ตอนที่ 4 พาเมียเข้าโรงแรม (1)

1528 Words
ตอนที่ 4 พาเมียเข้าโรงแรม (1) ยางรถบดเบียดเข้ากับผิวยางมะตอยอย่างกะทันหัน จนเกิดเสียงเสียดสีดังลั่นแข่งกับเสียงฝนที่เทลงมาราวฟ้ารั่ว เมื่อปฐพีเห็นว่ารถของสารวัตรแทนไทจอดชิดอยู่ริมถนน ชายหนุ่มคาดเดาถูกที่คิดว่าอีกฝ่ายน่าจะพาพิมพ์ณารามาที่สวนปาล์ม เขาหยิบเสื้อกันฝนมาสวมตามด้วยการดึงเบรกมือแล้วพรวดพราดลงจากรถ ก่อนปิดประตูตามหลังแล้วเดินไปเมียงมองว่ามีใครอยู่ในรถคันนั้นหรือไม่ เมื่อแน่ใจว่าทั้งสองยังไม่ออกมาจากในสวน เขาจึงกึ่งเดินกึ่งวิ่งเข้าไปในสวนโดยไม่คิดจะง้อร่มแต่อย่างใด พิมพ์ณารากำลังทำให้เขาโกรธอย่างไม่เคยเป็น แทนที่จะพากันกลับบ้านแต่กลับพากันไปนั่งหลบฝนอยู่ในสวน ชายหนุ่มคิดขณะก้าวเดินฉับๆ ฝ่าสายฝนไปตามแนวทางเดินระหว่างต้นปาล์ม ตรงลิ่วไปยังท้ายสวน เพราะเขาคิดว่าพิมพ์ณาราคงจะต้องอยู่ที่กระท่อมคนงาน คงเป็นที่ไหนไปไม่ได้อย่างแน่นอน “ซากงู!” สายตาคู่คมบังเอิญเหลือบไปปะเข้ากับซากจงอางในพงหญ้าที่เขาเดินผ่าน ซ้ำซากนั้นยังดูสดใหม่ เพียงเท่านั้นปฐพีถึงกับใจหายวาบ คิดไปถึงว่าอาจจะเกิดเหตุร้ายกับพิมพ์ณารา “น้องเพื่อน!” ความกรุ่นโกรธแปรเปลี่ยนเป็นความห่วงใยมาแทนที่ ชายหนุ่มเร่งฝีเท้าเพื่อตามหาพิมพ์ณารา ขณะสายตาคู่คมก็สอดส่ายไปโดยรอบ ลืมไปชั่วขณะว่าเธอขัดคำสั่งเขาออกมากับผู้ชายที่ไม่สนิทสนม รู้เพียงแต่ว่าจะต้องดูให้เห็นกับตาก่อน ว่าเธอปลอดภัยดี ‘มันคงยังไม่ทันได้กัดใคร’ ชายหนุ่มคิดไปต่างๆ นานา ภาวนาว่าหากจะมีคนถูกงูกัดก็ขอให้เป็นสารวัตรแทนไทอย่าได้เป็นพิมพ์ณารา จนกระทั่งมาถึงกระท่อมคนงานท้ายสวนในชั่วอึดใจ ไม่รอช้ามือแกร่งรีบผลักประตูที่จะพังมิพังแหล่เข้าไปอย่างแรง พร้อมๆ กับคนข้างในที่ตกใจกับการมาเยือนชนิดไม่ทันให้ตั้งตัวเช่นกัน “พี่ปราบต์!” พิมพ์ณาราหน้าซีดเผือดพร้อมๆ กับใจที่เต้นแรงเพราะความหวาดหวั่น หญิงสาวรีบผลุนผลันลุกจากแคร่ไม้ราวถูกไฟลน ด้านสารวัตรแทนไทถึงกับพูดอะไรไม่ออก ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะตามมาจนถึงที่เช่นนี้ ทั้งๆ ที่ฝนตกหนัก เขาเองไม่คิดด้วยซ้ำว่าปฐพีจะมาตามภรรยาของตนกลับบ้าน และดูท่าว่าจะเก็บซ่อนความไม่พอใจเอาไว้อีกด้วย การใช้อารมณ์ไม่ใช่ทางออกที่ดี ปฐพีพยายามนับหนึ่งถึงสิบในใจเพื่อให้ความร้อนรุ่มคลายลง ชายหนุ่มเลือกที่จะจัดการคนดื้อรั้นแบบละมุนละม่อม และการที่จู่ๆ เขารวบร่างบางเข้ามากอด ทำให้เจ้าของร่างถึงกับงุนงงเพราะตามไม่ทันกับท่าทีที่คาดเดาไม่ออกว่าจะมาไม้ไหน “รู้มั้ยพี่เป็นห่วงแทบแย่ นึกว่าหายไปไหน ที่แท้ก็ติดฝนอยู่กับสารวัตรนี่เอง” พูดพลางกอดรัดคนในอ้อมกอดจนแน่นมากขึ้น ขณะพิมพ์ณาราได้แต่ยืนตัวแข็งอยู่ในอ้อมกอดของอีกฝ่าย เธอกำลังคิดว่าที่เขาพูดออกมานั้น มันออกมาจากใจหรือเพราะอะไรกันแน่ “พี่ปราบต์…พี่ปราบต์เป็นห่วงเพื่อนจริงๆ เหรอคะ” “จริงสิจ๊ะ เมียหายทั้งคนก็ต้องเป็นห่วงอยู่แล้ว แล้วตอนนี้สวนเรายิ่งมีเรื่องอยู่ด้วย พี่ไม่ไว้ใจสักเท่าไหร่เพราะฆาตกรมันอาจจะยังวนเวียนอยู่แถวนี้ก็ได้” ท่อนแขนแข็งแรงคลายออกจากร่างนุ่มนิ่ม ก่อนใช้สองมือประคองดวงหน้าหวานให้เงยหน้าขึ้นมาสบตา ปลายนิ้วแกร่งไล้ไปตามร่องแก้มเปียกชื้นจากละอองฝน แสดงให้สารวัตรหนุ่มเห็นว่าเขารักและหวงคนตรงหน้ามากเพียงใด “พี่ปราบต์ อะ เอ่อ อายสารวัตรเขา” “อายทำไมครับ ก็คนรักกัน ไหนมาให้พี่จูบปลอบขวัญหน่อยสิ เหมือนยิ่งปรามจะยิ่งยุไปกันใหญ่ ปฐพีไม่ได้แค่พูดเท่านั้น เขาทำท่าจะทำจริงเสียด้วย ทั้งๆ ที่รู้ทั้งรู้ว่าสารวัตรแทนไทยืนเป็นก้างขวางคออยู่ทั้งคน “อะแฮ่ม” แทนไทกระแอมออกมาเบาๆ เพราะเขากำลังคิดว่าตัวเองเป็นส่วนเกิน และเหมือนกำลังถูกเจ้าของสวนแกล้งอย่างบอกไม่ถูก ซึ่งชายหนุ่มรู้ทันว่านายหัวสวนแห่งนี้นั้นไม่พอใจ ที่เขาอยู่กับพิมพ์ณาราเพียงลำพัง และก็ยังอยู่ในสถานที่เปลี่ยวสิ้นดี ปฐพีแสร้งหัวเราะแก้เก้อ ทำทีเป็นผละออกห่างจากหญิงสาวที่ยืนหน้าแดงด้วยความเขินอาย “อะ อ้าว แหม สารวัตร ผมก็ลืมไปเลยว่ามีคุณอยู่ด้วย ขอโทษทีนะครับ บังเอิญเรารักกันมาก และผมก็หวงเธอมากด้วย ก็เลยลืมตัวอย่างที่เห็น” “แหม ลืมตัวซะผมเขินเลยนะครับ อย่าลืมตัวต่อหน้าผมบ่อยๆ นะครับ ผมขี้เกียจไปหาหมอรักษาตา” “ฮ่าๆ ดีนะที่ผมไม่ลืมตัวควักปืนออกมายิง เพราะคิดว่าเป็นผู้ชายที่กำลังจะพาเมียผมมาทำมิดีมิร้าย สารวัตรระวังนะครับ เวลาผมหึงมากๆ แล้วมักจะชอบลืมตัวอยู่เรื่อย” ปฐพีหัวเราะเบาๆ ขณะโอบไหล่แบบบางเอาไว้ ราวกับว่ากลัวเธอจะหนีหายไปไหน แทนไทหลิ่วตามองอย่างรู้ทัน กับความนัยที่อีกฝ่ายได้แฝงเอาไว้ในคำพูด เหมือนจะบอกเขาอยู่กลายๆ ว่าถ้าไม่อยากตายก็อย่ามายุ่งกับเธออีก “บังเอิญผมต้องการมาดูร่องรอยเพิ่มเติม เลยชวนคุณพิมพ์มาด้วย ไม่คิดว่าจะมาติดฝน ไม่ได้คิดจะทำให้คุณเข้าใจผิดนะครับ” “ผมไม่ได้ว่าอะไรคุณเสียหน่อย แต่ยังไงก็ขอบคุณมากนะครับ ที่ช่วยดูแลเธอ” ปลายนิ้วแกร่งที่จิกลงบนผิวเนื้อ มาพร้อมกับวงแขนที่กระชับจนแน่นมากขึ้น ทำให้พิมพ์ณาราถึงกับเงยหน้าขึ้นไปมองชายหนุ่มข้างกาย ก็เห็นแววตาคาดโทษจ้องกลับมา “เสื้อ-ใคร” “สะ เสื้อ สารวัตรค่ะ” หญิงสาวกระอึกกระอัก เมื่ออีกฝ่ายเข่นเสียงรอดไรฟันและคาดคั้นด้วยสายตา “ถอดเสื้อ” “หือ?” คิ้วเรียวสวยขมวดเข้าหากัน เมื่ออีกฝ่ายเข่นเสียงรอดไรฟันให้ได้ยินกันสองคน “พี่บอกให้ถอดเสื้อคลุม…เดี๋ยวนี้!” “ตอนนี้เหรอคะ” “ถ้าไม่อยากให้ทำโชว์หมอนั่นมากกว่านี้ ก็ถอดเร็วๆ” “ค่ะๆ” ชายหนุ่มกระซิบกระซาบ ที่จริงเขาอยากจะกระชากมันออกมาจากร่างบาง แล้วโยนใส่หน้าสารวัตรหนุ่ม ที่ทำหล่อเอาเสื้อมาให้ภรรยาของชาวบ้านใส่กันหนาว แต่ก็ได้แค่คิด เพราะความจริงเขาคงทำแบบนั้นไม่ได้ “ขอบคุณนะคะสารวัตร” พิมพ์ณารายื่นเสื้อคืนแทนไทนพลางกัดฟันยิ้ม เพราะรู้ดีว่าชายหนุ่มข้างกายจับจ้องทุกการเคลื่อนไหวของเธอชนิดไม่ให้ละสายตา “คุณพิมพ์จะใส่กลับบ้านไปก่อนก็ได้นะครับ ผมมีหลายตัว” “อะ เอ่อ ไม่เป็นไรค่ะ” “ไม่ต้องหรอกครับ ผมเกรงใจ เดี๋ยวจะต้องนำไปคืนกันให้วุ่นวายอีก” พูดพลางถอดเสื้อกันฝน ตามมาด้วยเสื้อคลุมของตน แล้วนำไปสวมให้กับพิมพ์ณารา แม้จะรู้ดีว่าเขาต้องการแกล้งสารวัตรแทนไท แต่เธอก็อดที่จะหัวใจพองโตไม่ได้ กับการแสดงออกของเขาในตอนนี้ “ที่รัก เรากลับบ้านกันดีกว่านะครับ เพราะดูแล้วฝนคงไม่หยุดง่ายๆ แน่” “แล้วแต่พี่ปราบต์ค่ะ” “เอาเสื้อพี่คลุมหัวไว้สิ เดี๋ยวจะไม่สบาย” ปฐพีรั้งเสื้อขึ้นมาคลุมศีรษะพิมพ์ณาราเอาไว้ เพื่อให้เธอถูกฝนน้อยที่สุด รอยยิ้มแทนคำขอบคุณถูกส่งมาให้เขาอย่างจริงใจ “แล้วคุณจะกลับออกไป ทั้งๆ ที่ฝนตกหนักอย่างนี้เหรอครับ ฟ้าก็แรงด้วย” แทนไทคัดค้าน เมื่อเห็นปฐพีโอบเอวคอดเอาไว้ ทำท่าจะพากันเดินออกไปจากกระท่อมจริงๆ “ใช่ ผมจะพาน้องเพื่อนกลับบ้านตอนนี้ ถ้าคุณจะนั่งอยู่ต่อก็ตามใจ หรือจะนอนที่นี่เลยก็ยังได้ ผมไม่ว่าอะไร” ปฐพีเอ่ยแบบติดตลก ก่อนหันกลับมามองหน้าหญิงสาวในอ้อมกอด แล้วยิ้มแบบมีเลศนัยก่อนกระซิบเบาๆ “พี่จะคิดบัญชีทั้งต้นและดอก โทษฐานที่ขัดคำสั่ง” แทนไทมองตามร่างที่พากันวิ่งฝ่าสายฝนไปด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยคำถาม เกี่ยวกับความสัมพันธ์ของทั้งสอง ก่อนจะตัดสินใจตามออกไป เพราะเขาคงจะไม่อยู่ติดฝนอย่างเดียวดายที่นี่แน่นอน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD