บทที่ 9

1101 Words
บทที่ 9 เดินมาได้ระยะหนึ่ง ทุกคนก็ได้นั่งพัก ต้นไม้ใหญ่แห้งๆ ที่ยืนต้นตาย ไม่มีสีเขียวบนต้นให้เห็นเลยเเม้เเต่นิดเดียว เเต่มันพอจะให้ร่มเงาเพื่อบังเเดด "พี่ชาย นี่คือยาของเย่อ๋อง เเต่ข้าไม่รู้ว่าจะนำไปให้เขายังไง" เสี่ยวซีกล่าว เเม้ด้านเย่อ๋องจะคนน้อยเเทบนับด้วยมือทั้งสองข้างได้ เเต่จู่ๆ หยิบยาขึ้นมาเเละส่งให้กับอีกฝ่าย ดูจะเเปลกๆ ยังไงไม่ร้สิ เสี่ยวซีจึงไม่กล้าเอาไปให้ "พี่จัดการเอง" เซียวฮั่นรับซองยามา สัมผัสเเรกที่ได้จับถือ นุ่มเเละลื่น ซองยาที่เสี่ยวซีให้มาเป้นใสๆ เหมือนกับกระจก ทว่าไม่ใช่ ยุบได้ตามเเรงกดของนิ้ว อีกทั้งภายในซองใส มียาสีขาวอยู่ 6 เม็ด "ยานี้ค่อนข้างเเรง กินสองเม็ดหลังอาหาร กินสักสองสามครั้งไข้ท่านอ๋องน่าจะลดเเล้ว" เสี่ยวซีอธิบาย ก่อนจะนิ่งไป เพราะว่าอาหารที่พวกเจ้าหน้าที่มอบให้ น้อยมาก เย่อ๋องยังหมดสติอีกไม่อาจกินอาหารเองได้ มาถึงตรงนี้น่าจะลำบาก ยาที่มีต้องกินหลังอาหาร มิเช่นกัน กระเพาะอาหารคงบาดเจ็บไม่น้อยทีเดียว ระหว่างที่คิดอยู่ เจ้าหน้าที่ก็ตีฆ้องเรียกให้เดินทางต่อ "พี่ชาย ไว้เอาไปให้ตอนเย็นเถอะ" เสี่ยวซีบอก ตอนนี้ยังเช้า ทำอะไรไม่สะดวกจริงๆ หากเป็นกลางคืน ทำอะไรคงพอใช้ความมืดปกปิดไว้ได้ เซียวฮั่นส่งยาคืนไป ก่อนจะอุ้มหลายชายของเขามาถือไว้ ส่วนเสี่ยวซีอุ้มลูกสาวของเธอ เด็กน้อยสองคนหลังจากไม่นานก็เริ่มง่วง น่าเสียดาย เเม้จะช่วยบ่ายใกล้ค่ำ เเสงเเดดยังคงร้อนระอุ ให้ทั้สงไม่อาจนอนหลับได้เลย เสี่ยวซีสงสารเด็กน้อยจับใจ เเต่ช่วยอะไรไม่ได้ ภายในเครื่องบินคงมีร่มสักคัน เเต่มันน่าจะสะดุดตาเกินไป ไม่สามารถเอาออกมาใช้ได้เลย เดินจนเส้นขอบฟ้าเปลี่นยเป็นสีล้มเเดง ขบวนนักโทษหยุดยังพื้นที่โล่งที่เห้งเเล้ง ไม่มีต้นไม้สักต้น เห็นได้ชัด พวกเขาจงใจเลือกพื้นที่เเบบนี้ เพราะว่าไม่สามารถพึ่งพาต้นไม้ใหญ่ในการเอนหลังพิงได้เลย นักโทษบางส่วนถูกส่งออกไปรวบรวมฟืน เพื่อนำมาก่อไฟกองใหญ่ เเน่นอน นักโทษสามารถก่อไฟได้เช่นกัน เพียงเเต่ต้องไปขอที่จุดไฟหรือเชื้อไฟจากพวกเจ้าหน้าที่ เสี่ยวซีคิดจุดกองไฟของตนเองขึ้นมาเช่นกัน เธอกับลูกๆ จึงเดินไปรวบรวมไม้มาก่อไฟ เเละหยิบอาหญ้าเเห้งมาจำนวนหนึ่ง เพื่อให้ปูรองนอนในค่ำคืนนี้ ทว่าปัญหากลับเกิดขึ้น "คิดก่อกองไฟเหรอ ไม่มีทาง กองไฟจะถูกก่อเพียงกองเดียวเท่านั้น" หัวหน้าเจ้าหน้าที่คุมนักโทาเอ่ย ชื่อของเขาคือ ลู่ปัน พุดจบก็ยิ้มเยาะ พลางนั่งลงบนข้างกองไฟที่ถูกจุด เจ้าหน้าที่คนอื่นๆ ก็ลาดตระเวนรอบๆนักโทษ อีกส่วนหนึ่งพักผ่อนเพื่อเปลี่ยนกะในตอนกลางดึก ลู่ปันมองไปยังกลุ่มของเย่อ๋อง เขาได้รับคำสั่งให้ทำยังไงก็ได้ ให้เย่อ๋องผู้นี้ตกตายโดยไม่อาจไปถึงชายเเดนเหนือ ทว่ามือสังหารก็เเล้ว งดอาหารก็เเล้ว ผ่านไปเกือบเดือน อาหารที่ได้กับสภาพเเวดล้อมที่โหดรายขนาดนี้ เย่อ๋องกลัรอดมาได้ เเม้จะอยู่ในสภาพใกล้จะตายก็เถอะ เเต่ผ่านไปเกือบเดือน เขายังคงอยู่ในสภาพเดิม "คนบ้าอะไรป่วยใกล้จะตายกลับไม่ตาย อึดถึกทนขนาดนั้น ไม่ใช่ว่าเกิดมาร่างกายอ่อนเเอเหรอ ทำไมตายยากตายเย็นเเบบนี้" ลู่ปันบ่นออกมา เขาสั่งลูกน้องให้เเจกจ่ายเสบียง โดยให้เห็นเล้กน้อยเท่านั้น กับนำดื่มคนละชามเล็กๆ เเน่นอนย่อมมีเสียงโวยวาย "เจ้า เจ้าคิดจะฆ่าเราเหรอ อาหารเเค่นี้ จะพอให้เราอิ่มได้ยังไง" คุณหนูเซียวเม่ยเออร์เอ่ยขึ้น ในมืถือเเป้งดำๆ ชิ้นขนาดสองนิ้ว ชัดเจนว่ามันไม่อร่อย กับเเข็งมาก เเละยังได้ชิ้นเล็กๆ เท่านั้น เดินมาทั้งวัน อาหารเพียงเท่านี้ไม่พอเติมกระเพาะด้วยซ้ำ "หุบปาก มีให้กินก็ดีเเล้ว" ลู่ปันหยิบเเส้ออกมาฟาดไปทาง เซียวเม่ยเออร์ทันที "กรี๊ดดด" เซียวเม่ยเออร์ตกใจหน้าซีด ยามที่เเส้เหยียดยาวเกบือจะถึงตัว พลันมีมือข้างหนึ่งผลักออกไป ทำให้เเส้ฟาดลงพื้นเฉียดร่างของเซยวเม่ยเออร์ไปนิดเดียว "พี่ใหญ่" เซียวเม่ยเออร์ตะโกน คุณชายใหญ่สกุลเซียว เซียวจิ้ง เเม้ร่างกายจะบาดเจ็บเเละเเผลอักเสบ ตอนนี้้เวียนหัวเเทบเดินเซ เขากลับดีดตัวขึ้นมาจากรถลาก ปัดการโจมตีของเจ้าหน้าที่ออกไปได้ "คุณชายใหญ่สกุลเซียว ใกล้จะตายอยู่้รอมร่อยังอุตส่าห์ลุกขึ้นมาได้อีกนะ" ลู่ปันกัดฟันเอ่ยออกมา มือของเขามือด้ามของเเส้จะหลุดจากมือเลย เพียงโดยปัดออกเมื่อครู่ สมกับเป็นคฤหาสน์เเม่ทัพ เเละสมกับเป็นทายาทสายตรง อาการบาดเจ็บหนักที่น้องชายกับบิดายังลุกไม่ได้ เขากลบยืนได้ เเละมันยังไม่เพียงพอจะรั้งให้เขาไปฝ้ายมบาลได้ ต้องยอมรับจริงๆ เซียวจิ้งผู้นี้นับว่ายอดเยี่ยมนัก เมื่อครู่คงใช้กำลังภายในด้วย ไม่งั้นเเส้ของเขาคงไม่ถูกปัดทิ้งไปหรอก เเต่ด้วยสภาพเเบบนั้นฝืนเค้นกำลังภายในออกมา ทำให้เลือดปรากฏที่มุมปากของเซียวจิ้งทันที ลู่ปันเก็บเเส้กลับมา พลางยิ้มเย้ยอีกฝ่าย เขานั่งลงพลางขบคิดในใจ ทั้งเย่อ๋องกับสกุลเซียว เหตุใดสองกลุ่มนี้มันตายยากตายเย็นกันนัก ลู่ปันขบคิดยู่หนึ่ง หยิบกระดาษขึ้นมา เเละเขียนมันด้วยหมึกที่ถูกฝนไว้ล้วงหน้า เขาพับจดหมายเเละส่งให้กับลูกน้องคนหนึ่ง ซึ่งเขารับมันมาเเละเดินออกห่างจากกลุ่มคนจนหายวับไป ลู่ปันมองไปยังคนทั้งสองกลุ่ม พลางเเสยะยิ้ม
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD