ความเจ็บปวดพุ่งผ่านร่างกาย มันแสนสาหัสจนฉันกรีดร้อง กระดูกของฉันยาวขึ้นและเปลี่ยนรูป ขนสีทรายปกคลุมร่าง สายตาและการได้ยินของฉันคมชัดมากขึ้น ฉันยืนสี่ขา ส่งเสียงหอน ฉันเป็นหมาป่าแล้ว ฉันวิ่งเกือบทั้งคืนบนผืนหิมะสีขาวที่ปกคลุมด้วยท้องฟ้าสีดำสนิท รู้สึกเหมือนแทบจะบินได้ ฉันเริ่มพักเมื่อวิ่งเหนื่อยจนพอใจ มันคงจะหนาวมากหากหมาป่าจะต้องนอนอยู่กลางหิมะ ฉันเลยพุ่งความสนใจไปที่บ้านเรือนแบบมนุษย์ และแล้วกระดูกของฉันก็เริ่มเจ็บแปลบอีกครั้ง แม้จะเจ็บปวด แต่ก็ไม่ได้แย่เท่ากับครั้งแรก
แฝดสามออกไปสังสรรค์กันในวันเกิดปีที่ 21 กับเพื่อนๆที่บาร์
ฉันเดินผ่านห้องของพวกเขาแต่ละคน ทั้งบ้านมีสามชั้น อัลฟ่าและลูน่านอนอยู่ชั้นบนสุด ฉันกับแฝดสามนอนอยู่ชั้นกลาง ซึ่งฉันนอนอยู่ในห้องเก็บของเล็กๆที่ดัดแปลงมาเป็นห้องนอน ส่วนแฝดสามแต่ละคนมีห้องนอนใหญ่โอ่อ่ารวมถึงห้องน้ำส่วนตัว กลิ่นเย้ายวนที่สุดลอยมาจากห้องของคาลิกซ์ ฉันแอบย่องเข้าไปเพราะเขาเป็นคนที่น่ากลัวน้อยที่สุดในบรรดาแฝดสาม ดังนั้นฉันจึงไม่ได้สนใจว่าเขาจะได้กลิ่นของฉันหรือเปล่าเมื่อเขากลับมาถึงบ้านและรู้ว่าฉันแอบย่องเข้ามาในห้องของเขา ห้องของเขามีกลิ่นเหมือนคุกกี้ช็อกโกแลตชิปที่เพิ่งอบใหม่ๆ ฉันมองไปรอบๆ บางทีเขาอาจมีคุกกี้หม้อหรืออะไรสักอย่างในห้อง แต่ก็ไม่เจออะไรเลย โอ้ย เหมือนฉันหลวมตัวไปปล่อยกลิ่นตัวเองในห้องเขาโดยเปล่าประโยชน์ ไม่ได้รู้ข้อมูลอะไรเพิ่มเติมเลยสักอย่าง
ฉันเดินออกไปและได้กลิ่นหอมหวนชวนดมอีกกลิ่นมาจากห้องนอนใหญ่ตรงกลางของเฟลิกซ์ ฉันไม่กล้าเข้าไปในนั้น ได้แต่สูดดมตรงประตู กลิ่นห้องเขาทำให้ฉันนึกถึงขี้มะพร้าวหวานเขตร้อน ฉันสูดลมหายใจเต็มปอด นึกสงสัยว่าทำไมฉันไม่เคยได้กลิ่นนี้มามาก่อน หัวใจของฉันเริ่มเต้น แอบกลัวที่จะเข้าไปใกล้ห้องของอเล็กซ์ แต่ฉันก็อยากรู้ ถ้าจู่ๆทั้งสามห้องดันมีกลิ่นหอมยั่วใจสำหรับฉันล่ะก็…
ฉันพยายามที่จะสลัดความคิดนี้ทิ้ง มุ่งเดินไปยังประตูห้องของอเล็กซ์ กลิ่นหอมของกาแฟและโกโก้ปะทะจมูกทำให้น้ำลายไหลย้อย อเล็กซ์กลิ่นหอมขนาดนั้นเลยหรือนี่? หน้าต่างทุกบานเปิดออกพรวด และกลิ่นทั้งสามลอยคลุ้งไปตามทางเดิน กลิ่นที่รวมกันของพวกเขาสะกดใจฉัน ดูเหมือนฉันจะประสบปัญหาใหญ่เข้าแล้ว ฉันกลับไปที่ห้องเล็กแคบของฉันแล้วรีบล็อคประตู ฉันพยายามจะหลับแต่ก็ยังพลิกตัวไปมา กลิ่นเหล่านั้นกวนใจฉันทั้งคืน ถ้าเขากลับถึงบ้านพวกเขาจะได้กลิ่นฉันไหมนะ? ตอนนี้ประสาทสัมผัสฉันจะได้กลิ่นต่างไปจากพวกเขาไหม? ฉันไม่อยากคิดให้มากเกินไป บางทีประสาทการรับรู้กลิ่นที่แรงขึ้นอาจเป็นเพียงการดึงดูดสิ่งที่ฉันไม่เคยสังเกตเห็นมาก่อน บางทีทุกคนอาจจะมีกลิ่นที่ดีแบบนี้ก็ได้
ฝังบุคคลอื่น
คาลิกซ์ เฟลิกซ์ และอเล็กซ์กลับเข้าบ้านประมาณตีสาม มันเป็นคืนวันเสาร์ ซึ่งต่อจากนี้จะมีงานเลี้ยงฉลองวันเกิดของเขาอย่างเป็นทางการ รวมถึงพิธีมอบตำแหน่งอัลฟ่า แต่การฉลองกับสาวๆและพี่น้องเพื่อนฝูงในคืนนี้ทำให้พวกเขาอ่อนเพลียและเมาเล็กน้อย แม้ว่าปกติมนุษย์หมาป่าที่จะไม่ค่อยสะทกสะท้านต่อแอลกอฮอลเท่าไหร่ แต่แฝดสามก็พยายามเต็มที่แล้วที่จะยั้งสติ พวกเขากล่าวราตรีสวัสดิ์ สุขสันต์วันเกิดกันและแยกย้าย
คาลิกซ์เดินโซเซเข้าห้อง กลิ่นที่คุ้นเคยบางอย่างผุดขึ้นมาแต่กลับรู้สึกไม่เหมือนเดิม มีบางอย่างที่เคยชิน กลิ่นเหมือนส่วนผสมในอาหารจานโปรด... มีคนเข้ามาในห้องของเขา... เป็นหญิงสาว และเธอมีกลิ่นเหมือนกุหลาบผสมกับดอกสายน้ำผึ้ง เขาตัวสั่น กลิ่นนั้นทำให้เขาแทบคลั่ง เขาไม่สามารถข่มตาหลับ ทุกอย่างชัดเจน เขาจำกลิ่นนี้ได้แต่ไม่สามารถระบุแน่ชัดได้ว่าเป็นกลิ่นของใคร และแน่นอน เขาเฝ้านึกพินิจพิเคราะห์ว่าใครกันนะที่มีกลิ่นหอมเช่นนี้
เมื่อถึงรุ่งเช้า ความอดทนของเขาก็หมดลง เขาทนไม่ไหวอีกต่อไป คาลิกซ์เดินดุ่มเคาะประตูห้องพี่ชาย พี่ทั้งสองตอบรับทั้งที่ยังหลับครึ่งหลับครึ่งตื่น
“เป็นอะไรไปน้องชาย?” อเล็กซ์กล่าวถามด้วยสีหน้าเป็นห่วงอย่างเห็นได้ชัด
“ก็ดีนี่ ตอนนี้หกโมงเช้า เมื่อคืนเราปาร์ตี้กันฉ่ำ แล้วเคืนนี้เราก็จะปาร์ตี้กันต่อ” เฟลิกซ์หาววอดพร้อมลุกขึ้นมาขยับตัว
“ไปดมห้องฉัน” คาลิกซ์บอก
พี่ๆหัวเราะ เดินตามเขาออกไป
"หยุดก่อน!" เฟลิกซ์พูดขณะที่พุ่งตัวเข้าไปยังห้องของคาลิกซ์ เฟลิกซ์หยุดดมตามทาง อเล็กซ์เดินตามเข้ามา ดวงตาของเขาเบิกกว้าง
“โอ้พระเจ้า” เฟลิกซ์กล่าว "อะไรกันเนี่ย?" อัลฟ่าหนุ่มเริ่มดมกลิ่นห้องของน้องชาย
“คาลิกซ์ นายเอาใครเข้ามา” อเล็กซ์ถามเสียงเด็ดขาด
“นายอยู่กับคู่ของพวกเรา!” เฟลิกซ์คำราม “นี่นายแอบกกเธอไว้คนเดียวเหรอ”
“เปล่านะ ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเป็นกลิ่นใคร แต่กลิ่นนี่ทำให้ฉันแทบคลั่ง” คาลิกซ์บอก สายตาเหนื่อยล้าอดหลับอดนอน
“คู่ของพวกเราเข้ามาในห้องนี้” เฟลิกซ์กล่าวอย่างงยินดี “เธอเจอพวกเราแล้ว! โอ้ ฉันแทบจะรอไม่ไหวที่จะเห็นหน้าเธอ” เฟลิกซ์คำรามอีกครั้ง
“แล้วแซนดร้า ทอนย่า กับเอเวอรี่ล่ะ?” คาลิกซ์ท้วงถามถึงถึงแฟนสาวปัจจุบันของพวกเขา
“เราเพิ่งคบกับพวกเธอมาได้สองสามสัปดาห์เอง! พวกเธอรู้ตัวอยู่แล้วแหละว่าเธอไม่ใช่คู่เรา มันเป็นแค่ความสัมพันธ์ชั่วคราว! เดี๋ยวฉันโทรบอกเลิกโทนี่เอง” เฟลิกซ์พูดอย่างไม่ใส่ใจ
“ใช่” อเล็กซ์เห็นพ้อง “ถ้าเราหาคู่ของเราได้เจอก่อนงานเลี้ยง เราจะได้กันสาวๆพวกนั้นไม่ให้คุกคามเธอ”
“จริงสิ พวกหล่อนก็คงจะตบตีกัน” คาลิกซ์พูดขึ้นบ้าง “และถ้าเธอต้องสู้กับทั้ง3คนนั้น เราก็ควรจะบอกเลิกสาวๆเสียตั้งแต่ตอนนี้”
พี่น้องทั้งหมดเห็นพ้องต้องกันขณะที่นั่งอยู่บนเตียงของคาลิกซ์
“แล้วใครเข้ามาห้องฉันกันนะ” คาลิกซ์นึกสงสัย
“เป็นกลิ่นที่คุ้นมาก” อเล็กซ์พูดเจือยิ้ม “เป็นกลิ่นที่คล้ายกับ…” อเล็กซ์หยุดคิด คิ้วขมวดเป็นปม เขาลุกพรวดและสูดดมกลิ่นตามทางเดินและหยุดยืนหน้าประตูห้องเล็กๆของแชซิตี้ กลิ่นเดียวกันพุ่งปะทะจมูก ทำให้เขารู้สึกสะท้าน กลิ่นดอกสายน้ำผึ้งและดอกกุหลาบ เขาถอนใจ กลอนประตูของเธอไม่ได้ล็อค เขาจึงรีบเปิดเข้าไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น แต่แล้วก็พบเพียงห้องว่างเปล่า มีแค่เตียงเสริมเล็กๆตรงมุมห้อง ใบหน้าของเขาผิดหวัง
ทันใดนั้นเองเขาก็ตระหนักได้ว่าห้องของแชซิตี้นั้นเล็กซอมซ่อแค่ไหนเมื่อเทียบกับห้องนอนอื่นๆในบ้าน ยังมีห้องนอนรับแขกที่ใหญ่กว่านี้เหลืออยู่ ทำไมพ่อแม่ของเขาถึงไม่ยกห้องนั้นให้เธอนะ?
น้องทั้งสองตามหลังเขามาติดๆ เฟลิกซ์ดูตกตะลึง คาลิกซ์เดินเข้าไปนอนบนเตียงของเธอ สูดดมกลิ่นเธอเข้าเต็มปอด
“ฉันจะรอให้เธอกลับมาที่นี่” เขากล่าวพร้อมกับขดตัวบนเตียงเล็กๆ มันเล็กมากสำหรับอัลฟ่าที่สูง 6.4 ฟุต
“ฉันอยากเจอเธอเดี๋ยวนี้เลย” เฟลิกซ์พูด สายตาเป็นกังวล “เรามีเรื่องต้องคุยกันอีกมาก”
“ใจเย็นๆ เฟลิกซ์” อเล็กซ์กล่าว “คู่ของเราอาศัยอยู่กับเราอยู่แล้ว ฉะนั้นเราสบายใจได้” อัลฟ่าคนโตพูดพร้อมยิ้ม
“ไม่ ไม่สบาย!” เฟลิกซ์กล่าวว่าจ้องมองที่พวกเขา “คู่ของเราคือแชริตี้นะ แชริตี้!"
“อย่าเรียกเธอแบบนั้น!” คาลิกซ์คำราม ดวงตาสีฟ้าของเขาเปลี่ยนเป็นสีดำ
"ขอโทษ! ขอโทษ! มันติดนิสัยเสียน่ะ” เฟลิกซ์กล่าว “แชซิตี้” เขาเปล่งชื่อจริงของเธอออกมาดังๆซึ่งนั่นก็ทำให้รู้สึกดีไม่น้อย
"เป็นอะไรวะ?" อเล็กซ์ถาม... เขาตรวจดูข้าวของของแชซิตี้และเริ่มคิดถึงรายการของทั้งหมดที่เขาจะซื้อให้เธอ เธอแทบจะไม่มีอะไรเป็นของตัวเองอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นเขาคงจะเซอไพรซ์เธอได้ไม่ยาก อีกอย่าง วันนี้ก็เป็นวันเกิดของเธอเหมือนกัน
“เราต้องไปห้างกันให้เร็วที่สุด ห้างเปิด10โมง” เขาบอกกับน้องชาย “วันนี้เป็นวันเกิดของแชซิตี้เหมือนกัน ฉันมั่นใจว่าพ่อกับแม่คงไม่ได้ซื้อของอะไรให้เธอหรอก”
“พวกนายได้ยินเสียงอะไรในตัวเองหรือเปล่า” ถามเฟลิกซ์
"อีกแล้วนะ! มีปัญหาอะไรวะ?" อเล็กซ์ถามเฟลิกซ์ คาลิกซ์ลืมตาจ้องไปที่เฟลิกซ์
“แชซิตี้คือคู่ของเรา! แต่ที่เราไม่เคยรู้ เพราะก่อนหน้านี้อายุเธอยังไม่ถึงวัย จนกระทั่งวันนี้ไง!” เฟลิกซ์พูดพร้อมโบกไม้โบกมือเหมือนคนบ้า
คาลิกซ์และอเล็กซ์ไม่ตอบสนองอะไร
“เราปฏิบัติต่อแชซิตี้แย่มาก! ถ้าเธอรู้ว่าเธอเป็นคู่ของเรา เธอจะต้องปฏิเสธเราแหงเลย!” เฟลิกซ์พูดอีก
คาลิกซ์ลุกขึ้นมานั่ง “ไม่ เธอไม่ทำหรอกน่า” น้องคนสุดท้องพูด “ไม่ เธอทำไม่ได้ เรารอคู่ของเรามาสามปีแล้วนะ”
“แต่แชซิตี้บอกว่าเธอไม่ได้อยากมีคู่ จำได้ไหม?” เฟลิกซ์พูด พยายามสะกดให้พวกเขาฟัง
“ใช่” อเล็กซ์กล่าว “แต่เมื่อสัญชาตญาณเรื่องคู่เริ่มทำงาน เธอก็จะกลายเป็นลูกไก่ในกำมือของเราเอง”
คาลิกซ์แช่มชื่น ยิ้มให้อเล็กซ์ “ถูกเผง” เขาเห็นด้วย
เฟลิกซ์กลอกตาของเขา “แล้วจำได้ไหมว่าทำไมแชซิตี้ถึงไม่ต้องการคู่? เธอบอกว่า เพราะกลัวเขาจะใจร้ายกับเธอเหมือนกับพวกเรา ซึ่งคู่ของเธอก็ดันกลายเป็นเราจริงๆ”
คาลิกซ์และอเล็กซ์เริ่มมีสีหน้ากังวล
“เธอจะต้องประสาทกิน!” เฟลิกซ์กล่าว “เธอพยายามจะออกไป จำได้ไหม เธอเคยพูดว่าถ้าเธออายุสิบแปดแล้วเรียนจบ เธอจะหนีไป!”
อเล็กซ์ยิ้ม “เธอมีเวลาในโรงเรียนอีกเจ็ดเดือน ตอนนี้พฤศจิกา เรายังพอมีเวลาโน้มน้าวเธอถึงเดือนมิถุนาหรือกรกฎา”
เฟลิกซ์สงบลงเล็กน้อยและคิดทบทวนอีกครั้ง
คาลิกซ์ยิ้มอย่างชั่วร้าย เผยให้เห็นลักยิ้ม ความร้ายกาจปรากฏในดวงตาสีฟ้าอ่อนของ “แชซิตี้อาจจะเกลียดเราตอนนี้ แต่ในฤดูร้อนปีหน้า เราจะทำให้เธอยอมจำนน”
พี่ชายของเขาระเบิดเสียงหัวเราะ