บทที่ 1 ต้นเหตุของความหายนะ

3182 Words
เช้าวันถัดมา...ศกุนียอมรับว่าแฮงค์หนักอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ด้วยอายุที่เพิ่มขึ้นด้วย ทั้ง ๆ ที่ก็กินเหล้าเท่าเดิม แต่ร่างกายกับเตือนเธอว่าไม่ไหวแล้ว แต่ด้วยความไม่ยอมเสียหน้าของศกุนีไม่ยอมให้ตัวเองตกอยู่สภาพโทรมแบบนั้นเด็ดขาด หัวเด็ดตีนขาดยังไงเธอไม่ยอมไปออฟฟิศในสภาพคุณยายไม่ได้เด็ดขาด สุดท้ายแล้วกว่าจะแต่งตัวเสร็จ กว่าจะฝ่ารถติดมาถึงออฟฟิศได้ก็เกือบสิบโมง สำหรับศกุนีแล้วเพื่อนน้อง ๆ พากันหมั่นไส้เธอจนชินชาแล้วแหละ โดยเฉพาะตั้งแต่ไลลาลาออกหวยก็มาออกที่เธอ ใคร ๆ ก็กล่าวหาว่าเธอเป็นต้นเหตุ ต้นเหตุอะไรอีนกคนนี้ยังไม่ทันทำอะไรเลย ไลลาลาออกไปมีผัวมีลูกมีชีวิตที่ดีจนเธอเองก็ยังอิจฉาที่ตัวเองยังมานั่งทำงานอยู่แบบนี้ “เจ๊นก ทำไมเพิ่งมาเนี่ย ลูกค้ารอที่ห้องประชุมแล้ว” เสียงของน้องนารี เด็กฝึกงานที่กลายมาเป็นพนักงานบริษัทของที่นี่เต็มตัว และกลายเป็นเด็กในทีมเธอ ที่การทำงานก็ดี วินัยก็เด่น “โทษทีหนู พอดีพี่ปวดหัว” ศกุนีโกหกเป็นเรื่องถนัดอยู่แล้ว เธอระดับหัวหน้าไม่อยากให้เด็กมันรู้ว่าเธอเมาหนักแล้วเมาค้างมีหวังโดนนินทาไปอีกแน่ “เป็นอะไรมากหรือเจ๊ ให้เรียกรถพยาบาลไหม” การประชดประชันจะเป็นใครไปได้นอกจากน้องรักของไลลา ก็คือ น้องนุษา “นุษา แกอย่าประชดพี่ได้ไหม จะอะไรนักหนาคนยิ่งปวดหัวไม่มีเวลาเล่นหรอกนะ” ถ้าเวลาปกตินกก็มีเวลามานั่งต่อล้อต่อเถียงกับนุษาอยู่หรอก ศกุนีเองก็ถือว่าฝีปากยืนหนึ่งในย่านนี้ “เออ เจ๊ ขอโทษแล้วกัน แต่ลูกค้าที่นัดไว้มารอที่ห้องประชุมแล้วนะเจ๊ ไหวหรือเปล่า หรือพรุ่งนี้ดี” นุษาเห็นสีหน้าไม่ดีของหัวหน้าสาวแล้วก็อดห่วงไม่ได้ ไม่ได้ห่วงสุขภาพเจ๊นกอะไรนะ แต่ห่วงงานมากกว่า กลัวว่าไม่รอด เห็นแบบนี้อดคิดถึงไลลาไม่ได้ นุษาชอบการทำงานกับไลลามากกว่าเจ๊นก “ไม่ดีกว่า ให้ลูกค้ารอแล้วมันไม่ได้ ฉันทำได้อยู่น่า พวกแกไม่ต้องเป็นห่วง ฉันรู้ว่าพวกแกไม่ชอบพี่ แต่พี่ก็บอกเลยว่าไม่ทำอะไรให้เดือดร้อนหรอก” เมื่อเห็นสีหน้าที่แสดงออกได้ชัดเจนว่าเป็นห่วงมาเธอจะเอางานไม่รอด ศกุนีก็ยืนยัน เพราะถึงยังไงจะผ่านไม่ผ่าน เธอก็ไม่ยอมให้เด็กพวกนี้ซวยไปกับเธอหรอกนะ ศกุนีอดมองไปที่ห้องที่แสนเงียบของเจ้านายหนุ่มหล่ออย่าง เนวิน นึกแปลกใจว่าเจ้านายคนขยันของเธอหายไปไหน ปกติรักการทำงานจะตาย แล้ววันนี้หายหัวไปไหน หญิงสาวคิดเพียงเท่านั้นก็รีบเข้าไปเสนองานที่นัดกับลูกค้าไว้ แม้สุขภาพจะไม่เอื้ออำนวย นกหอบเอกสารที่น้องทั้งสองเตรียมไว้ให้เข้าไปในห้องรับรอง “อ้าว คุณนกมาแล้ว” เสียงทักทายของหนุ่มวัยกลางคนคุณโตมร ลูกค้าที่ดูชื่นชอบเธอเป็นพิเศษ จนเธอเองก็สัมผัสได้เช่นกัน ก็สายตาแสดงออกชัดขนาดนั้น เป็นเวรกรรมอะไรของอีนกเนี่ย ทำงานก็เจอเฒ่าหัวงู “ค่ะ สวัสดีค่ะคุณโตมร รอนกนานหรือเปล่าคะ” ศกุนีกัดฟันทัก ทั้ง ๆ ที่ในใจเธอทั้งอยากจะด่าตาเฒ่าคนนี้เหลือเกิน ถ้าไม่ติดว่าเป็นลูกค้าคนสำคัญ คนอย่างนกไม่มีทางง้อหรอก หลังจากไลลาลาออกงานทุกอย่างก็ดูเหมือนถูกเทมาที่เธอจนแทบจัดการไม่ทันอยู่แล้ว “ไม่นานครับ คุณนกมานั่งข้างผมดีกว่าครับ” คุณโตมรตบลงบนเก้าอี้ตัวข้าง ๆ นกได้แต่ถอนหายใจเข้าปอดลึก ๆ ก่อนบอกตัวเองในใจว่ามันคืองาน ยอมเดินไปนั่งข้าง ๆ เพื่อหวังให้ลูกค้าแสนเจ้าเล่ห์คนนี้ยอมตกลงร่วมงานกับบริษัทของเธอ “ค่ะ เรามาเข้าเรื่องดีกว่านะคะ” พอนั่งลงปุ๊บ หญิงสาวก็รีบคุยเรื่องงานทันที เท่าที่รู้จักตาเ*******ูคนนี้ เธอพอจะเข้าใจว่า ชายหนุ่มใหญ่ชอบชวนเธอคุยอย่างอื่นมากกว่าเรื่องงาน “อย่าเพิ่งสิครับคุณนก ใจร้อนจังเลยนะครับ อยากจะรู้จังว่าอย่างอื่นจะร้อนเหมือนกันไหม” น้ำเสียงช่างฟังดูหื่นกระหายเสียจนศกุนีเองก็ขนลุกขนชัน อยากจะถีบหน้าอีตาเฒ่าหัวงู “ไม่ร้อนนกหรอกนะ นกเป็นคนใจเย็นจะตาย” เย็นเหมือนน้ำต้มไก่นะสิ นกพูดได้แค่นั้นก็ได้แต่ฉีกยิ้มกว้างให้กับลูกค้า ท่องในใจรอบที่ล้านว่านี่คือ ลูกค้าคนสำคัญ ถ้าดีลครั้งนี้ไม่ผ่าน คุณเนวินต้องฆ่าเธอแน่ ๆ เนวินก็อีกคนชอบกินหัวเธอตลอด ทุกครั้งที่เจอหน้า ก็ใช่สิ เธอ...ไม่ใช่ลูกรักของบริษัทเหมือนอย่างไลลานี่ ดวงตากลมโตเบิกโพลงด้วยความตกใจเมื่อมือหนาของลูกค้าหนุ่มใหญ่มาลูบหน้าขาสวยของเธอ หญิงสาวเหลียวมองใบหน้าที่เต็มไปด้วยความหื่นกระหาย แววตาของหนุ่มใหญ่มองมาอย่างวาววับอย่างเห็นได้ชัด ศกุนีอยากจะร้องกรีดออกมาเสียงดัง ทำไมเธอต้องมาเจออะไรแบบนี้ด้วยเนี่ย “เออ...คุณโตมรคะ ช่วย เอา มือ ออก ไป จาก ตัว นก ได้ ไหมคะ” ศกุนีพยายามย้ำคำทีละคำอย่างชัดเจน หวังว่าลูกค้าหน้าหื่นจะลามือง่าย ๆ แต่เปล่าเลย หนุ่มใหญ่ยิ่งบีบขาของเธอแรง ๆ “คุณนกอย่าดุมากสิครับ เดี๋ยวผมไม่ตกลง บริษัทคุณจะแย่เอานะครับ ผมเป็นลูกค้าคนสำคัญนะครับ เอาเป็นว่าคุณนกควรจะใจดีกับผม ยอมผมเถอะนะครับ” เปิดเผยธาตุแท้แล้วใช่ไหม ตาเฒ่าหัวงู นกกำมือแน่น เธอทนไม่ไหวแล้วเอานะ เป็นไงเป็นกันวะ เธอก็ทนไม่ไหวเต็มทนแล้ว งานก็ยากแถมยังต้องมาเจอลูกค้าหื่นที่เธอต้องเอาใจ เป็นลูกค้าแล้วยังไงวะ เธอก็คนเหมือนกัน คนอย่างอีนกไม่ยอมเสียศักดิ์ศรีเพราะคนเฮงซวยแบบนี้หรอกนะ หญิงสาวลุกขึ้นยืนพร้อมหยิบแฟ้มงานเอาไว้ มองชายหนุ่มใหญ่ที่มองเธออย่างสงสัยว่าเธอลุกขึ้นทำไม นกตัดสินใจทำในสิ่งที่อยู่ในใจมาตลอด “กูทนไม่ไหวแล้วนะ ไอ้แก่” ศกุนีพูดขึ้นพร้อมกับเอกสารในมือฟาดลงบนศีรษะของลูกค้าคนนั้นอย่างแรง โดยไม่ไว้หน้า ไม่สนแล้วว่าใครอยู่ในสถานะไหน ตอนนี้มีเพียงความโกรธเกรี้ยว “คุณทำอะไรเนี่ย” โตมรลูบศีรษะตัวเอง มองหญิงสาวที่ประทุษร้ายร่างกายของตน นึกชอบใจอยู่นิด ๆ ว่าเธออาจจะชอบมีรสนิยมซาดิสม์ พอกำลังจะเอื้อมมือไปจับมือรั้งหญิงสาวเอาไว้ ถูกเธอยันตัวด้วยเท้า ปลายแหลมของรองเท้าส้นสูงแทงเข้ามาที่ท้องจนเขารู้สึกจุกในทันที ตุ๊บ! ลูกค้าวีไอพีล้มลงไปอย่างหมดสภาพ “เธอทำแบบนี้กับฉันได้ได้ยังไง” โตมรตะโกนออกมา น้ำเสียงแข็งกร้าวเต็มเปี่ยมไปด้วยความโกรธจัด “กูก็ถีบมึงยังไงล่ะ ไอ้แก่ตัณหากลับ” พูดจบศกุนีก็ออกไปจากห้อง ไปหาที่เงียบ ๆ สงบสติของตัวเองซะก่อน แม้สายตาของพนักงานหลายคนจะมองเธอ แล้วพากันซุบซิบนินทาเธอก็ไม่สนแล้ว ภายในใจชินชาแทบไม่รู้สึกอะไรกับพวกนี้ ออกรำคาญมากกว่า “ทำไมกูต้องมาเจออะไรด้วยเนี่ย” พออกมาข้างนอกสูดอากาศข้างนอกตึก พอเห็นยามกำลังสูบบุหรี่เธอก็เดินไปหาทันที พอเครียดแล้วความอยากบุหรี่มันก็อยากทันที “ลุง หนูขอตัวหนึ่งสิคะ” ศกุนีขอบุหรี่จากลุงยาม เธอขับรถผ่านลุงยามก็ช่วยเธอตลอด ลุงยามผู้แสนจะใจดีก็ยื่นบุหรี่ให้เธอตัวหนึ่งพร้อมด้วยไฟแช็ก “เครียดเหรอครับคุณ” “ขอบคุณค่ะลุง ใช่ค่ะ ไม่รู้จะโดนไล่ออกหรือเปล่า” หญิงสาวเปรยออกไป เธอเป็นคนที่ชอบเล่าเรื่องเครียดให้กับคนที่เธอไม่รู้จักฟัง เพราะเธอคิดคนที่ไม่รู้จักเธอเขามักจะรับเธอโดยไร้การตัดสินใด ๆ “อ้าว ทำไมล่ะครับ” “เกิดเรื่องขึ้นนิดหน่อยนะคะ แต่ช่างเถอะ เดี๋ยวอะไรเกิดขึ้น หนูคิดว่าจัดการได้ ดีเหมือนถ้าออก หนูจะบ้าน คิดถึงพ่อแม่เหมือนกัน” “สู้ ๆ นะครับคุณ ชีวิตมันก็แบบนี้แหละครับ เราไม่สามารถทำงานให้ถูกใจทุกคนได้ตลอดหรอกครับ ทำก็เพราะเงิน” ลุงยามพูดขึ้น มันช่างกระแทกใจคนทำงานหาเช้ากินค่ำอย่างพวกเขาเหลือเกิน ศกุนีเข้าใจดีเลยแหละต้องดิ้นรนขนาดไหนที่ต้องเข้ามาทำงานในเมืองกรุง โอกาสจ้างงานที่นี่สูงกว่าอยู่บ้าน ใครกันจะอยากห่างพ่อห่างบ้านมาล่ะ ที่นี่คนก็ใจร้ายคอยแต่หักหลังกันตลอดเวลา นกพ่นควันบุหรี่ลอยฟุ้งไปในอากาศ พลางหันมองไปทางลุงยามคนใจก็จะมองด้วยแววตาที่รู้สึกขอบคุณ อย่างน้อยวันนี้เธอก็ได้ระบายความทุกข์ในใจออกไปได้บ้าง “ขอบคุณนะลุง” หญิงสาวไม่ลืมขอบคุณลุงยามคนนั้น ก่อนที่ลุงยามจะเดินไปที่ป้อมยาม ทำงานต่อ เช่นเดียวกับเธอที่ต้องกลับสู้งานอีกเหมือนเดิม ไม่รู้ว่าจะเจอกับอะไรบ้าง เอาว่ะอีนก...อย่างมากก็แค่...ไล่ออก เธอก็จะกลับบ้าน ศกุนีทำงานที่กทม.มานานพอควรเงินเก็บ เงินสำรองก็พอมีบ้าง การกลับไปพักผ่อนที่บ้านตัวเองก็คงดีไม่น้อยเหมือนกัน หลังจากสูบบุหรี่เสร็จแล้ว...หญิงสาวก็มายืนสูดลมหายใจเข้าปอดลึก ๆ อยู่หน้าลิฟต์ จนพี่คนที่กดลิฟต์ให้ต้องเอ่ยทักเธอ นกได้แต่ยิ้มเจื่อน ๆ เป็นการแก้เก้อ ถึงจะบอกว่าตัวเองไม่เป็นไร แต่ก็อดกังวลไม่ได้ หลังจากนั้นหญิงสาวก็ได้รับการแจ้งเตือนข้อความจากเจ้านายที่ไม่ต้องคาดเดาว่าเป็นเรื่องอะไร เรื่องที่เธอเพิ่งสร้างไปเมื่อกี้ยังไงล่ะ “เจ๊นกเกิดเรื่องแล้ว คุณเนวินเรียกพบเจ๊ใหญ่เลย” คนแรกที่เป็นคนทักมักจะเป็นน้องนารีที่ขี้ตระหนกเหลือเกิน นิ่งไว้นก นิ่งไว้... นึกหมั่นไส้เจ้านายหนุ่ม พอเกิดเรื่องปุ๊บ ก็โผล่หัวมากทันที เวลาเธอมีปัญหาเขาหายไปไหน แล้วทำไมเธอต้องทำเหมือนกำลังน้อยใจด้วยนก “เออ... รู้แล้ว ๆ คนที่โดนคือพี่” นกส่ายหน้าก่อนเดินเข้าไปในห้องของท่านประธาน พอเข้ามาหญิงสาวก็ถอนหายใจ เมื่อเห็นคนฟอร์มจัด นั่งหลังให้เธอ เหมือนกำลังชมบรรยากาศของตึกระฟ้าที่มองผ่านกระจกใสเห็นอาคารบ้านเรือนกลางกรุง ตึกรามบ้านช่องพวกนั้นมันมีอะไรให้น่าสนใจมากกว่าเธอกันนะ เรียกมาแล้วยังทำเก๊กอีก อีนกนะอีนก...ชีวิตไม่เคยเจออะไรที่เป็นปกติเลยใช่ไหม เขาคิดว่าตัวเองเป็นพระเอกละครหรือไง ละครสมัยนี้เลิกดูไปนานแล้ว ไร้สาระ... “คุณเนวินคะ ฉันมาแล้วค่ะ” ศกุนีเอ่ยขึ้นทำลายความเงียบ จนชายหนุ่มหมุนเก้าอี้ตัวใหญ่ หันมาเผชิญหน้ากับเธอ ชายหนุ่มวัยสี่สิบแล้วยังดูดีขนาดนี้ ไม่ต้องบอกว่าเขาดูแลตัวเองดีขนาดไหน นกสะบัดหัวเบา ๆ เธอไม่ควรหลงเสน่ห์ชายหนุ่มคนดี รู้ดีว่าเขาร้ายและจ้องจะเล่นงานเธอขนาดไหน เธอควรระวังตัวเองเอาไว้นะนก “รู้ตัวใช่ไหมว่าทำอะไรลงไป” น้ำเสียงอันเย็นยะเยือกของชายหนุ่มทำให้นกสะดุ้งเล็กน้อย แต่เธอก็ยังเก็บอารมณ์ตัวเองเอาไว้ได้อย่างดีเชียวล่ะ เธอไม่อยากให้ใครสมเพชในสภาพแบบนี้ เข้มแข็งไว้นก... “ค่ะ..รู้ดี คุณเนวินจะให้นกออกเลยไหมคะ” ศกุนีไม่อยากอ้อมค้อม วันนี้เจอเรื่องราวมากมายแล้ว แค่นี้ร่างกายก็แทบจะทนไม่ไหว “คุณคิดว่าแค่นี้เป็นการรับผิดชอบหรือไงคุณนก” เนวินยังพูดเสียงเรียบมองมาที่หญิงสาว ยืนนิ่งอยู่ “คุณช่วยบอกผมหน่อยได้ไหมว่าทำไมคุณถึงทำกับคุณโตมรแบบนั้น” “คุณต้องการความจริง?” นกถามเจ้านาย พร้อมกับแบะปากต่อหน้า ไม่นึกไม่ฝันว่าเจ้านายของเธอจะขอเหตุผลจากเธอด้วย ปกติเห็นแต่โอ๋ไลลา ส่วนเธอนะ ด่าเอาด่าเอา ทุกวันนี้อยู่มาได้ไม่ลาออกก็บุญบริษัทเท่าไหร่แล้ว เนวินพยักหน้านิ่งยังรักษามาดนักธุรกิจสุดขรึมเอาไว้ อยากจะฟังเหตุจากปากของลูกน้องตัวเองว่าทำไมเลือกทำแบบนั้น แม้ว่าผลกระทบต่อบริษัทมันมากมายมหาศาลขนาดไหน คุณโตมรโทรมาตำหนิเขาใหญ่ ทั้งข่มขู่ต่าง ๆ นานา แต่เขาก็ไม่ได้ตอบโต้อะไร บอกแค่คนของเขา เขาก็ขอจัดการด้วยตัวเอง “ตาแก่นั่นมันหื่น สมควรแล้วที่โดนแบบนั้น คุณรู้ไหมคุณเนวินว่าฉันต้องเจอตาแก่หื่นนั่นจ้องจะงาบฉันขนาดไหน” นกรีบพรั่งพรูออกมาทันทีโดยไม่รั้งรอ นาทีนี้ใครจะหาว่าเธอฟ้องก็ช่าง แต่เธอก็มีสิทธิ์ปกป้องตัวเองเหมือนกัน แต่ดูชายหนุ่มก็ยังไม่ทุกข์ร้อนอะไรกับเธอ ใช่...สิเธอจะคาดหวังอะไรจากเจ้านายคนนี้ นักธุรกิจยังไงก็เป็นยังธุรกิจ ความเมตตาลูกน้องสักนิดก็ไม่มี “นก คุณควรใจเย็นมากกว่านี้รู้ไหม ถ้าเป็นไลลาคงจัดการปัญหาต่างจากคุณแน่ ๆ” คำพูดของเนวินเหมือนฟ้าผ่าลงกลางใจของศกุนี อะไร ๆ ก็ไลลา ออกไปตั้งนานแล้วคนในออฟฟิศยังอาลัยอาวรณ์กันหนักหนา คนที่ควรเห็นใจมากที่สุดตอนนี้คือเธอนะ เธอคือคนที่ถูกไอ้หื่นนั่นมันล่วงละเมิด โดนแค่นั้นมันยังน้อยไป “เห้อ! คุณเนวิน ถ้าไลลามันดีนักคุณไม่เอางานให้มันทำเลยล่ะ คุณช่วยเห็นใจลูกน้องคุณหน่อยได้ไหม ฉันเป็นฝ่ายโดนถูกกระทำแท้ ๆ หรือคุณจะให้ฉันเป็นฝ่ายไปกราบขอโทษไอ้บ้านั่นใช่ไหมถึงจะพอใจ ฉันไม่เอาหรอกนะ” ศกุนีรู้ตัวเองดีว่ากำลังโกรธจัด แล้วเธอก็พยายามระงับความโกรธนั่นเอาไว้อยู่ “คุณนก ช่วยใจเย็นหน่อยได้ไหม” เนวินรับรู้ได้เป็นอย่างดีว่านกกำลังโกรธจัด และเขาอยากให้เธอใจเย็นลง เขาไม่ได้ตั้งใจเปรียบเทียบ เขาแค่อยากให้ศกุนีใจเย็นลง การทำงานของศกุนีต่างจากไลลาสิ้นเชิง ไลลาเป็นคนละเอียด ทำงานอย่างใจเย็น มีสติ ส่วนหญิงสาวอีกคนนะเหรอ ทำงานเร็ว แต่ใจร้อน จนใครหลายคนก็เอือมระอาหมดแล้ว “ฉันใจเย็นเสียยิ่งกว่าใจเย็น พูดมาเถอะคุณเนวิน คุณจะไล่ฉันออกใช่ไหม” ศกุนีถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบไร้ความรู้สึก จนคนฟังเองก็เริ่มกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบากเหมือนกัน ศกุนีนับว่าเป็นคนที่มีบุคลิกซับซ้อนและน่าค้นหายิ่งกว่าอะไร “ไม่!” คิ้วโก่งเหมือนคันศรขมวดเป็นปมอย่างเห็นได้ชัด นกแปลกใจเธอทำผิดขนาดนี้แล้ว การไล่ออกคงเป็นคำตอบเดียวที่เนวินจะให้เธอได้ หรือ ไม่ก็คงให้เธอเลือกลาออกไปเอง “ทำไม” นกเอ่ยถามกลับบ้าง “ความผิดของคุณไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย แต่ผมก็ไม่อยากไล่คนที่มีคุณภาพอย่างคุณออกจากองค์กรของเราไม่ได้หรอกนะ เอาเป็นว่าผมตัดสินใจให้คุณพักงาน 2 เดือน พักผ่อนเพื่อทบทวนตัวเองดีกว่านะครับคุณนก” แม้คำพูดของเนวินจะดูมีเหตุผลและทำให้ศกุนีนิ่งงันไปเล็กน้อย เธอก็ได้ตัดสินใจแล้วเหมือนกันว่า เธออยากจะลาออก อยากไปให้พ้น ๆ คนใจร้ายเสียที “แต่ฉันไม่..” “เอาเป็นว่า คำสั่งของผมเป็นคำขาด คุณห้ามขัด วันนี้คุณเหนื่อยมากแล้วไปพักผ่อนเถอะ” เนวินโบกมือให้หญิงสาวออกไปจากห้อง ศกุนีเข้าใจเป็นอย่างดีว่าเธอควรออกไปจากห้องของเจ้านายหนุ่มได้แล้ว “เผด็จการ! เผด็จการขนาดนี้ไปบริหารประเทศไหมล่ะจะได้เจริญ ๆ” หญิงสาวออกมาจากห้องพร้อมกับประชดประชันออกมาด้วยคำพูด เพราะไม่สามารถพูดออกมาต่อหน้าเขาได้ “เจ๊ เกิดอะไรขึ้น” “เป็นไงบ้างคุณเนวินเขาไล่พี่ออกไหม” “เจ๊นกจะออกจริง ๆ เหรอ” ดูแต่ละคำถามมีแต่คำสรรเสริญเธอทั้งนั้น เธอควรจะดีใจใช่ไหมที่น้อง ๆ มันแสดงออกว่ารักเธอขนาดนี้ นกยิ้มก่อนรอให้พวกน้อง ๆ ถามให้หมด “พวกแกฟังพี่นะ คุณเนวินบอสหนุ่มหล่อของพวกแก ไม่ได้ไล่ฉันออก ให้ฉันพักงานสองเดือน พวกแกจะไม่เจอหน้าไม่อีกยาว ๆ สบายใจหรือยัง”นกตอบคำถามทั้งหมดในประโยคเดียว ก่อนเดินไปโต๊ะทำงานตัวเองหยิบกระเป๋ามาสะพายบนบ่า “หว้า...แบบนี้ก็ไม่มีเจ๊นกให้กวนประสาทแล้วสิ” น้องนารีน้องเล็กในบริษัทพูดขึ้น ส่วนเจ๊นกก็ได้แต่ยิ้ม ๆ ก่อนเดินผ่านและตอบกลับ “ไม่มีพี่ พวกแกก็ไม่มีใครให้เมาท์นะสิ ฉันรู้ทันหรอกนะ ตั้งใจทำงานก็แล้วกันทุกคน หวังว่าครั้งนี้พี่คงสั่งงานพวกแกเป็นครั้งสุดท้ายแล้วแหละ” พูดจบ ดูเหมือนทุกคนต่างพากันหน้าเจื่อนไปด้วยความรู้สึกผิดเล็ก ๆ ที่ผุดขึ้นมาในใจ ตลอดเวลาที่ผ่านมาเจ๊นกแทบไม่เคยโต้กลับเรื่องนินทาสักเท่าไหร่ เธอทั้งเฉยชา จนใครต่างก็พากักนคิดว่า ยัยเจ๊นกมันไม่ถือสาที่พวกเขานินทา แต่จะมีใครบ้างล่ะที่จะมีจิตใจที่เข้มแข็งสามารถทนแรงกระแทกต่อคำนินทาได้ดีโดยที่สภาวะภายในไม่ได้รับการบอบช้ำ ศกุนีจากไปด้วยรอยยิ้มมุมปากที่แสนจะเยือกเย็น จนหลายคนกลัวกับบุคลิกนี้ของเจ๊นก ที่พวกเขาเองก็ไม่เคยเห็นมาก่อน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD