อดทน....เเค่อดทนรอ...รอจนกว่าเราจะได้ออกไปจากห้องนี้ ฉันได้เเต่จมปลักกับความหวาดกลัวของตัวเอง คอยตั้งคำถามซ้ำไปซ้ำมากับการมีตัวตนอยู่ของฉันในโลกใบนี้
ความหนาวค่อยๆ คืบคลานเข้ามา ฉันในตอนนี้ได้เเต่นอนคุดคู้อยู่ใต้ผ้ากระสอบเก่าๆ เพราะความหนาว ในเวลากลางคืน ภายในห้องนั้นเเทบจะมืดสนิท เวลาได้ผ่านล่วงเลยไปดวงตาของฉันก็เริ่มปรับตัวในความมืด ฉันมองไปที่มุมห้อง...มันเหมือนมีอะไรบางอย่างที่กำลังนั่งอยู่ตรงมุมห้อง....ฉันน่ะไม่กลัวหรอกนะ
ฟิโอน่าสั่นกลัวกับเงาที่อยู่ตรงมุมห้อง ความคิดของเธอเริ่มฟุ้งซ่านขึ้นเรื่อยๆ ทั้งๆ ที่ตรงนั้นไม่มีอะไรที่น่ากลัวอยู่เลย
ฉัน...ไม่สามารถเอาชนะความมืดได้...มันคือสิ่งที่ฉันหวาดกลัวมากที่สุด ความมืดที่ไม่สามารถสัมผัสได้ ไม่สามารถรับรู้ได้ว่าภายในความมืดมิดนั้นซ่อนอะไรไว้อยู่กันเเน่ บางทีมันอาจจะเป็นปีศาจที่น่าเกลียดน่ากลัวอยู่ในนั้นก็ได้
ฉันได้เเต่คิดไปเช่นนั้น จนเผลอหลับไปเพราะความเหนื่อยล้า
..................
ฉันได้ยินเสียงเปิดประตูเเต่ฉันก็ไม่ได้ลุกขึ้นมาดูหรอกนะว่าใครเป็นคนเปิด ฉันได้เเต่เเกล้งหลับไปเเบบนั้น หลังจากนั้นฉันก็รู้สึกถึงการสัมผัสของมือที่อบอุ่น กับเสียงที่อ่อนโยนที่กำลังพูดคุยกับฉัน
“คุณหนูคะ ฉันเอาโกโก้ร้อนมาให้ค่ะ” เสียงเเหบเเห้งของหญิงวัยกลางคนที่เเฝงไปด้วยความอบอุ่นเเละความอ่อนโยน
「โซเฟีย เเม่นมของฟิโอน่า อายุ52ปี」
“ซ...โซเฟีย....” ฉันรีบหันกลับไปหาต้นเสียงก่อนจะเอ่ยเสียงที่เเหบเเห้งของฉันออกไปทั้งน้ำตา
ฉันไม่เคยรู้สึกปลอดภัยขนาดนี้มาก่อน เวลาที่เเม่นมของฉันมาหาเมื่อไหร่ ฉันมักจะเข้าไปโผกอดเธออยู่ทุกครั้ง เเต่ในครั้งนี้ ฉันไม่สามารถทำเเบบนั้นได้ เพราะความอ่อนล้าเเละร่างกายที่เเสนจะอ่อนเเอของฉัน มันทำให้ฉันไม่สามารถลุกขึ้นไปกอดโซเฟียด้วยความคิดถึงได้...
โซเฟียอุ้มฉันขึ้นมากอดก่อนจะหลั่งน้ำตาออกมาพลางพูดด้วยน้ำเสียงที่น่าเวทนา
“ทำไมคุณหนูถึงได้โชคร้ายเเบบนี้”
นั่นสินะทำไมฉันถึงโชคร้ายเเบบนี้กัน...โซเฟียพยามจะเอาเเก้วที่มีโกโก้ร้อนเเสนอร่อยมาป้อนฉันเเต่ฉันไม่ต้องการ ฉันดึงเเก้วโกโก้ออกจากมือโซเฟีย ฉันไม่ใช่เด็กเเล้วนะที่จะต้องให้ใครมาป้อนฉัน
ฉันดื่มโกโก้ด้วยความกระหาย โกโก้ร้อนที่ไหลผ่านร่างกายของฉันมันทำให้ร่างกายมันรู้สึกอบอุ่นขึ้นมาทันที....
ทำไมกันนะ เเค่เครื่องดื่มหวานๆ เเก้วนี้มันทำให้ฉันหายจากอาการเหนื่อยล้าเป็นปลิดทิ้ง.....ล้อเล่นน่ะฉันก็ยังคงเหนื่อยเหมือนเดิมนั้นเเหละ..
“โซเฟีย.....พาหนูกลับห้องที” ฉันกอดโซเฟียเเน่นพลางพูดด้วยเสียงที่ออดอ้อนเหมือนเด็กๆ
“เเต่ว่าร่างกายของคุณหนูดูไม่ค่อยดีเลยนะคะ ฉันต้องพาคุณหนูไปหาหมอก่อน” ฉันรู้สึกได้ ถึงความเป็นห่วงเป็นใยของเธอ เเต่ขอโทษด้วย
“ฉันบอกว่า...ให้พาฉัน...กลับห้องเดี๋ยวนี้” ฉันเปลี่ยนจากเสียงที่ออดอ้อนเป็นเสียงที่เเข็งกร้าวอย่างฉับพลัน
“อึก....ค..ค่ะคุณหนู”
ฉันได้เเต่ทำนิสัยเเบบนั้นไปเพราะฉันไม่อยากให้โซเฟียมาสงสารฉัน ฉันไม่ต้องการให้ใครมาเวทนาฉัน
.....................
「ณ ห้องนอนของฟิโอน่า」
“เอ่อ...คุณหนูคะ” โซเฟียทำท่าทีลุกลี้ลุกลนพลางมองไปที่ร่างกายของฟิโอน่า
“ออกไปจากห้องของหนู....ถ้าหนูไม่เรียกก็ห้ามเข้ามาเด็ดขาด” ฉันกล่าวด้วยเสียงที่หนักเเน่น
“ค่ะ..”
ในบางทีฉันก็อยากเอาเเต่ใจเเบบเด็กบ้าง
โซเฟียได้เเต่คอตกเเละจำใจต้องออกจากห้องไป ฉันเดินไปล็อกประตูห้อง เพื่อที่จะไม่ให้เข้ามาได้....สาเหตุที่ฉันต้องล็อกประตู...นั่นก็เพราะว่าฉันกำลังจะวางเเผนอะไรบางอย่างยังไงละ
ฉันเดินกลับมาเเละพร้อมที่จะทิ้งตัวลงบนเตียงที่เเสนนุ่มนิ่มของฉัน
“เอาละ เรามาเริ่มวางเเผนกันดีกว่า” ฉันรู้สึกตื่นเต้นจนเนื้อตัวสั่นไปหมด มันจะสนุกเเค่ไหนนะที่จะได้ทรมาณคนอื่นเล่น
หึ! ไอพวกเศษเดนขยะรกโลก
.....................
ในโลกนี้มีสิ่งที่เรียกว่าเวทมนตร์อยู่.....ไม่รู้สิ ฉันไม่สามารถบอกได้ว่ามันเรียกเเบบนี้ได้ไหม เพราะจริงๆ เเล้วมีคนเพียงส่วนน้อยที่น้อยมากๆ ที่จะสามารถใช้เวทมนตร์ได้...เเบบเเค่จุดไฟลูกเล็กๆ บนนิ้วกับเสกน้ำเท่าน้ำ1เเก้วอะนะ เเละนั่นหมายความว่าบนโลกใบนี้แทบจะไม่มีใครใช้เวทมนตร์ได้เลยยังไงละ...
ตัวฉันเองได้ศึกษาเกี่ยวกับเวทมนตร์อยู่หลายปีเเละนั่นทำให้ฉันสามารถเสกน้ำที่เทียบเท่าน้ำครึ่งเเก้วได้....อะไร...เเค่เสกน้ำครึ่งเเก้วฉันก็เเทบตายอยู่เเล้ว เเต่..ฉันสามารถทำได้มากกว่านั้นนิดหน่อย เเละฉันก็ไม่รู้ว่าด้วยเหตุผลอะไรที่ฉันสามารถเอาความสามารถที่ฉันถนัดของฉันมาดัดเเปลงเเบบนี้ได้
「ยาพิษ」
ใช่ ยาพิษ นั่นคือสิ่งที่ฉันถนัดที่สุดรองจากการใช้มีด ฉันสามารถนึกถึงส่วนประกอบของยาพิษที่ฉันเคยทำในโลกเก่าได้ เเละนั่นเป็นความสามารถที่โคตรโกงเลยละ เพียงเเค่ฉันเสกน้ำออกมา1หยด เเละนึกถึงส่วนประกอบของพิษเพื่อให้น้ำหยดนั้นเป็นสิ่งที่อันตรายที่สุด อ๋อใช่ฉันสามารถเนียนเสกพิษนั่นไปอยู่ตรงไหนก็ได้ หมายถึงส่วนไหนก็ได้ที่ฉันสามารถเห็นหรือนึกถึงมันได้
.........................
「มิน่า สาวใช้ตระกูลดยุค อายุ21ปี」
มิน่า....เป็นสาวใช้ที่ชอบรังเเกฉัน ฉันตั้งชายาให้เธอว่ามิน่าจอมตะกละ เพราะว่าเธอชอบเอาอาหารที่ฉันควรที่จะได้กินไปซ่อนไว้เพื่อที่เธอจะได้เอาไปกินเอง...เเละอาหารมื้อที่จะถึงนี้จะเป็นมื้อสุดท้ายของเธอ....ฮ่า ล้อเล่นน่ะไม่ใช่มื้อสุดท้ายหรอก เพราะฉันจะไม่ฆ่าเธอ
.........................
“ฮ่าฮ่าฮ่า~ มิน่าเธอนี่จะขี้เเกล้งจังนะ ที่เอาอาหารของคุณหนูมากินเเบบนี้เนี่ย~” สาวใช้ตัวประกอบคนนึงพูดขึ้นมาพลางหัวเราะขบขันกับพฤติกรรมของมิน่า
“อะไรกันเล่า จะให้ยัยเด็กนั่นมากินอาหารหรูๆ เเบบนี้ได้ไง มันเสียของจะตายไป” มิน่ายังคงดูถูกเเละเหยียดหยามฟิโอน่าพลางตักซุปสุดหรูขึ้นมากิน
“ระวังไว้เถอะเดี๋ยวก็เจอคุณหนูมาเอาคืนนะ ฮุฮุฮุ~”
“ไม่มีทางหรอกยัยเด็กที่ดูอ่อนเเอเเบบนั้นจะมาทำอะไรได้...ในตอนนี้ก็คงได้เเต่จำใจกินซุปผักจืดๆ กับขนมปังเเข็งๆ อยู่ละมั้ง” มิน่ายังคงตั้งใจกินอาหารที่อยู่ตรงนหน้าอย่างตั้งใจ
“ฮ่าฮ่าฮ่า เธอนี่พูดตลกจัง เเต่ดยุคนี่ก็น่าสงสารเนอะ มีลูกที่ไร้ประโยชน์เเบบนี้” นั่นสินะเราเองก็ไม่รู้ว่าทำไมท่านดยุคยังถึงต้องเก็บตัวไร้ประโยชน์เเบบนั้นไว้ในบ้านด้วย ทั้งๆ ก็มีลูกชายอยู่เเล้วทั้งคน
“นั่นนะสิ ฉันว่าท่านดยุคคงเกลียดลูกตัวเองจนอยากจะสังหารทิ้งเลยละมั้ง”
“อืม ดัชเชชเองก็ร่างกายอ่อนเเอตั้งเเต่ยัยเด็กนั่นเกิดมานี่นะ ดยุคคงไม่ชอบเป็นธรรมดา”
“อ่า...ใช่เเล้วละ”
สาวใช้ทั้ง2กำลังนั่งคุยกันอยู่ในสวนของตระกูลดยุค มิน่ากำลังนั่งกินอาหารจานหรูอย่างเอร็ดอร่อย ภายในจานมีทั้งเนื้อสเต๊กชั้นดีกับซุปเห็ดสุดหรูพร้อมทั้งผลไม้ที่กรอบเเละหวานช่ำ.....เเต่เธอหารู้ไม่ว่าอาหารที่เธอกำลังกินอยู่ในตอนนี้...มันกำลังจะทำให้เธอต้องมีช่วงเวลาที่เลวร้ายที่สุดเท่าที่เธอจะจินตนาการได้...
..........
[ความมืดที่ฝังรากลึกไปถึงจิตใต้สำนึกของผู้คนที่หวาดกลัว]