ข้อเสนอ?

1254 Words
ร้านบะหมี่ (อีกครั้ง) ก่อนหน้านี้ที่หน้าร้านภาพวาด หลังจากขบวนสอดรู้สอดเห็นทุกคนหายไป เฉินลี่หลินจึงกล่าวขออภัยต่อบุรุษรูปงามที่นางเผลอล่วงเกินเขาด้วยการหอมแก้ม และนอกจากฝ่ายบุรุษมิเอาความแล้ว เขายังพูดกับนางว่า นางอาจมีความจำเป็นที่ต้องทำเช่นนั้น สุดท้าย เพื่อเป็นการขอบคุณ เฉินลี่หลินจึงอาสาเลี้ยงบะหมี่เป็นการตอบแทน โดยไม่ลืมที่จะเสนอชิ้นงานให้อีกฝ่าย “เอาล่ะเจ้าค่ะคุณชาย ข้าเฉินลี่หลินจะยื่นข้อเสนอให้ท่านในแบบที่ต่างฝ่ายต่างได้รับผลประโยชน์นะเจ้าคะ ตัวข้าในตอนนี้ต้องการตัดเนื้อร้ายอย่างโหยวซานซุนออกไปจากชีวิต จึงอยากจะจ้างวานท่าน” นางเริ่มขมวดคิ้ว เมื่อเห็นวิญญาณมืดของเจ้าของร่างที่นางมาอาศัยอยู่โบกมือไปมาอีกครั้งแต่กลับไม่พูดอะไร...เข้าใจได้ว่าอีกฝ่ายคงไม่มีพลังวิญญาณและไม่อยากให้นางไปข้องแวะกับบุรุษอื่นใดอีก แต่แล้วอย่างไร ในเมื่อโหยวซานซุนหาได้มีใจรักต่อนาง ซ้ำยังกล้าต่อว่าได้เช่นนี้ นั่นหมายความว่านอกจากความเกลียดชัง เสี้ยวหนึ่งในใจของราชเลขา คงคิดว่านางเป็นของตาย พูดดีเข้าหน่อยนางต้องหลงกล ด่าทอเท่าไหร่ นางไม่เคยหนีหาย...เช่นนั้นรึ? “จ้างในราคาหนึ่งพันตำลึง ให้ท่านแกล้งเป็นคนรักของข้าแค่หนึ่งเดือน วินๆ” “อย่างไรคือ วิน วิน” บุรุษผู้ถูกจ้างวานทำหน้าไม่เข้าใจ ^^ แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังคงยกยิ้มตรงมุมปากเมื่อเห็นท่าทางของนางผู้นั่งอยู่ฝั่งตรงกันข้ามที่เดี๋ยวทำขมวดคิ้ว เดี๋ยวส่ายหน้า นึกไปถึงข่าววงในที่มีคนมาบอกกับเขาว่าหลังจากเฉินลี่หลินไปเยี่ยมหาราชเลขาโหยวจนถึงจวนและแสร้งหมดสติไป คุณหนูสกุลเฉินก็ยิ่งเหมือนคนใกล้วิปลาสเข้าไปทุกที ข่าวนี้คงจะไม่เกินจริง “ก็ท่านได้เบี้ยหวัด ข้าได้กำจัดเนื้อร้าย” เอียงคอมอง ^^ “จ้างวานข้า ข้าดูยากจนงั้นรึ” “...” เฉินลี่หลินยกมือนวดตรงขมับตนเอง คำถามนี้มิใช่คำถามที่ตอบได้ยาก เพียงแต่นางจะตอบอย่างไรให้บุรุษตรงหน้ายอมตกลงที่จะช่วย “ก็ มิใช่ เฮ้อ!” เอนหลังพิงพนักพลางมองผ่านบุรุษรูปงามไป หนึ่งคนด้านหลังนั้นเป็นบ่าวชาย อีกหนึ่ง...เป็นวิญญาณเจ้าของร่างที่นางอาศัยอยู่ “โว๊ย!” ๐-๐ ผู้ถูกจ้างวานสะดุ้งไปกับกิริยาเหมือนสตรีวิปลาสของอีกฝ่าย โดยที่เขาไม่ยอมหันไปมองผู้คนภายในร้าน ใช่ว่าอับอายที่นั่งร่วมโต๊ะอยู่ตรงนี้ แต่ที่ไม่หันหน้าหนีเพราะเขาอยากเห็นว่าเฉินลี่หลินจะทำสิ่งใดอีกมากกว่า อย่างเช่นคว้ามีด ตะเกียบ ชาม? “...” “ข้าขอข้ามเรื่องรวยและจนไปก่อนเจ้าค่ะ เอาเป็นว่าท่านมีฮูหยินรึยังเจ้าคะคุณชาย” ซึ่งคำถามนี้สำคัญมากกับการจ้างวานให้แกล้งเป็นคนรักและในทางกลับกันหากบุรุษรูปงามเช่นนี้มีเพียงสาวใช้อุ่นเตียงอยู่ในจวน นางก็ไม่ต้องคิดมาก แม้ใจจริงมิได้อยากจะให้อีกฝ่ายมีสตรีใดข้างกายก็เถอะ ‘หืม?’ คำถามที่น่าแปลกใจดังออกมาจากริมฝีปากเล็กๆ นั้น อันที่จริงแล้วบุรุษเช่นเขาก็นึกสงสัยมาตั้งแต่ต้น ในตอนที่เขาถูกเฉินลี่หลินดึงตัวไปอวดอ้างต่อหน้าโหยวซานซุน...ในความสงสัยคือ คุณหนูเฉินแกล้งไม่รู้จักเขาใช่รึเปล่า? “ข้ามิเคยมีฮูหยินหรืออนุ” ซึ่งคำถามนี้ เฉินลี่หลินก็น่าจะรู้อยู่แก่ใจ แต่ใยจึงถามราวกับเขาเป็นคนแปลกหน้า ‘หรือเพราะมิได้พบเจอกันมานาน นางจึงลืมหน้าเขาไปแล้ว’ “อ่า” ^^ “เข้าทางข้าเลยเจ้าค่ะ” ในระหว่างการสนทนาที่มีเพียงฝ่ายสตรีตัวน้อยคอยเฝ้าถามคำถาม และฝ่ายบุรุษแค่เพียงตอบความจริงไป ไม่ถึงหนึ่งเค่อ เสียงสตรีนางหนึ่งกลับดังขึ้นขัดจังหวะสำคัญ “คุณหนูเจ้าคะ!!” เสี่ยวจวงเดินเร็วๆ เข้าไปหาคุณหนูของนาง ในสายตาจับจ้องไปทั่วบริเวณที่ตอนนี้คล้ายกับว่า ทุกโต๊ะกำลังตั้งใจฟังสตรีไร้ยางอายสนทนากับคุณชายรูปงามที่นางรู้จัก “คุณชายหวังเฟยหรง” °∆° เจ้าของนามพยักหน้าแล้วยิ้ม ^^ “…” พลางมองสาวใช้ของเฉินลี่หลินที่อ้าปากค้างมองคุณหนูของตนเอง ทางด้านเฉินลี่หลินซึ่งกำลังประมวลผลในหัวสมองน้อยๆ จนคิดได้ว่าคุณชายท่านนี้ ตัวนางอาจจะเคยรู้จัก จึงแสร้งพยักหน้าให้สาวใช้ จะมีใครในที่นี้รู้ว่าแท้จริงแล้ว นอกจากนางจะไม่รู้จัก นางยังคงถามย้ำคำถามเดิมที่เคยเสนอไปก่อนหน้า “ตกลงหรือไม่เจ้าคะ แม้เบี้ยหวัดจำนวนนี้มันไม่จำเป็นสำหรับท่าน ก็ให้คิดเสียว่าท่านสามารถช่วยให้ข้าหลุดพ้นจากบ่วงกรรมนี้ได้ ท่านจะได้บุญเพิ่มนะเจ้าคะ” ^^ “เอาอย่างนั้นหรือ” ผู้มีนามว่าหวังเฟยหรงลูบคางไปมาอย่างชั่งใจ จะกล่าวว่าการจ้างวานนี้ตัวเขาหาได้เสียเปรียบและยิ่งสตรีตรงหน้าดูท่าว่าจะจำเขาไม่ได้จริงๆ...มันก็ดูน่าสนุก “เจ้าค่ะ เอาอย่างนี้ล่ะ” ^^ “ก็ได้” จากที่พูดเบาอยู่แล้ว แต่เมื่อบุรุษรูปงามตอบตกลง เฉินลี่หลินไม่พ้นต้องรีบกระซิบย้ำ “เช่นนั้น วันพรุ่งนี้ข้าขออนุญาตปล่อยข่าวลือเรื่องของท่านกับข้าได้หรือไม่เจ้าคะ” ^^ “จะได้กลบข่าวลือเดิม” ยกนิ้วชี้ขึ้น “แค่หนึ่งเดือนเท่านั้น” ผู้ถูกถามนิ่งคิดไปเพียงครู่เดียว ก่อนจะตอบไปว่า “ก็ได้” ^^ แม้เขาค่อนข้างจะมั่นใจว่า ข่าวลือเรื่องที่นางหอมแก้มเขาเมื่อครู่กำลังแพร่กระจายไปแล้วก็ตาม มันอาจจะเป็นอย่างที่เฉินลี่หลินว่า ‘วิน วิน และเขากำลังสนุก’ เฉินลี่หลินยิ้มหวานส่งไป ^^ บทสรุปในตอนนี้ก็ไม่ได้แย่ไปเสียทีเดียว เนื่องจากว่าบุรุษตรงหน้าของนางอาจจะมีอำนาจไม่มากก็น้อย ดูจากปฏิกิริยาที่เลขาโหยวคล้ายเกรงใจอีกฝ่าย นั่นหมายความว่านางเลือกตัวช่วยได้ดี หลังจากวันนี้ไปจะมีเพียงข่าวลือว่านางคือคนรักของคุณชายสกุลหวัง หาใช่สตรีไร้ยางอายที่เฝ้าตามติดโหยวซานซุนไม่ “ขอบพระคุณคุณชายมากเจ้าค่ะ ท่านจะรับเบี้ยไปเลยหรือไม่เจ้าคะ” กระซิบ หวังเฟยหรงโบกมือ “ยังไม่ต้อง รอให้ครบหนึ่งเดือนค่อยว่ากันเถิด” ผู้ร่วมฟังอย่างเสี่ยวจวงหน้าเสียไปทันที คล้ายกับว่านางกำลังพลาดอะไรบางอย่างที่น่าจะสำคัญมาก จวบจนการสนทนานั้นจบลงพร้อมกับคุณหนูของนางสั่งให้ขนของทั้งหมดขึ้นไปเก็บรถม้า ในขณะที่คุณชายสกุลหวังยังคงกลับไปเดินดูภาพวาดในร้านขายภาพร้านหนึ่ง ‘บางสิ่งบางอย่างกำลังเปลี่ยนไป โดยที่สาวใช้เช่นนางก็ไม่อยากคาดเดาว่ามันจะดีหรือร้าย...เฮ้อ’
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD