EP.1 ยังโสด
1
- ยังโสด –
ณ.บ้านอันแสนอบอุ่นหลังหนึ่ง
“ยัยออยมากินข้าวได้แล้วลูก” เสียงของผู้เป็นแม่เรียกฉันที่นอนกลิ้งไปมาบนเตียงพลางไถ่มือถือเล่น ก่อนจะดีดตัวลุกขึ้นจากเตียง
“ค่ะแม่ จะลงไปเดี๋ยวนี้แหละค่ะ” ฉันเอ่ยตอบผู้เป็นแม่ออกไปก่อนจะลงไปด้านล่างทั้งชุดนอนแบบนี้
พอมาถึงโต๊ะอาหารทั้งพ่อและแม่ก็นั่งรอฉันอยู่แล้ว
“ยัยออย ทำไมไม่แต่งตัวให้เรียบร้อยลงมาก่อนละลูก”
“ไม่เห็นเป็นไรเลยแม่ เดี๋ยวออยก็ขึ้นไปนอนต่ออยู่ดี”
“คุณดูลูกเราสิ ไม่มีความเป็นกุลสตรีสักนิด กระโตกกระตากเหมือนคุณไม่มีผิด” แม่ฉันบ่นอีกแล้ว.....
“ก็ลูกผมไงล่ะ ฮ่า......”
“ฮ่า....” ฉันหัวเราะไปกับพ่อฉันในขณะที่แม่ทำหน้าบึ้งวางจานกับข้าวดังปัง
“คุณก็เอาแต่ให้ท้ายลูก คุณดูสิ ลูกเราจะเข้าวัยเลขสาม ยังไม่มีแม้แต่แฟน ทำงานแต่งาน แล้วเมื่อไหร่ลูกเราจะมีคนมาดูแล”
“แม่คะ ออยเป็นหมอนะ ทำงานหาเงินเลี้ยงตัวเองได้ไม่ต้องให้ใครมาดูแลขนาดนั้นหรอก”
“ใช่ ถ้าลูกเราหาสามีไม่ได้ ผมกับคุณก็เลี้ยงลูกไปจนแก่จนเฒ่าไง” ทำไมฉันฟังพูดเหมือนพลังบวกเชิงลบสุด ๆ
“พ่อ หนูแค่ยังไม่เจอคนที่ใช่ ไม่ใช่ว่าชาตินี้จะไม่มีแฟนซะหน่อยแค่ไม่ใช่ตอนนี้แค่นั้นค่ะ” ฉันทานข้าวไปพูดไป
“แล้วนั่งเก้าอี้ก็ไม่เรียบร้อย กินข้าวมูมมาม แถมพูดตอนเคี้ยวอาหารอีก ผู้ชายที่ไหนมาเห็นเขาจะชอบได้ไงลูก”
“ถ้าเขารับนิสัยหนูไม่ได้ แสดงว่าเขาก็ไม่ใช่คนที่ออยเลือกเหมือนกันคะ”
“เห่อ โอเค ๆ พูดกับแกเรื่องนี้แล้วแม่ปวดหัว แม่แค่ขี้เกียจตอบคำถามชาวบ้าน บอกลูกสาวแม่สวย ทำงานเป็นหมอฟัน ครบครันขนาดนี้ยังไม่มีแฟนรึไง มีแต่ป้า ๆ เขาจะส่งลูกชายเขามาให้แกดูตัว บางทีแม่ก็รำคาญอยากจะให้แกรีบมีแฟนเร็ว ๆ จะได้ตอบชาวบ้านปากตลาดให้มันจบ ๆ”
“ถ้าออยเจอคนที่ใช่ เดี๋ยวออยก็พามาบ้านเองแม่ จะพาเดินทั่วให้รู้กันทั้งหมู่บ้านไปเลย แม่ไม่ต้องเป็นห่วง แต่ช่วงนี้ออยอยากเก็บเงินเยอะ ๆ ก่อน
“ว่าแต่ลูกจะอยู่บ้านถึงวันไหน” พ่อหันมาถามฉัน
“พรุ่งนี้ ออยก็ไปทำงานแล้วค่ะ ลาได้สามวันเอง”
“มีเวลาว่างก็ออกไปเที่ยว ไปพักผ่อนบ้างนะ เรื่องเงินไม่ต้องส่งให้พ่อกับแม่แล้วก็ได้ที่แกให้มาก็มีเหลือเฟือใช้ไม่ได้”
“นั่นสิ ลูกเก็บไว้บ้าง”
“แม่ไม่ต้องห่วงค่ะ ที่หนูส่งให้พ่อกับแม่ ก็คือส่วนหนึ่ง ส่วนเงินเก็บออยก็เก็บทุกเดือนอยู่แล้ว”
“ยังไงซะอยู่คอนโดคนเดียว อย่าเอาแต่กินอาหารสำเร็จรูปล่ะหมั่นออกไปทานอาหารที่มีประโยชน์บ้างนะ”
“ออยเป็นหมอนะคะ ที่โรงพยาบาล กับ คลินิก อาหารได้รับประโยชน์ตามโภชนาการอยู่แล้วแม่ไม่ต้องห่วงค่ะ ออยอิ่มแล้วเดี๋ยวขอตัวก่อนนะคะ”
ฉันกลับขึ้นห้อง ล้มตัวลงนอนบนเตียงด้วยความเบื่อหน่าย พลางหยิบมือถือขืนมาดู
“เห่อ..ตั้งแต่วันนั้นน้องเขาก็หายไปไม่ตอบแชทฉันอีกเลยแหะ คงผิดหวังที่ฉันโกหกเรื่องอายุน่าดู แต่ช่วยไม่ได้ฉันแค่ไม่อยากโกหกอีกแล้ว”
อ่ามาถึงตรงนี้ คุณผู้อ่านงงใช่มั้ยคะ งั้นฉันของแนะนำตัวก่อน ฉันชื่อออยค่ะ เป็นทันตแพทย์ อยู่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในตัวเมือง เห็นทำงานงก ๆ แบบนี้มีเพื่อนหมอที่สนิทอยู่นะคะ ชื่อหมอแพรว ซึ่งนางเป็นเพื่อนสนิทฉันค่ะ นางเป็นหมอจิตแพทย์ เรื่องที่แม่บ่นฉันเมื่อกี้ก็ความจริงทั้งนั้น ตอนนี้ฉันอายุ 27 ปีแล้วค่ะ โสดสนิทศิษย์ยังหนีไปมีแฟนหมด ไม่ใช่ว่าฉันไม่สวยนะคะ หมอหนุ่มมาจีบก็เยอะ แต่ฉันไม่อยากมีใครจริง ๆ อยู่ในช่วงภาวะรักตัวเองอยากอยู่คนเดียวแบบที่เป็นมากกว่า
ฉันอายุเยอะก็จริงแต่ติดเกมค่ะ ตั้งแต่ ม.ต้น จน ตอนนี้ก็ยังเล่นอยู่ แต่ก็ไม่ได้เล่นหนักเหมือนแต่ก่อนแล้ว พอเข้าสังคมในเกมคุยกับคนอื่น ๆ จึงรู้ว่าฉันแกเกินกว่าจะคุยกับพวกเขาได้จริง ๆ เจอแต่เด็กวัยมัธยม อย่างแก่สุดก็เด็กมหาลัย ใครจะกล้าไปบอกว่าตัวเองอายุ 27 จริงมั้ย มีหวังโดนเรียกป้าขึ้นมาให้เจ็บหัวใจเล่น ๆ ก็เลยโกหกไปว่าอายุ 20 กับเพื่อน ๆ ในสังคมเกม
แต่แล้ววันหนึ่ง ในกลุ่มเกมนัดเจอกัน ซึ่งฉันก็ปฏิเสธที่จะไปค่ะ จนสุดท้ายฉันก็พูดความจริง กับ คู่รักในเกมว่าฉันไม่ใช่สาววัย 20 ที่เขาฝันถึง แต่ฉันมันคนแก่วัยทำงาน 27 ปีแล้ว จากนั้นฉันก็หายไปจากเกมเลย แล้วก็ลบไอดีเกมนั้นไปด้วย ก็มันอายนินา กลัวกลับไปเล่นแล้วโดนล้อยัยแก่ ฉันรับความจริงไม่ได้หรอก
แต่พอฉันเริ่มใจกล้าที่จะกลับไปเล่นเกมโดยการสร้างไอดีใหม่ ก็พบว่ากลุ่มเพื่อนในเกมนั้นหายไปแล้ว มันน่าใจหายนะรู้แบบนี้ขอช่องทางติดต่อน้อง ๆ ไว้หน่อยก็คงดีอย่างน้อยก็เคยคุยกันในเกมทุก ๆ วัน ความผูกพันมันก็พอมีอยู่ แต่ในเมื่อตามพวกเขาไม่ได้แล้ว ฉันก็ทำใจค่ะ ลบเกมนั้นทิ้งอย่างถาวร ให้มันอยู่ในความทรงจำก็พอว่า ถึงแม้ในชีวิตจริงฉันจะไม่มีแฟนเลย แต่ในโลกเกมออนไลน์ฉันมีนะ ^^ แม้ตอนนี้จะม่ายไปแล้วก็ตาม
เลิกคิดดีกว่ากลับเข้าลูปวัยทำงานตัวเป็นเกลียวเหมือนอย่างเคย
ณ.โรงพยาบาล
“หมอออย วันนี้เหนื่อยหน่อยนะคะ” พยาบาลประจำแผนกทันตกรรมพูดกับฉัน
“ไม่คิดเหมือนกันค่ะว่าผู้ป่วยจะเยอะขนาดนี้”
“ก็แต่ละคนร้องขอพบคุณหมอกันทั้งนั้นนิคะ”
“คราวหน้าบอกว่าคนไข้คนอื่นๆ เลยนะคะว่าคิวหมอเต็ม”
“ถ้าคนไข้ยอมก็ดีสิคะ เพราะยังสุดท้ายพอเป็นเคสยาก ๆ จากหมอท่านอื่น หมอออยก็ต้องรับทำอยู่ดี”
“นั่นสินะ...สงสัยต้องให้โรงพยาบาลจับทันตแพทย์ในแผนกไปเรียนเพิ่มได้แล้วค่ะ ออยเริ่มจะรับไม่ไหวแล้วดูสิไม่มีเวลาหาแฟนเลย”
“หมอออยอย่าไปพูดแบบนี้ให้หมอผู้ชายคนอื่นได้ยินล่ะ ไม่งั้น วุ่นวายทั้งแผนกเหมือนแต่ก่อนแน่”
“พี่พยาบาลก็ไล่บอกหมอหนุ่มพวกนั้นสิคะว่าให้ไปจีบหมอจิตแพทย์ชื่อหมอแพรว”
“รายนั้นก็เห็นเหนื่อยเหมือนกันค่ะ” ฉันที่กำลังโม้กับพี่พยาบาลเพราะพักอยู่ จู่ ๆ ก็มียัยตัวน่ารำคาญเข้ามาเสริมทัพ เฮ้ออยู่คนล่ะแผนกแท้ ๆ ยังจะเดินมาหา
‘ก๊อก...ก๊อก...ก๊อก’
“ว่าไงย่ะ นินทาฉันฉ่ำเลยนะเพื่อน” ไม่ใช่ใครที่ไหนเพื่อนฉันเองยัยแพรว
“หอบตัวมาถึงนี่มีธุระอะไร” ฉันหันไปถามเพื่อนตัวดีในขณะที่พี่พยาบาลก็ขอตัวออกไปก่อน
“แก คืนนี้ว่างมั้ย ฉันอยากหนีเที่ยว”
“ทำไมหนีใคร”
“ก็จะใครซะอีก พี่เจเดนไงฉันไม่อยากเจอเขา” ยัยแพรวหน้ามุ่ยก่อนจะนั่งลงเก้าอี้ตรงหน้าฉัน
“จะหนีพี่เขาทำไม ทั้งแกชอบเขาจะตาย”
“เหอะ พี่เขาเคยทำฉันเจ็บมาแล้ว ถึงในหัวใจฉันยังชอบเขา แต่มันไม่ง่ายหรอก ต้องให้เขารู้จักพยายามบ้าง รู้จักการเสียใจบ้างเหมือนที่ฉันเคยเป็น”
“มันก็ดีอยู่หรอก แต่ถ้ามันมากไปมันจะแย่เอานะ”
“แกไม่ต้องมาห่วงฉัน คนไม่มีแฟนแบบแกไม่เข้าใจหรอก”
“อ้าว ฉันเพื่อนแกนะ นี่จะยังให้ฉันไปเที่ยวเป็นเพื่อนอยู่มั้ยพูดดี ๆ” ฉันกอดอกมองหน้าเพื่อนอย่างหาเรื่อง
“ไปดิ....”
“แล้วจะไปไหน ไม่เอาร้านเหล้านะ ช่วงนี้งดเหล้าเข้าพรรษา”
“ป่าว ฉันอยากไปคาเฟ่แมวน่ะ”
“อืมน่าสนแหะ” พอฉันนั่งคิดถึงเจ้าแมวเหมียวขนปุกปุยขึ้นมาก็พาลอารมณ์ดี “โอเค เลิกงานก็ไปกัน ฉันไม่มีเวรอยู่แล้ว”