bc

ไม่เป็นแล้วนางร้าย...ข้าจะออกไปเป็นแม่! ภาค 1 รุ่งอรุณแห่งการเริ่มต้น

book_age12+
122
FOLLOW
1K
READ
friends to lovers
independent
comedy
sweet
lighthearted
mystery
magical world
school
love at the first sight
villain
like
intro-logo
Blurb

โรซาเรีย เครสเซนเทีย ทุ่มเทเวลาสิบกว่าปีเพียงเพื่อเป้าหมายเดียว

แต่มันใช้เวลาเพียงหนึ่งราตรี นางถึงกลับสูญสิ้นทุกอย่าง

ไม่ว่าจะเป็นเกียรติยศชื่อเสียง แม้กระทั่งพลังเวทมนตร์ที่นางเคยภาคภูมิใจ

อ่า...ช่วงชีวิตแห่งการทุ่มเทเพื่อครองบัลลังก์คงจบสิ้นแล้ว

ถ้าเช่นนั้น...เป็นแม่มดก็ฟังดูไม่เลวเลย

chap-preview
Free preview
บทที่ 01 : ถ้าเช่นนั้น....
ตลอดอายุ 18 ปีของ โรซาเรีย เครสเซนเทีย นางกล้าพูดได้ว่าตนเติบโตอย่างสมบูรณ์พร้อม โรซาเรียเป็นบุตรสาวเพียงคนเดียวของดยุกแห่งเครสเซนเทีย ตระกูลเก่าแก่ที่มีความสัมพันธ์แน่นแฟ้นกับราชวงศ์คาร์โลไลน์ ราชสกุลที่ปกครองอาณาจักรมาฟิโอเรียมาอย่างยาวนั้น อีกทั้งนางยังมีสัญญาหมั้นหมายกับองค์รัชทายาทตั้งแต่เยาว์วัย แม้จะถูกเลี้ยงดูอย่างเข้มงวด แต่ก็นับว่านางไม่เคยได้รับสิ่งใดขาดตกบกพร่อง หากนางเอ่ยปากว่าปรารถนาสิ่งใด ไม่เคยมีสักครั้งที่จะไม่ได้มาครอง แต่คงเพราะทวยเทพคงเห็นว่าชีวิตของนางเพียบพร้อมเกินไปก็เป็นได้ นับจากวันเกิดอายุครบ 18 ปีเมื่อหลายเดือนก่อน หลายสิ่งหลายอย่างที่นางเคยเป็นผู้มีสิทธิ์ครอบครองก็ทยอยถูกพรากไปทีละอย่าง สองอย่าง เริ่มจากเรื่องแกนพลังเวทของนางที่เสียหายจากการถูกลอบสังหารเมื่อหลายเดือนก่อน จนทำให้นางสูญเสียความสามารถในการใช้เวทมนตร์ไปจนหมดสิ้น บุตรสาวของขุนนางผู้ไม่สามารถใช้เวทมนตร์ได้ จะนับว่ามีคุณค่าใดได้อีก หลังจากเกิดเรื่อง โรซาเรียทราบดีว่านางถูกลดความสำคัญในตระกูลลง แต่เพราะเป็นเรื่องที่นางทำความเข้าใจได้ จึงไม่คิดที่จะทวงถามหาความเห็นใจจากบุพการี เกียรติภูมิแห่งตระกูลเครสเซนเทียที่แบกไว้บนบ่า นางไม่อาจใช้ความอ่อนแอของตนทำให้มัวหมอง และถึงแม้สูญเสียความสามารถด้านเวทมนตร์ไปก็ช่างเถอะ อย่างไรนางก็ไม่มีความจำเป็นต้องใช้มันมากนัก เดิมตั้งแต่เล็กจนโต เป้าหมายในการดำเนินชีวิตของนางมีเพียงการได้ขึ้นเป็นราชินีของอาณาจักรแห่งนี้เท่านั้น และตัวนางก็ยึดมั่นกับเป้าหมายนี้มาโดยตลอดตั้งแต่รู้ภาษา แม้ต้องผ่านการฝึกอบรมที่เข้มงวด แม้นางต้องแลกเวลาเล่นสนุกในวัยเยาว์ไปกับการเรียนรู้เรื่องต่าง ๆ มากมาย แต่เพื่อให้ได้ยืนอยู่ในตำแหน่งสูงสุดบนแผ่นดินบ้านเกิดด้วยความภาคภูมิ นางยินดีที่จะแลกช่วงเวลาเหล่านั้น ทว่า...บททดสอบสำหรับว่าที่ราชินีเช่นนาง บางครั้งก็มีตัวแปรที่นางไม่อาจแก้ไขอยู่ "เจ้ามีจิตใจโหดเหี้ยมนักโรซาเรีย ไลอาทำสิ่งใดผิด ไยต้องสั่งลงโทษนางรุนแรงเช่นนี้" น้ำเสียงต่อว่าของบุรุษผู้หนึ่งเอ่ยขึ้นกับนาง เขาเป็นชายร่างสูงรูปงาม ผู้เป็นเจ้าของผมสีบลอนด์ทองและดวงตาสีฟ้าสดใส ชายผู้นับเป็นตัวแปรสำคัญในเป้าหมายหลักในชีวิตของนาง ชายที่ชื่อว่า อัสมัล คาร์โลไลน์ องค์รัชทายาทแห่งอาณาจักรมาฟิโอเรีย คู่หมั้นคู่หมายของนางนั่นเอง ในอ้อมแขนของเขา กำลังโอบกอดสตรีนางหนึ่งเอาไว้ด้วยท่าทางทะนุถนอม หากมองข้ามใบหน้าบวมช้ำ และริมฝีปากที่ปริแตกจนเลือดไหลซึมนั่นไป หญิงสาวผู้นี้ก็นับว่าเป็นหญิงงามผู้หนึ่ง และหากจะถามหาว่าใครเป็นผู้ลงมือทำร้ายร่างกายหญิงงามท่าทางอ่อนแอตรงหน้า นางก็สามารถเอ่ยออกมาได้อย่างภาคภูมิใจเลยว่า คนผู้นั้นคือนางเอง "หม่อมฉันทำสิ่งใดผิดหรือ...ไม่ใช่ว่าองค์รัชทายาทรู้เหตุผลดีอยู่แล้วหรอกหรือ" โรซาเรียเอ่ยถามกับพระคู่หมั้นของตนด้วยใบหน้าเรียบเฉย เมื่อสบกับดวงตาที่วาวโรจน์ของชายตรงหน้า นางไม่ได้มีความหวั่นวิตกหรือรู้สึกหวาดกลัวอะไรเลย กลับกันนางค่อนข้างแปลกใจในคำถามของพระคู่หมั้นของนางมากกว่า วันนี้มีงานเลี้ยงน้ำชาจัดขึ้นในสวนของพระราชวัง เหล่าเลดี้จากหลากหลายตระกูลล้วนเดินทางมาเข้าร่วมตามบัตรเชิญ แน่นอนว่ารวมทั้งตัวนางเองที่เป็นถึงบุตรีของดยุกแห่งเครสเซนเทียที่แม้จะไม่ค่อยมีคนอยากคบค้าสมาคมมากนัก แต่ก็จำเป็นต้องไว้หน้า และนอกจากนางแล้วก็ยังมีสตรีผู้หนึ่งร่วมงานครั้งนี้ด้วย ไลอา บริสซาเนีย บุตรสาวของบารอนบริสซาเนีย ชู้รักขององค์รัชทายาทคู่หมั้นของนาง องค์รัชทายาทอัสมัลและคุณหนูบริสซาเนีย ลักลอบคบหากันได้เกือบ 2 ปีแล้ว นับเป็นเวลา 2 ปีที่ตัวของโรซาเรียต้องก้าวขาลงในสงครามความรักที่ชวนให้ปวดหัวไม่น้อย เป้าหมายการเป็นว่าที่ราชินีของนางต้องถูกสั่นคลอนหลายต่อหลายครั้งโดยน้ำมือของสตรีนางนี้ แต่อย่างไรมันก็เป็นการกระทบกระทั่งของหญิงสาว ตัวองค์รัชทายาทที่มีบ่วงรัดคอเป็นสัญญาหมั้นหมาย และยังต้องการที่จะพึ่งอำนาจตระกูลของนางอยู่ เขาจึงพยายามมองข้ามการทะเลาะวิวาทของโรซาเรียและคนรักของตนเสมอ ทว่า...นับตั้งแต่โรซาเรียสูญเสียความสามารถในการใช้เวทมนตร์ไป ท่าทีขององค์รัชทายาทก็เริ่มเอนเอียงมากขึ้นอย่างชัดเจน และคงเพราะแบบนั้น คุณหนูไลอา บริสซาเนีย ผู้ที่ชอบสวมหน้ากากสตรีอ่อนแอเสมอถึงได้ปีกกล้าขาแข็ง คิดกำแหงกับนางในที่สาธารณะ ในระหว่างงานเลี้ยงน้ำชา คุณหนูไลอา บริสซาเนียไม่รู้ว่าซุ่มซ่ามหรือแกล้งทำ จึงได้สะดุดล้มแล้วสาดน้ำชาใส่นางที่นั่งอยู่เฉย ๆ พอนางสั่งให้คุกเข่าขอโทษนางเสีย อีกฝ่ายก็บีบน้ำตา หาว่านางข่มเหงรังแก ถึงกับกล้ากล่าววาจาว่า ‘เลดี้โรซาเรียก็เป็นแค่สตรีผู้ไร้เวทมนตร์เท่านั้น ถึงเป็นลูกสาวดยุกก็ไม่นับว่าเป็นคนไร้ค่าอยู่ดีหรือ ไยข้าต้องก้มหัวให้ด้วย’ เห็นทีว่าคุณหนูไลอาจะไปกินดีหมีหัวใจเสือมาจริง ๆ แต่ถึงองค์รัชทายาทจะถือหางข้างนางอย่างไร คุณหนูจากตระกูลบริสซาเนียคนนี้ก็คงลืมไปกระมังว่าตนเองก็เป็นแค่บุตรสาวบารอนตระกูลเล็กๆ ถึงกับกล้าปากดีกับนางที่เป็นธิดาของดยุกจากตระกูลเครสเซนเทีย ด้วยเหตุนั้นเองนางจึงได้สั่งให้หญิงรับใช้ตบปากลูกสาวบารอนผู้ต้อยต่ำไปจำนวน 30 ครั้ง เท่ากับคำพูดที่พ่นออกมาจากปากพล่อย ๆ ของนาง งานเลี้ยงน้ำชามีอันต้องล้มเลิก เช่นเดียวกับที่หลังจากแขกเดินทางกลับได้ไม่นาน องค์รัชทายาทก็มาเยือนที่เกิดเหตุด้วยสีหน้าถมึงทึง อีกฝ่ายไม่ถามไถ่มาถึงที่ก็พร้อมชี้หน้าต่อว่านางโดยทันที “สตรีของพระองค์กล่าววาจาหมิ่นเกียรติหม่อมฉัน” โรซาเรียเอ่ยย้ำสาเหตุของบทลงโทษของนางกับชายตรงหน้าอีกครั้งด้วยความใจเย็น องค์รัชทายาทอัสมัล หากให้เอ่ยตามตรงก็เป็นหนุ่มรูปงามที่นิสัยมุทะลุ แต่ใช่ว่าเขาจะลุ่มหลงในรักจนเลอะเลือนไปเสียหมด แต่ติดออกจะลำเอียงไปบ้างก็เท่านั้น "นางเพียงไม่รู้ความเลยไม่ระวังคำพูดไปบ้าง...จำเป็นที่เจ้าต้องทำกับนางถึงเพียงนี้เลยรึ" "หม่อมฉันไม่เห็นว่าการสั่งลงโทษของหม่อมฉันรุนแรงเกินเหตุตรงที่ใด" นางย้ำความมุ่งมั่นของตนอีกครั้งด้วยแววตาที่ไม่สั่นคลอน ตัวนางมีเกียรติภูมิของตระกูลต้องรักษา สตรีนางนี้คิดว่าตนเองเป็นใครจึงดูหมิ่นนางได้? โรซาเรียใช้นัยน์ตาสีน้ำเงินเข้มของตนสบตรงกับเนตรคู่สีฟ้าสดใสของชายตรงหน้า ชายที่นางเลิกหวังหรือทวงถามหาความรักจากเขามาเนิ่นนานแล้ว ฝ่ายอัสมัลที่เห็นความยึดมั่นในศักดิ์ศรีของผู้มีศักดิ์เป็นคู่หมั้น ถึงจะไม่ชอบใจที่นางลงมือกระทำรุนแรงกับคนรัก แต่อย่างไรครั้งนี้คนรักของตนก็เป็นผู้ผิดจริง เขาจึงมีท่าทีอึดอัดใจอยู่ไม่น้อย คุณหนูไลอาที่มองเห็นความนัยผ่านแววตาของคนรักของนาง ก็ได้แต่กดฝังความน้อยเนื้อต่ำใจของตนลงไปในอก แล้วฝืนขยับปากเอ่ยกล่าวโทษสตรีตรงหน้าของนางด้วยใบหน้าบอบช้ำที่นองน้ำตา "ร้ายกาจนัก...รังแกได้แม้กระทั่งคนไม่มีทางสู้" เสียงกระซิบที่เหมือนจะเบา แต่ก็ยังได้ยินชัดเจนในระยะที่พวกเขาทั้งสามคนอยู่ องค์รัชทายาทอัสมัลเห็นคนงามน้ำตานองก็ร้อนใจจนทนไม่ไหว เป็นโรซาเรียที่มองคู่รักตรงหน้าด้วยแววตานิ่งเฉย ๆ ไม่ต่างจากการเฝ้ามองละครฉากหนึ่ง "นี่คือวิธีตอบโต้ของเจ้าหรือคุณหนูบริสซาเนีย นับว่าพัฒนาอยู่บ้างนะ" "ขะ...ข้า...ข้า" "เจ็บปากมากไม่ใช่หรือ เช่นนั้นก็หุบไว้เสีย" เพราะรำคาญท่าทางอ่อนแอลวงโลกนั่นเต็มที นางจึงเอ่ยตัดบทเพียงเท่านั้น แต่คงเพราะเห็นท่าทางเมินเฉยของโรซาเรียกระมัง องค์รัชทายาทอัสมัลจึงรู้สึกราวกับว่าคนรักของตนไม่ได้รับความเป็นธรรม เขาโอบกอดร่างอรชรของคนรักที่สั่นเทาแนบอก ก่อนจะตัดสินใจเอ่ยบางสิ่งที่ติดค้างอยู่ในใจออกไปโดยทันที "ไยต้องเลือดเย็นต่อนางถึงเพียงนี้...ข้าไม่อาจทนการกระทำของเจ้าได้อีกแล้ว...เลดี้โรซาเรีย ข้าจะยกเลิกสัญญาหมั้นหมายกับเจ้า-" "แน่ใจแล้วหรือ? " โรซาเรียที่เดินก้าวขาได้เพียงไม่ถึงครึ่งก้าวหันหน้ากลับมาเอ่ยถามกับคู่หมั้นตั้งแต่เยาว์วัยของตน ในใจที่เคยนิ่งสงบของนางเกิดระลอกคลื่นอารมณ์ลูกหนึ่งโหมพัดในใจ เป้าหมายเพียงหนึ่งเดียวในชีวิตของนาง ยามนี้กำลังจะถูกพรากจากไปเสียแล้ว หากนางไม่ได้เป็นว่าที่ราชินี ชีวิตนางก็ไม่มีสิ่งใดที่มีค่าอีกแล้ว สิ่งที่ทุ่มเท เสียสละทำมาทั้งหมด ดูจะไร้ค่าเหลือเกินในยามนี้ แต่จะให้ทำอย่างไร นางจำเป็นต้องร้องไห้อ้อนวอนอย่างไร้ศักดิ์ศรีหรือ ในเมื่อตัวแปรของการแย่งชิงในสงครามทำให้ผลลัพธ์ออกมาเป็นเช่นนี้ นางจะดึงดันไปเพื่อสิ่งใดอีก "ที่กล่าวมาองค์รัชทายาทมั่นใจแล้วใช่หรือไม่" "เราเป็นเชื้อพระวงศ์กล่าวสิ่งใดไม่เคยคืนคำ...ราชวงศ์คาร์โลไลน์จะไม่ผูกสัมพันธ์กับตระกูลเครสเซนเทียอีก...การแต่งงานของเราจะไม่มีวันเกิดขึ้น...สตรีเพียงคนเดียวที่เราจะแต่งงานด้วยคือไลอาเท่านั้น" ช่างน่าขัน คนที่เพิ่งจะเอ่ยตระบัดสัตย์ในสัญญาหมั้นหมายของเชื้อพระวงศ์ ยังกล้าเอ่ยมาได้ว่าเป็นคนรักษาสัจจะ เห็นนางเป็นคนโง่เง่ามากหรือไร? "หากพระองค์ยกเลิกการหมั้นหมาย...ย่อมได้...แต่เช่นนั้นแล้ว...องค์รัชทายาทและคุณหนูบริสซาเนียก็จะติดค้างหม่อมฉัน" โรซาเรียพยักหน้ารับการตัดสินใจของฝ่ายคู่หมั้นที่กำลังจะกลายเป็นอดีตในอีกไม่กี่อึดใจ หลังจากกล่าวจบ ฝ่ายคู่สนทนาของนางมีสีหน้าไม่เข้าใจแสดงชัดเจน "เราไม่มีสิ่งใดติดค้างกันทั้งสิ้น...นั้นเป็นเพราะเจ้าจิตใจโหดเหี้ยมและร้ายกาจ เราจึงต้องการถอนหมั้น" องค์รัชทายาทอัสมัลยังคงเชื่อว่าการตัดสินใจของตนเองเป็นสิ่งที่ถูกต้อง ไม่ว่ามองเรื่องที่เกิดขึ้นตรงที่ใดก็ไม่เห็นว่าตนมีสิ่งที่ต้องติดค้างกับสตรีตรงหน้าอีก เดิมเขาและนางหมั้นหมายกันด้วยผลประโยชน์ทางการเมืองเท่านั้น หาได้มีความรักหรือสัมพันธ์ลึกซึ้งใด ๆ ทั้งสิ้น ไม่ใช่ว่าเมื่อก่อนเขาไม่เคยพยายามที่จะเปิดใจให้อีกฝ่าย แต่โรซาเรียกับตนนั้นมองไปก็ไม่ต่างจากน้ำกับน้ำมัน ไม่ว่าเทรวมผสมอย่างไรก็ไม่อาจกลมกลืนเป็นหนึ่งเดียว โรซาเรียมีเป้าหมายและความยึดมั่นของนาง เช่นเดียวกับเขาก็มีความปรารถนาของตนเช่นกัน เพราะไม่อาจอยู่ร่วมกันได้อย่างสบายใจ เขาจึงเริ่มมองหาสตรีอื่นที่พร้อมจะดูแลหัวใจของเขาแทน ไลอาเป็นสาวงาม ติดอยู่ที่นางเกิดในครอบครัวบารอนตระกูลเล็ก จึงไม่ได้รับการปฏิบัติอย่างมีเกียรติมากนักในวงสังคม แต่ทุกครั้งที่อยู่กับนาง เขาสัมผัสได้ถึงความซาบซ่านของการมีชีวิต และฝ่ายโรซาเรียเองถึงจะทราบเรื่องที่เขาปันใจให้ผู้อื่นก็ไม่มีทีท่าหึงหวงใด ๆ ด้วยเหตุนั้นความสัมพันธ์ยุ่งเหยิงของพวกเขาสามคนที่มักถูกหยิบยกมาเอ่ยถึงในวงสนทนาซุบซิบนินทา จึงดำเนินมาได้กว่า 2 ปี จนในที่สุด โรซาเรียผู้ที่ไม่เคยมีจุดอ่อนใดให้เขาได้เล่นงาน ก็พลาดท่าจนได้ ความสามารถในการใช้เวทมนตร์ของนางถูกทำลายลงไปจากเหตุการณ์ลอบสังหาร ความจริงข้อนี้เริ่มทำให้เสียงสนับสนุนที่มีต่อว่าที่ราชินีผู้เพียบพร้อมเริ่มสั่นคลอน แต่เพราะถึงอย่างไรนางก็ยังมีสกุลเครสเซนเทีย การจะเขี่ยนางให้พ้นทางรักย่อมไม่ง่ายดาย แต่วันนี้...ในที่สุดตัวเขาก็ตัดสินใจยุติสัญญาได้อย่างเต็มปาก โรซาเรียเป็นคนจิตใจโหดเหี้ยม ลงมือทำร้ายคนไม่มีทางสู้ได้ลงคอ ทั้งยังไร้ความเมตตาสงสารต่อผู้อื่น เรื่องนี้เขาใช้เป็นข้ออ้างยกเลิกการหมั้นหมายได้แน่ ทว่า...เมื่อสบกับเนตรสีน้ำเงินเข้มที่แสนเยือกเย็นของอีกฝ่าย ความลังเลใจก็เกิดขึ้นในอก "ถึงพระองค์จะชี้หน้าว่ากล่าวหม่อมฉันเช่นไรก็ไม่สำคัญ...องค์รัชทายาทอาจลืมไป...ตามกฎในสัญญาหมั้นหมายระหว่างเราแล้ว หากพระองค์เป็นฝ่ายผิดสัญญาและประกาศถอนหมั้นเอง...องค์รัชทายาทจะไม่สามารถแต่งตั้งพระคู่หมั้นได้ใหม่ทันที...และยิ่งการเลือกคุณหนูบริสซาเนียที่เป็นเพียงลูกสาวบารอนแล้ว เรื่องนี้ต้องรอจนกว่าจะผ่านความเห็นชอบจากองค์ราชาและราชินี...ซึ่งแน่นอนหากใช้ดุลพินิจแล้ว...นั้นย่อมใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 5 ปี จนกว่าจะถึงช่วงเวลาที่ตระกูลบริสซาเนียของคุณหนูได้อวยยศขึ้นเป็นไวเคานต์ หรือหากโชคดีพระองค์ผลักดันให้มีความดีความชอบเข้าพระเนตรองค์ราชาบ้าง ก็อาจได้อวยยศเป็นท่านเอิร์ล...แต่ก็ต้องถามองค์รัชทายาทกับคุณหนูบริสซาเนียว่ารอได้หรือไม่ ...และในระหว่าง 5 ปีนั้น ก็ไม่อาจรับประกันได้ว่าจะไม่มีการแต่งตั้งพระคู่หมั้นคนใหม่จากตระกูล ดยุกท่านอื่น...เช่นนี้แล้ว...ยังไม่นับว่าองค์รัชทายาทจะต้องติดค้างการตัดสินใจของหม่อมฉันหรือ" น้ำเสียงเรียบนิ่งที่อธิบายความเป็นจริงออกมาจากปากของหญิงสาวผู้ที่กำลังถูกถอนหมั้น สีหน้าไร้ความหวั่นเกรงและท่าทางหยิ่งทะนงของนางสั่นสะเทือนความมั่นคงในใจคนฟังจนสั่นคลอน โรซาเรียแน่ใจว่ามองเห็นความวูบไหวในดวงตาทั้งสองคู่ของคู่รักตรงหน้า แต่ก็ไม่ได้ใส่ใจมัน นางเพียงต้องการเอ่ยย้ำอย่างชัดเจนให้ได้ข้อยุติของการเจรจาถอนหมั้นในวันนี้เท่านั้น “หากให้เป็นฝ่ายหม่อมฉันยกเลิกการหมั้นหมายเอง...แม้ทางหม่อมฉันจะเสียเปรียบบ้าง...แต่แน่นอนว่าท่านทั้งสองย่อมได้ประโยชน์ที่สุด...องค์รัชทายาทจะเล่นบทโศกอันใดก็ได้ หรือคุณหนูบริสซาเนียจะสวมหน้ากากคนดีเข้าช่วยเหลือก็คงไม่มีใครค่อนขอดได้กระมัง” ทางเลือกที่นางเสนอให้ทำให้คนรักทั้งสองมองสบตากันด้วยความลังเล แน่นอนว่าคำกล่าวของนางคือความจริงที่พวกเขาไม่อาจปฏิเสธ หากพวกเขาไม่ยอมรับข้อเสนอนี้ คนทั้งคู่ก็ต้องจับมือกันก้าวผ่านมรสุมพิสูจน์รักแท้อย่างไม่จบไม่สิ้นต่อไป ยิ่งนานวันก็รั้นแต่จะทำให้ตกเป็นเรื่องขำขันของคนในสังคมเสียเปล่า ๆ แต่เพราะว่าข้อเสนอนี้ถูกเอ่ยออกมาจากปากของนาง ผู้ที่นับว่าเสียเปรียบในข้อตกลงนี้ที่สุด การที่พวกเขาจะลังเลก็ไม่แปลกนัก “ว่าอย่างไร...เพียงพวกท่านเอ่ยออกมาว่าติดค้างหม่อมฉัน...เรื่องนี้หม่อมฉันจะรับบทเป็นนางร้ายให้พวกท่านก็ย่อมได้” โรซาเรียเอ่ยถามย้ำ แล้วเฝ้านับถอยหลังในใจ 3.... 2... 1.. “ตกลง...เราติดค้างเจ้า...หากต้องการสิ่งใดให้เอ่ยออกมาเถอะ” และคำตอบที่นางต้องการก็หลุดออกมาจากปากชายหนุ่มเสียที องค์รัชทายาทอัสมัลแม้จะมีความลังเลอยู่บ้าง แต่เขาก็ไม่มีทางปล่อยข้อเสนอของโรซาเรียทิ้งไปได้ ทั้งนี้ตัวของชายหนุ่มเอง ยังเชื่อว่าฝ่ายของว่าที่อดีตคู่หมั้นนั้น ไม่มีทางเรียกร้องอะไรที่เกินกว่าความสามารถที่เขาจะหามาให้ได้เป็นแน่ โรซาเรียมีความจงรักภักดีกับราชสกุลคาร์โลไลน์ เช่นเดียวกับที่นางคำนึงถึงผลประโยชน์ของอาณาจักรเป็นที่ตั้งเสมอ ด้วยเหตุนี้นางจึงถูกเลือกเป็นผู้ที่เหมาะสมที่สุดในการเป็นว่าที่ราชินี จะโทษก็ต้องโทษที่ตระกูลเครสเซนเทียเลี้ยงดูสั่งสอนนางมาแบบนี้ สองบ่าเล็กที่ตั้งตรงแบกรับเกียรติภูมิของตระกูล เลือดที่ไหลเวียนในร่างยึดมั่นในเจตจำนงที่จะปกป้องอาณาจักรให้ธงแห่งมาฟิโอเรียยังคงโบกสะบัดสืบไป “ลมปากของพระองค์หม่อมฉันไม่คิดเชื่อถือ...เพียงพระองค์ลงนามในสัญญาเวทมนตร์ให้หม่อมฉันก็เพียงพอแล้ว...เอาไว้วันใดที่หม่อมฉันต้องการการชดใช้ของพระองค์หม่อมฉันจะร้องขอเอง” แม้จะรู้สึกไม่ชอบใจในถ้อยคำค่อนขอดที่หญิงสาวเอ่ยออกมาบ้าง แต่เมื่อคิดถึงผลลัพธ์ที่จะได้ องค์รัชทายาทอัสมัลก็พยายามมองข้ามความหงุดหงิดใจของตนไป อีกทั้งความเชื่อที่มีอยู่เต็มอกว่าโรซาเรียไม่มีทางที่จะร้องขอเรื่องร้ายแรงจนกระทบกับอาณาจักรแน่ องค์รัชทายาทอัสมัล จึงไม่รีรอที่จะเสกหนังสือเวทมนตร์ออกมาฉบับหนึ่งพร้อมลงนามและประทับด้วยโลหิตตนโดยทันที โรซาเรียรับม้วนกระดาษเวทมนตร์มาถือในมือ ก่อนจะจ้องมองมันด้วยความรู้สึกว่างเปล่า แต่เพียงครู่ต่อมา นัยน์ตาสีน้ำเงินเข้มก็เหลือบขึ้นมองหญิงสาวอีกคนที่ตอนนี้ปกปิดความดีใจเอาไว้ไม่มิด สีหน้าของคนที่คิดว่าตนชนะแล้วคงเป็นเช่นนี้นั่นเอง...กับสตรีเช่นนี้....ตัวนางเองก็ต้องทำให้มั่นใจว่ามงกุฎตำแหน่งว่าที่ราชินีที่นางกำลังจะส่งต่อจะถูกวางอยู่ในมือของคนที่เหมาะสมและไม่เป็นภัยต่ออาณาจักร “ส่วนคุณหนูไลอา บริสซาเนีย...ตลอดหลายปีที่ผ่านมายอมรับว่าการต่อสู้กับท่านทำให้ตัวข้าสนุกขึ้นบ้างไม่น้อย...แต่การสวมหน้ากากเผชิญหน้ากับท่านก็ทำให้ข้ารำคาญใจในบางครั้งเช่นกัน...ถึงจะหยิบยกเรื่องความรักลึกซึ้งของพวกท่านมาเอ่ยอย่างไร ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าท่านคือคนที่แย่งคู่หมั้นไปจากข้า...ครั้งนี้ข้ายอมถอยเพราะมองไม่เห็นประโยชน์อันใดในการแย่งชิงนี้...ท่านอยากเป็นนางเอกผู้พิชิตหรือ...ย่อมได้...แต่ถึงอย่างไรท่านก็ติดค้างข้า” โรซาเรียเอ่ยขึ้นพร้อมรอยยิ้มบางเบา นางเดินเข้าไปใกล้หญิงสาวที่เริ่มแนบตัวลงในอ้อมแขนของเจ้าชายหนุ่มมากขึ้นด้วยท่าทางน่าหวาดหวั่น “จะ...จะทำอะไร” ไลอาเอ่ยถามเสียงสั่น ช่างเป็นสตรีใจเล็กขวัญอ่อนง่ายนัก ไม่รู้จะหวาดกลัวสิ่งใดมากมายนัก โรซาเรียมั่นใจว่าทุกขณะที่นางเอ่ยพูดแล้วเดินเข้าใกล้ นางแย้มยิ้มอย่างเป็นมิตรให้เสมอ “แกนเวทมนตร์ไม่จำเป็นต่อท่านอีก...ท่านจะได้เป็นราชินี...เรื่องนี้ข้ามั่นใจว่าท่านย่อมสามารถเป็นได้...แต่ท่านจะไม่สามารถเป็นสิ่งใดได้อีกนอกจากราชินี...นี้คือสิ่งที่ท่านต้องชดใช้ให้ข้า” ไม่ปล่อยให้ลูกสาวบารอนผู้ต่ำต้อยได้หลีกหนี แม้โรซาเรียจะไม่อาจใช้เวทมนตร์ชั้นสูงทำสิ่งใดได้อีก แต่แค่การกระชากแกนพลังเวทของผู้อื่นนั่น ไม่ได้กระทบกับแกนเวทมนตร์ที่เสียหายของนางเสียหน่อย เวลาเพียงพริบตา นางก็ดึงกระชากแกนพลังเวทมนตร์สีเขียวอ่อนออกมาจากร่างของอีกฝ่ายมาถือไว้ในมือ ท่ามกลางความตกตะลึงของคู่รักทั้งสอง เร็วกว่าความคิดที่จะห้ามปราม เลดี้จากตระกูลเครสเซนเทียได้บดขยี้แกนพลังของผู้อื่นทิ้งไปด้วยใบหน้านิ่งเรียบไร้อารมณ์ เพียงเท่านี้แม้หญิงสาวตรงหน้าจะได้เป็นว่าที่ราชินี แต่นางก็จะไม่อาจใช้เวทมนตร์ของตนเรียนรู้หรือทำสิ่งใดได้อีก เมื่อใดก็ตามที่ไลอา บริสซาเนีย กลายเป็นภัยต่อราชวงศ์และอาณาจักร นางก็ไร้หนทางหลบหนีเอาตัวรอดแล้ว แววตาของผู้ชนะที่แท้จริงเป็นเช่นไร จงจ้องมองดูเอาเถิดหนา โรซาเรียคิดเช่นนั้นในขณะที่ริมฝีปากแย้มยิ้มมากขึ้นเข้าไปทุกที แต่ส่วนลึกในใจก็มีความวูบโหวงหนึ่งเกิดขึ้น ความจริงที่ว่านางได้สูญเสียเป้าหมายในการใช้ชีวิตของตนไปจนหมดสิ้นแล้วยังคงย้ำเตือนอยู่ในใจ ขากลับไปคฤหาสน์วันนี้ นางจำเป็นต้องร่างหนังสือถอนหมั้นแล้วส่งมอบให้กับทางราชวัง คงใช้เวลาเพียงหนึ่งคืนเท่านั้นประกาศถอนหมั้นจึงมีผล น่าขันนัก...เวลาเพียงหนึ่งราตรี นางถึงกลับสูญสิ้นทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเกียรติยศชื่อเสียง หรือคู่หมั้นที่นางรักยิ่ง แม้กระทั่งพลังเวทมนตร์ที่นางเคยภาคภูมิใจ ทุกสิ่งล้วนพังทลายลงในชั่วข้ามคืน แกนพลังเวทมนตร์ที่เสียหายของนาง ตำแหน่งคู่หมั้นที่ถูกยกเลิก กับตระกูลของนางที่มองแต่ผู้ยอดเยี่ยม ตัวนางที่ไม่มีประโยชน์อันใดให้พวกเขาแล้วจะยังสามารถทำสิ่งใดได้อีก ผู้คนครหาว่านางเป็นคนร้ายกาจ หยิ่งผยอง ถึงขนาดถูกชี้นิ้วตราหน้าว่าเป็นหญิงชั่วร้ายจิตใจเหี้ยมโหด แต่แล้วอย่างไร...ในเมื่อนางไม่เคยเสียใจในการกระทำของตนเอง “กะ...แก! ..แกมันผู้หญิงร้ายกาจเป็นนังแม่มด!” น้ำเสียงสั่นเทาของไลอา บริสซาเนียลอยเข้าโสตประสาทของนาง ใบหน้าซีดเผือด และแววตาที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัวระคนคับแค้นใจนั่น ทำให้นางอดไม่ได้จริง ๆ ที่จะแย้มยิ้มให้กว้างขึ้นไปอีก ในระหว่างที่กำลังครุ่นคิดถึงเป้าหมายต่อไปที่จะใช้ดำเนินชีวิตที่ย่อยยับนี้ โชคยังดีที่อย่างน้อยก็มีผู้ชี้ทางสว่าง มาคิดดูหลังจากสิ้นบทบาทนางร้ายที่อีกฝ่ายพยายามยัดเยียดให้นางมาเสมอลง การหาบทบาทใหม่ทำก็นับว่าสามารถตั้งเป็นเป้าหมายใหม่ให้นางใช้ดำเนินชีวิตต่อไปได้กระมัง อ่า...เป็นแม่มดก็ฟังดูไม่เลวเลย “ค่ะ...ถ้าเช่นนั้นข้าก็จะไปเป็นแม่มดก็แล้วกัน” โรซาเรียคิดเช่นนั้นก่อนจะตอบรับออกไปเสียงเบา

editor-pick
Dreame-Editor's pick

bc

ข้านี่แหล่ะ ฮูหยินของท่านแม่ทัพ

read
3.8K
bc

ฮูหยินกลับมาเถิดข้าไล่พวกนางไปหมดแล้ว

read
10.4K
bc

พิษรักซาตาน

read
5.4K
bc

รอยรักคนใจร้าย

read
10.1K
bc

เกิดใหม่พร้อมกับมิติฟาร์มส่วนตัว

read
5.2K
bc

ทาสรักของจอมมาร

read
1.1K
bc

เกิดใหม่ทั้งที ดันกลายเป็นพี่สาวเจ้าแฝด

read
5.3K

Scan code to download app

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook