กิ่งกาญ เดิน เลือกซื้อของ ในห้างสรรพสินค้าประจำจังหวัด เธอเลือกของใช้ที่จำเป็น ได้หลายอย่าง จากนั้นก็ เดินมาที่ร้านหนังสือ เพื่อดูหนังสือออกใหม่ ที่น่าสนใจ เธอยืนเลือกซื้อและยืนอ่าน อยู่สักพัก ก็เดินออกมาด้านนอก และ ตอนนี้เธอรู้สึกหิวซะแล้ว กิ่งกาญมองหาร้านอาหาร เพื่อที่จะฝากท้องของเธอในวันนี้
กิ่งกาญเดินเข้าไปในร้านอาหารเมื่อเธอมองเห็น และมองเห็นลูกค้าในร้านเยอะ พอสมควร แสดงว่าร้านนี้อาหารต้องอร่อย แน่ ๆ กิ่งกาญหิ้วถุง สัมภาระ ที่เธอซื้อ เดินเข้าไปในร้าน และมองหาที่นั่งอยู่สักพัก เธอก็เห็นมุมที่ต้องการ เป็นโต๊ะ สำหรับนั่งได้ 2 คน ตั้งอยู่ มุมที่คนไม่ค่อยจะพลุกพล่านของร้าน กิ่งกาญเดินตรงไปที่โต๊ะดังกล่าว และวางข้าวของในมือ และหยิบเมนูขึ้นมาดู ก่อนจะ เรียกพนักงานเสิร์ฟเพื่อที่จะสั่งอาหาร
ขณะที่ กิ่งกาญกำลังรออาหารที่สั่ง เธอก็ต้อง แปลกใจเมื่อ เก้าอี้ตรงข้ามกับเธอถูกเลื่อนออกโดยมือหนาของใคร บางคน กิ่งกาญเงยหน้ามอง ทันที และเมื่อเธอเห็น คนที่ยืนอยู่ตรงหน้า เธอก็ต้อง ตาโต เพราะ เป็นเขานั่นเอง นายหัวเดช คนที่เธอไม่อยากจะเจอ เลย ไม่ว่าจะด้วยความ บังเอิญ หรือ ตั้งใจ ก็ตาม
“ขอนั่งด้วยคนนะ “ นายหัวหนุ่มเอ่ยบอก แต่ไม่ได้รอคำตอบ จากเธอเลยด้วยซ้ำ เขาก็เลื่อนเก้าอี้ และนั่งลงแล้ว กิ่งกาญได้แต่อ้าปากค้าง กับ กระทำของเขา
“นี่นายหัว คุณทำอะไรของคุณ นี่มันโต๊ะฉัน นั่งอยู่นะ และฉันก็มาก่อน ด้วย คุณจะมานั่งแบบนี้ได้ไง “
“ก็ผมอยากนั่งกับคุณนี่นา นั่งด้วยกัน นี่ละ คุณไม่เห็นเหรอในร้าน โต๊ะเต็มหมดแล้ว นั่งด้วยกันนี่ละ มื้อนี้ผมเลี้ยงคุณเอง คุณกิ่ง “
นายหัวเดช เอ่ยเรียกชื่อเธอ และส่งสายตาพราวมาให้เธอ แต่ กิ่งกาญ กลับไม่ได้รู้สึกอย่างนั้น เพราะตอนนี้เธอรู้สึกโกรธ มากถึงมากที่สุดที่เขาทำตัว เผด็จการแบบนี้
“คุณ ไม่ต้องมาเลี้ยงฉัน ฉันเลี้ยงตัวเองได้ และคุณควรจะมีมารยาทมากกว่านี่หน่อย ถึงแม้ที่นี่ จะเป็นสุราษฎร์ถิ่นของคุณก็เถอะ “
“อ้อ ยังจำได้นี่นะว่าที่ถิ่นผมนะกิ่ง แต่ผมดูแล้วคุณไม่เห็นจะกลัวนี่นา “
“นี่คุณคิดจะใช้อิทธิพลมืดกับฉันเหรอ นายหัว บ้านเมืองมีกฎหมาย อย่าคิดมาใช้อิทธิพลกับฉันนะ “
ขณะที่ทั้งสองกำลังต่อปากต่อคำกันอยู่นั้นอาหารที่เธอสั่งก็ถูกนำมาเสิร์ฟ
“ทานสิคุณ อาหารที่นี่เขาอร่อยนะ “
กิ่งกาญไม่สนใจคำพูดเขาอีกตอนนี้เธอ ก้มหน้าทานอาหาร ไปเงียบ ๆ โดยไม่สนใจชายหนุ่ม ที่พยายามที่ชวนเธอคุย
เมื่อทานได้สักพัก กิ่งกาญก็สั่งเกตุว่าเขาไม่ได้ ทานข้าวหรือไม่ได้สั่งอะไรมาเพิ่มเขาได้แต่นั่งมองเธอ
“นี่นายหัว คุณไม่ทานละ คุณจะมานั่งมองฉันทานได้ไง มันเสียมารยาทนะคุณมาจ้องกันแบบนี้ นะ”
“ผมไม่หิว แค่มองคุณทานผมก็อิ่มแล้ว “
“แปลกคน เอาละ ฉันอิ่มแล้ว ฉันขอตัวนะคะ นายหัว “ กิ่งกาญเอ่ยบอก และ เดินไปที่เคาร์เตอร์ เพื่อที่จะจ่ายค่าอาหาร ด้วยเพราะเธอรีบ ออกไปจากตรงนี้ เลยไม่ได้เรียกพนักงานเก็บเงิน มาที่โต๊ะ แต่เลือกมาจ่ายที่เคาร์เตอร์ แทน
“บ้าจริง คิดว่าจะทานให้สบายใจซะหน่อย ดันมาเจอคนที่ไม่ชอบซะนี่ โลกมันจะกลมอะไรขนาดนั้นกัน เฮ้อ “ กิ่งกาญทั้งเดินทั้งบ่นไปด้วย เพื่อที่จะไปขึ้นรถสองแถวกลับไปที่โรงแรม แต่ขณะที่เดินนั้นก็มีเสียงบีบแตรดังมาจากข้างหลัง ทำให้ กิ่งกาญหันกลับไปมอง และเธอต้องขมวดคิ้ว อย่างสงสัยว่าใครมาบีบแตรกวนโมโหเธอตอนนี้กัน แต่เมื่อเธอเห็นคนที่ก้าวลงจากรถ เธอก็ต้องถอนหายใจ อย่าง เซ็ง ในอารมณ์
“จะตามจองล้างจองผลาญกันไปถึงไหนกันนะ จะบ้าตาย “
“ขึ้นรถสิ กิ่ง เดี๋ยวผมไปส่งที่โรงแรม “
“ไม่ต้อง ฉันกลับเองได้ “
“อย่าดื้อนะ ไปเถอะ ขึ้นรถ “
“ก็ฉันบอกว่าไม่ไงคะ “
พูดจบ กิ่งกาญก็เดิน ต่อไปทันที โดยไม่สนใจนายหัวเดชที่ตอนนี้ ยืนมองเธอด้วยความไม่พอใจในความดื้อของเธอ ก่อนก้าวเท้ายาว เดินตามร่างเล็ก แล้วก็ตวัดอุ้มร่างเล็กของเธอทันที
“ว้าย คุณจะทำอะไรนายหัว ปล่อยฉันนะ ปล่อยสิ คุณ”
“ไม่ปล่อย ผมบอกว่าจะไปส่ง ก็ไปส่งสิ จะดื้อทำ ไม หรือว่ากลัวผมเหรอ กิ่ง “
“ไม่ได้กลัว แต่ฉันไม่ไว้ใจคุณต่างหาก ละ นายหัว นี่คุณปล่อยฉันได้แล้ว “
แต่ นายหัวเดชไม่สนใจเขาพาร่างบางเข้าไปนั่งในรถ ทันทีก่อนจะปิดประตู
“ปัน ไปโรงแรมคิงส์ “
“ครับ นายหัว “
“เอาละ กิ่ง บอกมาทำไม คุณไม่ไว้ใจผมและเรื่องอะไร ยังไง บอกผมหน่อยสิ ทำไมคุณถึงมองผมในแง่ร้ายขนาดนั้นกัน “
“เพราะคุณปล่อยให้ แฟนคุณมาระราน วิภาเพื่อนของฉัน ยังไงละ มันเป็นเพราะความ มักง่ายของผู้ชายอย่างพวกคุณที่ไม่รู้จักพอ จีบคนนั้นคนนี้ไปทั่ว “
“เดี๋ยวนะ กิ่ง ก่อนอื่นผมบอกคุณก่อนว่า ผมไม่มีแฟน และต่อมา คือ ผม ไม่ได้คิด ทำร้าย คุณวิ หรือหลอกเธอ ผมจริงใจกับเธอ ไม่ได้คิดที่จะหลอกลวงเธออย่างที่คุณเข้าใจนะกิ่ง “
“ โห นายหัวคุณกล้าพูดนะว่าไม่ได้หลอกเพื่อนฉัน คุณเชิญไปทานข้าวเย็นที่บ้าน สองต่อสองขนาดนั้น แต่คุณกลับปล่อยให้ผู้หญิงของคุณมาระรานเพื่อนฉันแบบนี้ได้ไง และถ้าคุณจริงใจกับเพื่อนฉันจริงคุณก็ไปเคลียร์ตัวเองให้สะอาดและแสดงความจริงใจกับเพื่อนฉันโน่น ไม่ต้องมายืนยันคำพูดอะไรกับฉัน เพราะมันไม่เกี่ยวกับฉัน แต่ถ้าคุณคิดจะมาหลอกเพื่อนฉัน ฉันก็พร้อมจะขัดขวางเต็มที่ ฉันบอกคุณไว้ก่อนนายหัว “
“พูดยังกับว่าคุณจะขัดขวางเพื่อนคุณได้ถ้าเธอรักใครชอบใคร “
“ถ้าคนนั้นเป็นคนดี และก็นะ ฉันไม่ขัดขวางแต่ฉันจะสนับสนุนเต็มที่ คุณไม่ต้องกลัว ถ้าคุณทำตัวให้ดี และจริงใจกับเพื่อนฉัน ฉันก็พร้อมจะสนับสนุน เต็มที่เช่นกัน นายหัว “
กิ่งกาญหันมามองหน้า ของชายหนุ่มด้วยสีหน้าจริงจังเช่นกัน แต่คนที่ฟังเธอพูดอย่างนายหัวเดชได้แต่ถอนหายใจ กับความเข้าใจของเธอ
“กิ่ง คุณเข้าใจผมผิดมากเกินไปแล้ว นะ อย่างนี้ คงต้องเคลียร์กันหน่อยแล้ว ปัน เปลี่ยนเส้นทางไปที่บ้านแทน “
“ครับนายหัว “
“อะไร นะ คุณจะพาฉันไปไหน นายหัว นี่คุณ จะบ้าเหรอ คุณ จะทำแบบนี้ไม่ได้นะ นายหัว หยุดนะ “
“ เลิกโวยวายกิ่ง เมื่อคุณเลิกเข้าใจผิดผม แล้ว ผมจะพาคุณมาส่ง ที่โรงแรม “
“ คุณบ้าไปแล้วจริง ๆ ฉันจะเข้าใจว่ายังไงมันก็ไม่เกี่ยวกับคุณนี่ นายหัวขืนคุณทำตัวแบบนี้ ฉันอยากให้ยัยวิมาเห็นจริง ๆ จะได้เลิกมองว่าคุณเป็นคนดีซะที “
“แล้วคุณคิดว่าเพื่อนคุณจะเชื่อใคร เธอคงจะคิดว่าคุณอคติกับผมเกินไป”
“โฮ๊ะ คุณมันคนเจ้าเล่ห์นายหัว แต่ถึงอย่างนั้น ฉันก็ไม่ขอยุ่งเกี่ยวกับคนอย่างคุณแน่นอน “
“คงจะยากนะกิ่ง เพราะผมดันอยากยุ่งกับคุณซะด้วยสิและ ผมไม่ต้องการให้ใครมามองผมในแง่ไม่ดี กิ่ง “
“นั่นมันก็เรื่องของคุณ ไม่เกี่ยวกับฉัน นายหัว “
“ โดยเฉพาะคุณ กิ่ง “
เมื่อได้ยินคำพูดของเขา กิ่งกาญได้แต่ตกใจและไม่อยากจะเชื่อ นี่เขาคิดจะหว่านเสน่ห์ให้ทั้งเธอและ วิภาเพื่อนของเธออย่างนั้นนะเหรอ ไม่อยากจะเชื่อ
“คุณมันบ้านายหัว “
พูดจบแค่นั้น กิ่งกาญก็ไม่พูดอะไรอีกเลย เธอได้แต่มองออกไปนอกรถ แล้วก็ถอนหายใจฮึดฮัด อย่างขัดใจ และ นายหัวหนุ่มได้แต่ชำเรืองมอง เธอบ่อย ๆ
เมื่อรถแล่นเข้ามาจอดที่หน้าบ้าน นายหัวเดชก็ลงจากรถ และ รอให้กิ่งกาญตามลงมา ใจจริงเธอไม่อยากจะลงมาซักเท่าไหร่ แต่ดูแล้ว เขาคงจะไม่ยอมง่าย ๆ เช่นกัน เธอจึงได้แต่จำใจก้าวขาลงจากรถ มายืน ตรงหน้าเขา
นายหัวเดช เดินนำเธอ ไปที่ด้านในบ้าน แต่ในขณะที่เขาเดินไป กิ่งกาญได้แต่เรียกเขาไว้ซะก่อน
“นายหัว คุยข้างนอกนี่ก็ได้ค่ะ ไม่ต้องเข้าไปในบ้าน หรอก คุณจะพูดอะไรก็รีบพูดมาเถอะค่ะ ฉันจะได้รีบกลับ นี่มันก็ใกล้จะเย็นแล้ว “
“ไม่ต้องรีบขนาดนั้นก็ได้ กิ่ง “
“ไม่ได้หรอกฉันรีบ คุณพูดมาสิ จะพูดอะไร “
“ผมพูดไปหมดแล้ว แต่คุณไม่เชื่อผม “
“ในเมื่อคุณรู้คำตอบอยู่แล้วคุณยังจะดึงดันพาฉันมาที่นี่ทำไม นายหัว คุณจะบ้าหรือเปล่า “
“ทำไมคุณถึงคิดว่าผมสนใจคุณวิเพื่อนของคุณและทำไมต้องคิดว่าผมจะหลอกลวเพื่อนของคุณด้วย ซึ่งผมจะทำแบบนั้นทำไม “
“ก็หรือมันไม่จริง ในเมื่อคุณมีผู้หญิงของคุณ อยู่แล้ว แต่คุณยังมาหว่านเสน่ห์ให้เพื่อนฉันชอบคุณอยู่แบบนี้ “
“ผมเปล่า ผมไม่คิดอะไรแบบนั้น จริง ๆ นะ กิ่ง และอีกอย่าง”
“เดี๋ยว คุณจะบอกว่าไม่สนใจยัยวิงั้นเหรอ คุณจะบอกว่าฉันคิดไปเองเหรอ แล้วทำไมคุณถึงต้องแสดงออกว่าสนใจเพื่อนฉันด้วย ละนายหัว หรือว่าคุณแค่คิดจะบริหารเสน่ห์ของคุณเหรอ แต่คุณก็มีแฟนอยู่แล้วแบบนี้ คุณกำลังทำให้ผู้หญิงสองคน เสียใจนะ นายหัว “
“หมายความว่าไง ผู้หญิงสองคน “
“ใช่ไง สองคน คนหนึ่ง ก็ คนที่คุณ จูบ เมื่อคืนก่อน และอีกคน คือเพื่อนของฉัน แบบนี้ มันใช้ได้ที่ไหนกัน “
“ผมไม่ได้ทำแบบนั้น เลยนะ กิ่ง ไม่ใช่”
“แบบไหน คะ จูบ ฉันก็เห็นกับตาว่าคุณจูบกับแฟนคุณ ส่วน เพื่อน ฉัน คุณก็ทำเหมือนสนใจ ชวนทานข้าว แบบนี้จะเรียกว่าอะไรละคะนายหัว “
“ นี่การที่ผมชวนผู้หญิงทานข้าวมันไม่ได้หมายความว่าผมจะจีบเธอนี่นา กิ่ง คุณคิดมากไปเอง และอีกอย่างผมชวนในฐานะเพื่อน ไม่มีอย่างอื่น และที่ผมบอกว่าจริงใจกับคุณวิ ผมก็หมายความตามนั้น ผมไม่ได้คิดจะหลอกเธอนะ ผมจริงใจอ้อ และอีกอย่าง ผมไม่ได้ชวนคุณวิคนเดียวนี่ คุณเองต่างหากที่ไม่มาตามคำเชิญของผม “
“คุณกำลังจะบอกว่า เป็นเพราะฉันไม่ไปทานข้าวด้วยงั้นเหรอ ก็ฉันเห็นว่าคุณและเพื่อนของฉันคงอยากจะพูดคุยกันตามลำพัง เรียกง่าย ๆ ว่าฉันก็ไม่อยากเป็นก้างขวางคอพวกคุณ ด้วย “
“คุณคิดไปไกลจริง ๆ กิ่ง สมแล้วที่คุณเป็นนักเขียน เพราะตอนนี้คุณกำลังคิดจะเขียนบทบาทของผมกับ เพื่อนของคุณ โดยไม่ได้สนใจความเป็นจริงว่าเป็นยังไง “
“นี่คุณ มันไม่เกี่ยวกัน ฉันพูดตามที่ฉันเห็น มันไม่มีอะไรมาก ฉันแค่ต้องการให้คุณจริงใจกับเพื่อนฉันเท่านั้นเอง”
“ผมจริงใจอยู่แล้วแต่ในฐานะเพื่อนเท่านั้นกิ่ง “
“แต่การกระทำของคุณไม่บ่งบอกว่าแบบเพื่อนเลยนะนายหัว”
“การกระทำของผมเป็นปกติกิ่ง ในแบบที่สุภาพบุรุษคนหนึ่งพึงจะกระทำต่อผู้หญิง”
“แต่ฉันว่ามันเป็นการ หว่านเสน่ห์ต่อเพศตรงข้ามมากกว่าคะนายหัว ทำให้ผู้หญิงตกหลุมเสน่ห์นั้น “
“แล้วคุณละ เห็นเสน่ห์ของผมบ้างไหมกิ่ง “
“นี่อย่ามานอกเรื่อง ก็บอกแล้วเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับฉันคะ นายหัว อย่าพยายามดึงฉันเข้าไปเกี่ยวด้วย “
“แต่คนที่ผมอยากให้ตกหลุมเสน่ห์ ก็คือคุณนะกิ่ง “
กิ่งกาญทำหน้าไม่ถูกเลยเมื่อตอนนี้ยิ่งพูดยิ่ง เหมือนว่ามันเข้าตัวเธอทั้งนั้น มิหนำซ้ำสายตาของนายหัวเดชที่มองเธอในตอนนี้ ไม่น่าไว้ใจเลยจริง ๆ
“ ไม่เอาละเลิกพูดเรื่องไม่เป็นเรื่อง เถอะ แล้วคุณมีเรื่องจะพูดแค่นี้ใช่ไหม ถ้าอย่างนั้น ฉันขอตัวกลับก่อนนะคะ นี่ก็เย็นแล้ว อ้อ ถ้าไม่เป็นการรบกวนคุณมากเกินไป กรุณาให้คนไปส่งฉันที่โรงแรมด้วยคะนายหัว “
“ปันไม่ว่าง ผมให้ ไปทำธุระที่ เหมือง เย็น ๆ ถึงจะกลับ คุณคงต้องรอแล้วละ “
“อะไรนะ ถ้าอย่างนั้นแถวนี้มีรถโดยสารผ่านไหม ฉันขึ้นรถโดยสารกลับเองก็ได้ “
“คุณมองดูรอบ ๆ สิกิ่ง ว่ามันจะมีไหม “
กิ่งกาญมองดูรอบ ๆ ตามคำพูดของเขา ก็ได้แต่ถอนหายใจ เพราะบ้านหลังนี้ ตั้งอยู่กลาง ธรรมชาติไม่มีแม้แต่ บ้านคนอื่น ระแวกนี้เลย
“แล้วบ้านคุณมีรถคันเดียวเหรอ มีอีกไหม คุณให้คนงานคนอื่นขับไปส่งฉันก็ได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นคุณปันก็ได้ “
และคำตอบที่ได้จากชายหนุ่มก็คือการส่ายหน้าช้า ๆ ของนายหัวหนุ่มเพียงเท่านั้น
“ไม่ คุณต้องรอจนกว่า ปันจะกลับมา”
“ก็แล้วเมื่อไหร่ละ คุณปันจะกลับมานะ นายหัว นี่มันจะค่ำแล้ว นะ ฉันต้องกลับที่พักแล้ว “
กิ่งกาญเริ่มไม่พอใจ มากขึ้นมากขึ้น แล้วตอนนี้ เรื่องอะไรที่เธอจะต้องมา ทนอยู่ แบบนี้กันละ แล้วเขาทำแบบนี้ทำไม กัน
“เข้าบ้านเถอะ เริ่ม จะมืด แล้ว ไปนั่งรอที่ในบ้านดีกว่านะกิ่ง ไปกันเถอะ “
“โอ้ย จะบ้าตาย อะไรของคุณกัน นะนายหัว คุณทำแบบนี้ทำไม “
“ก็ผม ไม่อยากให้คุณเข้าใจผมผิดนะสิกิ่ง “
“ก็แล้วทำไมต้อง กลัวว่าฉันจะเข้าใจผิด หรือถูกกันด้วยละ ฉันไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับคุณเลยนะ “
“เกี่ยวสิ เพราะคุณคือคนที่ผม สนใจ และอยากทำความรู้จัก ให้มากขึ้น ไง”
“อะไรนะ คนที่คุณสนใจ อยากทำความรู้จัก เหมือนกับที่คุณสนใจและอยากทำความรู้จักยัยวิเพื่อนฉันนะเหรอ นายหัว บ้าไปแล้ว ไม่คิดว่าคุณจะ เป็นคนเจ้าชู้ ขนาดนี้นะเนี๊ยะไม่อยากจะเชื่อเลย”
“ไม่ใช่อย่างนั้น ผมสนใจแค่คุณคนเดียว “
“ไม่เอา ละเลิกพูดเรื่องนี้ เถอะยิ่งพูดยิ่งรู้สึกว่าไม่โอเคเลย นายหัวเพราะมันเป็นคำพูดที่เห็นแก่ตัวเกินไปแล้ว “
“อือ ใช่ ยิ่งพูดคุณก็ยิ่งเข้าใจผิดกันไปใหญ่ และอีกอย่าง คุณพร้อมจะเข้าใจผมผิดตลอดเลย นะ ไม่ว่าผมจะพูดอะไรก็ตามฉะนั้นไม่พูดดีกว่า ดื่มอะไรไหมกิ่ง “
นายหัวเดชเปลี่ยนเรื่องคุยทันทีและเดินไปที่เคาร์เตอร์บาร์เครื่องดื่ม พร้อมเทบรั่นดีใส่แก้ว แล้วก็ดื่ม
“นี่คุณ คุณดื่มเหล้าเหรอ “
“อือ ทำไมอยากดื่มด้วยเหรอ กิ่ง”
“เปล่า แค่สงสัยว่าทำไมคุณต้องดื่มเหล้าแต่หัววันขนาดนี้ ละ”
“ต้อง จำกัดเวลาดื่มด้วยเหรอ ผมอยากดื่มตอนไหน ผมก็ดื่ม ไม่เห็นต้องดูเวลา “
“ ก็แค่สงสัยเท่านั้น “
กิ่งกาญเอ่ยพึมพำและนั่งที่โซฟาและมองไปรอบ ภายในบ้าน และก็ต้องทึ่งกับการตกแต่ง ที่ดู ทันสมัย แต่ก็มีของบางชิ้นที่บ่งบอกถึงความเก่าแก่ แต่มันก็เป็นการผสมผสานที่ลงตัว และท่าทางของเธอ ก็อยู่ในสายตาของนายหัวหนุ่ม ตลอดเวลา พร้อมกับมือหน้าก็ยกแก้วบรั่นดีขึ้นดื่ม ไปด้วย
*******************************