-CHAPTER 5-
“ไปทําอะไรมาบ้าง ทําไมออกมาคนเดียว”
“นัดคุยงานกับเพื่อนแล้วก็ธุรส่วนตัวอีกนิดหน่อย”
“พอพี่ไม่ว่างตามแล้วดื้อใหญ่เลยนะ”
หลังจากที่มาส่งรันที่บ้าน นี่เป็นคําถามแรกที่ผมเอ่ยถามพะพายเมื่อรันก้าวขาลงจากรถไปแล้ว ผู้ชายหน้าไหนมันมายุ่งกับพะพายผม ยอมไม่ได้หรอก ก็รู้เต็มอกว่าผู้ชายมันเป็นยังไง ดีร้อยเปอร์เซ็นต์มันไม่มีหรอก ผมเห็นใครมาทําพะพายเสียใจไม่ได้จริงๆ อยู่ด้วยกันมาตั้งแต่เกิด ถ้าวันหนึ่งมีคนพรากพะพายไปจากผม จากพ่อ เราคงอกแตกตาย
เพราะพ่อสอนให้ผมดูแลน้องมาตลอด โตมาเลยหวงมาก...
แต่พะพายวันๆยิ้มให้กับโทรศัพท์พอขอดูก็ไม่ให้ดู คิดดูสิว่ามันมีลับลมคมในแค่ไหน ผมขับรถกลับบ้านและลอบสังเกตพะพายไปด้วย
“จะนอนผับหรือนอนบ้าน?”
“ไม่รู้ดิ นอนบ้านมั้ง เพลียๆคงไม่ไปผับหรอกคืนนี้”
ผมตอบน้องไปตามความรู้สึก เมื่อคืนอยู่ผับจนเช้าเพื่อเฝ้าดูสถานการณ์ ไหนจะช่วยอํานวยความสะดวกให้ตํารวจอีก พอมารู้ทีหลังว่าพ่อเป็นคนสั่งการทั้งหมดผมก็เซ็งอยู่เหมือนกัน แต่พ่อจะทําอะไรมักมีเหตุผลเสมอซึ่งผมไม่อาจขัดได้ กว่าพ่อจะมีทุกอย่างเหมือนทุกวันนี้คงผ่านอะไรมาเยอะ ไม่ว่าอะไรที่พ่อตัดสินใจมันคือสิ่งที่ดีสําหรับผม
พ่อนี่เป็นฮีโร่ของผมเลย...
เมื่อถึงบ้านพะพายก็เดินแยกกับผมไป ผมเดินมายังโซฟารับแขกก่อนจะนั่งลงข้างๆร่างท้วมของคุณปู่
“ปู่ครับ ขอตังเปิดผับสาขาสองหน่อย”
“ที่แรกมันดีขนาดขยายสาขาแล้วเหรอ? อยู่ตัวแล้วหรือไง?”
“ดูด้วยนี่ใคร นี่พะเพลิงลูกชายคนเดียวของคุณไรเฟิลเลยนะ”
“ทําไม เป็นลูกไอ้ไรเฟิ ลแล้วมันยังไง จะบอกว่ามันเก่งว่างั้นเถอะ? ทุกวันนี้มันยังเดินตามก้นเมียต้อยๆจนฉันนึกว่าจะได้หลานอีกคน”
“ก็พ่อรักแม่นี่ครับ เหมือนที่ผมรักรันนั่นแหละ ไปหาพ่อดีกว่า”
“หลงผู้หญิงเหมือนพ่อแกไม่มีผิด”
คุณย่าผมเสียไปตั้งนานแล้วมั้งเห็นคุณพ่อเคยบอกผมแบบนั้นคุณปู่ก็ไม่คิดจะมีใครใหม่อีกเลย มาเฟียสิ้นลายเพราะเมียของแท้เลยทั้ง ปู่ทั้งพ่อ ผมคบรันอย่างเปิดเผยนะ เคยพาไปกินข้าวกับครอบครัวบ่อยๆ ผมบอกแล้วว่าคนนี้ผมจริงจัง
“พ่อครับ ทําอะไรอยู่”
ผมเดินมาหาพ่อที่ห้องทํางาน แม่กําลังนวดไหล่ให้พ่ออยู่อย่างเอาอกเอาใจ ผมว่าพ่อกับแม่ผมเป็นคู่รักที่น่ารักที่สุดแล้ว เห็นแบบนี้ผมก็อดยิ้มไม่ได้จริงๆ ถ้าแม่ไม่ปิดอู่ซะก่อนผมว่าผมต้องมีน้องอีกเป็นสิบคน
“ดูหุ้นอะไรไปเรื่อย ว่าไงลูก”
“เปล่า ก็เข้ามาหาเฉยๆครับ พ่อกับแม่นี่น่ารักเนอะ ว่าแต่พ่อกับแม่ลงเอยกันได้ยังไงอ่ะ?”
“พ่ออุ้มแม่ไปปลํ ้าน่ะสิ!!”
“เมเบล!! เธอบอกลูกแบบนั้นฉันก็ดูเป็นคนเลวไปเลยดิ เธอก็ยอมฉันเหมือนกันนั่นแหละ”
“ก็เอาปืนขู่ฉันไม่ใช่หรือไงเล่า!! ที่พูดนี่เรื่องจริงทั้งนั้นเลยเนี่ย”
“เออ ไม่เถียงหรอก”
นี่คือแหล่งกําเนิดของผมกับพะพายสินะ เพราะพ่อปล้ำแม่นี่เอง ผมอยู่คุยกับพ่อและแม่ในห้องทํางานสักพักใหญ่ก่อนจะขอตัวขึ้นห้องมาอาบน้ำแล้วนอนดูทีวี และหลับไปตอนไหนไม่รู้เหมือนกัน...
วันรุ่งขึ้น
ปังๆๆๆ
“พี่ไม่ไปเรียนรึไง พายไปก่อนนะ!!”
เสียงประตูห้องดังทําให้ผมสะดุ้งตื่นตามมาด้วยเสียงตะโกน ของน้องทําให้ผมรีบตั้งสติแล้วเดินสะลึมสะลือเข้าห้องน้ำ วันนี้มีเทสด้วย นี่หว่า วันนี้คงเป็นวันที่ผมอาบน้ำไวที่สุดก็ว่าได้ อาบน้ำแต่งตัวสิบนาที ทําลายสถิติโลกเลยมั้ง เมื่อแต่งตัวเสร็จผมจึงรีบขับรถมาที่มหาลัยทันที วันนี้ผมไม่ได้ไปรับรันเลยไม่รู้ว่ารันจะงอนหรือเปล่า แต่เรื่องง้อเอาไว้ก่อน ตอนนี้ไปให้ทันเทสวิชานี้เถอะ
พะพายกับผมเรียนอยู่คนละมหาวิทยาลัยกันนะ จริงๆจะเรียนที่เดียวกันแต่พะพายน่ะแสบมากเพราะกลัวผมจะตามติดเกินไปจึงแอบไป สมัครอีกที่หนึ่งไว้ ดําเนินการทุกอย่างเสร็จสรรพโดยไม่บอกใครสักคนจนวันจ่ายค่าเทอมถึงไปบอกพ่อกับแม่ พะพายน่ะดื้อ ดื้อมาก เป็ นเด็ก หัวรั้นตลอด จะทําอะไรขอให้ได้แหกกฎไว้ก่อน พ่อกับแม่ก็ตามใจพอสมควร ตามใจทั้งที่รู้อยู่เต็มอกว่าดื้อแค่ไหนแต่คอยดูแลห่างๆ
“มาเกือบไม่ทันนะนักศึกษา”
“ขอโทษครับ”
ผมวิ่งเข้าห้องมาตอนอาจารย์แจกข้อสอบเสร็จพอดี วิชากลยุทธ์ ทางธุรกิจก็ไม่ได้ ยากสําหรับผมเท่าไหร่ อาศัยความรู้ ที่พ่อสอนกับ ประสบการณ์ในการบริหารผับของตัวเองมาประยุกต์ใช้เป็ นคําตอบก็ได้
“เวลาสอบหนึ่งชั่วโมงนะ เริ่มได้!”
บรรเลงความรู้ ผ่านตัวอักษรไปเรื่อยๆจนเสร็จ ผมทําเสร็จก่อนเวลาด้วยซ้ำ คนมันเก่งช่วยไม่ได้! นั่งรอจนหมดเวลาก่อนอาจารย์จะมา เก็บข้อสอบ มันเป็นการสอบย่อยเก็บคะแนนเฉยๆ เมื่อสอบเสร็จก็เรียนต่ออีกสองชั่วโมงถึงจะเลิกคลาสวิชานี้
ไลน์หารันดีกว่า...
“ขอโทษนะที่เมื่อเช้าไม่ได้ไปรับ พอดีเพลิงตื่นสาย”
[ไม่เป็นไร รันมาเองได้สบายมาก]
“เลิกเรียนตอนเที่ยงเดี๋ยวไปหานะ วันนี้รันเลิกเที่ยงใช่ไหม?”
[ใช่ๆ ไว้เจอกันนะเพลิง จุ๊บๆ]
ละสายตาจากหน้าจอโทรศัพท์แล้วตั้งหน้าตั้งตาเรียนต่อไปจนเลิกคลาส อย่าถามว่าทําไมไม่คุยกับใคร ก็อย่างที่บอกไปแล้วว่าที่นี่ไม่มีคําว่าเพื่อนจริงๆหรอก จะให้ผมใส่หน้ากากใส่คนอื่นผมคงทําไมได้ อยู่คนเดียวดีกว่าตัวใครตัวมันไม่ต้องยุ่งกับใคร มีไอ้ดินเป็นเพื่อนก็อยู่คนละมหาลัยกันอีก
เมื่อเลิกคลาสผมก็ขับรถไปหารันทันทีด้วยความคิดถึงแฟน...
มหาวิทยาลัยของรันคนคึกคักเหมือนเดิม ผมรู้ว่าเธอรอผมอยู่ที่ใต้ตึกคณะเหมือนอย่างทุกที จอดรถเสร็จผมจึงเดินตรงไปหารันที่โต๊ะไม้หินอ่อนตรงนั้นแค่เห็นข้างหลังผมก็สามารถจําแฟนผมได้ดี
สวยขนาดนี้ใครจะจําไม่ได้...
“แฮ่!!”
“อุ้ย พะเพลิง!! รันตกใจหมดเลย”
“ฮ่าๆ ทําอะไรอยู่”
“สอนงานน้องอยู่ เพลิงนี่น้องอีฟนะ เป็นน้องรหัสรันเอง น่ารักเนอะ”
“สวัสดีครับน้องอีฟ พี่ชื่อพะเพลิงครับเป็นแฟนรัน”
ผู้หญิงตัวเล็กอีกคนที่นั่งข้างรันเงยหน้าขึ้นมามองผม เธอใส่แมสปิดปากและจมูกทําให้ผมไม่เห็นหน้าเธอทั้งหมด สงสัยเธอจะไม่สบายมั้ง แต่สายตาเธอที่มองผมนี่จ้องอย่างกับตกตะลึงอะไรสักอย่าง ก็รู้ตัวว่าผมหล่อแต่นี่ผมเป็นแฟนพี่รหัสเธอนะ อย่ามาชอบผมเลยจะทําให้ผมลําบากใจเปล่าๆ
END TALK
EVA TALK
โลกนี้นอกจากกลมแล้วยังแคบด้วยเหรอ? เหวี่ยงคนที่ไม่อยากเจอมาให้เจอพอดี มิหนําซ้ำยังมาเป็นแฟนกับพี่รันอีกซึ่งไม่คู่ควรเป็น อย่างยิ่ง!! เหมือนดอกฟ้ากับหมาเน่าไม่มีผิด
วันนี้ฉันมีน้ำมูกไหลเล็กน้อยจึงใส่แมสมาเพื่อป้องกันฝุ่นละออง และป้องกันไม่ให้ไปติดคนอื่นเพราะรู้สึกว่าตัวเองเหมือนจะไม่สบาย พี่รันเป็นพี่รหัสของฉันและฉันก็รักพี่รันมาก ฉันไม่มีเพื่อนก็ได้แต่ต้องมีพี่รหัสคนนี้สวย นิสัยดี มันคู่ควรกับไอ้ขี้ยานี่ตรงไหนไม่ทราบ!!
ผู้ชายที่ชื่อพะเพลิงคนนี้แหละที่ฉันเจอที่ผับแล้วมันดึงฉันไปหา ตํารวจตอนบัตรประชาชนฉันหายพอดี เป็นหัวขโมย มิจฉาชีพ ขี้ยา นี่พี่ รันรู้ไหมเนี่ยว่ามันไม่ได้เป็นคนดีอะไรเลย
พอมันแนะนําตัวเสร็จก็แสยะยิ้มมุมปากให้ฉัน คิดว่าหล่อรึไง?!
“เราไปกินข้าวกันเถอะที่โรงอาหารนี่แหละ ไปกินกันสามคนเลย นะจะได้รู้จักกันไว้ ”
นายพะเพลิงอะไรนั่นประคบประหงมพี่รันซะเหลือเกิน ทําเป็นถือกระเป๋าให้เดินจับมือกัน แหวะ!! เสแสร้งสิ้นดี คิดจะมาหลอกพี่รัน ชมันไม่ง่ายนะตราบใดที่มีฉันอยู่ทั้งคนพี่รันต้องเจอคนที่ดีกว่านี้!!
ทําเป็นออเซาะพี่รันของฉัน โถ่!! ตอนนี้ช่วงโปรโมชั่นคู่รักสินะ พอหมดโปรโมชั่นก็จะทิ้งพี่รันใช่ไหมล่ะ พอหมดผลประโยชน์พี่รันของฉันก็ไร้ค่า นายพะเพลิงต้องมาเกาะพี่รันกินแน่ๆ
ลูกสาวค่ายมวยชื่อดังกับมิจฉาชีพขี้ขโมย...
ฉันเดินตามมาอย่างเงียบๆด้วยความว้าวุ่นอยู่คนเดียวจนมาถึงโรงอาหาร เพราะนั่งตรงข้ามกันทําให้ฉันเห็นเนคไทของนายพะเพลิง แอบตกใจเล็กน้อยที่เรียนมหาวิทยาลัยระดับนั้นได้ นี่มิจฉาชีพรายได้ดีขนาดนี้เลยเหรอ?
“วันนี้กินอะไรดีรัน เดี๋ยวเพลิงไปซื้อให้”
“ข้าวมันไก่ก็แล้วกัน ขอบคุณนะ”
เบะปากใส่!!
ภายใต้แมสที่บดบังใบหน้าก็ไม่มีใครเห็นหรอกว่าฉันกําลังทําสีหน้าแบบไหนอยู่ โผล่พ้นมาแต่ลูกกะตาเท่านั้น เมื่อนายพะเพลิงเดินไป ฉันจึงเดินตามไปติดๆเผื่อมันไปขโมยกระเป๋าตังค์ใครมาซื้อข้าวให้พี่รันกิน ฉันจะได้ช่วยเหยื่อไว้ได้ทัน
“อ้าว น้องอีฟกินข้าวมันไก่เหมือนกันเหรอครับ”
ฉันถกแมสลงมาอยู่ใต้คางเพื่อให้นายพะเพลิงได้เห็นหน้าฉันชัดๆ จําฉันได้ไหมคนที่เคยตกเป็นเหยื่อนายที่ผับวันนั้นไงไอ้มิจฉาชีพ
“เธอ!! ยัยเด็กขโมยตุ๊กตานี่หว่า”
“ขโมยบ้าบออะไรของนาย ขอเตือนนายด้วยความหวังดีนะนาย พะเพลิง เลิกกับพี่รันของฉันซะ!! ไม่งั้นจะบอกเรื่องที่ผับให้หมด”
ได้ผล นายพะเพลิงชักสีหน้าตกใจอย่างเห็นได้ชัด ทําหน้าแบบ นี้พี่รันยังไม่รู้ล่ะสิว่าตัวตนที่แท้จริงนายเป็นใครกันแน่
“นี่เธอไม่ได้อยู่มัธยมหรอกเหรอ? หน้าเด็กจังวะ! ค่าปิดปากจะเอาเท่าไหร่ก็ว่ามาแค่อย่าบอกรันเรื่องผับก็พอ”
“เงินสกปรกของนายฉันไม่ต้องการ แล้วเลิกกับพี่รันซะนะ อย่ามาหลอกลวงพี่รันของฉัน”
“เธอรู้?”
“ใช่ ฉันรู้เรื่องของนายแล้ว”
ฉันดึงแมสมาปิดหน้าไว้เหมือนเดิมก่อนจะเดินไปซื้อข้าวร้านอื่นกิน ฉันพูดขนาดนี้แล้วถ้าเขายังไม่เลิกกับพี่รันก็ท้าทายอํานาจมืดฉันเกินไป ถ้าพี่รันรู้ว่านายพะเพลิงเป็นมิจฉาชีพแล้วตัวเองตกเป็นเหยื่อมาโดยตลอดต้องเสียใจมากแน่ๆ จากนีhฉันต้องคอยระวังพี่รันไว้ไม่ให้นายพะเพลิงหลอกต้มตุ๋นพี่รันไปมากกว่านี้
วันนี้เป็นการกินข้าวที่น่าอึดอัดที่สุด...
ทําไมนายพะเพลิงยังไม่บอกเลิกพี่รันซะที ฉันต้องการให้บอกเลิกเดี๋ยวนี้เวลานี้คนแบบนี้ไม่มีสิทธิ์มาหลอกลวงพี่รันต่อสักวินาทีเดียว นี่ขนาดโดนจับได้นะยังจะไม่ยอมทําตามอีก หน้าด้านจริงๆเลย
“พี่รันคะ อีฟมีอะไรจะบอก”
“เห้ยรัน ลืมไปว่าต้องรีบไปทําธุระงั้นเรากลับบ้านกันเถอะ เดี๋ยวเพลิงไปส่งรันก่อน ลุกเลยๆกลับตอนนี้แหละ”
“เดี๋ยวๆเพลิง อีฟมีอะไรจะบอกเหรอ”
“เปลี่ยนมาเป็นถามดีกว่า พี่รันชอบคนโกหกมั้ยคะ”
“ไม่ชอบสิ ใครจะชอบ”
“แล้วถ้าคนที่ไว้ใจกําลังโกหกร้ายแรงพี่รันจะทํายังไง”
“ก็เสียใจมั้ง รับไม่ได้หรอกถ้าไว้ใจแล้วมาโกหกกัน ว่าแต่อีฟถามพี่ทําไม? ทะเลาะกับแฟนเหรอ?”
“เปล่าๆ แค่อยากรู้ว่าพี่รันคิดยังไงกับเรื่องนี้กลับกันเถอะเดี๋ยว อีฟก็จะกลับแล้วเหมือนกัน บ๊ายบายนะพี่รัน ขอให้โชคดีนะคะพี่พะเพลิง หวังว่าเราจะได้เจอกันอีกนะคะ”
นายพะเพลิงหน้าเจื่อนไปเลย เหอะ รู้จักอีฟน้อยไป เมื่อสองคนนั้นพากันเดินออกจากโรงอาหารไปแล้วฉันยังคงนั่งสะใจอยู่ที่เดิม สะใจที่ทําให้หมอนั่นนึกกลัวได้ถึงขั ้นรีบพาพี่รันให้ออกห่างจากฉัน
ตุ้บ!
“ค่าปิดปาก อยากได้มากกว่านี้ก็บอก”
มือใหญ่สองข้างครอบตัวฉันจากด้านหลัง มือขวามีแบงค์พัน หลายใบ นี่คิดจะเอาเงินมาขู่ฉันรึไง ฉันหันหลังแล้วเงยหน้าไปเผชิญหน้า กับนายพะเพลิงตรงๆ หมอนั่นก็ก้มหน้าลงมามองฉันเหมือนกัน
“เก็บเงินสกปรกของนายไว้ยัดปากตอนตายเถอะ ออกไป!!”
“ทีอยู่กับคนอื่นทําไมเรียบร้อยน่ารักจังหวะ ทีงี้ออกลายเหรอน้อง”
“แล้วแต่คิด”
ฉันผลักร่างสูงออกก่อนจะหยิบกระเป๋าแล้วเดินออกมาจากตรงนั้นด้วยความโมโห ไม่รู้นะว่าทําไมนายพะเพลิงถึงเดินย้อนกลับมาหาฉันได้ แล้วตอนนี้พี่รันอยู่ไหน ที่รู้ ๆคือฉันโมโหมาก ก่อนจะเดินออกมานั่งแท็กซี่กลับบ้าน ไม่อยากโทรให้แฝดมารับตอนนี้ ไม่อยากอารมณ์เสียใส่ใคร อารมณ์ไม่คงที่แบบนี้ฉันควรอยู่คนเดียว
ผั้วะ ผวั้ะ
“ตายซะ ไอ้พะเพลิง!! ไอ้มิจฉาชีพนิสัยเสีย!!”
ตุ้บ ตุ้บ
ตุ๊กตาหมีฉันตาบอดไปแล้วเพราะโดนปิ่นปักผมเสียบลูกกะตาเข้า ทําไมไม่รู้ต้องมาระบายกับหมีตลอดเลย น้องหมีแสนน่ารักของฉัน ต้องพิการเพราะมันคนเดียว เพราะนายพะเพลิงนั่นคนเดียวเลย!!
END TALK