ตอนที่ 1
The Dark Knight Club ไนต์คลับหรูชื่อดังหาดป่าตองทีมีนักเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติเข้ามาใช้บริการแน่นทุกคืนเพราะมีสาวสวยมากมายคอยต้อนรับลูกค้าดูแลลูกค้าในคลับ ส่วนเรื่องให้บริการแขกก็แล้วแต่พนักงานจะตกลงกับแขกเองแต่ต้องหลังเลิกงานซึ่งพนักงานรู้กฎของคลับดีแต่ก็มีบ้างที่ฝ่าฝืนพอถูกจับได้ก็โดนไล่ออกและคืนนี้ก็มีหนึ่งคนที่เห็นแก่เงินสองหมื่นบาทจึงยอมทำผิดกฎ
“ฉันบอกเธอแล้วใช่มั้ยว่าอย่าทำแล้วเป็นไงล่ะ” เสียงแหลมของผู้หญิงคนหนึ่งคุยกับเพื่อนในห้องน้ำหลังจากที่เพื่อนแอบพาแขกไปขย่มในห้องน้ำแล้วมีลูกค้าไปเจอก็โวยวายเพราะดันไปเอากันในห้องน้ำหญิง
“แกช่วยฉันหน่อยสิอ้อน ฉันยังไม่อยากตกงานแกก็รู้ว่าฉันจำเป็นต้องใช้เงิน”
“ทำไมแกไม่รอให้เลิกงานก่อนล่ะแล้วค่อยไปกับแขก รู้ทั้งรู้ว่ากฎของคลับเข้มงวดขนาดไหนหากมีข่าวเล็ดลอดออกไปจะทำให้คลับเสียหายนะ ฉันช่วยแกไม่ได้หรอกเข็มเพราะฉันยังเอาตัวไม่รอดเลย” อ้อนพูดกับเพื่อนแม้จะสงสารแต่เพื่อนทำผิดหากเธอช่วยก็จะโดนหางเลขไปด้วยกว่าจะได้ทำงานในคลับนี้ไม่ใช่ง่ายๆเพราะคัดเลือกอย่างเข้มงวด
“ฉันไม่ง้อก็ได้” เข็มทองพูดจบก็ลุกขึ้นเดินข้ามถนนไปตามชายหาดด้วยความเครียดที่ตกงานเพราะคลับหรูแห่งนี้เงินดีทั้งทิปทั้งดริ้งเพราะเป็นคลับหรูมีระดับคนที่เข้ามาใช้บริการต้องมีเงินและยังมีคลับอีกสองแห่งในภูเก็ตที่เจ้าของเดียวกันรวมทั้งโรงแรมหรูของตระกูลธนกิตติศักดิ์ที่มีอิทธิพลในภูเก็ตและครอบคลุมเกือบทั่วภาคใต้มีธุรกิจในแหล่งท่องเที่ยวรวมถึงเกาะพงันที่เรียกกันว่าสวรรค์ของนักเที่ยวที่มีชื่อเสียงจากงานฟูลมูนปาร์ตี้ที่จัดขึ้นที่หาดริ้น เป็นจุดหมายของนักเที่ยวของคนดังทั้งหายและแบ็กแพ็กเกอร์แต่งานแบบนี้ก็ต้องมีคู่แข่งเป็นเรื่องปกติซึ่งต้องการเป็นอันดับหนึ่งจึงมีการแข่งขันและแบล็คเมล์กันเพื่อให้อีกฝ่ายเสียชื่อเสียงและพนักงานสาวสวยก็เป็นอีกหนึ่งคนที่ถูกดึงมาเล่นเกมนี้
“น้องๆ” เสียงเรียกดังขึ้นด้านหลังของเข็มทองเธอจึงหยุดเท้าแล้วหันไปมองก็เห็นหนุ่มหล่อที่เธอซั่มในห้องน้ำแลกเงินสองหมื่นที่ล่อตาล่อใจทำให้เธอแหกกฎไม่คิดว่าจะมีคนมาเจอเพราะเธอเอาป้ายปิดซ่อมปรับปรุงมาติดไว้หน้ห้องน้ำหญิงกะว่าจะเอาแค่ห้านาทีเสร็จแต่ดันมีคนมาเจอก่อน
“มีอะไรคะ”
“น้องจะไปไหนครับ” หนุ่มหล่อนักเที่ยวถามสาวสวยที่เขาหลอกซั่มด้วยเงินสองหมื่นเพื่อทำให้คลับบหรูเสียชื่อ
“ฉันจะกลับบ้านคะ”
“อ้าวแล้วไม่ทำงานเหรอ”
“เพราะเอากับคุณนั่นแหละฉันเลยถูกไล่ออก”
“เดี๋ยวๆ ถูไล่ออกเลยเหรอ”
“ก็ใช่น่ะสิ ที่คลับมีกฎไม่ให้พนักงานรับแขกแล้วฉันฝ่าฝืนกฎก็ถูกไล่ออกน่ะสิ” เข็มทองพูดอย่างไม่สบอารมณ์และไม่สนใจหนุ่มหล่อที่ทำให้เธอตกงาน
“งั้นไปดื่มกับพี่มั้ย คืนนี้พี่เลี้ยงเองไหนๆก็ตกงานแล้ว”
“ฉันไปกับพี่แล้วฉันจะได้อะไรล่ะ”
“ถ้าถูกใจก็คงได้เพิ่มอีกสักหมื่นสองหมื่นสนใจมั้ยล่ะ”
“โอเค” เข็มทองหลงเชื่ออย่างง่ายดายเดินตามหนุ่มหล่อไปCoco Club & Bar คลับหรูที่อยู่ห่างไปประมาณห้าร้อยเมตรและเป็นคู่แข่งของThe DarK Knight Club
“ไปที่อื่นไม่ได้เหรอคะคุณ”
“ทำไมเหรอ”
“ฉันไม่ชอบที่นี่น่ะ” เข็มทองไม่อยากเข้าไปในคลับหรูที่ทุกคนต่างก็รู้ว่าข้างในมีครบทุกอย่างทั้งการพนันยาเสพติดและค้ากามแต่เจ้าของเส้นใหญ่และจ่ายหนักจึงยืนอยู่ได้หากมีเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจก็จะมีคนแจ้งจึงรอดทุกครั้งและลูกค้ามีหลายระดับต่างจากThe Dark Knight Club ที่ลูกค้ามีระดับไฮโซคนดังกระเป๋าหนักและปลอดภัย
“เข้าไปเถอะน่า คลับไหนก็เหมือนกัน” หนุ่มหล่อโอบไหล่สาวสวยเข้าไปในคลับหรูของเจ้านายที่สั่งให้เขากับเด็กของเขาไปป่วนคลับหรูของคู่แข่งเพื่อจะได้เป็นหนึ่งในหาดป่าตองเพราะตอนนี้ตำรวจกวดขันมากขึ้นแล้วปล่อยของไม่ได้
ที่ห้องทำงานของหนุ่มหล่อเจ้าของThe DarK Knight Club ที่ดูภาพเหตุการณ์หน้าห้องน้ำหญิงของคลับและจับสังเกตได้ว่าต้องมีคนเล่นไม่ซื่อเพราะมันดูจงใจให้เจอแล้วลูกค้าสาวก็โวยวายซะโอเวอร์
“ทัตให้คนตามสองคนที่มาป่วนคลับของเราหน่อยนะ ฉันว่ามันแปลกๆ” เสียงห้าวบอกคนสนิทที่นั่งดูจอโปรเจ็คเตอร์ของคลับหรูที่มีสิบกว่า แห่งในแหล่งท่องเที่ยวภาคใต้
“ครับคุณคราม” ทัตติรับคำสั่งของเจ้านายแล้วโทรบอกลูกน้องทันที
“แล้วซินดี้มาหรือยัง”
“มารอที่ห้องแล้วครับ”
“พรุ่งนี้ฉันจะไปตรวจงานที่เกาะนะ” เขมินทร์บอกคนสนิทแล้วคืนนี้เขาจะไปปลดปล่อยความเครียดซึ่งซินดี้เป็นสาวลูกครึ่งเหมือนเขาต่างก็แลกเปลี่ยนความสุขกันเท่านั้น
“ครับ/ครับคุณคราม”
จากนั้นในห้องก็เงียบไปมีแต่เสียงแก้ววิสกี้กระทบกับโต้ะทำงานจนถึงตีสองก็แยกย้ายกันไปพักผ่อนซึ่งเป็นแบบนี้มาตลอดสิบปีที่เขมินทร์มารับผิดชอบงานเต็มตัว
“ครามขามาแล้วเหรอคะ ซินดี้มารอตั้งนานค่ะ” ซินดี้สาวลูกครึ่งสุดเซ็กซี่อยู่ในชุดซีทรูสีแดงสดตัดสีผิวขาวจั๊วะลุกขึ้นเดินเยื้องย่างไปกอดแขนหนุ่มลูกครึ่งสุดหล่อคมเข้มเร้าใจที่เดินเข้ามาในห้องพักของเขาที่เธอมานั่งดื่มรอเกือบชั่วโมงและเธอก็เต็มใจรอเขาหลังจากทิ้งคู่ควงทันทีที่คนสนิทของเขมินทร์โทรหา
“โทษทีพอดีทำงานติดพันน่ะ” ร่างสูงใหญ่นั่งลงบนโซฟา
“สำหรับครามซินดี้รอได้ตลอดเวลาค่ะ” ซินดี้ก็มานั่งคลอเคลียลูบไล้แผงอกหนั่นแน่นด้วยกล้ามเนื้ออย่างพอใจถึงเขาไม่ได้นัดเธอบ่อยก็ไม่เป็นไรเพราะยังมีผู้ชายอีกหลายคนที่ต้องการเธอแม้จะสู้เขมินทร์ไม่ได้ทั้งรูปร่างหน้าตาความแข็งแกร่งดุดันเวลาอยู่บนเตียง
จากนัั้นซินดี้ก็ปรนเปรอรสสวาทให้หนุ่มลูกครึ่งสุดหล่ออย่างถึงอกถึงใจและเขาก็เอาเธออบ่างถึงใจเช่นกันถือว่าสมน้ำสมเนื้อเมื่อเสร็จกิจแล้วเขมินทร์ก็กลับขึ้นไปที่เพนท์เฮ้าส์ของเขาปล่อยให้ซินดี้นอนอยู่ที่ห้องพักของเขาที่อยู่ตึกเดียวกันและเป็นที่เขานัดสาวๆมาซั่ม
เช้าวันถัดมา
ร่างสูงใหญ่ของหนุ่มลูกครึ่งเจ้าของ ป่าตอง วิลล่า บีช คอนโดหรูริมทะเลติดหาดป่าตองตื่นนอนแล้วไปออกกำลังกายประมาณหนึ่งชั่วโมงแล้วมาอาบน้ำแต่งตัวก่อนจะไปหาพ่อที่บ้านในอำเภอถลาง เขมินทร์ ธนกิตติศักดิ์ วัย35ปีเป็นลูกครึ่งไทยสเปนชายหนุ่มมีพ่อเป็นคนไทยแม่เป็นสาวสเปนที่มาเที่ยวเมืองไทยและตกหลุมรักทศพลจึงเลือกใช้ชีวิตอยู่ที่เมืองไทยแม้พ่อแม่สามีจะไม่ชอบแต่ลอร่าก็ทนได้เพราะรักสามีจนกระทั่งมีลูกพ่อแม่สามีถึงได้ยอมรับหลังจากนั้นชีวิตรักก็มีความสุขมาตลอดจนกระทั่งเขมินทร์อายุได้เจ็ดขวบลอร่าก็จากไปด้วยโรคร้ายทิ้งลูกให้อยู่กับสามีผ่านไปสองปีทศพลก็แต่งงานใหม่กับเลขาหน้าห้องเพราะทำปาดวาดท้องทำให้เขมินทร์โกรธพ่อที่มีเมียใหม่เขาก็อยู่กับปู่ย่าส่วนพ่อก็ซื้อบ้านใหม่อยู่กับครอบครัวใหม่จนถึงทุกวันนี้ เมื่อเรียนจบมอหกที่ภูเก็ตย่าก็เสียชีวิตแล้วเขาก็ไปเรียนต่อที่อเมริกาจนจบปริญญาโทก็กลับมาช่วยงานปู่กับพ่อจนตอนนี้พ่อของเขาแทบจะวางมือให้เขาทำหมดแล้วส่วนน้องสาวน้องชายต่างแม่ไปเรียนต่อที่อังกฤษยังไม่กลับมา ชายหนุ่มเดินออกมาจากลิฟต์ไปขึ้นรถเอสยูวีคันใหญ่เพื่อไปหาพ่อมีสายตาของสาวๆพนักงานและผู้ที่พักอาศัยในคอนโดหรูแห่งนี้มองตามอย่างชื่นชม
“คุณครามนี่หล่อไม่มีแผ่วเลยนะแก” พนักงานสาวสวนปรพจำหน้าเคาน์เตอร์สองคนมองตามหลังเจ้านายและพูดกันเบาๆ
“นั่นสิแก ถ้าได้สักครั้งจะไม่ลืมพระคุณเลยอ่ะ คิกคิกๆๆ..”
“คุณครามไม่ใช่สมภารเขาไม่กินไก่วัดหรอกย่ะ อย่างเราสองคนเขาไม่มองหรอกแกต้องสาวไฮโซอย่างคุณโอปอลโน่นแหละย่ะ” พนักงานสองคนคุยกันเบาๆเพราะเขมินทร์เป็นที่หมายปองของสาวๆเมืองภูเก็ตและจังหวัดใกล้เคียงเพราะชื่อเสียงของตระกูลธนกิตติศักดิ์ ใครๆก็อยากดองด้วย
เขมินทร์ขึ้นรถที่คนสนิทเปิดประตูให้แล้วทัตติก็ขับออกไปจากคอนโดหรูริมหาดป่าตองตามทางขึ้นเขาคดเคี้ยวเลาะไปตามชายฝั่งเพื่อไปบ้านของพ่อที่อยู่อำเภอถลางความจริงมีสองทางแล้วแต่สะดวกทางไหน
“นายสองคนไปทานข้าวก่อนนะ ฉันขอคุยกับนายหัวก่อน” เขมินทร์พูดจบก็ลงจากรถเดินเข้าไปในบ้านเขาเรียกพ่อว่านายหัวตั้งแต่ท่านแต่งงานใหม่
ปาดวาดอยู่บนห้องนอนพอได้ยินเสียงรถเข้ามาก็เดินไปมองที่หน้าต่างก็เห็นลูกเลี้ยงหนุ่มหล่อล่ำรูปร่างสูงโปร่งกำยำเร้าใจเพราะเป็นลูกครึ่งจึงดูโดดเด่นไม่ว่าใบหน้าหล่อเหลาที่ใด้เชื้อแม่มาเยอะกว่าพ่อแล้วสามีของเธอเองตอนหนุ่มๆก็หล่อเข้มเร้าใจทำให้เธออ่อยเขาจนทศพลตกหลุมเสน่ห์มีอะไรด้วยแล้วเธอก็ปล่อยให้ท้องเพื่อจับเขาจนสำเร็จได้แต่งงานกับเจ้านายหนุ่มหล่อแม้จะเป็นพ่อหม้ายเธอก็ไม่แคร์เพราะมันทำให้เธอมีชีวิตสุขสบายมาถึงทุกวันนี้
“มาแล้วเหรอตาคราม” นายหัวทศพลมองลูกชายคนโตแล้วยิ้มเขมินทร์เป็นตัวแทนของผู้หญิงที่เขารัก หากเธอไม่จากไปก่อนก็คงได้เห็นการเจริญเติบโตของลูกชายเหมือนที่เขาเห็นอยู่ทุกวันนี้
“นายหัวมีอะไรหรือเปล่าครับ” เขมินทร์ถามพ่อของเขาเบาๆก่อนจะนั่งลงบนโซฟาตรงข้ามท่าน
“พ่อว่าจะให้ปาณตมาทำงานที่ท่าเรือลูกจะว่ายังไง” ทศพลไม่เห็นด้วยแต่ภรรยาขอเขาก็เลยมาคุยกับลูกชายก่อน
“เขาจบอะไรมาครับ” เขมินทร์ถามพ่อทั้งที่รู้อยู่แล้วว่าน้องชายคนเล็กของปานวาดแก่กว่าเขาห้าปีและเรียนไม่จบปริญญาตรีจะทำงานอะไรได้หากขยันก็ว่าไปอย่างแต่นี่เอาแต่เกาะพี่สาวกินไปวันๆไม่ทำการทำงาน
“ตอนนี้ก็มีวุฒิมอหกนะ ครามก็ดูให้หน่อยสิลูกถ้าไม่ไหวจริงๆก็ค่อยว่ากัน” ทศพลพูดกับลูกชายเพราะภรรยารบเร้าเขาขอให้น้องชายไปทำงานที่ท่าเรือเขาก็ไม่อยากขัดแม้จะรู้ว่าปาณตไม่เอาถ่าน
“เดี๋ยวผมจะดูให้แต่ต้องตามวุฒิการศึกษานะครับ นายหัวมีเรื่องคุยกับผมแค่นี้เองเหรอครับ”
“ไม่ใช่ลูก คือเรื่องของหนูโอปอลน่ะทางพ่อแม่เขาถามพ่อว่าเมื่อไหร่จะจัดการเรื่องการแต่งงานให้เป็นเรื่องเป็นราวเสียทีเพราะลูกสาวของเขาเป็นฝ่ายเสียหายน่ะ” ทศพลตอบกับลูกชายหลังจากเมื่อวานเขาเจอโกเล่งกับภรรยาที่งานเลี้ยงวันเกิดของผู้ใหญ่ที่นับถือและอีกฝ่ายถามเขา
“ผมกับโอปอลเป็นแค่เพื่อนกันแล้วไม่ได้รักกันจะแต่งงานกันได้ยังไงครับ” เขมินทร์พูดกับยพ่อเขากับโอปอลคบกันมีข้อตกลงกันชัดเจนและตอนนี้เขาคงต้องคุยกันให้เข้าใจ
“แล้วพ่อจะตอบโกเล่งกับภรรยายังไงดีล่ะ” เขาก็เห็นข่าวของลูกชายกับโอปอลแต่ทั้งสองก็บอกว่าเป็นแค่เพื่อนกันไม่ใช่แฟนหรือคนรักแล้วทำไมโกเล่งถึงได้เร่งรัดให้เขาไปสู่ของลูกสาวของตัวเอง
“ก็ไม่ต้องพูดอะไรครับพ่อ เดี๋ยวให้โอปอลคุยกับพ่อแม่ของเขาเองครับ” เขมินทร์บอกพ่อเรื่องนี้ไม่ใช่ปัญหาของเขาเลยแต่เรื่องานเช้านี้ต่างหากล่ะ
“ยังไงก็อย่าให้ผู้ใหญ่มีปัญหากันนะคราม พ่อมีเรื่องแค่นี้แหละแต่จริงๆแล้วพ่ออยากเจอครามมากกว่าทั้งที่อยู่ภูเก็ตไม่ได้ไกลกันเลยพ่อยังไม่เจอหน้าครามเป็นเดือนๆ”
“ครับนายหัว แต่ว่าผมต้องไปก่อนเอาไว้ว่างเมื่อไหร่นายหัวก็ไปกินข้าวที่บ้านปู่สิครับ” เขมินทร์บอกพ่อขนาดท่านยังอยากเจอเขาก็เหมือนปู่ที่อยากเจอลูก
“งั้นเย็นนี้พ่อจะไปรอแกที่บ้านปู่ละกัน” ทศพลบอกลูกชายเพราะอาทิตย์นี้เขายังไม่ได้ไปหาพ่อ
“ครับนายหัว ผมไปก่อนนะครับต้องไปดูงานให้ปู่ด้วยครับ”
“ไปเถอะลูก” ทศพลพูดกับลูกชายแล้วยิ้มตามหลัง
เขมินทร์เดินออกไปจากห้องทำงานของพ่อเพื่อไปทานอาหารเช้าก่อนจะไปทำงานหากไม่มีความจำเป็นเขาจะไม่มาที่นี่เพราะไม่อยากเจอเมียของพ่อแต่วันนี้เขาจะไปดูงานที่ท่าเรือแล้วจะไปดูงานที่สวนปาล์ม สวนยาง โรงงานปาล์มและยางของปู่
“จะกลับแล้วเหรอคะคุณคราม ไม่อยู่ทานอาหารเช้าก่อนเหรอคะ” ปานวาดทำธุระส่วนตัวเสร็จก็ลงมาชั้นล่างและลูกเลี้ยงก็กำลังจะกลับหรือเอาจริงๆเธอก็รอเขมินทร์เพื่อถามเรื่องงานของน้องชาย
“ผมรีบไปทำงาน” ชายหนุ่มตอบห้วนๆ
“แล้วเรื่องงานที่ท่าเรือของน้องชายน้าล่ะคะ” ปานวาดถามลูกเลี้ยงเพราะน้องชายมาขอทำงานที่ท่าเรือแต่สามีบอกว่าต้องถามลูกชายก่อนเพราะเขมินทร์เป็นคนดูแลงานทั้งหมด
“เดี๋ยวผมจะดูให้แต่ต้องยื่นสมัครงานตามกฎของบริษัท” เขมินทร์ตอบเสียงเรียบเขาไม่ชอบการใช้เส้นสายเข้าทำงานและพนักงานทุกคนที่ทำงานกับเขาก็ทำด้วยความสามารถของตัวเองทั้งนั้น
“ทำไมต้องสมัครล่ะบริษัทของเราเองและนายปาก็เป็นน้องชายแท้ๆของน้าแล้วจะมาช่วยดูแลเป็นหูเป็นตาที่บริษัทให้ก็ยิ่งดีสิคะ” ปาดวาดไม่พอใจแต่ไม่กล้าแสดงออกนอกหน้าเพราะอำนาจทั้งหลายอยู่ในมือลูกชายคนโตของสามีส่วนลูกสาวของเธอยังเรียนไม่จบปริญญาโททั้งที่ตอนนี้อายุยี่สิบห้าแล้ว
“ที่ท่าเรือเรามีลูกค้าทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติพนักงานทุกคนต้องพร้อมจะบริการแขกแล้วเบื้องต้นก็ต้องพูดภาษาอังกฤษได้หากน้องชายของคุณวาดมีคุณสมบัติตามที่บริษัทของเราต้องการก็ไม่น่าจะมีปัญหา ผมขอตัว” เขมินทร์พูดจบก็เดินออกไปจากบ้านตรงไปที่รถแล้วปาณตก็ขับรถกระบะแต่งซิ่งเข้ามาจอดใกล้กับรถของเขาที่มีคนสนิทยืนอยู่ข้างรถและเบรกเสียงดัง
“เอี้ยดดด...”
ปาณตเบรกรถเสียงดังก่อนจะเปิดประตูรถลงมาแล้วจะเข้าไปทักทายลูกชายของพี่เขยแต่เขมินทร์เดินไปขึ้นรถอย่างไม่สนใจเขาทั้งที่เขารีบลงจากรถมาทักทายยังไม่ทันได้แต่มองตามท้ายรถเอสยูวีคันใหญ่ของเขมินทร์ด้วยความไม่พอใจแล้วเดินเข้าไปในบ้านเพื่อถามพี่สาวเรื่องงานตอนนี้เขาต้องการปล่อยของให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติและลูกเรือแต่พี่สาวไม่รู้เรื่องนี้
“แกขับรถให้มันดีๆหน่อยได้มั้ยนายปาเบรกแต่ละทีหัวใจพี่จะวายแล้วเกรงใจนายหัวบ้าง” ปานวาดว่าน้องชายทันทีที่เห็นหน้าซึ่งพี่สาวของเธอก็มีสามีอยู่กรุงเทพฐานะก็ดีพอมีอันจะกินก็มีแต่น้องชายคนเล็กที่ไม่เอาถ่านวันๆก็ขับรถร่อนไปมาแล้วมาขอเงินเธอใช้
“อย่าเพิ่งบ่นเลยน่าพี่วาด เมื่อกี้ผมเห็นลูกชายของนายหัวเขามาทำไม” ปาณตคิดว่าเขาต้องได้งานนี้ยังไงพี่เขยก็ไม่กล้าปฏิเสธเขาแน่
“ก็มาเรื่องงานของแกนั่นแหละ ไปคุยกันที่หน้าบ้านเถอะ” ปานวาดชวนน้องชายไปคุยหน้าบ้านเธอไม่อยากให้ใครได้ยิน
“มีอะไรพี่วาดมันเกี่ยวอะไรกับลูกเลี้ยงของพี่ล่ะ”
“ก็นายหัวเขาให้นายครามตัดสินใจเรื่องนี้น่ะสิ และนายครามบอกว่าแกต้องไปยื่นใบสมัครที่บริษัทแล้วเขาจะพิจารณาตามวุฒิการศึกษา”
“ได้ยังไงพี่วาด ผมเป็นน้องชายพี่นะทำไมจะต้องไปสมัครงานด้วยอายเขาตายเลย” ปาณตร้องโวยวายกับพี่สาวอย่างไม่พอใจที่จะให้เขาสมัครงานที่บริษัทของพี่เขย
“ก็ที่ท่าเรือนายครามก็เป็นคนดูแลบริหารนายหัวก็ให้เขาตัดสินใจเรื่องงานของแกน่ะสิ” ปาดวาดตอบน้องชายเธอคิดว่าเขมินทร์จะฟังพ่อแต่ที่ไหนได้พ่อกลับฟังลูก
“แล้วผมจะได้งานมั้ยล่ะเนี่ย ลูกเลี้ยงของพี่มันยิ่งไม่ชอบหน้าผมอยู่ด้วย” ปาณตพูดอย่างหัวเสียเมื่อไม่ได้เป็นไปตามที่เขาคิดไว้ว่าจะเข้าไปทำงานที่ท่าเรือได้ง่ายๆเพราะพี่เขยฝากให้
“แกก็อย่าเพิ่งโวยวายไปเดี๋ยวรอให้พี่คุยกับนายหัวก่อนแล้วถ้าพี่ไม่โทรเรียกแกอย่ามาที่นี่อีกนะ” ปานวาดบอกน้องชายที่หาเรื่องเดือดร้อนมาให้ตลอดจนสามีระอาไม่รู้จะช่วยยังไงยังดีที่ปาณตไม่ยุ่งกับยาเสพติด
“ผมอยากทำงานจริงๆนะพี่วาด ที่ผ่านมาผมรบกวนพี่มาตลอดถ้าผมมีงานทำมีเงินเดือนผมก็จะไม่รบกวนพี่อีกไง” ปาณตบอกพี่สาวเหมือนคิดได้จริง
“พี่รู้แต่แกจะไม่ได้ทำหน้าที่ต้อนรับแขกดูแลแขกนะ เพราะแกพูดภาษาอังกฤษงูๆปลาๆอาจจะได้ทำแค่ตำแหน่งเด็กเรือแกจะทำมั้ยล่ะ” ปานวาดถามน้องชายเธอก็ไม่พอใจลูกเลี้ยงเช่นกันที่ไม่เห็นหัวเธอทั้งที่มีศักดิ์เป็นแม่เลี้ยง
“งานอะไรผมก็ทำได้ทั้งนั้นแหละพี่วาด” ตอนนี้จะตำแหน่งหน้าที่อะไรเขาก็ทำหมดเพราะอยากมีเงินใช้
“งั้นแกกลับไปก่อนได้เรื่องยังไงพี่จะโทรบอก”
“ครับพี่วาด แต่ว่าตอนนี้พอจะมีให้ผมสักหมื่นมั้ยครับพอดีติดค่าซ่อมรถไว้ยังไม่ได้จ่ายไอ้บังก็โทรมาตามยิกๆ” ปาณตขอเงินของพี่สาวในรอบที่สามในเดือนนี้ก็ปาไปสามหมื่นแล้ว
“ตอนนี้ฉันไม่มีหรอก เดี๋ยวจะโอนไปให้แต่ฉันให้แกแค่ห้าพันนะแล้วใช้จ่ายประหยัดหน่อยฉันไม่มีเงินมาให้แกถลุงนะ” ปานวาดบอกน้องชายที่ไม่เอาถ่านตอนนี้อายุก็สี่สิบแล้วยังไม่เป็นโล้เป็นพาย
“แค่ห้าพันมันจะพอใช้ได้ยังไงล่ะพี่”
“จะเอามั้ย”
“เอาสิพี่ งั้นผมไปนะอย่าลืมโอนเงินให้ด้วยแล้วเรื่องงานด้วยนะ” ปาณตบอกพี่สาวแล้วเดินไปขึ้นรถแล้วขับออกไปจากบ้านหลังใหญ่ที่เขาเข้าออกมาตั้งแต่พี่สาวแต่งงานกับนายหัวคนดังของเมืองใต้
ปานวาดมองตามหลังน้องชายขับรถออกไปจากบ้านแล้วเดินเข้าไปในบ้านก็เจอสามีนั่งดื่มกาแฟอยู่ที่โต้ะอาหารจึงเดินไปนั่งด้วย
“น้องชายคุณล่ะ” ทศพลถามภรรยาเมื่อได้ยินเสียงรถขับออกไป
“กลับไปแล้วค่ะ พอดีนายปามาถามเรื่องงานที่ท่าเรือค่ะ”
“ก็ให้ไปสมัครที่บริษัทเลยละกัน ผมบอกตาครามแล้วเดี๋ยวเขาจะหาตำแหน่งให้เองแต่คงไม่ได้ตามที่คุณขอไม่ได้ต้องดูตามความสามารถของนายปา”
“นายหัวฝากให้หน่อยไม่ได้เหรอคะ นายปาเป็นน้องชายของวาดจะให้เป็นเด็กเรือวาดจะเอาหน้าไปไว้ไหนคะ” ปานวาดพูดกับสามีหากน้องชายไปเป็นเด็กเรือเธอก็อายผู้คนทั้งจังหวัดน่ะสิ
“คุณทำงานมาก่อนก็น่าจะรู้ว่ามันผิดพลาดไม่ได้และตาครามเป็นคนรับผิดชอบก็ต้องให้เขาจัดการเองผมไม่มีสิทธิ์ไปแทรกแซงงานของเขา” ทศพลตอบภรรยาเขายกย่องปานวาดเป็นภรรยาออกหน้าออกตาแต่ไม่ได้มีสิทธิ์ในทรัพย์สินทั้งหมดของเขาที่หามาได้ก่อนอยู่กินกับปาดวาดแต่เขาก็เลี้ยงดูเธอให้สุขสบายไม่ต้องทำงานแค่เลี้ยงลูกแต่ตอนนี้ลูกๆก็โตแล้วเธอก็นั่งกินนอนกินเท่านั้น
“นายหัวยกทุกอย่างให้คุณครามหมดแล้วลูกของวาดจะได้อะไรคะ” ปานวาดว่าสามีเพราะงานทุกอย่างเขายกให้เขมินทร์เกือบหมดแต่ยังเหลือโรงแรมที่กระบี่กับชุมพรที่นายหัวยังดูแลอยู่
“มันยังไม่ถึงเวลาเลยนะคุณวาด ยัยวรากับตาธัญยังเรียนไม่จบเลยเอาไว้ถึงเวลาก่อนแล้วค่อยว่ากัน” ทศพลพูดกับภรรยาก่อนจะลุกออกไปจากห้องรับแขกแล้วไปขึ้นรถวันนี้เขาจะไปดูงานที่พังงา
ปานวาดมองตามสามีด้วยความไม่พอใจแต่ทำอะไรไม่ได้ทุกวันนี้เธอก็อยู่ดีกินดีมีหน้ามีตาในสังคมถือว่าเป็นไฮโซของเมืองภูเก็ตที่ไปไหนมาไหนก็มีแต่คนรู้จักเคารพนับถือก่อนจะลุกขึ้นแล้วไปแต่งตัวเพื่อไปนวดผ่อนคลายกับเพื่อนในสังคมเดียวกัน