เธอล้างมือ เช็ดด้วยกระดาษทิ้งอย่างลวก ๆ ก่อนดึงประตูออกจากห้องน้ำ
แสงไฟนีออนสีฟ้าบริเวณทางเดินทำให้บรรยากาศดูเย็นลงทันที ควันบาง ๆ ลอยกรุ่นอยู่กลางอากาศ กลิ่นบุหรี่ชัดขึ้นจนต้องขมวดคิ้ว
เธอเพิ่งก้าวพ้นประตูออกมาได้ไม่กี่ก้าว ก็เห็นเงาร่างสูงพิงผนังอยู่ไม่ไกลนัก
ไนท์ยืนอยู่ตรงนั้น
เสื้อเชิ้ตดำของเขาปลดกระดุมบนออกหนึ่งเม็ด ปลายแขนเสื้อถูกพับลวก ๆ เผยข้อมือกับเส้นเอ็นมือที่นูนชัด บุหรี่แท่งหนึ่งคีบอยู่ระหว่างนิ้ว ริมฝีปากอมควัน ก่อนจะพ่นออกมาช้า ๆ เป็นสาย
แสงไฟสลัวกระทบเสี้ยวหน้าคม… ทำให้เขาดูทั้งน่าหงุดหงิดและน่ามองในเวลาเดียวกัน ซึ่งมันน่ารำคาญมากสำหรับมายด์
เขาเหลือบตามามองทันทีที่เธอเดินออกมา สายตากวาดลงมาตั้งแต่หน้า ผม ไหล่ ชุดเดรส… แล้วหยุดค้างอยู่ตรงช่วงอกแว้บหนึ่ง ก่อนจะเลื่อนกลับขึ้นไปที่ใบหน้าเธอเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“แต่งตัวอะไรของมึง”
เสียงทุ้มต่ำเอ่ยออกมาเฉย ๆ ไม่มีคำว่า ‘สุขสันต์วันเกิด’ ไม่มีคำอวยพรอะไรเลยด้วยซ้ำ
มายด์ชะงักเท้าทันที
คิ้วเรียวขมวดมุ่น ก่อนจะหันขวับไปมองเขาตาขวางอย่างไม่คิดจะเก็บอารมณ์
“อะไรของมึงเนี่ย กูจะใส่อะไรก็เรื่องของกูปะวะ”
เสียงเธอไม่ได้ดังมาก แต่ชัดพอให้รู้ว่าเริ่มหงุดหงิด
ไนท์ยักไหล่นิด ๆ ไม่ได้ดูกระตือรือร้นจะอธิบายอะไรเหมือนกัน
“ก็ถามเฉย ๆ แต่งตัวเหมือนอยากโดนผู้ชายฉุดฉิบหาย”
คำพูดนั้นหล่นลงมาง่าย ๆ เหมือนมันไม่ได้แรงอะไรสำหรับเขา
แต่สำหรับมายด์ มันเหมือนมีใครเอาแก้วเหล้าเย็นเฉียบสาดใส่หน้า
เธอหัวเราะในลำคอ ส่ายหัวอย่างไม่อยากเชื่อ
“ปากมึงนี่น่าโดนตบให้เลือดกลบปากจริงๆ ๆ ไนท์ กูแต่งมาดี ๆ มึงก็ต้องแดกดันอะไรสักอย่างให้ได้ใช่ไหม”
“กูพูดตามที่เห็น” เขาตอบเรียบ ๆ ไม่แม้แต่จะมองหน้าเธอตรง ๆ หันไปมองผนังด้านข้างแทน
“แล้วที่มึงสูบบุหรี่อยู่ตรงนี้ คือตามมาเสือกเรื่องของกูว่างั้น?” มายด์สวน “มึงดูชอบเสือกเรื่องของกูจังนะไนท์”
เขาเลิกคิ้วนิดเดียว ก่อนหันมามองเธอตรง ๆ เสียที
สายตาแบบนั้น ทำให้หัวใจเธอเผลอเต้นตกจังหวะไปหนึ่งทีอย่างหงุดหงิด
“อยากด่าก็ด่ามา แต่แต่งตัวแบบนี้ กูพูดจริงนะมึง คนอื่นมองกันทั้งร้านแล้วกับไปลงที่ข้อมือหมดแล้วมั้ง”
“แล้วไง มองก็เรื่องของเขาอีกนั่นแหละ” เธอเม้มปาก “กูไม่ได้แต่งให้มึงดู ไม่ต้องมามีปากเสียงอะไรกับชุดกู”
เธอหันหน้าหนี สูดลมหายใจเข้าลึก ไม่อยากให้เขาเห็นว่าคำพูดเมื่อกี้มันจี้ใจแค่ไหน
จริงอยู่ที่วันนี้เธอแต่งตัวแรงกว่าปกติ แต่เธอก็ไม่ได้อยากให้เขาทำเหมือนเธอไม่มีสมองคิดถึงตัวเอง
“พูดจบยัง กูจะกลับไปหาเพื่อนแล้ว”
เธอพูดจบก็ขยับจะเดินผ่านเขาไปโดยไม่หันกลับ
ไนท์มองแผ่นหลังเล็ก ๆ ในชุดเดรสสั้นที่ผ่าหลังลงไปจนเห็นแผ่นหลังขาว ๆ ชัดเจน
สายตาเขาเลยพลอยกวาดลงมาตามแรงโน้มถ่วงของสายตาคน แล้วก็เห็นบางอย่างที่ทำให้หน้าผากเริ่มเต้นตุบ ๆ
สายเสื้อในด้านหนึ่งมันเลื่อนต่ำกว่าปกติจนเห็นจากด้านข้างชัด ๆ แค่เธอขยับแรงกว่านี้นิดเดียวก็คงจะหลุดออกมาจากเดรสจริง ๆ
มายด์ยังไม่รู้ตัว เดินฉับ ๆ หน้าตึงจะกลับไปโซนโต๊ะให้ได้
“มายด์”
เขาเรียกสั้น ๆ แต่เธอทำเป็นไม่ได้ยิน
ไนท์สบถในใจเบา ๆ ก่อนจะก้าวยาว ๆ ตามไป มือใหญ่คว้าข้อมือเธอไว้ทันก่อนที่เธอจะถึงมุมเลี้ยวไปทางโซนคนเยอะ
แรงดึงทำให้เธอหันขวับกลับมา ดวงตาวาวจัดด้วยความหงุดหงิด
“อะไรของมึงอีก กูบอกแล้วไงว่าไม่ว่างเถียงกับมึง”
เขาไม่ได้ตอบทันที แค่ใช้มืออีกข้างดึงเสื้อตัวนอกของตัวเองออกจากไหล่ พอปลดกระดุมสองเม็ดบนออกก็หมุนเสื้อคลุมเข้าหาเธอแบบไม่ถามความสมัครใจ
“เฮ้ย ไนท์! มึงทำอะไรของมึงเนี่ย” มายด์โวยวายเมื่อเขายัดเสื้อเชิ้ตตัวเองคลุมลงบนไหล่เธอ
กลิ่นน้ำหอมอ่อน ๆ แบบผู้ชายปนกลิ่นบุหรี่ลอยเข้าจมูกทันที
เขาไม่ตอบ ใช้ปลายนิ้วจัดชายเสื้อให้ปิดช่วงอกเธอแทบมิด สายตาคมก้มมองต่ำไปนิดหนึ่งอย่างเสียไม่ได้ ก่อนจะเลื่อนกลับขึ้นมาสบตาเธออีกครั้ง
คราวนี้สายตานั้นจริงจังกว่าทุกทีที่เคยเห็น
“เสื้อในมึงหลุด”
ประโยคถูกพูดออกมาเรียบ ๆ แต่ชัดทุกคำ
“เอาไปใส่ให้ดี อย่าเดินไปทั้งร้านแบบนั้น”
เสียงเพลงจากด้านหน้าเริ่มดังแทรกเข้ามาอีกครั้ง แต่ในหัวมายด์เหมือนมีแค่เสียงหัวใจตัวเองที่เต้นดังจนกลบไปหมด เธอก้มมองตัวเองอย่างตกใจ รู้สึกหน้าเริ่มร้อนวาบตั้งแต่แก้มไปถึงใบหู
ยังไม่ทันได้พูดอะไรตอบ เขาก็ปล่อยข้อมือเธอแล้วเอนหลังพิงผนังเหมือนเดิม มือหนึ่งยกบุหรี่ขึ้นมาคีบไว้ที่ริมฝีปากอย่างเคย
“จะยืนเหวออยู่อีกนานไหม เดี๋ยวคนอื่นก็เดินมาเห็นหรอก”
มายด์กำเสื้อเชิ้ตเขาแน่น รู้สึกเหมือนหายใจไม่ทั่วท้องขึ้นมาเฉย ๆ
เธอเม้มปากแน่น กลืนน้ำลายลงคอ แล้วหันหลังรีบเดินกลับเข้าห้องน้ำไปอีกครั้ง โดยไม่ตอบอะไรเขาสักคำ
ทิ้งไนท์ไว้ตรงทางเดินมืด ๆ กับควันบุหรี่ที่กำลังลอยจางหายไปช้า ๆ พร้อมความคิดบางอย่างที่เขาเองก็พูดออกไปไม่หมดเช่นกัน…
"นมมายด์แม่งใหญ่สัส!"