เช้าวันถัดมา บรรยากาศในออฟฟิศแปลกประหลาด
เหมือนอากาศถูกบีบให้หนักขึ้นอย่างไม่มีเหตุผล
พริมเดินเข้าไปด้วยหัวใจที่ยังคงบอบช้ำจากเรื่องเมื่อวาน
แต่วันนี้ เธอพยายามยืดตัวให้ตรง
รวบทุกเศษความเข้มแข็งที่ยังเหลืออยู่
เธอบอกตัวเองว่า
อย่าไปสนเขา อย่าไปคิดเรื่องเขาอีก
แต่โลกมักเล่นตลกเสมอ…
คนใหม่ปรากฏตัว พร้อมรอยยิ้มที่ทำให้ออฟฟิศสว่างขึ้น
“ขอโทษนะครับ… ที่นี่ฝ่ายการตลาดไหม?”
เสียงทุ้มอบอุ่นดังขึ้น
พริมหันไป
แล้วความวุ่นวายในหัวก็ชะงักทันที
ชายคนหนึ่งยืนอยู่ตรงหน้า
สูง สุภาพ แต่งตัวสะอาดตาราวกับหลุดมาจากคอลัมน์แฟชั่น
รอยยิ้มของเขานุ่มจนทำให้ใจที่เหนื่อยล้าของพริมเผลออ่อนลงนิด ๆ
“ใช่ค่ะ” พริมตอบ
“คุณมีธุระอะไรหรือคะ?”
เขายกแฟ้มขึ้นเล็กน้อย
“ผมเพิ่งถูกย้ายมาจากสำนักงานใหญ่ครับ ชื่อเซน
หัวหน้าบอกให้มาติดต่อคุณพริมเป็นคนแรก”
พริมชะงัก
เขารู้ชื่อเธอได้ยังไง…?
เซนยิ้มแบบไม่รีบไม่ร้อน
“ผมขอฝากตัวด้วยนะครับ คุณพริม
ได้ยินชื่อคุณมาตั้งแต่ก่อนย้ายมาแล้ว”
คำทักทายธรรมดา
แต่เหมือนโลกตั้งใจจะให้มันไม่ธรรมดาเลยสักนิด
คีย์ ผู้ที่ไม่ควรได้ยิน แต่กลับได้ยินทั้งหมด
คีย์เดินเข้ามาพอดีกับจังหวะนั้น
เขาหยุด
เหมือนร่างตัวเองไม่รับคำสั่ง
ภาพตรงหน้า
—พริมยืนคุยกับผู้ชายแปลกหน้า
—เขาหล่อ
—เขายิ้มให้เธอ
—และเธอก็ยิ้มตอบ แม้จะเป็นเพียงรอยยิ้มสุภาพ
บางอย่างในอกของคีย์กระเพื่อม
เหมือนเชือกที่ถูกดึงแรง ๆ จนเกือบขาด
เขาไม่ได้ตั้งใจจะแสดงความคิดเห็น
แต่ใบหน้ากลับเย็นลงโดยอัตโนมัติ
ดวงตาหรี่ลงเหมือนเงาคลืบเข้ามาปิดท้องฟ้า
เขาไม่ได้เดินเข้าไป
แต่ยืนมองจากระยะไม่ไกล
นาน…เกินกว่าที่ควร
เซนขอให้พริมพา Tour
“ถ้าไม่รบกวน พริมพอมีเวลาพาผมเดินดูรอบ ๆ ไหมครับ?”
เซนถามด้วยน้ำเสียงสุภาพ
พริมลังเล
แต่เซนดูจริงใจพอที่เธอไม่อยากปฏิเสธ
และการเดินออกไปนอกแผนกตอนนี้…มันช่วยให้เธอหลบสายตาบางคู่ได้ด้วย
“ได้ค่ะ เดี๋ยวฉันพาไปดูส่วนต่าง ๆ”
เซนยิ้ม
“ขอบคุณครับ ผมดีใจที่ได้ทำงานกับคุณจริง ๆ”
และในวินาทีนั้นคีย์เดินเข้ามาในห้องพอดี
ประตูปิดดัง “ปึง” แม้เขาไม่ได้ตั้งใจจะปิดแรง
แต่คนรอบข้างยังสะดุ้ง
ส่วนพริม…แอบสะดุ้งในใจ
เขาได้ยินใช่ไหม?
คีย์ ความเงียบที่เสียดแทงยิ่งกว่าเสียงตะโกน
ตลอดทั้งวัน
คีย์ไม่สนใจเธอเลย
ไม่แม้แต่จะมอง
แต่ทุกครั้งที่พริมเงยหน้าจากงาน เธอกลับรู้สึกได้ถึงสายตาบางอย่างแอบมองมาจากด้านข้าง
สายตาที่เก็บอารมณ์ไว้จนหนาวเย็น
เหมือนพายุที่เริ่มก่อตัวเงียบ ๆ กลางทะเล
พริมพยายามไม่สนใจ
แต่ช่วงบ่าย หัวหน้าประกาศว่า…
“พริม เซนจะมาช่วยงานโปรเจกต์นี้ด้วยนะ
ถ้ามีอะไรให้แบ่งงานหรือประชุม แยกกันจัดการได้เลย”
คีย์ยกสายตาขึ้น
ช้า…แต่แรง
เหมือนมีแรงกดดันมองทะลุกำแพงมาถึงเธอ
ตอนเย็น พริมอธิบายงานบางส่วนให้เซนฟัง
เขายืนใกล้ไปนิดหนึ่ง
แต่เป็นระยะที่สุภาพปกติสำหรับการทำงาน
เธอไม่ทันคิดอะไร
จนกระทั่ง…
“พริมครับ ผมว่าตรงนี้ถ้าแก้แบบนี้อาจจะง่ายขึ้น”
เซนก้มลงดูเอกสารข้างเธอ
ไหล่เขาแตะกับแขนเธอแผ่ว ๆ
พริมตกใจนิดหน่อย
ไม่ใช่เพราะเขาแตะ
แต่เพราะเงาหนึ่งทอดยาวมาจากด้านหลัง
คีย์ยืนอยู่
มองนิ่ง
ไม่มีคำพูด
ไม่มีสีหน้า
แต่ดวงตาเขา…เข้มจนแทบแผดเผากระดาษในมือเธอได้
บรรยากาศเหมือนอากาศถูกแช่แข็งทันที
เซนเงยหน้าขึ้น
“อ้าว คุณคีย์ใช่ไหมครับ? ผมเซน…”
“ผมรู้”
คีย์พูดตัด
น้ำเสียงทื่อจนคม
เซนยิ้มเก้อ ๆ
แต่คีย์ไม่ได้สนใจเขาแม้แต่นิดเดียว
สายตาของเขาจับอยู่ที่พริมตลอด
นิ่ง
ลึก
และเต็มไปด้วยอะไรบางอย่างที่เขาเองก็ควบคุมไม่ได้
ก่อนจะพูดประโยคที่ทำให้ทั้งสองคนงงไปครู่หนึ่ง
“ประชุมของโปรเจกต์…หลังนี้ พริมอยู่กับผม”
พริมชะงัก
“แต่หัวหน้าบอกว่า”
คีย์พูดทับทันที
“ผมจะจัดการเอง”
แล้วเขาก็หันหลังเดินออกไป
ทิ้งแรงกดดันหนาแน่นไว้กลางอากาศ
เหมือนเสียงฟ้าร้องที่ยังไม่ตกฟ้า แต่ทำให้ใจสั่นได้อยู่ดี
ค่ำวันนั้น
พริมเดินออกจากตึกพร้อมเซน
จังหวะที่หัวเราะให้เรื่องที่เซนเล่าขำ ๆ
รถคันหนึ่งค่อย ๆ เคลื่อนเข้ามาใกล้ด้านหลัง
คีย์นั่งอยู่ในรถ
มองทั้งคู่ผ่านกระจก
คิ้วขมวดเล็กน้อย
มือที่จับพวงมาลัยเกร็งแน่นจนเส้นเลือดขึ้น
เขาไม่รู้ว่าเพราะอะไร
แต่ภาพพริมกับผู้ชายคนอื่นทำให้เขาหงุดหงิดจนควบคุมความคิดตัวเองไม่ได้
ทำไมต้องยิ้มให้เขาแบบนั้น?
เมื่อวานยังร้องไห้เพราะผมอยู่เลย…
เขามองอีกครั้ง
แล้วถอนหายใจแรง
ก่อนจะขับรถออกไปอย่างรวดเร็ว