ทำคุณบูชาโทษ

1546 Words
“โอ๊ย ! ปล่อยฉันนะ !” พิมภาสะบัดข้อมือออกจากการเกาะกุมของอรุณ เมื่ออีกฝ่ายบันดาลโทสะจนฉุดกระชากข้อมือเธออย่างแรง ด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์และถูกหักหน้ามาตั้งแต่ตอนเช้าจนกระทั่งถึงตอนนี้ ทำให้ชายคนนั้นควบคุมตัวเองไม่ได้อีกต่อไป เขาโกรธจัด และเมื่อเธอสามารถสะบัดหลุดออกจากการเกาะกุมได้ ร่างสูงก็ยิ่งรู้สึกพ่ายแพ้ ดูถูกว่าอีกฝ่ายเป็นเพียงผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ทำเป็นเย่อหยิ่งทระนง ทั้ง ๆ ที่นอกจากสวยแล้วก็ไม่เห็นจะมีอะไรดี “ทำเป็นหยิ่งนักนะมึง ไปอยู่เมืองนอกเมืองนาผ่านผู้ชายมาแล้วกี่คนอย่าคิดว่ากูไม่รู้นะ” “ทุเรศ หยาบคาย เราไม่ได้รู้จักกัน คุณไม่มีสิทธิ์มาพูดจากับฉันแบบนี้” “ทำไมกูจะไม่มีสิทธิ์ ผู้หญิงอย่างมึงกูเห็นมาเยอะแล้ว ทำเป็นวางท่ามากอยากจะเรียกราคาให้สูงละสิ” “ไปให้พ้น เมาแล้วก็กลับไปนอนอย่ามาระรานคนอื่น เกลียดจริง ๆ ผู้ชายสันดานเสียแบบนี้” พิมภาเองก็ใช่ว่าจะเป็นคนที่ยอมใครง่าย ๆ แม้ที่ผ่านมาเธอจะเป็นคนที่มองโลกในแง่ดีเป็นส่วนใหญ่และค่อนข้างจิตใจดีไม่ค่อยยุ่งกับใคร แต่หญิงสาวไม่ชอบผู้ชายแบบนี้ ไม่ชอบคนที่ใจร้อนและพูดไม่รู้เรื่องอีกทั้งยังดื่มจนเมาขนาดที่ประคองสติตัวเองไม่ได้ เอาง่าย ๆ ตอนนี้แค่ประคองร่างตัวเองให้ยืนตัวตรงยังทำไม่ได้เลยด้วยซ้ำ ผู้ชายแบบนี้น่ารังเกียจที่สุดสำหรับเธอ พิมภาตั้งหน้าตั้งตาต่อปากต่อคำโดยที่ไม่ได้คำนึงถึงอันตรายใด ๆ ที่จะมาถึง ลืมตัวไปชั่วขณะว่าตนเองก็เป็นเพียงผู้หญิงตัวเล็ก ๆ คนหนึ่ง การยืนประจันหน้ากับผู้ชายอยู่ในลานจอดรถที่ไร้ผู้คน แน่นอนว่าไม่เป็นสิ่งที่ดี แต่ก่อนที่หญิงสาวจะทันได้รู้ตัว อีกฝ่ายก็เงื้อมือขึ้นสูงก่อนที่จะตวัดลงมาอย่างรวดเร็ว เธอหลับตาปี๋คิดว่าอย่างไรก็โดนแน่ ๆ ผัวะ !! “อัก… เชี่ย ! มึงเป็นใครวะ !?” แทนที่จะรู้สึกเจ็บหรือว่าได้ยินเสียงของการถูกตบหน้า เธอกลับรู้สึกว่าตัวเองไม่มีความเจ็บปวดตรงไหนเลย จึงค่อย ๆ ลืมตาขึ้นช้า ๆ มีผู้ชายร่างสูงใหญ่ยืนอยู่ตรงหน้า ส่วนคนที่เพิ่งจะปากดีและง้างมือเพื่อตบตีกลายเป็นฝ่ายลงไปนอนกองอยู่กับพื้นพร้อมทั้งมีเลือดที่มุมปาก ผู้ชายร่างสูงขยับเอียงกายออกเล็กน้อยหันมามองร่างอรชร ก่อนที่เขาจะยกหมัดของตัวเองขึ้นมาดู พอเห็นว่ามือของตนเองเปื้อนเลือด เจ้าตัวก็หยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาเช็ดตามเรียวนิ้วช้า ๆ อย่างใจเย็น สายตาเย็นชามองไปที่ชายคนนั้นที่นอนอยู่บนพื้นและเลือดอาบใบหน้า อีกฝ่ายยันกายลุกขึ้นมาและพยายามจะเข้ามาต่อยร่างสูงให้ได้ แต่กลับถูกสวนจนลงไปกองอีกครั้งหนึ่ง ความอับอายส่งผลให้อรุณลุกขึ้นยืนชี้หน้าอัศวินซึ่งเขาจำได้ดีว่าเป็นใคร ถ้อยคำที่สาดออกมานั้นทำเอาร่างสูงอยากจะกระทืบมันให้จมดินตรงนี้ “ถุย กูก็นึกว่าใคร ที่แท้ก็ลูกเมียเก็บนี่เอง !” “…” อัศวินยืนข่มอารมณ์เพื่อที่เขาจะได้ไม่ต้องกลายเป็นฆาตกรฆ่าคนเมาให้ตายคามืออยู่ตรงนี้ ชายหนุ่มอดทนและข่มกลั้นอารมณ์อย่างเต็มที่ “กับอีแค่ลูกเมียเก็บที่ไม่มีทะเบียนสมรส ทำตัวกร่างใหญ่โตคิดว่าเก่งมาจากไหน ทุเรศฉิบหาย ทำเป็นโชว์เหนือต่อหน้าผู้หญิง ที่แท้ก็แค่ไอ้หน้าตัวเมีย มึงรู้ไหมว่ากูเป็นลูกใคร เดี๋ยวกูจะฟ้องพ่อให้จัดการมึง เตรียมตัวได้เลย” ในที่สุดแล้วอัศวินก็รู้สึกเริ่มทนไม่ไหว ความหงุดหงิดรำคาญใจราวกับแมลงวันกำลังบินอยู่ใกล้ ๆ หลังจากที่ยืนระงับอารมณ์และคิดว่าจะเข้ามาช่วยหญิงสาวคนหนึ่งเอาไว้จากการถูกรังแก เขาไม่ชอบเห็นผู้ชายรังแกผู้หญิง ตัวเองตัวสูงใหญ่กว่า แรงเยอะกว่า มีอย่างที่ไหนเงื้อมือจะตบคนที่อ่อนแอกว่า ทำให้ชายหนุ่มอดทนไม่ได้ต้องสอดมือเข้ามาแทรก แต่พอเอาตัวเข้ามาแทรกแล้วไอ้เจ้านี่ดันปากดีเสียนี่ ระหว่างที่มันกำลังพูดพล่ามและชี้หน้าด่าร่างสูงไปพลางถอยหลังไปพลาง อัศวินก็ประเคนหมัดใส่ปากของอรุณอีกครั้งจนมันล้มลงไปกองเป็นครั้งที่สาม ท่ามกลางความตกตะลึงของพิมภา เขาตั้งท่าจะเข้าไปซ้ำมันโดยไม่ปล่อยให้อีกฝ่ายลุกขึ้นมายืน กะว่าครั้งนี้จะเอาให้หมอบหรือไม่ก็ให้ฟันหลุดไปเลยจะได้เลิกพูดมากสักที ทว่าขณะที่อัศวินกำลังง้างหมัดเตรียมจะปล่อยมันไปปะทะใบหน้าของชายคนนั้นอีกครั้ง หญิงสาวก็ได้สติและดึงรั้งท่อนแขนแกร่งเอาไว้ ก่อนจะออกแรงฉุดกระชากลากถูแล้วพูดจาดึงสติชายหนุ่ม พิมภาพยายามเกาะแขนเขาไว้ให้แน่นที่สุด แล้วก็ลากอีกฝ่ายไปจนถึงหน้าร้าน การกระทำของหญิงสาวและเรี่ยวแรงที่มีไม่ได้ทำให้ร่างสูงสั่นสะเทือนสักเท่าไรนัก แต่ที่ยอมเดินตามไปก็เพราะอยากรู้ว่าเธอจะทำอย่างไรต่อ อีกประเด็นหนึ่งก็คือถ้าเกิดว่าอัศวินขืนตัวเอาไว้เต็มแรงคนตัวเล็กก็อาจจะเสียหลักล้มลงไปกองได้ “นี่คุณเป็นบ้าอะไร เอะอะก็ใช้กำลังเอะอะก็ต่อยตี ไม่มีวิธีแก้ปัญหาทางอื่นแล้วหรือไง บ้าจริง ๆ” “อะไรของคุณ อุตส่าห์ช่วยไว้ไม่ให้ถูกผัวตบ แทนที่จะขอบคุณดันมาปากดีใส่ แบบนี้ไม่น่าช่วยเลยนะ น่าผิดหวังจริง ๆ ผู้หญิงสมัยนี้ไม่สำนึกบุญคุณ” “ไอ้บ้านั่นไม่ใช่ผัวฉัน พูดให้มันดี ๆ หน่อย” “ใครจะไปรู้ล่ะ ก็นึกว่าผัว ใครเห็นก็ต้องนึกว่าผัวเมียทะเลาะตบตีกันทั้งนั้นแหละ เข้าไปช่วยก็ไม่อยากให้หน้าเธอมีรอยแผล ที่ไหนได้ทำคุณบูชาโทษ” “แล้วใครใช้ให้นายมาช่วย ใครร้องขอ ฉันช่วยเหลือตัวเองได้อยู่แล้วต่อให้นายไม่ยื่นมือมาช่วยก็เถอะ” “เก่งจริงนะแม่คุณ” “แน่นอน คนอย่างฉันไม่ต้องพึ่งพาผู้ชายหรอก” “หึ พวกอวดเก่งแบบนี้ไม่ตายดีมาหลายรายแล้วนะ ที่เห็น ๆ ก็ดีแต่ปากทั้งนั้นแหละ” หนุ่มสาวทั้งสองคนยืนเถียงกันราวกับโกรธแค้นกันมาตั้งแต่ชาติปางไหน ทั้ง ๆ ที่ฝ่ายชายเข้ามาช่วยให้เธอรอดพ้นจากอันตราย แต่ไม่รู้ว่าเพราะอะไรหญิงสาวถึงทำปากดีใส่ร่างสูงแทนที่จะเอ่ยขอบคุณ กลายเป็นว่าทั้งสองคนยืนเถียงกันเสียงดัง พิมภาหัวเสียอย่างหนัก ในที่สุดก็รู้สึกว่าไม่อยากจะเถียงกับผู้ชายคนนี้ให้เสียเวลาอีกต่อไป ร่างอรชรจึงสะบัดหน้าและกลับหลังหันเตรียมจะเดินหนีอีกครั้ง แต่เส้นทางที่เธอกลับหลังหันแล้วเดินลงไปดันกลายเป็นถนน ซึ่งกำลังมีรถที่แล่นมาด้วยความเร็วสูงทั้ง ๆ ที่มันผิดกฎหมายเนื่องจากแถวนี้มันเป็นสถานที่ที่มีผู้คนและนักท่องเที่ยวพลุกพล่าน มีกฎหมายกำหนดชัดเจนว่าสามารถขับรถได้ไม่เกินเท่าไร เท่าที่เห็นมันมาด้วยความแรงที่เกินกว่ากฎหมายกำหนดอย่างแน่นอน ถึงแม้จะรู้และเห็นได้ชัดเจนว่ามีแสงไฟจากรถกำลังพุ่งตรงมาที่เธอ แต่เพราะพิมภาใส่ส้นสูงและด้วยความตกใจด้วยทำให้หญิงสาวตัวแข็งทื่ออยู่แบบนั้น “ระวัง !!” เป็นอัศวินอีกเช่นเคยที่กระโดดเข้าไปรั้งร่างเล็กเอาไว้อย่างรวดเร็ว วงแขนกว้างฉุดกระชากตัวเธอเข้ามาอย่างสุดแรงจนตัวเขาเองก็สะดุดพื้นกระเบื้องที่ไม่เสมอตรงนั้น ทำให้เสียหลักล้มลงไปกองกับพื้นซึ่งชายหนุ่มพลิกสถานการณ์ให้ตัวเขาเองลงไปอยู่ที่พื้น แผ่นหลังกว้างกระแทกกับพื้นฟุตพาทอย่างรุนแรงจนเจ้าตัวรู้สึกจุกและหน่วง แต่ก็รู้สึกโล่งอกที่ร่างบอบบางนั้นไม่เป็นฝ่ายเอาหลังลงเสียเอง เพราะถ้าหากเป็นเธอเอาหลังลงไปแบบนั้นน่าจะต้องเจ็บหนัก และหากคนตัวโตทับลงไปอีกก็คงแย่แน่ ๆ ระหว่างนั้นสองหนุ่มสาวก็กอดกันหลับตาปี๋อยู่บนพื้น โดยที่พิมภาเป็นฝ่ายอยู่ด้านบนและอัศวินนอนอยู่ที่พื้นด้านล่าง เพราะเสียงเบรกที่ดังสนั่นทำให้ทุกคนหันมามองและเห็นภาพนั้น เมื่อลืมตาขึ้นและพบว่าตัวเองกำลังอยู่ในอ้อมกอดของชายที่ตนยืนเถียงฉอด ๆ เมื่อกี้เธอก็รีบลุกขึ้นในทันที…
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD