยวหยาขึ้นรถกลับเองค่ะ" ฉันเห็นท่าทีของคุณคิมรู้สึกหงุดหงิด ฉันเลยตัดปัญญหาว่าฉันกลับเองได้
"อย่ามาอวดดี เซ่อซ่าแบบนี้จะกลับเองได้ยังไง ฉันบอกจะรอก็คือรอ อย่ามาเรื่องมาก"
โดนอีกตามเคยมีสักครั้งมั้ยที่เขาจะยอมพูดดีกับฉันมั่งเนี่ย แต่ก็เอาเถอะทนๆ ไปก่อนก็แล้วกัน
"ค่ะ งั้นหยาไปนะคะ "
.......................
"ป่ะหาอะไรกินกันฉันหิว" ทันทีที่ฉันออกมาจากหอประชุมคุณคิมก็ชวนฉันไปหาอะไรกินทันที ไม่น่าเชื่อว่าเขาจะยอมอดทนนั่งรอฉัน
"คุณคิมยังไม่ได้กินข้าวหรอคะ"
"ก็มัวรอเธอยังไงหล่ะ นานชิบ หิวไส้จะขาดอยู่แล้วเนี่ย ไปเร็วๆ อย่าพูดมาก" โดนอีกจนได้เคยมีสักครั้งมั้ยที่เขาจะพูดดีด้วย แต่ฉันก็แอบดีใจลึกๆ นะว่าเขาอุตส่าห์อดทนรอฉัน อย่าเขวเด็ดขาดนะหยา
คิมหัน
ตอนนี้ผมพาเธอมาทานอาหารร้านหรูแห่งหนึ่ง ซึ่งมันเป็นร้านประจำที่ผมชอบพาสาวๆ มาทานบ่อยๆ พนักงานที่นี่จะรู้ดี ผมอดทนนั่งรอจนเธอปฐมนิเทศน์เสร็จ
"สั่งสิ" เธออ่านเมนูแล้วทำหน้าแบบว่าสงสัย ยัยนี่นี่บ้านนอกของจริงเลยผมว่า
"เอ่อคือ"
"มาฉันสั่งให้ " ผมหงุดหงิดกับท่าทางเงอะงะๆของเธอ จึงหยิบเมนูขึ้นมาสั่งอาหารให้เธอในทันที หึ ถ้าไม่ติดว่าผมต้องการชนะในเกมส์นี้ขึ้นมาผมไม่มีทางมาทำอะไรแบบนี้กับยัยนี่แน่นอน แต่ก็เพราะว่าศักดิ์ศรีมันค้ำคอของผมอยู่ ผมจะไม่ยอมแพ้พวกมันอย่างแน่นอน ไม่นานอาหารก็มาเสิร์ฟ ผมสังเกตเห็นสีหน้าที่ตื่นเต้นของเธอ คงจะอยู่บ้านนอกจนชินซินะ คงไม่เคยได้พบเจออะไรแบบนี้ เป็นเรื่องที่ดี ความไม่ทันคนและความซื่อบื้อของเธอเนี่ยแหละ มันจะทำให้ผมชนะได้ง่ายขึ้น
"ไม่เคยกินของพวกนี้เลยหรอ"
"ไม่ค่ะ หยาไม่มีเงินพอที่จะซื้อของพวกนี้กินหรอกค่ะ ลำพังแค่ซื้อข้าวกินไปวันๆยังไม่พอซะด้วยซ้ำ ขอบคุณคุณคิมนะคะที่พาหยามากินของอร่อยๆแบบนี้" คำพูดของเธอดูใสซื่อบริสุทธิ์ ไม่มีแม้มารยาใดๆมันต่างจากผู้หญิงที่ผมเคยคบมา พวกนั้นมักเสแสร้งแกล้งทำสารพัดจนเกินงาม บางครั้งก็ถีบตัวเองจนลืมกำพรืด ผิกกับเธอโดยสิ้นเชิง ผมชักจะสนใจยัยนี่ขึ้นมาซะแล้วสิ
"อืม หยุดพร่ำเพ้อแล้วกินไปซะ" ปากผมก็จะเป็นแบบนี้เสมอ แต่เธอก็ยังมีความอดทน คงจะเป็นเพราะผมเป็นเจ้านายเธอด้วยหล่ะมั้ง
"ค่ะ " จากนั้นเธอก็ก้มหน้าก้มตากินอาหารตรงหน้าโดยที่ไม่พูดอะไรออกมาอีกเลย ผมก็คอยตักนู่นตักนี่ให้เธอกิน ดีเชื่อฟังกันแบบนี้ ต่อไปฉันจะทำให้เธอหลงฉันให้ได้ยัยคนใช้บ้านนอก