หลังจากที่ฉันได้ฟื้นกลับมาจากความตาย เเม่นมก็มาพบฉันในสภาพที่เลือดนั้นเปรอะเปื้อนไปตามตัวเเละผนังห้องนอนของฉัน เลือดนั้นได้เเห้งไปเเล้ว เหล่าคนใช้ที่ไม่ค่อยได้ดูเเลฉันก็เข้ามาทำความสะอาด ใบหน้าของพวกเธอดูไม่สะทกสะท้านอะไร เหมือนกับเป็นเรื่องที่ต้องเกิดขึ้นในสักวันอยู่เเล้ว
เฮ้อ-
ฉันมักจะถอนหายใจสั้นๆออกมา มันเเสดงให้เห็นว่าฉันเหนื่อยเเค่ไหนกับชีวิตที่ห่วยเเตกเเบบนี้
ตอนนี้ฉันกำลังนอนอยู่ในอ้อมเเขนของโซเฟีย มันอบอุ่นเเละรู้สึกปลอดภัยเเบบเเปลกๆ บางที่ฉันก็ไม่ค่อยเข้าใจความรู้สึกเเบบนี้สักเท่าไหร่ เเต่ฉันก็ชอบมันนะ
โซเฟียที่กำลังอุ้มฟิโอน่าที่เสื้อผ้าเต็มไปด้วยคราบเลือด โซเฟียไม่เข้าใจว่าทำไมบนเสื้อผ้าของฟิโอน่าเเละภายในห้องถึงมีเเต่คราบเลือดเต็มไปหมด เเต่เธอก็เลิอกที่จะเก็บเงียบเอาไว้ เธอเพียงพาฟิโอน่าไปล้างตัวเเละเปลี่ยนเสื้อผ้า
เวลาได้ผ่านล่วงเลยไปอย่างรวดเร็วโดยที่ฟิโอน่าเองก็ยังไม่ทันได้ตั้งตัว
...ฉันต้องหนี หนีจากคฤหาสน์หลังนี้ ฉันตัดสินใจเเล้ว...เเล้วฉันจะไปอยู่ที่ไหนละ
ถึงเเม้ฟิโอน่าจะเป็นลูกคุณหนูผู้สูงศักดิ์ ที่มีบิดาเป็นถึงดยุคผู้ยิ่งใหญ่เกรียงไกร เเต่นั้นก็ไม่อาจหนีความจริงที่ว่า ตัวของฟิโอน่านั้นยังไม่เคยออกไปพบกับโลกภายนอกเลยสักครั้ง ถึงเเม้ในชาติก่อนเธอจะใช้ชีวิตด้วยตัวคนเดียวมาโดยตลอด เเต่นั้นมันเป็นโลกของเธอที่คุ้นชินกับสิ่งต่างๆ
คำถามมากมายที่อยู่ภายในหัวของฟิโอน่าได้พรั่งพรูออกมา
ฉันออกไปเเล้วจะไปไหน?
ฉันจะไปทำอะไรละ?
เป้าหมายของฉันคืออะไรกันเเน่?
ไม่สิ ยังไงฉันก็จะออกไป พอเเล้วละเเหวนของท่านเเม่ เอาไปเลยฉันไม่อยากได้มันเเล้ว ฉันเพียงอยากใช้ชีวิตที่เเสนสงบในบ้านหลังเล็กๆกับคนที่ฉันรัก นั่นคือสิ่งที่ฉันปรารถนามาโดยตลอดหลังจากที่ฉันได้มาเกิดใหม่ในโลกนี้
ตัวฉันที่กำลังนอนครุ่นคิดอย่างหนักบนเตียงของฉันที่เพิ่งเปลี่ยนผ้าปูใหม่ ผ้าม่านถูกเปลี่ยนเป็นสีดำสนิทที่ในตอนเเรกมันเป็นสีฟ้าอ่อนเหมือนสีผมของฉัน
คิดถึงเธอจัง ฮินะ ทำไมกันนะ ทำไมฉันถึงไม่สามารถลืมเรื่องของเธอได้เลย บ้าชะมัด
ฟิโอน่าลุกออกจากเตียงเดินไปที่หน้าต่างก่อนจะจ้องมองออกไป ดวงตาของเธอนั้นดูเหมือนกับกำลังมองบางอย่างที่ไกลเเสนไกล เธอนั้นรู้สึกถวิลหาอะไรบางอย่างที่ไม่อาจนำมากลับให้เป็นดังเดิม
อยากออกไปข้างนอกจัง ในโลกนี้ภายนอกจะเป็นยังไงกันนะ อยากรู้จัง
*ก๊อก ก๊อก ก๊อก*
“ฟิโอน่า พี่ขอเข้าไปหน่อยได้ไหม”
เสียงหนุ่มที่ดังอยู่หลังประตูทำให้ฟิโอน่ารีบเดินมาเปิดประตูให้ทันที
“พี่ชาล มีอะไรรึเปล่าคะ ทำไมถึงมาหาน้องในเวลาเเบบนี้”
ชาลที่เดินเข้ามานั่งเก้าอี้พร้อมโหลคุกกี้ในมือ
“อืม พี่เเค่เป็นห่วงน้องมากๆเลยน่ะ เห็นเหล่าสาวใช้พูดกันว่า ในห้องของเธอนั้นเต็มไปด้วยคราบเลือดมากมาย พี่ได้ยินเเบบนั้นจนพี่อดทนที่จะมาหาน้องไม่ได้น่ะ” ชาลพูดไปพลางหยิบคุกกี้ขึ้นมากิน ก่อนจะยื่นให้ฟิโอน่าไปหนึ่งชิ้น
ฟิโอน่ารับคุกกี่นั้นเเล้วก็มานั่งฝั่งตรงข้ามของชาล
“ขอบคุณค่ะ...ว่าเเต่ที่มาหาน้องเพราะเป็นห่วงเหรอคะ?”
“ใช่ พี่กลัวว่าน้องที่เเสนน่ารักของพี่จะเป็นอะไรไปพี่เลยมาหา เเต่ไม่เป็นไรก็ดีเเล้วละ” ชาลส่งยิ้มให้ฟิโอน่า
“คะ” ฉันตอบไปสั้นๆ เพราะฉันก็ไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรออกไปดี มันไม่ใชเรื่องที่คนปกติทั่วไปอย่างท่านพี่ชาลจะเข้าใจ ฉันว่าเรื่องนี้ควรจะเก็บเงียบไว้ดีกว่า
“พี่ว่าน้องคงจะเหนื่อยเเล้ว งั้นวันนี้พี่ไปก่อนนะ อ้าใช่ คุกกี้โหลนี้พี่ให้เป็นของขวันจัดห้องใหม่นะ ไปละ” ชาลเดินไปลูบหัวฟิโอน่าอย่างอ่อนโยนก่อนจะเดินออกจากห้องไป
ฟิโอน่าเพียงมองตามเเผ่นหลังของพี่ชายโดยที่ไม่พูดอะไร
......................
..................
...............
...........
........
......
....
.
ชาลฮาเลนกำลังเดินตามทางเดินที่ยาวไกลพลางทำสีหน้าเคร่งเครียด
“มาทำอะไรที่นี่ชาฮาเลน” เสียงของฮาริมอลผู้เป็นพี่ดังขึ้นมาจากข้างหน้าของชาล
ใบหน้าของฮาริมอลดูไม่สบายใจที่ได้เจอกับชาล มันเป็นเรื่องที่น่าเเปลกในเมื่อทั้งสองคนก็เป็นพี่น้องกัน เเต่จ้องตากันอย่างกับสัตว์กินเนื้อยังไงอย่างงั้น
“ชาลฮาเลนพี่ถามว่า ทำไมถึงมาที่นี่” ชาลตกใจกับน้ำเสียงที่เเข็งกร้าว จู่ๆลมก็พัดผ่านหลังของชาล ทำให้เขานั้นรู้สึกขนลุกขึ้นมาราวกับถูกภูเขาน้ำเเข็งถล่มทับทั้งตัว
“อะ..เปล่าครับ ผมเเค่มาหาน้องสาวที่น่ารักของผมเท่านั้นเอง ผมเเค่เป็..”
ฮาริมอลเดินเข้าไปใกล้ชาลพลางกระซิบข้างหูของเขาเบาๆ
“อย่าได้ริอาจมาเเตะต้องน้องสาวของพี่ ต่อให้เป็นชาลฮาเลนก็ไม่เว้น”
ชาลตกใจถอยหลังมาตั้งหลักอย่างร้อนรน
“..อะไรกัน เเค่มาหาน้องสาวเฉยๆอย่าคิดเธอจะเป็นของนายคนเดียวสิ”
ฮาริมอลเดินผ่านชาลไป ก่อนจะพึมพำเบาๆให้ชาลได้ยิน
“พี่รู้ว่าเเกจะทำอะไร เพราะฉะนั้นอย่าดีกว่า”
ชาลมองฮาริมอลผู้เป็นพี่เดินตรงไปที่ห้องของฟิโอน่า ก่อนจะกัดฟันตัวเองด้วยความหงุดหงิด
“หึ! รู้งั้นรึว่าฉันจะทำอะไร มาห้ามงั้นรึ อย่ามาปากดีนะ ไอพี่เฮงซวย!”
ไอเวรเอ๋ย! เเผ่นของฉันควรจะได้ผลสิ เเต่ทำไม!! ยัยนั่น!